รัฐบาลแข็งกร้าวเกินไป อาจเกิดอุปสรรคปัญหา

เป็นอีกหนึ่งเสียงเตือนของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) นายวันชัย สอนศิริ ส่งสัญญาณไปถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ถึงด่านสำคัญที่ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้าน โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ต้องผ่านฝ่ายนิติบัญญัติ หลังผ่านด่านกฤษฎีกา

ส่วนในขั้นตอนของศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้พูดถึง ขอพลิกมุมคิดเฉพาะในส่วนของฝ่ายนิติบัญญัติ โดยชั้นสภาผู้แทนราษฎร ฝ่ายค้านอภิปราย หรือกระแสอื่นใดที่คัดค้าน ถือเป็นปกติธรรมดา เหนือสิ่งอื่นใดรัฐบาลต้องมั่นใจคุมเสียงข้างมากได้ ผมเชื่อว่าผ่านตรงนี้ไปได้

หากถูกคว่ำกลางสภา รัฐบาลคงอยู่ยาก

ดูไทม์ไลน์ทันต่อ สว.ที่หมดวาระ 11 พ.ค.67 ซึ่งพอเปิดสมัยประชุมสภา คงเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาฯ เดือน ธ.ค.66 หรือ ม.ค.67 เดือน ก.พ.-มี.ค.67 อาจเสร็จต้นเดือน เม.ย.67 ก็ปิดสมัยประชุม

ถ้ารัฐบาลเร่งรีบอาจเสร็จทันสมัยประชุมนี้ หากจำเป็นจริง เสร็จไม่ทัน อาจเปิดสมัยประชุมวิสามัญ

ในชั้นวุฒิสภาไฟเขียวผ่านหรือไม่ ในฐานะที่เป็น สว.คนหนึ่ง ที่ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด ท่ามกลางกระแสเสียง สว. บางกลุ่มตั้งข้อสังเกต อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ

ส่อขัดรัฐธรรมนูญ-ก.ม.การเงิน การคลัง

สว.คงอภิปรายเต็มที่เต็มกำลัง ไม่ยั้งมือ

เพราะเหมือนมวยที่มันเป็นยกสุดท้าย ไม่ต้องเกรงอกเกรงใจใครแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ก็ไม่เกี่ยวข้อง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ก็ไม่มีบทบาทในรัฐบาลมากนัก

“เท่าที่ฟัง สว.เตรียมลับมีด ดาบ หอก ซัดเต็มที่ โดยไม่เกรงใจใคร ที่สำคัญหลัง สว.โหวตให้นายเศรษฐาเป็นนายกฯ แล้ว บทบาทของ สว.แทบเลือนหายไป

...

จะมีบทบาทก็คราวนี้ สว.ลุยเต็มที่ให้กฎหมายออกมาสมบูรณ์ที่สุด ประเทศไม่เสียหาย ไม่ซ้ำรอยนโยบายจำนำข้าว

แต่ไม่ถึงขั้นล้มรัฐบาล ถ้าทำเช่นนั้นเหมือนย้อนแย้งในตัวเอง ตั้งรัฐบาลขึ้นมา ทำให้รัฐบาลมีปัญหา แล้วจะเอาใครมาเป็นรัฐบาลต่อไป ก็เกิดปัญหาขึ้นอีก”

ฉะนั้นในฐานะที่เป็นกัลยาณมิตรโหวตให้เป็นนายกฯ สว.ไม่ได้เป็นฝ่ายค้าน ในช่วงปลายเทอมของ สว. รัฐบาลอย่าประมาท อาจพลาดในช่วงสั้นๆ

จนรัฐบาลชุดนี้ล้มครืนลงมา

และ สว.ยังมีสิทธิโหวตนายกฯ

แถมยังคิดว่าเตรียมใช้อาวุธเปิดอภิปรายทั่วไป ที่ยังไม่เคยใช้เลย เพื่อควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน

โดยเฉพาะในสถานการณ์เศรษฐกิจที่เป็นแบบนี้ ภายใต้การแก้ปัญหาในลักษณะนี้ ประเด็นเศรษฐกิจจึงเป็นเรื่องหนึ่งที่ สว.อาจเปิดอภิปรายทั่วไป

คนในรัฐบาลพยายามชี้ให้เห็นถึงวิกฤติเศรษฐกิจใหญ่เริ่มตั้งเค้า ค่อนข้างย้อนแย้งข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ ที่มองว่าเศรษฐกิจฟื้นตัว นายวันชัย บอกว่า แน่นอน เพราะรัฐบาลกำลังออก พ.ร.บ.เงินกู้

ย่อมชี้ให้เห็นว่าวิกฤติเศรษฐกิจ เป็นเรื่องเร่งด่วนต้องกู้เงิน กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านดิจิทัลวอลเล็ต แก้ปัญหาให้ประชาชน

อีกด้านหนึ่งก็เห็นต่าง ไม่ใช่วิกฤติเศรษฐกิจ ออก พ.ร.บ.เงินกู้ไม่ได้ ต้องใช้เงินตาม พ.ร.บ.งบประมาณปกติ ทั้งหมดวิพากษ์วิจารณ์อย่างไรก็ขึ้นอยู่ที่เสียงส่วนใหญ่ของรัฐบาล

ในระหว่างนี้สถานการณ์การเมืองคงไม่มีปัญหาอะไร จนหมดวาระ สว. 11 พ.ค.67 ในเมื่ออำนาจ สว.โหวตนายกฯ ไม่มี ฝ่ายการเมืองก็เริ่มเป็นแกนสำคัญที่กระชับอำนาจ

