เป็นเดือนแห่งความสุข มีกิจกรรมต่อเนื่องตั้งแต่ “ตรุษจีน” ไปจนถึง “วาเลนไทน์” นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทยกันอย่างคึกคัก

ตั้งแต่ 8 ก.พ.67 พักยาวไปถึง 14 ก.พ.67

ใครว่า “วิกฤติเศรษฐกิจ” คงต้องไปคิดไปตรองกันใหม่เพราะสถานการณ์มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นมุ่งไปสู่เป้าหมายที่คิดไว้เพียงอย่างเดียวเพื่อเอาชนะมันจึงไม่น่าจะถูกต้อง

มีนักการเมืองฝ่ายค้านบางคนเสนอว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้นมีหลายวิธี เมื่อไปทางนี้ไม่ได้ควรหาวิธีอื่นๆ ไม่ใช่มาหมกมุ่นอยู่แค่ตรงนี้

แทนที่จะเดินไปข้างหน้าได้ กลับกลายเป็นปัญหา

สุดท้ายไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย

ในรอบสัปดาห์นี้มีหลายเรื่องหลายประเด็นที่เป็นประเด็นสำคัญและมีผลต่อความเป็นไปของประเทศด้วย

ไม่ว่าจะเป็น “ดิจิทัลวอลเล็ต” ที่รัฐบาลจะประชุมบอร์ดใหญ่เพื่อฟันธงว่าจะเอายังไงแน่เพราะมันล่าช้าและเนิ่นนานเกินไปแล้ว

แต่ที่น่าจะเป็นไคลแมกซ์ทางการเมืองที่สุดคือเรื่องของ “ทักษิณ” ที่จะได้พักโทษหรือไม่ ว่าไปแล้วเรื่องนี้ถือเป็นประเด็นสำคัญเลยก็ว่าได้

เพราะไม่ใช่สำคัญแค่การเมืองเท่านั้นแต่มันดันไปเป็นเรื่องของประเทศด้วยเพราะ “ทักษิณ” คือตัวแปรที่มีบทบาททางการเมือง

ไม่ใช่แค่รัฐบาลและอำนาจรัฐเท่านั้น

แต่ยังหมายรวมถึงความเป็นไปของประเทศด้วย

เพราะ “ทักษิณ” ถ้าหลุดพ้นจากการถูกจองจำมีอิสระอยู่ที่บ้านพักจันทร์ส่องหล้าได้ก็เท่ากับดีลทางการเมืองระดับชาติ

ประสบผลสำเร็จค่อนทางแล้ว!

เท่าที่ประเมินแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไรน่าจะผ่านสะดวกไร้อุปสรรค เนื่องจากมีการปูทางอย่างเป็นขั้นเป็นตอนมาอย่างดี

...

“อุ๊งอิ๊งค์” ยังพูดเลยว่าตื่นเต้นอยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ

นั่นเท่ากับการันตีได้เลยว่า ทุกอย่างโอเคหมดแล้วรอเพียงวันเวลาเท่านั้น

หากพูดถึงเรื่องนี้แล้วมาถึงตรงนี้ทุกฝ่ายคงโล่งอกกันหมดไม่ว่าฝ่ายไหนก็ตาม โดยเฉพาะรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี สามารถที่จะตัดสินใจทางการเมืองได้โดยไม่ต้องกังวลเพราะงานใหญ่สุด

ได้ลุล่วงเป็นอย่างดี

แต่เรื่องการเมืองและอำนาจนั้นมีลักษณะที่แตกต่างจากเรื่องปกติทั่วไป เพราะเป็นเรื่องที่อาจคาดการณ์ล่วงหน้าได้ว่าจะไปทางไหนอย่างไร

เพราะเป็นเรื่องของ “คน” ที่รู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ

จึงอยู่ที่การบริหารจัดการให้เกิดความ “สมดุล” สร้างความพึงพอใจระหว่างกันก็น่าจะไปด้วยกันได้

เพราะสังคมโลกปัจจุบันนั้นมันเปลี่ยนแปลงไปมากเกินกว่าที่ตัวเองจะเป็นความถูกต้องทุกอย่างไม่ได้

แต่ต้องรวมหมู่แบบร่วมคิดร่วมสร้างจึงไปด้วยกันได้ไม่ทิ้งใครเอาไว้ข้างหลัง อีกทั้งคู่แข่งทางการเมืองในบริบทใหม่นั้น

ไม่ธรรมดาและกล้าที่จะต่อสู้อีกด้วย!

“สายล่อฟ้า”

คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม