พบวุ่นวายหลายจุด เลือกตั้งล่วงหน้าคึกคักทั่วไทย ชื่อตกหล่น-เขียนรหัสผิด

เลือกตั้งล่วงหน้าสุดคึกคัก ประชาชนแห่แหนออกมาใช้สิทธิท่ามกลางอากาศร้อนจัด ที่ ม.รามคำแหง จุดที่มีผู้ลงทะเบียนมากสุด ไม่ถึงครึ่งวันออกมากันเกิน 60% พารากอนก็แห่มาทั้งวัน “แสวง” เผยมีร้องเรียน 92 เรื่องรับที่นนทบุรีเจ้าหน้าที่ทำผิดพลาด ใส่รหัสเขตเลือกตั้งผิดนับร้อยราย กาญจนบุรีจับทหารพราน-ครูแอบถ่ายภาพบัตรเลือกตั้ง อ้างเป็นที่ระลึก-เอาไว้สอนเด็ก ดราม่าที่พะเยาชื่อจังหวัดยังเขียนผิด พี่น้องโคราชตื่นตัวอยากเปลี่ยนแปลง ชาว LGBTQ ร่วมสร้างสีสันขอนแก่น มทภ.4 นำใช้สิทธิที่ยะลา เชิญชวนเข้าคูหากันเยอะๆ กำลังพลทหารทั่วประเทศตบเท้าพรึบพรับ “ณเดชน์-ญาญ่า” นำทีมดาราดังชี้อนาคต “สมชัย” แฉมีตุกติกที่ปทุมธานี “เศรษฐา” ทุ่มทุนโค้งสุดท้ายยกครอบครัวหาเสียงที่จตุจักร ก้าวไกลปล่อยคลิปปลุกความหวัง “พี่ตู่” ล่องใต้ช่วยลูกทีมกระบี่ “ขิง” ลุ้นพลังเงียบกวาดเฉียดร้อย

บรรยากาศเลือกตั้งล่วงหน้าสุดคึกคักทั่วประเทศ พี่น้องประชาชนแห่แหนกันออกมาใช้สิทธิ ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าว แสดงถึงความตื่นตัวของประชาชนที่ต้องการชี้อนาคตของตัวเอง แต่ยังเกิดการติดขัดจากการบริหารจัดการของ กกต.กลาง และกรรมการเลือกตั้งประจำหน่วย ที่สร้างปัญหาให้กับผู้ออกมาใช้สิทธิ

คนแห่มารอใช้สิทธิแต่เช้ามืด

เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 7 พ.ค. ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง บรรยากาศการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนจากต่างจังหวัดที่อาศัยใน กทม. ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ามารอใช้สิทธิตั้งแต่เช้าตรู่ หน่วยนี้ถือเป็นหน่วยที่มีผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิมากที่สุด จำนวน 52,771 คน โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตบางกะปิคอยให้คำแนะนำ และอำนวยความสะดวกให้ทุกจุด เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทาง กทม.ได้จัดหน่วยแพทย์ไว้คอยให้บริการประชาชนด้วย ต่อมานายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพ มหานคร ได้ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมของหน่วยเลือกตั้ง พร้อมกล่าวว่า เขตบางกะปิเป็นเขตที่มีผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้ามากที่สุด ราว 52,000 คน กังวลเรื่องความสับสนของประชาชน จึงเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ช่วยดูขั้นตอนต่างๆ โดยเฉพาะการสแกน QR Code เพื่อตรวจสอบหน่วยเลือกตั้ง

“ชัชชาติ” ระดมพ่นไอน้ำดับร้อน

นายชัชชาติกล่าวว่า เป็นห่วงในเรื่องสภาพอากาศที่วันนี้ค่อนข้างร้อนมาก จึงประสานรถพ่นละอองน้ำมาช่วยลดความร้อนให้ประชาชนที่มาใช้สิทธิ และมีการจัดเตรียมหน่วยพยาบาลเบื้องต้น วันนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของประเทศ จะพยายามทำให้ดีที่สุด ยอมรับว่าตื่นเต้น บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เพราะทุกคนอยากออกมาว่าอยากให้ประเทศเป็นอย่างไร ขอให้ออกมาใช้สิทธิ เพื่อความโปร่งใส กทม.มีสถานที่เก็บหีบบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดป้องกันแน่นหนา และขอให้ประชาชนร่วมกันตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นได้ ส่วนปัญหาการทุจริตเลือกตั้ง ที่ผ่านมา กทม.ยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียน

ไม่ถึงครึ่งวันใช้สิทธิเกิน 60%

ต่อมาเวลา 12.10 น. นายไพรัตน์ เกษตรสินธุ์ ผอ.เขตบางกะปิ ประธาน กกต.เขต 14 กทม. กล่าวว่า ภาพรวมที่ศูนย์เลือกตั้ง ม.รามคำแหง ตั้งแต่เปิดหีบเวลา 08.00 น. จนถึงเวลา 12.00 น. มีประชาชนที่ลงทะเบียนไว้มาใช้สิทธิเกิน 60 เปอร์เซ็นต์แล้ว จากผู้ลงทะเบียนไว้ทั้งหมด 52,771 คน ยังไม่พบผู้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง แต่ยอมรับว่ามีประชาชนจำนวนหนึ่งรายชื่อตกหล่น ไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าวันนี้ได้ เนื่องจากลงทะเบียนในระบบออนไลน์ไม่สมบูรณ์ ทำให้ไม่มีชื่อหน้าชุดเลือกตั้ง (หน่วยเลือกตั้ง) ต้องไปใช้สิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. และยังมีปัญหาสภาพอากาศร้อนจัด ทำให้ประชาชนที่มาใช้สิทธิล้มป่วยเป็นลม 14 คน ผู้ว่าฯ กทม.สั่งการให้เสริมรถน้ำมาฉีดละอองน้ำรอบพื้นที่เพื่อบรรเทาอากาศร้อน เพิ่มเต็นท์พักคอยและพัดลมไอน้ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่มีผู้ทยอยออกมา ใช้สิทธิตลอดทั้งวัน มีหญิงสาวชาว กทม. ที่ลงทะเบียน ใช้สิทธิเลือกตั้งในเขตล่วงหน้าไว้ ได้ยกบัตรขึ้นมาพร้อมพนมมือไหว้สาปแช่ง ถ้ามีใครเปลี่ยนบัตรเลือกตั้ง ใบนี้ ขอให้มีอันเป็นไป

