เพิ่งจะเริ่มต้นหาเสียง การเมืองไทยก็แบ่งขั้วให้เห็นชัดเจนแล้ว เมื่อ คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกลให้สัมภาษณ์ถึงแนวโน้มการจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งว่า ถ้าพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยสามารถจับมือกันได้ จะมีทั้งพลังและประสบการณ์ที่จะผลักดันให้ประเทศไทยกลับไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย

คุณธนาธร กล่าวว่า การร่วมรัฐบาล ระหว่าง พรรคก้าวไกล กับ พรรคเพื่อไทย ยังคงเป็น ทางเลือกในการจัดตั้งรัฐบาลที่ดีที่สุดสำหรับประเทศในตอนนี้ หากเกิดขึ้นได้จริง ทั้งสองพรรคคงต้องปรับจูนกันหลายอย่าง นโยบายของพรรคเพื่อไทยที่ดี ผมเชื่อว่าพรรคก้าวไกลพร้อมที่จะผลักดันสนับสนุนอยู่แล้ว และเชื่อว่า นโยบายของพรรคก้าวไกลที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน พรรคเพื่อไทยก็พร้อม ที่จะสนับสนุน คงต้องขึ้นอยู่กับการหารือของทั้งสองพรรคหลังจากการเลือกตั้งว่า จะพาสังคมไปข้างหน้าอย่างไร

ฟังน้ำเสียง คุณธนาธร แล้ว ก็พอจะเดาได้ว่า พรรคก้าวไกล กับ พรรคเพื่อไทย คงมีการเจรจากันในระดับหนึ่งแล้ว คุณธนาธรจึงกล้าออกมาให้สัมภาษณ์อย่างนี้ ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน คุณปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ก็ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เท่าที่ตนติดตามผลโพลและผลสำรวจพบว่า ฝ่ายค้านปัจจุบันมีคะแนนรวมกันประมาณ 60% ตีเป็นจำนวน ส.ส.ก็ประมาณ 300 ที่นั่ง ดังนั้น พรรคร่วมฝ่ายค้านในปัจจุบันทั้งหมด จะได้ ส.ส.ประมาณ 300 ที่นั่ง จึงคิดเป็นเรื่องอื่นไม่ได้ นอกจากจับมือร่วมกันตั้งรัฐบาล สามารถปิดสวิตช์ ส.ว. และ 3 ป. จะจับมือกันได้หรือไม่ก็อยู่ที่ผลการเลือกตั้ง

สารพัดโพลที่สำรวจกันออกมาทุกโพลทุกภาค พรรคเพื่อไทย ก็มาเป็นอันดับ 1 และ พรรคก้าวไกล มาเป็นอันดับ 2 ทุกโพล มีคะแนนนิยมรวมกันเกินครึ่ง พรรครวมไทยสร้างชาติ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นอันดับ 3 แต่คะแนนนิยมน้อยกว่ามาก ส่วน พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ 3 พรรคใหญ่ฝ่ายรัฐบาลได้รับคะแนนนิยมน้อยมาก โอกาสจัดตั้งรัฐบาลจึงน้อย เว้นแต่จะมีการใช้วิชามาร หาทางยุบพรรคการเมืองฝ่ายค้านหลังเลือกตั้ง แต่ครั้งนี้คงไม่ง่ายเหมือนเดิมอีกแล้ว

...

เมื่อฟังน้ำเสียงของ แกนนำพรรคก้าวไกล ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ในช่วงนี้ ล้วนไปในทิศทางเดียวกัน ดังนั้น โอกาสที่ พรรคก้าวไกล จะจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับ พรรคเพื่อไทย จึงเป็นไปได้สูง ล่าสุด คุณศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล ก็พูดถึง นโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทให้กับคนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป 50 ล้านคนของพรรคเพื่อไทยที่ต้องใช้เงินกว่า 5 แสนล้านบาท ซึ่ง กกต.เห็นว่า ไม่ผิดกฎหมาย สัญญาว่าจะให้ว่า ความเห็นของ กกต.ถือว่าตรงไปตรงมา จะเป็นการสร้างคะแนนนิยมให้พรรคเพื่อไทยหรือไม่ เป็นไฟเขียวจากประชาชนมากกว่า

เมื่อถามว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคก้าวไกล หากพรรคก้าวไกลยังเห็นว่านโยบายนี้ไม่ตอบโจทย์แก้ปัญหาปากท้องและเศรษฐกิจจะทำอย่างไร คุณศิริกัญญา ตอบว่า คงต้องพูดคุยกันระหว่างพรรคร่วม การทำนโยบายของพรรคก้าวไกล เราเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บภาษี และการเก็บภาษีใหม่ๆ เมื่อเราได้ฟังพรรคเพื่อไทยจะใช้เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 5.4 แสนล้านบาท เรายังคิดว่าเพื่อไทยจะคิดตรงกันว่า จำเป็นต้องปฏิรูปภาษีของประเทศด้วย แต่เพื่อไทยไม่ได้แตะเรื่องนี้ กลับหันไปใช้งบประมาณที่มีอยู่แล้ว ทำให้ต้องมาพูดคุยกันว่า จะปรับปรุงงบประมาณไม่ให้กระทบกับหนี้ที่ต้องชำระคืนตามกฎหมายอย่างไร

ฟังน้ำเสียง แกนนำพรรคก้าวไกล แล้ว ดูเหมือนจะมีการจับมือกับ พรรคเพื่อไทย ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว เมื่อดูตัวเลขจากโพลในวันนี้ โอกาสที่สองพรรครวมกันได้ ส.ส. 300 เสียงขึ้นไปก็เป็นไปได้สูง แค่นโยบายอย่างเดียวก็กินขาดฝั่งพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว.

“ลม เปลี่ยนทิศ”