สิ้นสุดสงครามสาดน้ำสงกรานต์ รอนับศพสังเวยเทศกาล เมืองไทยกลับมาเผชิญคลื่นความร้อนทะลักปรอท สาหัสสากรรจ์อย่างที่อำเภอเมือง จังหวัดตาก เผชิญดีกรีความร้อนสูงสุด 44.6 องศา ทำลายสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์
แต่ที่ร้อนกว่าอากาศก็คือ “ใจ” และ “ก้น” ของพวกท้ายตาราง
สถานการณ์ของป้อมค่ายการเมือง “มวยรองบ่อน” ที่หล่นไปอยู่ “โซนอันตราย” ท่ามกลาง “สงครามโพล” สารพัดยี่ห้อ ทั้งสำนักมาตรฐาน สื่อใหญ่ มือปืนรับจ้างแห่
ไม่เว้นแม้แต่พ่อยกแม่ยก กองเชียร์ตัวพ่อ ตัวแม่ ที่ปั้นแต้มกันเองตาม “หลักกู” ไม่ต้องอิงหลักวิชาการ แข่งกันปล่อยตัวเลข โชว์คะแนนนิยม
เร่งกระแส ปั่นเรตติ้ง เร้าอารมณ์ราวกับว่า “ปิดหีบ” เลือกตั้งกันแล้ว
แนวโน้มตัวเลขออกมาตรงกัน โฟกัสเฉพาะสำนักมาตรฐานที่มีชื่อสถาบันการศึกษาการันตี “ความเป็นกลาง” อย่าง “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กับ “สวนดุสิตโพล” ของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต
ที่ทำการสำรวจแบบเกาะติด เปิดสถิติเป็นวงรอบต่อเนื่อง
ตัวเลขไม่ฝืนธรรมชาติ ทิศทางล้อกันไปกับกระแสทางการเมือง ตามท้องเรื่องที่ชาวบ้านร้านตลาดสื่อสารตรงกัน
ตำแหน่ง “ขวัญใจมหาชน” ลุ้นกันระหว่าง “หนุ่มทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กับ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ผลัดกันนำ ผลัดกันตามหายใจรดต้นคอ
อันดับหนึ่ง อันดับสอง บี้กันติดๆ ทิ้งห่างอันดับสาม “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม แคนดิเดตนายกฯ ค่ายรวมไทยสร้างชาติ ตามดมฝุ่นอยู่ห่างๆ
...
ตามไฟต์บังคับอย่างที่ “ผู้นำทหารเฒ่า” ต้องเร่งปั่นเรตติ้งกันตีนพลิก แม้แต่ถือปืนฉีดน้ำ ลุยถนนข้าวสารละเลงแป้งสงกรานต์กับเด็กหนุ่มสาว
เอามันทุกกระบวนท่า “บิ๊กตู่” เทหมดหน้าตัก อะไรที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นก็ได้เห็นช่วงนี้
นี่ว่ากันเฉพาะตำแหน่ง “นายกฯโพลในดวงใจ” ในส่วนคะแนนนิยมของพรรคการเมือง เปอร์เซ็นต์ก็ล้อกันไปกับแคนดิเดตผู้นำ แชมป์ยืนหนึ่งคือพรรคเพื่อไทย ตามด้วยพรรคก้าวไกล ขณะที่ค่ายรวมไทยสร้างชาติโหนเอว “บิ๊กตู่” ขึ้นมาอยู่ที่สาม
ประเมินตามโพล ว่ากันด้วยกระแสล้วนๆ

มันก็ชัดเจนว่า สนามกรุงเทพฯ หัวเมืองใหญ่ จังหวัดที่มีมหาวิทยาลัย คะแนนเลือกตั้งเชิงคุณภาพ พรรคก้าวไกล ทีมของ “ทิม พิธา” คือ “ตัวตัดแต้ม” สำคัญที่จะทำลายฝันของกองทัพ “นายใหญ่”
เป้าหมาย “แลนด์สไลด์” เป็นไปได้ยาก
“โคตรประชานิยม” อัดกันเป็น “หลักหมื่น” ก็ดึงแต้มจากทีมแห่เด็กรุ่นใหม่ลำบาก
“นิวโหวตเตอร์” ไม่กระดิก แถมชนชั้นกลาง บ้านมีรั้ว ยังมีแนวโน้มแห่ตามลูกหลาน ล้อตามฐานข้อมูลตัวเลขการบริจาคภาษีให้พรรคการเมือง ที่ค่ายก้าวไกลได้สูงกว่ายี่ห้ออื่นหลายเท่า
ว่าด้วยศึกชิงกระแสโพล ทีมนายห้างดูไบ ข่มเด็กไม่ลง
สะเทือนถึงธงแลนด์สไลด์ แกว่งแน่
ที่สำคัญ เรื่องของโพลมันวัดได้แค่พื้นที่อิงกระแส แต่ไม่ได้หมายรวมถึงสถานการณ์ในต่างจังหวัด พื้นที่ไกลปืนเที่ยง เขตเลือกตั้งที่มี “ปัจจัย” แปรผันมากมาย
กระแสอาจไม่ได้อยู่เหนือกระสุน ระบบคะแนนจัดตั้ง อิทธิพลของหัวคะแนน
จริงอยู่ ตรงนี้พรรคเพื่อไทย ทีม “นายห้างดูไบ” ฟอร์มเหนือกว่าทีมเด็กก้าวไกลหลายช่วงตัว แต่นั่นก็ไม่ได้ชัวร์เมื่อเทียบกับกองทัพ “นักเลือกตั้งอาชีพ” สารพัดค่าย
วัดกับพวกเขี้ยวลากดินในเกมรบติดดาบตัวต่อตัว เขตต่อเขต
ประเภทเจ้าถิ่นครองพื้นที่ใครพื้นที่มัน ไล่ตั้งแต่ยี่ห้อ “เดอะท็อป” วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ยึดสุพรรณบุรีเป็นฐานที่มันแน่นๆ มีนครปฐม เป็นหัวเมืองรอง หรือค่ายประชาธิปัตย์ ที่โอนไปเอนมา แต่ก็ยังมีปักษ์ใต้บ้านเราเป็นที่พำนักพักพิงยามบ้านแตกฉานซ่านเซ็น
เช่นเดียวกับทีม “2 น.” ค่ายเซราะกราว ภูมิใจไทย ที่เจอจอมแฉ อย่าง “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ดักเจาะยางรถแห่ ตีกระแสไม่ขึ้น ก็อาศัย “พลังผีโม่แป้ง” ร่ายมนต์สะกดในเขตที่กวาดต้อนตัวชัวร์มาชุมนุมในคอก
ยุทธศาสตร์เดียวกับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าค่ายพลังประชารัฐ ที่ล็อกคอ “บ้านใหญ่” ไว้เกือบครบ ทั้งกำแพงเพชร เพชรบูรณ์ นครราชสีมา สมุทรปราการ ฯลฯ
สไตล์พรรคร่วมรัฐบาล มีครบทั้ง “กล้วย” และ “อำนาจรัฐ”
ค่ายดูไบกระแสดี แต่ถ้าไม่ยิงกระสุน โดนเจาะพรุนแน่.
ทีมข่าวการเมือง