พารากอน 6 ชม. แห่มาเกินครึ่ง

ขณะที่บรรยากาศการเลือกตั้งล่วงหน้าอีกจุด ภายในรอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ประชาชนที่ลงทะเบียนไว้ 40,787 คน มากเป็นอันดับ 2 มีผู้มาใช้สิทธิต่างทยอยมาตั้งแต่ช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ตำรวจ เทศกิจสำนักงานเขตปทุมวัน และ รปภ.ห้าง คอยดูแลความสงบเรียบร้อยตั้งแต่ทางขึ้นลงบันไดเลื่อน จนถึงหน่วยเลือกตั้ง สำหรับพื้นที่คูหาเลือกตั้งมี 3 ฮอลล์ แบ่งเป็น 82 คูหา ตั้งแต่เปิดหีบเวลา 08.00 น.จนถึง 14.30 น. เจ้าหน้าที่ได้ประกาศยอดประชาชนที่เดินทางมาใช้สิทธิเกินกว่าครึ่ง

“แสวง” เผยมีร้องเรียน 92 เรื่อง

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. แถลงภาพรวมการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้งว่า ได้รับรายงานจากทุกจังหวัดเท่าที่ดูเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีเพียงบางจุด เช่น กทม. อากาศร้อนมาก สถานที่คับแคบ การจราจรติดขัด เพราะบางแห่งมีผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิจำนวนมาก ก็มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกอยู่ สำหรับเรื่องร้องเรียนวันนี้มีเข้ามา 92 เรื่อง จังหวัดที่มีการร้องเรียนมากที่สุดคือ กทม. เพราะเป็นพื้นที่ใหญ่ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการกระทำผิดตามมาตรา 73 (1) คือสัญญาว่าจะให้เงิน หรือทรัพย์สิน เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่า จ.อำนาจเจริญ ยโสธร ศรีสะเกษ มีผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิมากผิดปกติ และมีรายงานเก็บบัตรประชาชนด้วย นายแสวงตอบว่า ปัญหาเรื่องลงทะเบียนใช้สิทธิอาจมีบ้าง แต่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเจอและแก้ไขแล้ว ส่วนเรื่องการเก็บบัตรประชาชนอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่กำชับไปยังเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง ตรวจสอบให้ชัดเจนว่าใบหน้าของผู้มาใช้สิทธิตรงกันหรือไม่ ในหน่วยเลือกตั้งจะต้องตรวจสอบอย่างรัดกุม

โอ่ชาติเดียวใช้จีพีเอสติดหีบบัตร

เมื่อถามว่าจะสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ที่แสดงความเป็นห่วงว่าบัตรเลือกตั้งของเขาจะไปถึงหน่วยเลือกตั้งด้วยความปลอดภัยอย่างไร นายแสวงตอบว่า เราชี้แจงมาตลอดว่าพิมพ์บัตรเท่าไหร่ ขนส่งอย่างไร จัดเก็บอย่างไร เราออกแบบกระบวนการเลือกตั้งทุกอย่างเพื่อให้เกิดความโปร่งใส และการมีส่วนร่วมของประชาชน คือ 1.เห็นด้วยตา จากการที่มีประชาชนสังเกตการณ์การเลือกตั้ง 2.ตรวจสอบได้ มีหลักการ มีเอกสารยืนยัน ด้วยระบบการลงคะแนนรายงานผล ส่วนการกำกับ เช่น บัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร บัตรเลือกตั้งล่วงหน้า หีบบัตรจะเก็บในห้องปลอดภัยอยู่ในตู้ล็อก อยู่ในห้องกระจกที่สามารถบันทึกวิดีโอ มีกล้องวงจรปิดตรวจสอบได้ 24 ชั่วโมงระหว่างขนส่งจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีจีพีเอสติดตามตลอดเส้นทาง น่าจะเป็นเพียงประเทศเดียว

รับที่นนทบุรี จนท.ผิดพลาด

นายแสวงกล่าวอีกว่า ช่วงเวลา 10.00 น. มีการตรวจพบหน่วยเลือกตั้งที่ จ.นนทบุรี กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) เขียนรหัสเขตเลือกตั้งที่หน้าซองสำหรับใส่บัตรเลือกตั้งผิด โดยเขียนของหน่วยเลือกตั้งเขต 2 เป็นเขต 4 และกรอกรหัสไปรษณีย์แทนรหัสจังหวัด พบผิดพลาดประมาณ 100 คน เมื่อเจ้าหน้าที่ทราบได้เปลี่ยนหีบบัตรเลือกตั้งใหม่ แต่กลายว่าเป็นข้อถกเถียงในโลกโซเชียล เรื่องนี้ขอชี้แจงว่ารหัสที่ กปน.จะกรอกรหัส 2 ตัวแรก คือรหัสจังหวัด ส่วน 3 ตัวหลังคือรหัสเขตเลือกตั้ง ซึ่งรหัสเขตเลือกตั้งจะเป็นตัวเลขคนละตัวกับรหัสไปรษณีย์ เช่น จ.นนทบุรี รหัสไปรษณีย์ 2 ตัวแรกคือ 12 แต่รหัสเขตเลือกตั้ง 2 ตัวแรก คือ 11 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพบหลังเปิดให้ประชาชนใช้สิทธิไปแล้วประมาณ 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ภาพรวมการจ่าหน้าซองของบัตรไม่กระทบการใช้สิทธิ ยืนยันว่าสามารถส่งบัตรได้ตรงตามเขตแน่ เหตุที่เกิดขึ้นยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่เรา แต่ทุกอย่างปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต แต่ต้องตรวจสอบอีกที

