“ผู้การเต่า” ลงนามสั่งย้าย 40 ตำรวจทางหลวงเอี่ยวส่วยสติกเกอร์รถบรรทุกเข้ากรุ ศปก.บก.ทล.แล้ว มีตั้งแต่รอง ผกก.ลงไปถึงชั้นประทวน เจ้าตัวเผยมีตำรวจที่เกี่ยวข้องยศสูงกว่านี้แต่เป็นหน่วยงานอื่น ลั่น ผบช.ก.สั่งให้สร้างกอง บังคับการตำรวจทางหลวงขึ้นใหม่ให้เป็นที่ยอมรับของประชาชน ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ตำรวจทางหลวง 40 นายที่ถูกเด้งเข้ากรุครั้งนี้มี 12 นาย รวมถึงรอง ผกก.จะถูกดำเนินคดีอาญา ฐานเรียกรับและความผิดตามมาตรา 157
ภายหลังนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และนายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เข้าพบ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จตช.เพื่อนำเอกสารหลักฐานรายชื่อตำรวจที่เกี่ยวข้องสติกเกอร์ส่วยรถบรรทุกมามอบให้ดำเนินการทางกฎหมาย โดย พล.ต.อ.วิสนุระบุจะตรวจสอบให้เสร็จสิ้นใน 15 วัน ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.รรท.ผบก.ทล.เตรียมลงนามย้าย 40 ตำรวจทางหลวงที่มีหลักฐานพัวพันส่วยสติกเกอร์ มีตั้งแต่รอง ผกก. รองสารวัตรและชั้น ประทวน ส่วนใหญ่เป็นหัวหน้าตู้ทางหลวงตามสถานีต่างๆในสังกัดกองบังคับการตำรวจทางหลวงตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 มิ.ย. ที่กอง บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รักษาราชการแทน ผบก.ทล. กล่าวถึงความคืบหน้าการลงนามคำสั่งโยกย้ายข้าราชการตำรวจทางหลวง ที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก ว่า ขณะนี้คณะทำงานได้รวบรวมรายชื่อทั้งหมดส่งให้กองบังคับการตำรวจทางหลวง เพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไปยืนยันจะลงนามแล้วเสร็จภายในวันนี้ เป็นตำรวจยศตั้งแต่รองผู้กำกับการลงไปถึงชั้นประทวนทั้งหมด 40 นาย ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการที่ ศปก.บก.ทล. ก่อน ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นตำรวจจากท้องที่ใดบ้าง ส่วนจะมีตำรวจยศสูงกว่านี้เข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น เชื่อว่ามี แต่เป็นของหน่วยงานอื่น คณะทำงานของ ปปป.จะทยอยสืบสวนขยายผลต่อไป
...
พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า ยืนยันคณะทำงานขยายผลสืบสวนมาโดยตลอด ไม่ได้นิ่งดูดายกับการแก้ไขปัญหา การสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจะดำเนินการไปเรื่อยๆ คนไหนมีพยานหลักฐานจะดำเนินการไป คนไหนถูกพาดพิงแต่ผู้ประกอบการยังไม่กล้าให้การเป็นลายลักษณ์อักษรก็ว่าไป แต่ตำรวจจะพยายามรวบรวมพยานหลักฐานทุกอย่างให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น จะมีคำสั่งในการดำเนินการออกมาเรื่อยๆ รวมถึงจะเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือถูกพาดพิงเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกแน่นอน เพราะเชื่อว่ายังไม่จบแค่ตำรวจ 40 นายนี้
รรท.ผบก.ทล.กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำหลักฐานมายื่นให้เพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีกับขบวนการรถบรรทุกน้ำมันเถื่อนและส่วยสติกเกอร์ มอบหมายให้คณะทำงาน บก. ปปป.ดูแลแทน ตนมีหน้าที่ดูแลคดีของตำรวจทางหลวงดำเนินการแยกกันคนละส่วน แต่ยังมีการประสานข้อมูลกันตลอด บก.ปปป. จะเป็นหน่วยงานหลักในการสืบสวนขยายผล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางมีคำสั่งให้ใช้กำลังตำรวจอย่างเต็มที่ในการคลี่คลายสถานการณ์ และสร้างกองบังคับการตำรวจทางหลวงขึ้นมาใหม่ ให้เป็นที่ยอมรับของพี่น้องประชาชน
“ส่วนกรณีรถบรรทุกน้ำมันเถื่อนที่นายอัจฉริยะบอกว่าหายไปนั้น ตอนนี้ยังสับสนยังไม่มีความชัดเจนว่ารถของกลางอยู่ที่หน่วยงานใด แต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องยังพูดไม่ตรงกันและยังไม่มีความชัดเจน ยังไม่อยากด่วนสรุปตอนนี้ แต่ได้ให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวนร่วมกับกรมสรรพสามิต และประสานข้อมูลกันให้มีความชัดเจนก่อน และขอให้ทุกฝ่ายอย่ากังวล ทุกอย่าง ต้องดำเนินการตามกฎหมาย” พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าว