ต่างกับสถานการณ์ตอน สว.โหวตนายกฯ อาจมีอำนาจพิเศษหลายๆอย่างทำให้เกิดขึ้น มันไม่ใช่อำนาจของการเมืองเพียวๆ พรรคการเมืองกำหนดให้ สว.โหวตนายกฯ ไม่ได้

พอฝ่ายการเมืองอาจกระชับอำนาจให้ตัวเองมากขึ้น โดยปรับเปลี่ยน ครม. ซึ่งการปรับเปลี่ยนคนหรือด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่ มันเกิดจากฝ่ายการเมืองตรงๆ

“การตั้งรัฐบาล ไม่ได้เกิดจากเพื่อไทยโดยตรง อาจมีอำนาจอื่นหลายส่วนทำให้ตั้งรัฐบาลสำเร็จพอ สว.หมดวาระ อนาคตข้างหน้าทางการเมือง พรรคต่างๆ อาจเหลือน้อยลง

เช่น พปชร.ส่วนใหญ่มาจากเพื่อไทย เริ่มไหลรวมหรือทำงานใกล้ชิด อาจขยับอยู่เพื่อไทยจนมีเสียงมากขึ้นอีก 40 เสียงก็เป็นเรื่อง

รวมไทยสร้างชาติเมื่อไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ คิดดูคนเหล่านี้จะไหลรวมไปที่ไหน สุดท้ายเหลือประมาณ 3 พรรคการเมืองใหญ่ที่ต่อสู้กัน

เพื่อไทยเป็นอนุรักษ์นิยมใหม่ ใหญ่ลำดับ 1 หรือลำดับต้นๆ พรรคภูมิใจไทยก็อยู่ในปีกนี้ โดยมีพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน”

กระดานการเมืองทั้งหมดเกี่ยวข้องกับบทบาทของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯอย่างไร นายวันชัย บอกว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่า นายทักษิณ นับเป็นผู้ที่มีบทบาททางการเมืองในพรรคเพื่อไทย มีส่วนสำคัญกำหนดให้ตั้งรัฐบาลสำเร็จ

ถึงต้องกลับมาอยู่ประเทศไทย เพื่อมาฟังเอง เห็นเอง รู้เอง ประสานเชื่อมโยงรอบทิศ ทุกอย่างถึงบรรจงลงตัวของทุกภาคส่วน

และนายทักษิณยังต้องมีบทบาทต่อไป เพื่อรักษาสถานะ และอำนาจเอาไว้ แม้อยู่ข้างหลัง ก็ยังมีพลังมากกว่าอยู่ข้างหน้า

แต่ในเมื่อกล้ากลับมาแล้วไม่ยอมเข้าคุกจริง ถือว่าไปยังไม่สุด ย่อมทำให้เส้นทางการเมืองไม่บรรลุดั่งที่ตัวเองต้องการ เพราะอาจมีอุปสรรคขวากหนาม

โดยเฉพาะถ้ายังอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 สังคมมองจนถูกวิพากษ์วิจารณ์มีสองมาตรฐาน คนมาชุมนุม ประท้วงเป็นระยะๆ กระทบต่อรัฐบาลพรรคเพื่อไทย มีผลเสียต่อนายกฯ รวมถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แพทย์

ฉะนั้นถ้ายังยอมอยู่ชั้น 14 จนกระทั่งหมดวาระสิ้นสุดการจำคุก พ้นโทษออกมาว่าด้วยโหราศาสตร์ ดวงชะตา จะทำงานการเมืองก็ไปไม่ถึงดวงดาว

ยังเผชิญอุปสรรค มีปัญหาตลอด กำลังไปได้สวยก็ไปไม่สุด หยุดชะงักตลอดเวลา แม้ไปบังสุกุลเป็น บังสุกุลตายก็ไม่สุข ในเมื่อชีวิตไม่มีแผ่นดินจะอยู่ อยู่ก็เหมือนติดคุกเมืองนอก กลับมาไทยต้องติดคุกจริงๆ เข้าคุกจริง ติด 3 เดือน 6 เดือนไม่ตาย

สะดวกสบายพอสมควร บรรดานักการเมือง พรรค การเมืองยังสามารถเข้าไปพบ ปรึกษาหารือบริหารราชการแผ่นดินได้ ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ

ถึงแก้ชะตาชีวิตอย่างแท้จริง สิ้นเวรสิ้นกรรม

“ผมมองแบบสายมู ระหว่างให้สัมภาษณ์ก็นั่งอยู่ในโบสถ์วัดไก่เตี้ย ตลิ่งชัน กทม. พูดต่อหน้าหลวงพ่อสมฤทธิ์ ประสิทธิโชค ภายในวัดมีทั้งพระราหู เทพหลายองค์

เวลาคนมีเคราะห์ เจอภยันตรายใหญ่ มีทุกข์ มีโศก จะสะเดาะเคราะห์ โดยบังสุกุลตาย บังสุกุลเป็น

นายทักษิณมีเคราะห์มาเกือบ 20 ปี เมื่อกลับมาเผชิญกรรม มาเผชิญไม่สุด ทำให้หนี้กรรมยังติดๆ ขัดๆ เพราะชดใช้กรรมไม่สุด คือไม่ยอมติดคุก

ฉะนั้นขอแนะนำการแก้เคล็ดชะตาชีวิตให้นายทักษิณ ต้องกล้าติดคุก ต้องอยู่ในบริเวณแก้กรรมจริงๆ ถึงหมดเวรหมดกรรม คุกตะรางมันเป็นเรื่องเล็กสำหรับวีรบุรุษ”

ถึงกลับมาเป็นนักการเมืองที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง

เพื่อไทยก็รุ่งเรืองไม่แพ้ยุคพรรคไทยรักไทย.

ทีมการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ "วิเคราะห์การเมือง" เพิ่มเติม