ถนนหลายสายติดขัดทั้งวัน

ขณะที่บรรยากาศการเลือกตั้งล่วงหน้าในจังหวัดต่างๆ เป็นไปอย่างคึกคักอย่างยิ่ง มีประชาชนพากันออกมาใช้สิทธิตามที่ลงทะเบียนไว้ก่อนหน้านี้ ที่ จ.นนทบุรี เปิดให้ประชาชนที่ลงทะเบียนใช้สิทธิ เลือกตั้งล่วงหน้าจำนวน 89,499 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัดเกือบทั้งหมด เป็นชาวนนทบุรีเพียง 317 คน มีการจัดสถานที่เลือกตั้งล่วงหน้าไว้ 8 แห่ง 179 หน่วยเลือกตั้ง ตั้งแต่เช้ามีผู้ออกมาใช้สิทธิกันจำนวนมาก ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างหนักหลายเส้นทาง โดยเฉพาะบริเวณศาลากลางจังหวัดนนทบุรี ที่มีผู้มาใช้สิทธิมากกว่า 33,000 คน ทำให้การจราจรบนถนนรัตนาธิเบศร์ ถนนงามวงศ์วาน ถนนติวานนท์ ติดขัดตลอดทั้งวัน

ปธ.กกต.สังเกตการณ์ที่ชลบุรี

ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี ประชาชนจำนวนมากเดินทางมาลงคะแนนกันจนสถานที่ที่จัดไว้แน่นถนัด หน่วยลงคะแนนของแต่ละจังหวัดมีคนต่อแถวยาวเป็นร้อยคิว ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัดตั้งแต่เช้า โดยนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เดินทางมาสังเกตการณ์การเลือกตั้งที่ศาลาประชาคมเทศบาลเมืองบ้านสวน เดินตรวจเยี่ยมตามหน่วยเลือกตั้งต่างๆ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่พบมีการกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้ง นายอิทธิพรกล่าวว่า ภาพรวมมีเรื่องร้องเรียนทั่วประเทศในวันนี้ 92 เรื่องที่ จ.ชลบุรียังไม่ได้รับรายงานว่ามีเรื่องร้องเรียนเข้ามา ต้องรวบรวมตรวจสอบข้อเท็จจริง ถ้ามีมูลก็เข้าสู่ขั้นตอนสืบสวนไต่สวนต่อไป

กำลังพล ทร.สัตหีบตบเท้าพรึบ

ที่โรงเรียนสิงห์สมุทร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี อีกจุดที่ถูกจัดให้เป็นสถานที่เลือกตั้งล่วงหน้า มีผู้ลงทะเบียนไว้ออกมาใช้สิทธิกันอย่างคึกคัก บางส่วนมายืนรอตั้งแต่เวลา 07.00 น. นอกจากนี้ยังมีกำลังพลของกองทัพเรือ พลทหารฯ และนักเรียนจ่าทหารเรือ มาใช้สิทธิเป็นกลุ่มก้อนกว่า 700 นาย ต้องเข้าคิวรอนานจนสถานที่ที่จัดไว้แน่นขนัด แต่ก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

กาญจนบุรีจับ 2 รายถ่ายภาพบัตร

ที่อาคารศูนย์บริการท่องเที่ยวเชิงเกษตร อ.เมืองกาญจนบุรี นางณัฐนันท์ ทิพย์พินิจ ประธานกรรมการหน่วยเลือกตั้งที่ 9 และนายอนุสรณ์ สง่าแสง ผอ.ประจำเขตเลือกตั้งที่ 1 กาญจนบุรี สังเกตการมาใช้สิทธิเลือกตั้งของนายเจษฎา พร้อมศรี อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 905/36 หมู่ 1 บ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี อาชีพทหารพราน มีอาการพิรุธมีพฤติการณ์น่าสงสัยว่าใช้โทรศัพท์มือถือแอบถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งในคูหาเลือกตั้ง หลังจากที่นายเจษฎากาบัตรลงคะแนน และทำการหย่อนบัตรลงหีบบัตรแล้ว เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยจึงเข้าทำการสอบถามและขอดูโทรศัพท์มือถือ พบว่ามีการถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งไว้จริง จึงประสาน ร.ต.ท.อนุรักษ์ เสงี่ยมวงษ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี ให้มาสอบสวน จากการสอบถามเบื้องต้นนายเจษฎายอมรับว่าถ่ายรูปไว้จริง แต่เพิ่งเคยใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.เป็นครั้งแรก เลยอยากถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกเท่านั้น ไม่มีเจตนาทุจริตเลือกตั้ง อีกรายนายสมหวัง หวงประสาทพร อายุ 30 ปี ชาว อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ครูโรงเรียนเทพมงคลรังษี ได้ถ่ายรูปบัตรเลือกตั้งของตนเองตอนที่ยังไม่ได้กาเลือกหมายเลข มีภาพบันทึกไว้ในโทรศัพท์ สอบสวนเบื้องต้นให้การว่า อยากถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระลึก และจะนำภาพไปใช้ประกอบการสอนเด็กนักเรียนเท่านั้น ไม่มีเจตนาทุจริตเลือกตั้ง

หญิงวัย 70 มารอคิวเป็นคนแรก

ส่วนภาคเหนือ ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบฯ อ.เมืองเชียงใหม่ มีผู้ลงทะเบียนไว้ทั้งสิ้น 31,220 คน มีจำนวนหน่วยเลือกตั้ง 62 หน่วย บรรยากาศคึกคักไม่แพ้ที่อื่น โดยนางรัชนวรรณ พันธุ์สน อายุ 70 ปี ชาวพิษณุโลก มารอใช้สิทธิเป็นคนแรกตั้งแต่เวลา 06.00 น. เจ้าตัวเผยว่า ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งจะขอใช้สิทธิล่วงหน้า และมาเป็นคนแรกทุกครั้ง ขณะที่เจ้าหน้าที่กั้นช่องและจัดพื้นที่ไว้เป็นสัดส่วนให้ประชาชนนับหมื่นคนเข้าแถวรอใช้สิทธิ ทั้งนี้ พบปัญหาติดขัดบ้างเล็กน้อยในขั้นตอนการตรวจสอบรายชื่อ และตอนที่กาบัตรลงคะแนนเสร็จแล้ว ผู้ใช้สิทธิจะต้องนำบัตรใส่ลงในถุงพลาสติกและปิดผนึกด้วยตัวเอง แล้วให้เจ้าหน้าที่เซ็นชื่อและปิดทับด้วยเทปกาว ที่ช่วงแรกผู้ใช้สิทธิยังสับสนเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นก็คล่องตัวขึ้น ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี ที่ จ.เชียงใหม่มีผู้ลงทะเบียนไว้ทั้งสิ้น 66,986 คน

