“ธนกร วังบุญคงชนะ” ยัน “สมศักดิ์” ไม่ได้ชวนย้ายซบพรรคเพื่อไทยไปพร้อม “อนุชา” แค่คุยวิเคราะห์การเมือง ย้ำรวมไทยสร้างชาติร่วมรัฐบาลต้องไปในนามพรรค ยืนกรานทำงานได้ทุกพรรค ยกเว้นก้าวไกล

วันที่ 9 ส.ค. 2566 ที่ จ.ระยอง นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย มีแนวคิดดึงพรรค 2 ลุง เข้าร่วมตั้งรัฐบาลเป็นตัวเลือกสุดท้าย เอาไปแค่บางกลุ่มไม่ไปทั้งพรรค ว่า พรรครวมไทยสร้างชาติยังไม่ได้พูดคุยถึงการเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลพรรคเพื่อไทย แต่หากจะรวมก็ไปในนามพรรค ซึ่งจากการประชุมพรรค เมื่อวันที่ 8 ส.ค. มีความเห็นกันแบบนี้ ฉะนั้นต้องดูว่าทิศทางจะเป็นอย่างไร และตอนนี้ยังรออยู่ ซึ่งจริงๆ แล้วพรรครวมไทยสร้างชาติ 36 สส. ตนคิดว่ามีพลัง ที่อาจจะทำให้บางอย่างที่อาจจะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลขึ้น แต่ที่พูดไม่ได้หมายความว่าเราอยากเป็นรัฐบาล ตรงนี้อยู่ที่การเจรจาและต้องเป็นมติพรรค ทั้งนี้ การร่วมรัฐบาลต้องมองถึงนโยบายแนวทางการทำงานเป็นหลัก อย่างที่ตนเคยพูดไว้ เราไม่ควรไปมองเรื่องวาทกรรมต่างๆ มันไม่ใช่เวลาและวันนี้ประชาชนรอรัฐบาลอยู่ ดังนั้นจึงต้องเร่งจัดตั้งรัฐบาล 

นายธนกร กล่าวว่า วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้พูดคุยกับตนเองระหว่างเดินทางมาติดตามความคืบหน้าอีอีซี และได้สั่งให้เตรียมข้อมูลโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลทำส่งมอบให้กับรัฐบาลชุดใหม่ ทุกอย่างนายกฯ ได้สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ทุกกระทรวงทบวง กรม เตรียมส่งต่อให้รัฐบาลใหม่เพื่อดำเนินการต่อ โดยนายกฯ มองว่าหลายอย่างที่ได้ทำไว้ จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า

...

นายธนกร กล่าวว่า ส่วนกรณีมีกระแสข่าว นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีต รมว.ยุติธรรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ประสานกับตน และ นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่จะเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทยนั้น ตนกับนายสมศักดิ์ยังมีความสนิทสนมกันเหมือนเดิม เหมือนคนในบ้านให้ความเคารพรัก ไม่ว่าจะอยู่พรรคไหนก็ยังเหมือนเดิม แต่ในเรื่องทางการเมืองไม่ได้มีการคุยกันเรื่องนี้ คุยวิเคราะห์กันเรื่องทางการเมืองมากกว่า ว่าทิศทางจะเป็นอย่างไร โดยไม่ได้ชวนหรือประสานมาทางตนหรือนายอนุชา ว่าทำอย่างไร

นายธนกร กล่าวว่า ขณะเดียวกันตนยังอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ฉะนั้นการจะทำอะไรเราก็อยู่ในมติที่ประชุมพรรคต้องมีการหารือกัน ยกเว้นในกรณีที่มีสถานการณ์พิเศษ เหมือนกับที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติพูด บางอย่างต้องให้ประเทศเดินหน้าไปให้ได้แต่โดยส่วนตัวตนยังยึดมั่นอยู่ในพรรครวมไทยสร้างชาติ

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ยืนยันว่าจะไม่มีพรรคก้าวไกลมาร่วมรัฐบาล ตรงนี้เป็นสิ่งที่พรรครวมไทยสร้างชาติยอมรับ และพร้อมที่สามารถจะร่วมกับพรรคเพื่อไทยได้ใช่หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ตนคิดว่า พรรครวมไทยสร้างชาติสามารถที่จะทำงานได้กับทุกพรรคไม่ใช่พรรคเพื่อไทยอย่างเดียว แต่หมายถึงพรรคอื่นด้วย ยกเว้นพรรคก้าวไกล เนื่องจากพรรคก้าวไกลมีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 นี่คือหลักการใหญ่

เมื่อถามว่าหลักการใหญ่นี้หมายรวมไปถึงอนาคตวันข้างหน้าด้วยหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า โดยส่วนตัวคิดว่าต้องหมายถึงตรงนั้นด้วย ซึ่งตนมองว่าการทำงาน ไม่สามารถที่จะทำงานกับพรรคก้าวไกลได้ตราบใดที่พรรคก้าวไกลยังคิดที่จะแก้มาตรา 112 นี่คือหลักการของตนที่รับไม่ได้

เมื่อถามว่าในกรณีที่พรรคเพื่อไทยหากจะเอาพรรคลุงๆ เข้าร่วมรัฐบาล แต่จะไม่เอาทั้งพรรค จะเลือกเฉพาะบางส่วนนั้นในทางการเมือง มันเป็นไปได้หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ มันก็เป็นไปได้ แต่ในหลักการของการเมืองมันควรจะเป็นมติพรรคในฐานะที่เป็นสถาบันทางการเมือง ส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ บอกแล้วว่าไม่เกี่ยวกับการที่มีลุง ต้องให้ความเป็นธรรมกับ สส. ด้วย ซึ่งตนคิดว่าวันนี้อยู่ที่การพูดคุยกันมากกว่า พรรคเพื่อไทยเองอาจจะยังไม่พร้อมก็ได้ หรืออาจจะได้คุยกับหัวหน้า หรือเลขาพรรคไปบ้างแล้ว ซึ่งตนไม่ได้อยู่ในวงเจรจาอาจจะยังไม่ทราบตรงนี้ แต่ยืนยันว่าในการประชุมพรรครวมไทยสร้างชาติล่าสุดยังไม่มีสัญญาณดังกล่าว

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่าจะเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี นายธนกร กล่าวว่า รวมไทยสร้างชาติ ยังไม่ได้พูดถึงตรงนั้น แต่ไม่ว่าใคร ทางพรรคก็ต้องคุยกัน