ตั้งไข่ราบรื่น ฟอร์มทีมรัฐบาล 8 พรรค 313 เสียง
ปลดล็อกชั้นแรกเตรียมเป็นรัฐบาลมีเสียงเกินครึ่งสภาฯ รับประกันความมีเสถียรภาพ
ขั้วประชาธิปไตยชื่นมื่น ชู “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ถือฤกษ์วันรัฐประหารปี 2557 ประกาศเอ็มโอยูการทำงาน 22 พ.ค.นี้ มุ่งหน้าสู่สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง
เหลือแค่ด่านสำคัญ จะหักค่ายกลอรหันต์ 250 ส.ว. ลุ้นการเมืองไทยพลิกขั้วอำนาจใหม่สำเร็จหรือไม่
ถึงแม้สร้างปรากฏการณ์สึนามิสีส้ม หักปากกาเซียน ชนะเลือกตั้งอันดับ 1 แต่สิ่งที่ยากกว่าหลังจากนี้คือ การรวมเสียงในรัฐสภาให้เพียงพอ เพื่อซิวเก้าอี้นายกฯ ปิดจ๊อบสมบูรณ์แบบ
เป็นแชมป์เลือกตั้ง แต่ชื่อ “พิธา” ยังไม่ชัวร์จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ก้าวไกลยังต้องดิ้นสุดแรงเกิด เบ่งแต้มให้ได้อีก 63 เสียง จากต้นทุน 313 เสียง รวม 376 เสียง ส่ง “กัปตันทิม” นั่งแท่นผู้นำรัฐบาลคนที่ 30
ต้องโร่หาพันธมิตรเพิ่มแต้มทุกทาง แก้เกมเสียงขาด
พุ่งเป้าไปที่เกมกดดัน ส.ว. บีบให้ลงมติเลือก “พิธา” เป็นผู้นำคนใหม่ตามฉันทามติประชาชน ห้ามงดออกเสียงโหวตนายกฯ ปิดสวิตช์ตัวเอง

...
กลับตาลปัตรจากที่เคยไล่ชัตดาวน์วุฒิสภา แก้รัฐธรรมนูญมาตรา 272 ริบดาบเลือกนายกฯ
ไฟต์บังคับเฉพาะหน้ากดดันก้าวไกลให้แบกหน้าง้อ ส.ว.ทั้งทุบ ทั้งปลอบ ขอคะแนนกันดื้อๆ ในภาวะที่วุฒิสภาคือ ผู้ชี้ชะตากำหนดโฉมหน้านายกรัฐมนตรี
ฟากประชาธิปไตยเดินเกมล็อบบี้ ส.ว. ให้ช่วยแชร์แต้มโหวตนายกฯ เปิดดีลไปที่กลุ่มเป้าหมายหลัก ส.ว.อิสระ 50 คน ที่มาจากการเลือกกันเองในกลุ่มอาชีพต่างๆ ที่มีคอนเนกชันรู้จักมักคุ้นนักการเมืองสายบ้านใหญ่
ส่งคณะเจรจาไปขอเสียง จนเริ่มเห็นเค้าลางกองหนุนสีส้ม ส.ว.บางส่วนหันมาโชว์จุดยืนต่อสาธารณชน พร้อมใส่คะแนนให้พรรคอันดับ 1 หนาตาขึ้น
เบียดสู้กับ ส.ว.สาย 2 ลุง ที่ครองเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภา ยังคงปักหลักตรึงกำลังแน่นหนา ต่อต้านหัวหน้าพรรคก้าวไกลนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี
กอดหลักการ ห้ามแตะต้องมาตรา 112 ไม่สนกระแสกดดันจากมติมหาชน ส่วนใหญ่เตรียมโหวตงดออกเสียง แสร้งวางตัวเป็นกลาง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการเลือกนายกฯ
จับมือเหนียวแน่น ไม่ร่วมเทคะแนนให้ครบ 376 เสียง หากไม่ได้รับไฟเขียว