ต่อมาเวลา 15.30 น. มีรายงานว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.รรท.ผบก.ทล. ลงนามหนังสือคำสั่งกองบังคับการตำรวจทางหลวง ลงวันที่ 9 มิ.ย. 66 เรื่องโยกย้ายข้าราชการตำรวจทางหลวงต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก และเรียกรับผลประโยชน์อื่นๆ 40 นาย ตำแหน่งรอง ผกก. 1 นาย รอง สว. 17 นาย และชั้นประทวน 22 นาย ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการที่ ศปก.บก.ทล. มีผลตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย. เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ เพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆเป็นไปด้วยความโปร่งใส
สำหรับตำรวจทางหลวงทั้ง 4 นาย มี 12 นาย มีรอง ผกก.รวมอยู่ด้วย ที่จะต้องถูกดำเนินคดีอาญา ฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน เรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งหน้าที่ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” เป็นผลพวงจากกรณีที่ก่อนหน้าเคยถูกร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องเรียกรับเงินสินบนอื่นๆจากผู้ประกอบการรถบรรทุก
มีรายงานว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ออกคำสั่ง บก.ทล. ที่ 109/2566 ลง 9 มิ.ย.66 เรื่อง ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการโดยให้ตำรวจที่มีรายชื่อตามคำสั่ง 40 นาย มาปฏิบัติราชการที่ ศปก.บก.ทล. ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.66 จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง และให้มารายงานตัวในวันที่ 12 มิ.ย. เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมชั้น 3 บก. ทล. ดังนี้ พ.ต.ท. ตุลยวัต เมืองทอง รอง ผกก.3 ร.ต.อ.ประดิษฐ์ คุณประสาท รอง สว.ส.ทล. 2 กก.1 ร.ต.อ.ณัฏฐพล นาคกร รองสว.ป.ส.ทล.1 กก.2 ร.ต.อ.เสน่ห์ นุชนุ่ม รองสว.ป. ส.ทล.1 กก.2 ร.ต.ท.เทิดพันธ์ จุนทการ รอง สว.ป. ส.ทล.6 กก.2 ร.ต.ต.เกรียงไกร เพชรนคร รอง สว.ป.สทล.1 กก.1 ร.ต.ต.สุชาติ ศรีทองสุข รอง สว.ป.ส.ทล.2 กก.1 ร.ต.ต.สมศักดิ์ ปั้นโฉม รอง สว.ป.ส.ทล.2 กก.1 ร.ต.ต.ธีระวัฒน์ ชาวนาห้วยตะโก รอง สว.ป.ส.ทล.1 กก.1 ร.ต.ต.วรพงศ์ จั่นปาน รอง สว.ป.ส.ทล.2 กก.2 ร.ต.ต.พงศกร กังใจ รอง สว.ป.ส.ทล.1 กก.3 ร.ต.ต.ปุญญามาฆะ กรัตพงศ์ รอง สว.ป.ส.ทล.3 กก.3 ร.ต.ต.ชายแดน กองจอหอ รอง สว.ป.ส.ทล.5 กก.3
ด.ต.สมศักดิ์ จันทาทอง ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.1 ด.ต.ธนพงศ์ เผ้าหอม ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.1 ด.ต. ศิริวัฒน์ วิวัฒนาการ ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.1 ด.ต.กิตติพงษ์ กวีศิริกรณ์ ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.2 ด.ต.จักรพงษ์ พุฒตาล ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.2 ด.ต.ศุภกร อยู่คงดี ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.2 ด.ต.สายัณห์ แก้วอนันต์ ผบ.หมู่ ส.ทล.2กก.2 ด.ต.ปกรณ์ สิทธิศักดิ์ ผบ.หมู่ ส.ทล.6 กก.2 ด.ต.สราวุธ รังกาแกม ผบ.หมู่ส.ทล.6 กก.2 ด.ต.วสันต์ บู้หลง ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.3 ด.ต.ธีระวัฒน์ สมอุ่มจารย์ ผบ.หมู่ ส.ทล.5 กก.3 ด.ต.สันติ บุญเพ็ง ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.4 ด.ต.สันติราษฎร์ ศรีเพชร ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.6 ด.ต.เปรมวิศุทธ์ พัฒนอติพงศ์ ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.8 ส.ต.อ.ภาณุพงษ์ ต่วนชะเอม ผบ.หมู่ ส.ทล. 3 กก.1 ส.ต.อ.ประเสริฐ พูลศิริ ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.2
ร.ต.อ. ประสงค์ หลังนุ้ย รอง สว.ป.สทล.3 กก.7 ร.ต.อ.สมชาย ทรัพย์อบรม รอง สว.ป. ส.ทล.3 กก.7 ร.ต.ต.สรรเสริญ ศรีสวัสดิ์ รอง สว.ป.ส.ทล.1 กก.2 ร.ต.ต.ณัฐธนพงษ์ อุ่นหล้า รอง สว.ป. ส.ทล.3 กก.3 ร.ต.ต.ศักดิ์ชาย นับงาม รอง สว.ป. ส.ทล.2 กก.8 ด.ต.ชาญชัย จันทรวงศ์เกษม ผบ.หมู่ ส.ทล.3 กก.7 ด.ต.ปภาวิน ประหยัดสิน ผบ.หมู่ ส.ทล.3 กก. 3 ด.ต.อาฮามะ มหะมะ ผบ.หมู่ ส.ทล.3 กก.7 ด.ต.นิยม บุญรอด ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.7 ด.ต.สุทธิวงศ์ เมืองราม ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.7 กองบังคับการตำรวจทางหลวง จ.ส.ต.ธีระยุทธ แก้วเรืองฤทธิ์ ผบ.หมู่ ส.ทล.4 กก.7