เป็นไปตามความคาดหมาย คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ยุบพรรคก้าวไกล ในความผิดฐานหาเสียงเลือกตั้งด้วยการเสนอแก้ไข ป.อาญา มาตรา 112 ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่า เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงเชื่อว่า กกต.ต้องทำตามคำวินิจฉัย

บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ม.211 ระบุว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ถือเป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และหน่วยงานของรัฐ กกต.จึงต้องขอให้ศาลสั่งยุบพรรคก้าวไกลอยู่แล้ว แต่เมื่อนายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล ถูกถาม พรรคจะเสียสมาธิหรือกังวลหรือไม่ คำตอบก็คือไม่กังวล

โฆษกพรรคก้าวไกลชี้แจงว่า เชื่อมั่นในฝ่ายกฎหมายจะให้รอดพ้นการกระทำผิด แต่กังวลถึงผลกระทบต่อค่านิยมทางการเมืองของไทยมากกว่า น่าจะหมายถึง ว่าการยุบพรรคอาจกระทบถึงความเป็นประชาธิปไตยของไทย

ประเทศประชาธิปไตยทั่วโลก ถือว่าพรรคหรือการดำเนินการตามนโยบายพรรค เป็นสิทธิและเสรีภาพของประชาชน เพื่อสร้างเจตนารมณ์ทางการเมืองร่วมกัน เช่นเดียวกับเสรีภาพในการพูด หรือการแสดงความเห็น ประเทศประชาธิปไตยจึงไม่มีการยุบพรรค

เว้นแต่จะเป็นกระทำผิดอย่าง ร้ายแรง เช่นเยอรมนีเคยมีข่าวการยุบพรรคนาซีใหม่ ที่ประกาศนโยบายรื้อฟื้นเผด็จการใหม่ เป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตยชัดแจ้ง มีแต่ประเทศที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย ที่ชอบยุบพรรคก่อนที่จะมีการเลือกตั้งพร้อมทั้งห้ามฝ่ายค้านลงแข่งขันการเลือกตั้ง รัฐบาลจึงชนะตลอดกาล

สำหรับประเทศไทย เชื่อว่าพรรคก้าวไกลมีสิทธิถูกยุบ มากกว่าที่จะปล่อยให้ดำรงอยู่ แต่เมื่อติดตามดูความเคลื่อนไหวของ ระดับผู้นำพรรค ไม่ว่าจะเป็นนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หรือนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ น่าจะยืนหยัดสู้ต่อไป เพราะเคยผ่านประสบการณ์พรรคถูกยุบ และการตั้งพรรคใหม่

...

ผลการเลือกตั้ง 2562 พรรคอนาคตใหม่ได้อันดับ 3 ได้ สส. 81 ที่นั่ง หลังถูกยุบกลายเป็นพรรคก้าวไกล ได้ สส.เป็นอันดับ 1 ได้ 151 ที่นั่ง ผลของโพลหลายสำนักระบุว่า นายพิธาเป็นนักการเมืองที่มีคะแนนนิยมมากที่สุดและได้รับความเห็นใจจากประชาชนมากที่สุด ประชาธิปไตย ไทยกำลังถูกทดสอบอย่างเข้มข้น.

คลิกอ่านคอลัมน์ "บทบรรณาธิการ" เพิ่มเติม