หนทางฝ่ายประชาธิปไตยควานแต้ม ส.ว.ได้ 63 เสียงลำบาก อาจไม่ครบตามเป้า ส่ง “พิธา” นั่งนายกฯ
สำรวจแต้ม ส.ว.สายอิสระกับ ส.ว.ที่ตั้งใจโหวตให้พรรคก้าวไกลที่มีอยู่ประปราย เขย่งได้เต็มที่อยู่แค่ 20 เสียง บวกลบเล็กน้อย
ตัวเลขยังห่างไกลความจริงอีกหลายขุม เผลอๆถึงเวลาโหวตจริง คะแนนที่ ส.ว.จะช่วยโหวตให้ฝ่ายชนะเลือกตั้ง อาจไม่มาตามนัด เพราะที่แสดงจุดยืนโชว์หล่อ โชว์สวยต่อหน้าสื่อ ก็ไม่รู้แค่จัดฉากหนีเกมล่าแม่มด หรือมีจุดยืนเคารพเสียงประชาชนส่วนใหญ่จริงๆ
แม้ค่ายก้าวไกลจะพยายามยืดหยุ่น ลดเพดานความเข้มข้นเรื่องสุ่มเสี่ยง เลี่ยงใส่การแก้ไขมาตรา 112 ในเอ็มโอยู และวิ่งล็อบบี้หาแต้มเพิ่มขาแทบพลิก แต่โอกาสแชร์แต้ม ส.ว.เป็นกอบเป็นกำยังมืดมน
จะแก้เกมอย่างไรก็ไม่แคล้วติดกับดักสภาผู้เฒ่า ไม้ตายฝ่ายอนุรักษ์นิยมเป็นกลไกขัดขวางแคนดิเดตนายกฯพรรคก้าวไกล ไม่ให้ไปถึงฝั่งฝัน
สภาสูงก็รอจังหวะการเมืองเดตล็อก ถ้าชื่อ “พิธา” ถึงทางตันในชั้นรัฐสภา ค่อยกำหนดเกมโหวตนายกฯคนใหม่

ปลุกความหวังขั้วการเมืองฝั่งตรงข้าม มีโอกาสได้เกาะขบวนกลับมาเป็นใหญ่ ทั้ง “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ หากมีการล้างไพ่ฟอร์มรัฐบาลใหม่
หน้าตารัฐบาลใหม่จะมีโฉมหน้าอย่างไร ค่อยไปว่ากันในสถานการณ์เฉพาะหน้า ทั้งสูตรเดิมแต่เปลี่ยนให้เพื่อไทยเป็นหัวขบวนตั้งรัฐบาลแทนก้าวไกล หรือพลิกขั้วเปลี่ยนฝั่ง ดีดผู้ชนะอันดับ 1 ออกดึงอดีตพรรคร่วมรัฐบาลร่วมวงผสมพันธุ์
สูตรจับมือ “เพื่อไทย–พลังประชารัฐ” ยังไม่ปิดประตูตาย เพราะมีออปชันเสริม 250 ส.ว. ช่วยการโหวตนายกฯสำเร็จง่ายขึ้น ไม่เสี่ยงสุญญากาศ
ค่ายที่กลับมาราศีจับ กรณีพรรคก้าวไกลตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ หนีไม่พ้นพรรคเพื่อไทยได้กลับมาเป็นคนคอนโทรลอำนาจ ในฐานะพรรคอันดับ 2 ไม่ว่าการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะออกมาสูตรใด
แค่อดทนเล่นเกมตามน้ำ รอจังหวะการเมืองตีลังกา พลิกกลับมาเป็นใหญ่
แม้จะแพ้ศึกในสนามเลือกตั้ง แต่ได้ลุ้นกลับมาเป็นผู้ชนะสงครามอำนาจ!!!
ทีมข่าวการเมือง