วางกำลัง ตร.5 หมื่นนายดูแล

ด้าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ร่วมตรวจจุดเลือกตั้งที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติฯ พร้อมกำชับตำรวจให้วางตัวเป็นกลาง คอยอำนวยความสะดวกผู้มาใช้สิทธิ ผบ.ตร.กล่าวว่า จุดเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งหมดทั่วประเทศมี 677 แห่ง จ.เชียงใหม่ ลงทะเบียนใช้สิทธิมากเป็นอันดับ 2 รองจาก กทม. ภาพรวมทั่วประเทศยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่ได้รับรายงานเหตุความรุนแรง แต่เฝ้าระวังพื้นที่แข่งขันสูง อาทิ บช.ภ.2, ภาค 7, ภาค 8 และภาค 9 ทั่วประเทศใช้กำลังพลกว่า 50,000 นาย ทั้งดูแลการเลือกตั้งและความสงบเรียบร้อย หากพบเห็นการกระทำความผิด หรือต้องการความช่วยเหลือ แจ้งตำรวจได้ที่สถานีตำรวจทุกแห่ง หรือโทร.191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชม. หรือแจ้งสายด่วน กกต. 1444

ดราม่าที่พะเยาชื่อจังหวัดผิด

ที่ จ.พะเยา มีกระแสดราม่าเกิดขึ้น เมื่อปรากฏภาพบนสื่อออนไลน์ของหน่วยงานราชการ จ.พะเยา มีการพิมพ์ชื่อจังหวัดผิด จากพะเยา เป็นพระเยา-พเยาว์ ทางจังหวัดพะเยาตรวจสอบข้อมูลแล้ว ปรากฏ ว่าการพิมพ์ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนดังกล่าวไม่ได้เกิดจากหน่วยเลือกตั้งกลาง หรือเขตเลือกตั้งในพื้นที่ จ.พะเยา อย่างไรก็ตาม ไม่ได้เป็นปัญหากับการออกมาใช้สิทธิล่วงหน้าของพี่น้องประชาชน รวมไปถึงกลุ่มข้าราชการ นิสิต นักศึกษา ที่ทยอยออกมาใช้สิทธิต่อเนื่องถึงกว่า 70-80% ของผู้ที่ลงทะเบียนไว้

ผู้สมัคร ก.ก.โวย กกต.น่านกลิ่นตุ

ที่ จ.น่าน ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากนายอภิชาต จ่าแสน ผู้สมัคร ส.ส.น่าน เขต 2 พรรคก้าวไกล ว่าประชาชนต้องการคำตอบหลังไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ปรากฏว่ารายชื่อผู้สมัครของจังหวัดน่าน เขต 2 หายไป 2 เบอร์ คือนายอภิชาต และนายสมคิด มงคลส่ง ผู้สมัครจากพรรคไทยสร้างไทย มีหลายหน่วยที่มีปัญหาเดียวกัน เนื่องจากประชาชนรายหนึ่งที่ไปใช้สิทธิที่เขตบางซื่อเขาถ่ายภาพส่งมาให้ดูว่าเบอร์ของนายอภิชาตไม่มีในใบแนะนำตัว แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่า กกต.ส่งมาให้เท่านี้ เป็นไปได้ว่าอาจถูกตัดสิทธิ จึงอยากได้คำตอบจากทาง กกต. นายอภิชาตกล่าวว่า มองเรื่องนี้ว่าไม่ถูกต้อง ทำไม กกต.ไม่ทำงานของคุณให้ดี อาจมองว่าเป็นการกลั่นแกล้ง คำตอบที่ได้รับจากทาง กกต. บอกว่าน่าจะเป็นการลืมปรินต์หรืออะไรสักอย่าง

ประชาชนตื่นตัวอยากเปลี่ยน

วันเดียวกัน ที่ห้องโคราชฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา อ.เมืองนครราชสีมา ผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิทยอยมารอกันตั้งแต่เวลา 07.00 น. บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักแสดงถึงความตื่นตัวของประชาชน ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าดีใจที่ได้ใช้สิทธิใช้เสียง และสิ่งที่ต้องการคือขอให้ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคนทำตามสิ่งที่หาเสียงเอาไว้ ส่วนหนึ่งอยากให้มีการเปลี่ยนแปลง เพราะ 8 ปีที่ผ่านมาไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ผลงานก็ไม่มีอะไรมาก ทั้งนี้ ยอดรวมของผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิ ล่วงหน้าที่ จ.นครราชสีมา รวมทั้งสิ้น 44,195 คน

ขอเวลาสอบโกงเลือกตั้งเขต 7

พ.ต.ท.ระพีพงษ์ จิรพัฒนาลักษณ์ ผอ.กกต.นครราชสีมา กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องร้องเรียนที่เขต 7 กรณีผู้สมัครรายหนึ่งถูกร้องว่าซื้อเสียงว่า ขณะนี้ทราบสถานที่แล้ว น่าจะไม่ใช่พื้นที่ อ.ประทาย เบื้องต้นคิดว่าน่าจะเป็นพื้นที่ อ.เมืองยาง ให้ชุดสืบสวนกกต.เจ้าหน้าที่รับเรื่องไปแล้ว ส่วนการชี้มูลจะเป็นก่อนหรือหลังเลือกตั้งนั้น อยู่ที่พยานหลักฐาน เรื่องนี้ต้องขอเป็นไปตามกรอบเวลา ชั้นนี้ถือว่าผู้ถูกกล่าวหายังบริสุทธิ์อยู่ ถ้ามีข้อมูลเกี่ยวพันต้องให้โอกาสเขาชี้แจงด้วย ตอนนี้ผู้ถูกกล่าวหายังไม่มาชี้แจงให้ข้อมูลกับเรา ขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนที่รับไว้ 2 เรื่อง คือ เรื่องที่มีลักษณะแจกเงิน ที่เขต 7 และเรื่องจัดเลี้ยงของเขต 4 อ.สีคิ้ว

