สองสามวันนี้มา มีคลิปการอภิปรายในสภาคลิปหนึ่ง แชร์อยู่ในโลกโซเชียล ฟังแล้วน่าจะเป็นสภาสิงคโปร์ มีการแปลเป็นภาษาด้วย ผมเพิ่งเขียนถึง “8 วิสัยทัศน์อนาคตประเทศไทย” ของ นายกฯเศรษฐา ทวีสิน ว่า ขาดไปหนึ่งวิสัยทัศน์ที่สำคัญที่สุด คือ เรื่อง “การศึกษา” ถ้าไม่มีวิสัยทัศน์ข้อนี้ อีก 8 วิสัยทัศน์ที่ประกาศไปก็คงยากที่จะสำเร็จ ผมเขียนเรื่องนี้ไป คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช อดีตรัฐมนตรีช่วยศึกษาก็โทรศัพท์มาคุยกับผมด้วยความเป็นห่วงอนาคตของประเทศไทย

เรื่องที่ สส.สิงคโปร์อภิปรายในสภาในคลิปนี้ ผมคิดว่า นายกฯเศรษฐา น่าจะนำไปทบทวนระบบการศึกษาไทยที่ยังล้าหลังมาก จะเป็นเรื่องที่ดีต่อชาติและต่อคนไทยทุกคน การอภิปรายที่สร้างสรรค์แบบนี้ มีน้อยมากที่จะได้ยินจาก สส.ในรัฐสภาไทย ยิ่งเป็น สส.จากฝ่ายรัฐบาล มีแต่อวยรัฐบาลอย่างเดียว ไปฟังกันดูนะครับ สส.สิงคโปร์ เขาอภิปรายเรื่องอะไรกันในสภา

นักการเมืองสิงคโปร์คนนี้ อภิปรายเมื่อ 26 ก.พ. เรื่อง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ว่ารัฐมนตรีคลังสิงคโปร์เพิ่งประกาศงบปี 2024 ไปสองสัปดาห์ก่อน แต่ห่างออกไปครึ่งโลก บริษัท OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT ขึ้นมาเมื่อไม่นานมานี้ ได้ประกาศเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ทางเอไอชื่อ Sora (เปิดตัว 16 ก.พ.) เป็นระบบที่ให้คุณป้อนข้อความเข้าไปที่เราเรียกว่า Prompt แล้วระบบจะทำการสร้างวิดีโอ ซึ่งเราไม่สามารถแยกออกได้เลยว่า เป็นวิดีโอที่สร้างขึ้นโดยฮอลลีวูด หรือสร้างขึ้นจากสตูดิโอขนาดเล็ก

การดีเบตระหว่างสุนทรพจน์ของท่านประธานาธิบดีในเดือนเมษายน 2023 ผมได้พูดในสภาแห่งนี้ถึงการมาของเอไอว่า โลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปเร็วขนาดไหน ซอฟต์แวร์อย่าง ChatGPT, GPT4, Midjouney5 เปิดตัวสู่ตลาดในเวลาไม่ถึงหนึ่งปีได้อย่างไร

เอไอตัวที่สามารถสนทนากับคุณได้ สามารถเขียนบทความให้คุณได้ชื่อ ChatGPT เอไอที่สามารถทำข้อสอบโรงเรียนมัธยมได้ ทำข้อสอบมหาวิทยาลัยตามหลักสูตรอเมริกาได้ ทำคะแนนได้สูงกว่ามนุษย์หลายคนนั้น ชื่อ GPT4 และเอไอที่สามารถสร้างรูปภาพที่สมจริงของเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตัวนั้นชื่อ Midjourney5 ตอนเดือนเมษายน 2023 ผมคาดว่าเขาจะสามารถพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวได้ภายใน 2–3 ปี แต่เพียงแค่ 10 เดือนเท่านั้น โอเพ่นเอไอก็เปิดตัว Sora

...

นี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในโลกปัจจุบัน การ Disrupt ด้านเทคโนโลยี ที่เกิดขึ้นเร็วมาก

เราต้องทำใจยอมรับความจริงของโลกใบนี้ ยอมรับสิ่งที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ และให้ความสำคัญ ส่งเสริม เพิ่มขีดความสามารถ และยกระดับทักษะของสิงคโปร์ นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เรามี “โครงการเงินสนับสนุนชาวสิงคโปร์ที่มีอายุ 40 ปีขึ้น เพื่อใช้ในการศึกษาต่อในระดับประกาศนียบัตรชั้นสูง” เงินสนับสนุนนี้จะอยู่ในงบประมาณ เรื่องนี้ทำไมจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะมันแสดงให้เห็นถึง การตระหนักว่าในโลกนี้มีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วขนาดนี้ สิ่งที่คุณเรียนมาจากสถาบันตอนอายุ 20 ปี อาจมีการเปลี่ยนแปลงและล้าสมัยไปแล้ว จากการเปลี่ยนแปลงของโลกเมื่อคุณมีอายุ 40

ผมฟัง สส.สิงคโปร์ อภิปรายด้วยความชื่นชมทุกประโยค เขาไม่ได้พูดเพื่อตัวเอง เพื่อพรรคตัวเอง เพื่อนายตัวเอง แต่เขาพูดเพื่อคนสิงคโปร์และประเทศสิงคโปร์ เขามองอนาคตประเทศอย่างสร้างสรรค์ด้วยความเป็นห่วง เป็นสปิริตที่หาได้ยากในหมู่นักการเมืองไทย

เขาสรุปว่า นโยบายนี้เป็นการช่วยเหลือชาวสิงคโปร์ในช่วงวัยกลางคนทุกคน จะได้กลับมาเรียนรู้ทักษะใหม่ เคียงข้างแรงงานหนุ่มสาวอายุ 18-20 ปี และจะช่วยเปลี่ยนแปลงกระบวนการเรียนรู้ในระบบการศึกษาชั้นสูงด้วย นี่คือนโยบายที่ “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” อย่างแท้จริง ไม่ใช่พูดเอาเท่แบบนักการเมืองไทย แต่กลับปล่อยให้เด็กวัยเรียนนับล้านคนหลุดออกจากระบบการศึกษา จนกลายเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทยไม่แพ้หนี้ครัวเรือน.

“ลม เปลี่ยนทิศ”

คลิกอ่านคอลัมน์ "หมายเหตุประเทศไทย" เพิ่มเติม