ในรอบ 4 ปีประชาธิปไตยอยู่ในมือคนไทยแค่ 2 วินาที เฉพาะตอนกาคะแนนบัตรเลือกตั้งเท่านั้น คำพูดนี้แม้เป็นตลกร้ายที่เสียดสีประชาธิปไตยแบบไทยๆ แต่ถึงกระนั้นเราก็ไม่ควรพลาดโอกาสใช้ 2 วินาทีสร้างประชาธิปไตยให้คุ้มค่า
วันเสาร์สบายๆวันนี้ผมขอเชิญชวนทุกท่าน ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้กันให้มากๆ ไปเลือก ส.ส.ที่จะมาเป็นปากเป็นเสียงแทน เลือกนายกฯคนเก่งคนดีมาบริหารประเทศ ยิ่งประชาชนออกไปใช้สิทธิมากเท่าไหร่ การซื้อเสียงจะยิ่งด้อยค่าไร้ผล ใครแจกเงินซื้อเสียง รับไว้แล้วช่างหัวมัน ไม่ต้องเลือก แค่เริ่มต้นก็โกงแล้ว พอได้เข้าสู่อำนาจมีหรือจะไม่โกง
บัตรสีเขียว สำหรับเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อ มีหมายเลข ชื่อพรรค และโลโก้พรรค พรรคไหนเบอร์อะไรก็คงจำกันได้แม่นแล้ว ส่วน บัตรสีม่วง ใช้สำหรับเลือก ส.ส.เขต มีแค่หมายเลขผู้สมัคร เป็นบัตรโหล ใครอยู่เขตเลือกตั้งไหนต้องจำเบอร์ของผู้สมัคร ส.ส.ในเขตตัวเองให้ดี เราต้องพึ่งตัวเองให้มากในยามที่ กกต.ทำงานไม่เอาไหน สร้างความสับสน และเกิดข้อผิดพลาดหลายอย่าง
ตลอด 2 เดือนที่ทุกพรรคการเมืองแข่งกันเสนอนโยบายหาเสียง มีทั้ง นโยบายสร้างสรรค์ และ นโยบายมักง่ายขายฝัน แต่คราวนี้ประชาชนอาจไม่ร่วมฝันด้วย เพราะนึกขึ้นได้ว่าตอนเป็นรัฐบาลทำไมไม่ทำ หรือบางพรรคก็ดีแต่พูด ทำงานไม่เป็นสับปะรด ศรัทธาเสื่อมลงทุกวัน
ช่วงกลางจนถึงช่วงท้ายของการหาเสียง หลายพรรคออกนโยบายใหม่ เนื้อในไม่มีไอเดียสร้างสรรค์ แค่อัดเงินเกทับพรรคอื่น เงินใครๆก็อยากได้ แต่ของฟรีไม่มีในโลก ทุกบาทที่แจกล้วนมาจากเงินภาษีทั้งนั้น
ไม่ว่าแจกในรูปเงินสด คูปอง หรือเหรียญดิจิทัล ยังไงก็ต้องใช้เงินจากภาษีในอนาคตอยู่ดี
แจกเงินจะกี่พันกี่หมื่น ใช้แป๊บเดียวก็หมด เวลานี้คนไทยต้องการโอกาส และ ปัจจัยพื้นฐาน เสริมความแข็งแกร่งในการทำมาหาเลี้ยงชีพมากกว่า
...
กระแสการเมืองของไทยถูกปั่นโดยพรรคการเมืองใหญ่ ทำให้เรามีทั้งนายกฯกัปตันแก่ นายกฯโซ่ข้อกลาง นายกฯส้มหล่น นายกฯนอมินี นายกฯโซเชียล แต่ศตวรรษนี้ไม่มีประเทศไหนอยู่ได้โดยลำพัง ผมจึงอยากได้ ผู้นำที่ฉลาด ทันโลก กล้าตัดสินใจ ไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบ สามารถนำพาประเทศไทยเชิดหน้าชูตาบนเวทีโลก
การเมืองไม่ได้มีแค่ถูกผิด แต่มีเรื่องความชอบความชังมาเป็นองค์ประกอบด้วย ถึงวันนี้คนส่วนใหญ่คงมีตัวเลือกในใจไว้แล้ว แต่สำหรับคนที่ยังลังเล หรือไม่รู้จะเลือกขั้วไหน ผมอยากแนะนำว่าไม่จำเป็นต้องเลือกพรรคใหญ่เสมอไป พรรคเล็กก็มีจุดขายของแต่ละพรรค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พรรคชาติไทยพัฒนา ที่ชั่วโมงนี้มีภาพลักษณ์เป็น พรรคสีเขียว รักษ์สิ่งแวดล้อม และหลอมรวมคนรุ่นใหม่กับรุ่นใหญ่ให้ทำงานร่วมกันอย่างมียุทธศาสตร์
ที่สำคัญหัวหน้าพรรคคือ “ท็อป” วราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ มีคุณสมบัติเพียบพร้อมเป็นผู้นำที่จะพาประเทศไทยไปยืนบนเวทีโลกอย่างสง่างาม แข่งขันกับนานาอารยประเทศได้ทั้งความรู้ความสามารถ วิสัยทัศน์ การสื่อสาร และผลงานที่ประจักษ์ เช่น การประชุม COP25 และ COP26 และปลุกกระแสเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ จนได้รับฉายามิสเตอร์คาร์บอนเครดิต
คิดได้ทำเป็น ของจริงมีให้เห็นแล้ว ชาวนาปลูกข้าว ชาวบ้านปลูกป่า ได้เงินจากการขายคาร์บอนเครดิต ขณะที่ภาคธุรกิจก็ตื่นรู้ปรับตัวก่อนโดนกีดกันการค้าและตั้งกำแพงภาษี เรียกว่า นำพาฐานรากของไทยเดินไปสู่กระแสโลกได้
โลกปัจจุบันหมุนเร็วกว่าเดิม สเปกผู้นำแบบนี้จึงไม่ใช่เรื่องไกลตัว หาเสียงครั้งนี้ รมต.ท็อปไม่แข่งลดแลกแจกแถม มีแต่นำเสนอนโยบายที่ยั่งยืน ก็อยู่ที่เจ้าของคะแนนจะเลือกแบบไหน ถ้ายังคิดแบบเดิม เลือกแบบเดิม ก็เจอปัญหาเดิม แล้วจะเปลี่ยนประเทศให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างไรครับ.
ลมกรด