ชาว LGBTQ ออกมาสร้างสีสัน

ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ไคซ์ (KICE) อ.เมืองขอนแก่น บรรยากาศการเลือกตั้งล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงบ่าย ยังคงมีประชาชนทยอยออกมาใช้สิทธิกันคึกคัก ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนระอุทะลุ 40 องศาเซลเซียส ทำให้บริเวณพื้นที่แคบไปถนัดตา แต่ภาพรวมเรียบร้อยดี ขณะเดียวกันก็มีชาว LGBTQ นำโดยนายจิรวัฒน์ มหาสาร อายุ 36 ปี ชาวมหาสารคาม ที่มาพร้อมกับเพื่อนๆ ผูกโบยักษ์สีส้ม สร้างสีสันดึงดูดสายตาของประชาชนที่มาใช้สิทธิ ก่อนจะตรวจสอบลำดับรายชื่อ โดยมีเจ้าหน้าที่แนะนำอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน ก่อนหย่อนบัตรลงในกล่อง ทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบร้อย นายจิรวัฒน์กล่าวว่า ที่ติดโบสีส้มเพราะเป็นคนชอบแต่งตัวลงไอจี รักในแฟชั่นความสวยงาม ไม่มีนัยทางการเมือง เป็นความชอบส่วนตัวล้วนๆ มองว่าการเลือกตั้งเป็นสิ่งที่สำคัญครั้งหนึ่งในชีวิต อยากเลือกอะไรก็เลือก อยากทำอะไรก็ทำ อยากเลือกใครก็เลือกตามที่ตัวเองชอบ

ผู้ว่าฯสกลฯรอต่อคิวกับชาวบ้าน

ที่หอประชุมถนอม จันทร์เปล่ง ค่ายศรีสกุลวงศ์ อ.เมืองสกลนคร มีประชาชนมาต่อแถวยาวเหยียดก่อนเวลาเปิดหีบ มีนางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ ผวจ.สกลนคร พร้อมด้วย พ.ต.อ.พยุงศักดิ์ นามวรรณ พ.ต.อ.ทรงพล บริบาลประสิทธิ์ รอง ผบก.ภ.จ.สกลนคร มารอต่อแถวเข้าคิวใช้สิทธิเลือกตั้งร่วมกับประชาชนคนอื่นๆ นางจุรีรัตน์กล่าวเชิญชวนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิกันมากๆ เลือกคนที่รักเลือกพรรคที่ชอบ ให้ได้มากกว่าร้อยละ 80 พร้อมเน้นย้ำข้าราชการให้วางตัวเป็นกลาง หากมีหลักฐานว่ากระทำผิดอาจทำให้ผู้สมัครถูกสอยได้

“จุรินทร์” ใช้สิทธิก่อนที่บ้านเกิด

สำหรับบรรยากาศการใช้สิทธิที่ภาคใต้ ที่โรงเรียนเทศบาลบ้านท้ายช้าง อ.เมืองพังงา มีผู้มาใช้สิทธิทยอยเดินทางมาตรวจสอบรายชื่อของผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 2 แบบ มีนายเอกรัฐ หลีเส็น ผวจ.พังงา ร่วมสังเกตการณ์สอบถามสภาพปัญหา เบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีบัญชีรายชื่อประชาชนจากบางจังหวัด (สุพรรณบุรี, ศรีสะเกษ) ตกหล่น ทางเจ้าหน้าที่เร่งแก้ไขนำบัญชีรายชื่อจังหวัดที่ตกหล่นมาติดประกาศจนเรียบร้อย ต่อมาเวลา 12.30 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาใช้สิทธิที่หน่วยดังกล่าว ภาพรวมตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประชาชนทยอยมาใช้สิทธิกันจำนวนมาก

มทภ.4 ชวนเข้าคูหากันเยอะๆ

ที่ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา อ.เมืองยะลา เวลา 09.15 น. พล.ท.ศานติ สกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า เนื่องจากมีภูมิลำเนาอยู่ กทม. ก่อนให้สัมภาษณ์ว่าได้มาใช้สิทธิ พร้อมผู้ใต้บังคับบัญชาและกำลังพลค่ายสิรินธร เนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ต้องปฏิบัติภารกิจคอยอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน ห้วงระหว่างการเลือกตั้ง บางส่วนจึงหมุนเวียนกันมาใช้สิทธิเป็นระยะ และกำชับไปแล้วไม่ให้กำลังพลเข้าไปยุ่งเกี่ยว หรือมีส่วนร่วมกับผู้สมัครหรือพรรคการเมือง ให้วางตัวเป็นกลาง ทำได้เพียงอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง ส่วนใครจะเลือกพรรคไหนบุคคลใด ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณและความชื่นชอบของแต่ละคน เจ้าหน้าที่รัฐจะไม่ไปก้าวก่ายในส่วนนี้ สำหรับมิติด้านความมั่นคง ได้ประชุมร่วมกับหลายฝ่าย เพื่อป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้นในโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง เพิ่มความเข้มงวดในเรื่องของเส้นทาง คูหาเลือกตั้ง ขอเชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิกันให้มากที่สุด ต้องเลือกคนดีเข้ามาบริหารและพัฒนาประเทศ

ทหารทั่วประเทศตบเท้าพรึบพรับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าจังหวัดที่มีหน่วยทหารตั้งอยู่ทั่วประเทศ จะมีกำลังพลออกมาใช้สิทธิกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน อาทิ จ.สระบุรี ลพบุรี พิษณุโลก นครสวรรค์ กำแพงเพชร เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน นครราชสีมา ขอนแก่น สกลนคร เพชรบุรี นครศรีธรรมราช นราธิวาส ฯลฯ สร้างความคึกคักต่อบรรยากาศการเลือกตั้ง

