เดิมพันหมดหน้าตัก ณ จุดที่โครงการเทกระจาด “ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท” ได้ยกระดับเป็นจุดชี้เป็นชี้ตาย กับตัวเลขกลมๆ 5 แสนล้านบาท พื้นที่กระดาษเอ 4 ใส่เลขศูนย์กันแทบไม่พอ
จากความชัดเจนที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง แถลงอย่างเป็นทางการต้องออก พ.ร.บ.กู้เงินมหาศาล มาดำเนินโครงการ “เรือธง” ของรัฐบาล
ไม่ใช่หน้าตักของพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่หน้าตักของพรรคก้าวไกล ไม่ใช่หน้าตักส่วนตัวของใคร
แต่มันเป็น “หน้าตักหนาๆของประเทศไทย”
เป็นภาระงบประมาณแผ่นดิน เงินหลวงที่ต้องเป็นภาระให้คนต่อไปต้องใช้หนี้ไปจนชั่วลูกชั่วหลาน
ในท่ามกลางฝุ่นตลบอบอวล แบบที่ “น้องไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แม่ทัพใหญ่ทีมเศรษฐกิจ ออกมาดักคอ ทางลงของรัฐบาลเพื่อไทย รู้ว่าเดินหน้าต่อลำบาก
เลยขุดหลุมพรางให้นักร้องลากไปศาลรัฐธรรมนูญ
อ่านเกมข้ามช็อต เป็นแผนลึก รอให้องค์กรอิสระตีตกเผือกร้อน เพื่อรัฐบาลไม่ต้องรับผิดชอบกับความผิดพลาดกับนโยบายหาเสียง
ถึงที่สุดเลยอาจไม่ได้เงินเลย สักคนเดียว
ขณะที่นายเศรษฐา สวนกลับ อย่าเอามาตรฐานความคิดของตัวเองมาว่าคนอื่นจะคิดเหมือนกัน
อย่ามองความตั้งใจที่บริสุทธิ์ และความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่จะยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน มาเป็นมุมการเมืองที่สร้างความสับสนให้กับประชาชน

...
หัวขบวนฝ่ายค้าน ผู้นำรัฐบาล เปิดหน้าซัดกันแรงๆ
ระดมแนวร่วม เปิดแนวรบถล่มกันไม่ยั้ง อย่างที่ “เสี่ยอ้วน” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ย้อนอดีตแฉแม่ทัพเศรษฐกิจของพรรคก้าวไกล เคยหนุนให้เดินหน้าแจกเงินดิจิทัลฯ ตอนที่ยังจูบปาก กอดคอกันตั้งรัฐบาล
ฟอร์มขุดคลิปประจานกันตอนรักขม
อารมณ์มวยวัด มุกโบราณของรุ่นเก๋าพรรคเพื่อไทย ท้าเดิมพันให้ “น้องไหม” บวชชี หากรัฐบาลเพื่อไทยเดินหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต กู้เศรษฐกิจเป็นผลสำเร็จ
ส่วนค่ายก้าวไกล ปล่อย “น้องไหม” ยืนเดี่ยวแลกหมัด ซัดกลับแบบไม่ลดราวาศอก
ตอกกลับด้วย “Noble Effort” คำเรียกตรรกะวิบัติชนิดหนึ่งที่ตีความผิดๆว่า อะไรสักอย่างย่อมถูกต้อง ดีงาม จริงแท้ หรือมีคุณค่า เพียงเพราะใครสักคนทุ่มเทแรงกายแรงใจ หรือแม้แต่เสียสละเวลา ทรัพย์สิน หรือความสุขสบาย มาพากเพียรทำสิ่งนั้นๆ ด้วยเจตนาที่ดี
ศึกนี้ ใครถอยหลังเป็นหกล้ม หงายท้อง
เมื่อต่างฝ่ายต่างมีเดิมพัน วาระแฝงคือคะแนนนิยมทางการเมือง
ตามท้องเรื่องที่คนดูข้างสนาม กระโดดร่วมวงคลุกฝุ่นกันอุตลุด อย่างนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซัดการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านมาแจก ไม่ใช่ทางออกของรัฐบาล แต่เป็นทางลงของพรรคเพื่อไทย หรือนายคำนูณ สิทธิสมาน สว.คนดัง ที่คัดค้านยุทธการ “เทหมดหน้าตัก” จี้ให้ผู้นำรัฐบาลอธิบายถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการต้องกู้เงินมหาศาลมาเทกระจาด
ตัวเก่ง ตัวตึง ตัวจี๊ด ร่วมวงตะลุมบอน
แต่แน่นอน ในมุมของคนที่ฟังอย่างมีสติ ไม่อิงข้างทางการเมือง
หนึ่งในคนที่มีน้ำหนักมากสุด คือนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนที่รับผิดชอบระบบการเงิน วินัยการคลังของบ้านเมือง
จุดยืนนิ่งมาตลอดกับการเสนอให้การแจกเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ควรทำเฉพาะกลุ่ม ประหยัดงบประมาณ รักษาเสถียรภาพการเงินการคลัง
แม้กระทั่งล่าสุด ในที่ประชุมบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ต ก่อนนายเศรษฐาจะทุบโต๊ะแถลงความชัดเจน เดินหน้ากู้เงิน 5 แสนล้านบาทในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก็ยอมรับออกอากาศเลยว่า ผู้ว่าการ ธปท.ได้ให้ความเห็นว่า เรื่องการกู้เงิน นายกฯ ต้องระวัง และระบุให้บันทึกการประชุมด้วยว่า ได้ให้ความเห็นว่า ป.ป.ช.มีความเห็นมาอย่างไรบ้าง
โดยที่ประชุมรับทราบ และเป็นข้อพึงสังวรให้ทำทุกอย่างถูกต้อง ครบถ้วน
ย้ำ “น้ำหนักแน่นๆ” คนคุมวินัยการคลังบ้านเมือง ไม่ได้อิงกับเดิมพันทางการเมือง.
ทีมข่าวการเมือง
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม