ยังสลัดโหมดพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกไม่หลุด
“นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เจอแต่เรื่องชวนหงุดหงิด ถูกขัดแข้งขัดขาให้การขับเคลื่อนบริหารงานไม่ราบรื่น
ที่เห็นตำตาล่าสุดคือ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย 2.50% ไม่แคร์ “นายกฯนิด” ที่อยากให้ลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยการหมุนเวียนเศรษฐกิจให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น
เจอหน่วยงานไม้เบื่อไม้เมา ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขัดคอ ไม่ร่วมมือสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจ ทำเครื่องยนต์รัฐบาลติดๆดับๆ
แต่ที่สร้างความหงุดหงิดยิ่งกว่า ก็คิวคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขวางลำโครงการเรือธงรัฐบาล “ดิจิทัลวอลเล็ต”
สรุปผลการศึกษา การแจกเงินหมื่นฉบับไฟนอลที่จะส่งให้รัฐบาลวนลูปเดิม เนื้อหาแตกต่างจากต้นฉบับรอบแรกแค่เล็กน้อย เต็มไปด้วยข้อท้วงติงที่ต้องเฝ้าระวังมากมาย
มีจุดเสี่ยงช่องทางทุจริตเอื้อประโยชน์ให้ทุนใหญ่ หมิ่นเหม่ผิดกฎหมายหลายฉบับ และเงื่อนไขสำคัญ สถานการณ์ประเทศยังไม่เข้าข่ายวิกฤติเศรษฐกิจ เข้าตาจนถึงขั้นต้องกู้เงิน 5 แสนล้านบาทมาแจก ก่อหนี้รุงรังในอนาคต
บทสรุปแสลงหูแสลงตา ถึงไม่กดปุ่มไฟแดงห้ามดำเนินการ แต่ก็โชว์ไฟส้มหรา จังหวะคาบลูกคาบดอกให้วัดใจ ถ้าฝ่าสัญญาณไฟแล้วผิดพลาดเสียหายก็เสี่ยงตายหมู่ยกคณะ
ไฟต์บังคับที่รัฐบาลต้องเดินหน้าลุยไฟต่อ รู้ว่าเสี่ยงไฟคลอกแต่ไม่มีทางเลือก เตรียมนัดประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่สัปดาห์หน้า แนวโน้มเหยียบคันเร่งแจกเงินตามเงื่อนไขเดิม
ตามท่าทีของ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ที่เตรียมทุบโต๊ะอย่างเป็นทางการเดินหน้านโยบายเรือธงเอาจริง กระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่
...

ประกาศชัดเจนลุยแจกเงินให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายเดิม ไม่เลือกช่วยเฉพาะกลุ่มแบบหยอดน้ำข้าวต้ม ตามข้อแนะนำของ ป.ป.ช.ที่ให้แจกแค่กลุ่มเปราะบาง
ส่งสัญญาณชัด ไม่นำข้อเสนอ ป.ป.ช.มาผูกมัดการทำงาน ล่วงล้ำเขตอำนาจฝ่ายบริหาร
“นายกฯเศรษฐา” สั่งเคลียร์ร่องน้ำ เดินหน้านโยบายเรือธง กล้าเสี่ยงอันตราย เพราะจะเลือกเดินหน้าหรือถอยหลังก็เจ็บตัวไม่ต่างกัน ค่อยไปลุ้นเอาดาบหน้า ปลายทางจะไปอยู่ปากเหวหรือไม่
แต่ที่ต้องลุ้นเหนื่อยกว่าคือเกมวัดใจพรรคร่วมรัฐบาลให้ต้องคิดหนัก จะออกลูกแหยง เต็มใจเสี่ยงดงระเบิดไปด้วยกันหรือไม่
เพราะเส้นทางเสี่ยงภัยหลังจากนี้ไม่ได้จบอยู่แค่ไม้หนึ่ง คำเตือนของ ป.ป.ช.เท่านั้น แต่เป็นสารตั้งต้นให้มีไม้สองไม้สามตามมา เพิ่มความหนักหน่วงขึ้นไปอีก
ยังมีจังหวะตามน้ำในแง่มุมกฎหมาย หมิ่นเหม่ถูกเช็กบิลอีกหลายระลอก
ต้องหืดจับอีกหลายช็อต ทั้งด่าน สว.ที่ถือกระบองยักษ์จ้องหวดล้มโครงการ หรือถึงแม้จะฝ่าด่านเห็นชอบในรัฐสภาไปได้ก็ไม่รู้จะถูกยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเป็นนโยบายเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ ล้มโต๊ะในภายหลังอีกหรือไม่
แม้กระทั่งการยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.เอาผิด ครม.ทั้งคณะ หากนโยบายเกิดความผิดพลาด ตั้งแท่นส่งให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับไม้พิจารณาให้ติดคุกติดตะราง
เผลอๆอาจถึงขั้นถูกเพิกถอนสิทธิรับสมัครเลือกตั้ง ประหารชีวิตทางการเมือง ของแสลงที่เหล่านักการเมืองพากันขนหัวลุก
ตามการจ้องเขม็งของบรรดานักร้องอาชีพรอตอกตะปูปิดฝาโลง ยื่นเอาผิดรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง หากยังดึงดันเดินหน้าโครงการต่อ
กว่านโยบายเงินดิจิทัลจะไปถึงปลายทางต้องลุ้นแหกด่านอีกหลายชั้น ไม่รู้จะไปตลอดรอดฝั่งหรือไม่
ขุมอำนาจเก่าเปิดเกมนิติสงคราม ใช้ข้อกฎหมายตีกรอบพรรคเพื่อไทยในการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญ ยังไม่ปลดล็อกให้มีอิสระเต็มที่ในฐานะฝ่ายบริหาร
นโยบายเรือธงเจอคลื่นลมแปรปรวน ไม่ราบรื่นตลอดเส้นทาง ไปๆมาๆดิจิทัลวอลเล็ตกลายเป็นกับดัก ถูกขีดเส้นให้เดินตามแนวทางฝ่ายอนุรักษ์นิยมกำหนด
ผิดธรรมชาติการเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล ขึ้นชื่อเป็นหัวขบวนฝ่ายบริหารแค่ในนาม แต่ถูกบอนไซอำนาจในทางปฏิบัติ!!!
ทีมข่าวการเมือง
คลิกอ่านคอลัมน์ "วิเคราะห์การเมือง" เพิ่มเติม