“ณเดชน์-ญาญ่า” นำทีมดาราดัง

ทางด้านคนในวงการบันเทิง มีความตื่นตัวออกมาใช้สิทธิล่วงหน้ากันจำนวนมาก อาทิ ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต นักแสดง-พิธีกรสาวชื่อดัง มาใช้สิทธิพื้นที่เขตบางรัก, ณเดชน์ คูกิมิยะ ควงคุณแม่ ออกไปใช้สิทธิที่โรงเรียนวัดธาตุทอง ท่ามกลางแดดที่ร้อนระอุ ส่วนญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ หวานใจคนสวย ก็ขอใช้สิทธิล่วงหน้าเช่นกัน เบน สันติราษฎร์ ใช้สิทธิที่ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง, บิว-ณัฐพล ไรยวงค์ เดินทางมาใช้สิทธิที่หน่วยเลือกตั้งเทศบาลเมืองพิมลราช จ.นนทบุรี, กานต์-ณัฐชา รัตนชยางคานนท์ นักแสดงจากช่อง 7HD ตบเท้าเข้าคูหาใช้สิทธิล่วงหน้านอกเขต ที่ จ.จันทบุรี

“ไมค์-ภัทรเดช” ชวนชี้อนาคต

ด้านไมค์-ภัทรเดช สงวนความดี ใช้สิทธิที่ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง พร้อมโพสต์รูปการหย่อนบัตรเลือกตั้งฯ เขียนแคปชันบอกเล่าความรู้สึกเชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิว่า “วันนี้ไมค์ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเรียบร้อยครับ เชื่อว่าตอนนี้คนไทยให้ความสำคัญเกี่ยวกับการเมืองมากขึ้น มีหลายช่องทางที่เราสามารถศึกษานโยบาย วิสัยทัศน์ ใช้ประกอบการตัดสินใจ เลือกตั้งใหญ่ 14 พ.ค.นี้ ออกมาทำเพื่อบ้านเมืองเพื่อตัวเอง เพื่ออนาคตประเทศกันนะครับ หนึ่งเสียงเล็กๆ แต่ถ้ามันรวมกันเมื่อไหร่มันมีพลังแน่นอนครับ” นอกจากนั้นยังมีแทน-บุรันช์รัตน์ หอมบุตร, เก่ง- ธชย ประทุมวรรณ ใช้สิทธิที่สำนักงานเขตสายไหม, วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา พิธีกรชื่อดังก็ไม่พลาดเข้าคูหาเลือกตั้ง, นักร้องลูกทุ่งสาว ข้าวทิพย์ ธิดาดิน, โชกุน PROXIE หรือปวริศร์ ศรีชัยชนะ, ต้น-ธนธิต จตุรภุช, แบงค์-มณฑล เหมตาล ฯลฯ

“สมชัย” ปูด 5 ล. สะพัดปราศรัย

ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธ ศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “ปราศรัยใหญ่ 1 ครั้ง เขาใช้เงินเท่าไร เวทีปราศรัยที่แข่งกันใหญ่ เอาต้นทุนการจัดแบบคนฟัง 10,000 คนมาเล่าให้ฟัง ไม่จำเป็นต้องเชื่อ 1.ค่าตอบแทนเสียเวลาชาวบ้าน หัวละ 300 บาท หนึ่งหมื่นคน 3 ล้านบาท 2.ค่ารถขนคนไปกลับ ใช้ปิกอัพจากคนในหมู่บ้าน 1 คัน/10 คน ใช้ 1,000 คัน คันละ 500 บาท เป็นเงิน 5 แสนบาท มีเงื่อนไขคือต้องรอจนปราศรัยเสร็จจึงส่งกลับได้ 3.ค่าร้านอาหารที่มาตั้งร้านออกบูธข้างเวที ให้ประชาชนซื้อทานราวงานวัด ต้องจ้างมาร้านละ 1,000 บาท 20 ร้าน 20,000 บาท 4.ค่าเช่าเก้าอี้ตัวละ 10 บาท 10,000 ตัว 1 แสนบาท 5.ค่าจัดเวทีแสงเสียงตระการ 200,000 บาท 6.ค่าตอบแทนนักข่าว ทีมกล้องที่มาทำข่าว รวมค่าเดินทาง ที่พัก จัดเลี้ยงอย่างดี ทีมละ 50,000 บาท 10 ทีม 5 แสนบาท รวมคร่าวๆเกือบ 4.5 ล้าน ตั้งงบ 5 ล้านบาทเผื่อเหลือเผื่อขาด เผื่อเข้ากระเป๋าคนอาสาจัด กกต.ไม่รู้หรอก เขาไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้”

แฉตุกติกเลือกล่วงหน้าปทุมธานี

นายสมชัยโพสต์เพิ่มเติมอีกว่า ส่วนการเลือกตั้งล่วงหน้าวันนี้มีชาวบ้านที่ไปใช้สิทธิที่วิทยาลัยอาชีวะปทุมธานี ส่งข่าวมาพบเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยไม่มีการตรวจสอบว่าบัตรประจำตัวประชาชนกับคนที่มาใช้สิทธิตรงกันไหม โกงไหม? และรับบัตรไม่แยกจังหวัดรวมๆกันไป บัตร 2 ใบพร้อมซองที่เขียนรหัสว่าไปไหน เมื่อกาแล้วใส่บัตรทั้งสองใส่ซอง ปิดซอง กรรมการประจำหีบเซ็นชื่อ ยัดลงหีบเดียวกัน 2-3 จังหวัด ไม่ปิดสติกเกอร์ ปิดเทปทับลายเซ็นเหมือนการเลือกตั้งล่วงหน้าสมัยแรก ยัดลงที่เดียวกัน เมื่อจบแล้วจะไปเปิดหีบแยก จะยัดบัตรผีพวกที่ไม่มาเลือกตั้งวันนี้กี่คน ใครบอกได้ บัตรที่เลือกตั้งวันนี้จะไปเปลี่ยนที่ไหน เมื่อเปิดหีบมาแยกยัดอีกเท่าไหร่

ชาวบ้านร้องซื้อเสียงที่ขอนแก่น

ที่สำนักงาน กกต.ขอนแก่น เวลา 10.30 น. มีชาวบ้านจากบ้านโนนเรือง ต.บ้านค้อ อ.เมือง ขอนแก่น เดินทางมาพร้อมทนายความและผู้ใหญ่บ้าน นำเอกสารหลักฐานการซื้อเสียงของพรรคการเมืองหนึ่ง อ้างว่ามีการแจกจ่ายให้กับผู้ที่มาฟังการปราศรัย ซึ่งชาวบ้านสามารถถ่ายภาพ ถ่ายคลิปวิดีโอขณะปราศรัยและจ่ายเงินได้

พท.ปั้นเขตธุรกิจใหม่ขอนแก่น

ที่โรงแรมบายาสิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น นพ. พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานนโยบายพรรคเพื่อไทย นำทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยพบผู้ประกอบการ จ.ขอนแก่น แลกเปลี่ยนประเด็นเขตธุรกิจใหม่ ตัวแทนของผู้ประกอบการอยากให้ผลักดันเขตเศรษฐกิจดิจิทัลพิเศษที่จัดร่างโครงการแล้ว แต่ถูกระงับไว้ การส่งเสริมซอฟต์เพาเวอร์ระดับจังหวัด การส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงตลาดทุน นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า แนวคิดของเขตธุรกิจใหม่ เป็นอีกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายอำนาจทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค จะนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม การศึกษา เชื่อมกับภาคธุรกิจ เป็นกลไกกระจายอำนาจ ที่เป็นนโยบายหลักพรรคเพื่อไทย เป็นโอกาสสำคัญสร้างรายได้เข้าประเทศ สร้างเม็ดเงินจับจ่ายในท้องถิ่น มากขึ้น หลายเรื่องพรรคเพื่อไทยมีคำตอบแล้ว อยากมีส่วนประกอบของเอกชนเข้าไปปลดเปลื้องโครงสร้างของรัฐ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการให้มากขึ้น

“เศรษฐา” ปลุกเปลี่ยนประเทศ

วันเดียวกัน นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า งาน “เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ประเทศไทยเปลี่ยนทันที” ที่ลานพาร์ค พารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้พบคนหลาก หลายกลุ่ม โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ การเลือกตั้งปี 2562 ประชาชนแพ้ ฝ่ายประชาธิปไตยแพ้ พรรคเพื่อไทยได้ที่นั่งมากที่สุดถึง 137 ที่นั่ง หากวันนั้นเรารวมใจ ประชาชนให้เพื่อไทยอีก 17 ที่นั่ง เยาวชนไทย ประเทศไทย คงไม่เผชิญปัญหาหลากหลายเช่นในช่วงที่ผ่านมา วันที่ 14 พ.ค.นี้ โอกาสที่จะโค่นอำนาจเผด็จการมาถึงอีกครั้ง ขอให้ประชาชนไม่ว่าคนรุ่นไหน คนกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด คนอนุรักษนิยม คนเสรีนิยม ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ ให้รวมใจโหวตให้พรรคเพื่อไทย โหวตให้ “เศรษฐา ทวีสิน” ไปเปลี่ยนประเทศทันที

ยกครอบครัวหาเสียงที่จตุจักร

เวลา 13.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย “เอม” น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ และครอบครัว ลงพื้นที่สวนจตุจักรและตลาด อตก. ช่วยหาเสียงให้ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย มีประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอย นักท่องเที่ยวรุมขอเซลฟี่จำนวนมาก ระหว่างนั้น พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน และนายณภัทร ทวีสิน ภรรยาและลูกชายนายเศรษฐา เดินทางมาให้กำลังใจด้วย จากนั้นนายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงหมัดเด็ด หรือยุทธศาสตร์ที่จะใช้ในช่วงโค้งสุดท้ายว่า คงนำเสนอนโยบายต่อเนื่องไป คิดว่าประเทศชาติบอบช้ำ มา 8 ปีแล้ว พรรคเพื่อไทยพิสูจน์มาตลอดตั้งแต่ ไทยรักไทย พลังประชาชน ว่าคิดใหญ่ทำเป็นนโยบาย ใหญ่ๆ ดีๆ ทำได้มาตลอด เป็นที่ยอมรับของประชาชน เราบอบช้ำมาเยอะ ไม่มีเวลาลองของใหม่ มั่นใจว่า ได้รับการตอบรับที่ดีหากดูจากหลายโพลคนที่ยังไม่ตัดสินใจมีเหลืออยู่น้อยมากแล้ว แต่เหลืออยู่บ้าง

ก้าวไกลปล่อยคลิปปลุกความหวัง

วันเดียวกัน พรรคก้าวไกลออกคลิปวิดีโอ “กาก้าวไกล เปลี่ยนประเทศไทยไปด้วยกัน” ใช้รณรงค์ หาเสียงว่า ประเทศไทยยังมีความหวังร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงให้สังคมดีขึ้น ร่วมเปลี่ยนประเทศไปกับพรรคก้าวไกล ในวิดีโอประกอบด้วยอดีต ส.ส.หลายคน อาทิ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล นายรังสิมันต์ โรม น.ส.เบญจา แสงจันทร์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มาบอกเล่าเรื่องราวความฝัน ว่าอยากเห็นสังคมดีขึ้นอย่างไร ในวิดีโอดังกล่าวมีข้อความสำคัญบอกเล่าความฝันพรรคก้าวไกลในการ เปลี่ยนแปลงสังคม หลังปล่อยคลิปวิดีโอดังกล่าวในทุกช่องทางสื่อสารของพรรคก้าวไกล มีประชาชนให้ความสนใจจำนวนมาก มียอดเข้าชมและยอดแชร์ บนโซเชียลมีเดียทะลุ 1 ล้านครั้ง บนติ๊กต่อกภายใน เวลาเพียงแค่ 2 ชั่วโมง และทะลุ 2.3 ล้านครั้งในชั่วข้ามคืน ขณะที่บนเฟซบุ๊กมียอดแชร์มากกว่า 8,000 ครั้ง และในทวิตเตอร์มีการรีทวีตมากกว่า 17,000 ครั้งในชั่วข้ามคืน รวมทุกช่องทางมียอดเข้าชมมากกว่า 3,300,000 ครั้ง ภายในระยะเวลา 1 คืน

“พี่ตู่” ล่องใต้ช่วยลูกทีมกระบี่

ช่วงสายที่ จ.กระบี่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค และแกนนำพรรค ขึ้นรถแห่หาเสียงจุดแรกที่ตลาดเหนือคลอง อ.เหนือคลอง ช่วยหาเสียงให้ 3 ผู้สมัคร ส.ส. กระบี่ มีประชาชนนำดอกไม้มารอต้อนรับและเซลฟี่ด้วย พล.อ.ประยุทธ์ปราศรัยว่า เราต้องเดินหน้าไปด้วยกันทุกคนทุกช่วงวัย เราดูแลหมด ทั้งหมดอยู่ในหัวใจอยู่แล้ว เพราะเป็นนายกฯ ของประเทศไทย ต้องดูแลคนทุกจังหวัดให้ได้ แผนงานในอนาคตเรามีตรึม ทุกบัตรทำต่อ ต้องเข้าไปเป็นรัฐบาลก่อน พูดตอนนี้เดี๋ยวโดนฟ้องตกเก้าอี้อีก พูดส่งเดชไม่ได้ต้องมีที่มาเตรียมไว้หมดแล้ว อย่าไปเชื่อคำสัญญาที่เป็นไปไม่ได้ มีใครทำให้เราไม่รักกัน แล้วจะร่วมมือ กับเขาไหม อย่าไปเกลียดชังทหาร ตำรวจ ข้าราชการ เพราะเขารับใช้ประชาชน คนดีมีเยอะแยะ คนไม่ดี ก็เอาออก แยกแยะคนดีคนเลวให้ได้ ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ และคณะเดินทางมายังลานปูดำ อ.เมืองกระบี่ ช่วย นายสรรเพ็ชญ ศรีสวัสดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ หาเสียง

ร่วมเคารพศพบิดา “จุรินทร์”

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์เดินทางไปยังศาลา ประชาคม อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ช่วยนายสุชีน เอ่งฉ้วน ผู้สมัคร ส.ส.กระบี่ เขต 2 หาเสียง กระทั่งเวลา 16.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ นายพีระพันธุ์ และแกนนำพรรค เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 3/1 บ้านท่าซอ ต.ท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ร่วมเคารพศพนายวีระ ลักษณวิศิษฏ์ บิดานายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมแสดงความเสียใจและสวมกอดให้กำลังใจนายจุรินทร์ และครอบครัวด้วย ต่อมาเดินทางต่อไปยัง จ.ภูเก็ต สักการะอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี และท้าวศรีสุนทร ท่ามกลางกองเชียร์ที่ตะโกนให้กำลังใจ และขึ้นเวทีปราศรัยสะพานหิน มีประชาชนมาฟังการปราศรัยจำนวนมาก พล.อ.ประยุทธ์ยังคงตอกย้ำว่า อย่ากาเบอร์ผิด อย่าเชื่อใครว่าไปอยู่พรรคอื่น อยู่ รทสช.พรรคเดียวเท่านั้น

“ขิง” ลุ้นพลังเงียบหวังใต้ 40 ที่นั่ง

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครทสช. กล่าวถึงโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งว่า สิ่งที่เห็น และสัมผัสได้ชัดเจน คงเป็นบรรยากาศการลงพื้นที่ ของ พล.อ.ประยุทธ์ช่วงที่ผ่านมา ประชาชนทุกพื้นที่ทั่วประเทศตอบรับดี โดยเฉพาะภาคใต้ มีการปลุก กระแสเลือก พล.อ.ประยุทธ์ และพรรค รทสช.ทั้ง 2 ใบ สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯต่อไป เดิมคาดว่าเราจะได้ ส.ส.ครึ่งหนึ่งจาก 60 เขต แต่ขณะนี้กระแสลุงตู่ทำให้เรามีโอกาสได้ ส.ส.เขตถึง 40 ที่นั่ง และเชื่อว่าความนิยมของลุงตู่ในภาคใต้ที่กำลังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จะเป็นฐานสำคัญที่ทำให้พรรคมีโอกาสคว้าที่นั่ง ส.ส.ทั้งเขต และบัญชีรายชื่อเพิ่มมากขึ้นแบบก้าวกระโดด ทั้งภาคเหนือ อีสาน กลาง และ กทม. ทำให้เรามีเสียงมากพอเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และเชื่อว่ากลุ่มพลังเงียบจะออกมาสนับสนุน ลุงตู่หรือพี่ตู่ ให้ได้ไปต่อ

“องอาจ” สุดมั่นคัมแบ็ก กทม.

ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการรณรงค์หาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายว่า ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 คน ลงพื้นที่หนัก กว่าเดิมหลายเท่า นำเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ สำหรับชาว กทม. ที่ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาต่างๆ พร้อมเสนอแนวทางการพัฒนา กทม. ให้เป็นเมือง ที่น่าอยู่มากขึ้น ขณะเดียวกันก็เร่งรุกหนักสื่อสารทาง ออนไลน์ผ่านโซเชียลหลากหลายรูปแบบ ให้เข้าถึงผู้คนในชุมชนออนไลน์ จากการลงพื้นที่ต่อเนื่องจนถึงช่วงโค้งสุดท้าย พบว่าประชาชนให้การต้อนรับอบอุ่น ยืนยันว่าจะสนับสนุนผู้สมัครของพรรคทั้ง ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ มั่นใจว่าเลือกตั้งครั้งนี้ ปชป.จะคัมแบ็กมี ส.ส.ใน กทม.อย่างแน่นอน