ตรงกับ วันจักรี เป็นวันระลึกถึง มหาจักรีบรมราชวงศ์ เป็นวันที่ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสด็จปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกแห่งราชวงศ์จักรี เริ่มก่อสร้างพระนครแห่งใหม่ กรุงเทพมหานครบวรรัตนโกสินทร์ เป็นเมืองหลวงใหม่ที่ย้ายมาจาก กรุงธนบุรี ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงเปลี่ยนนามใหม่ จาก กรุงเทพมหานครบวรรัตนโกสินทร์ เป็น กรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่ปี 2325 เป็นต้นมา ที่มักจะเรียกกันว่า สมัยรัตนโกสินทร์ จวบจน ถึงปัจจุบัน
จะสังเกตได้ว่า ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง พรรคการเมือง นักการเมือง จับสลากเบอร์เลขผู้สมัครรับเลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว ก็จะขึ้นรถแห่มาที่ ศาลหลักเมือง และ วัดพระแก้วมรกต หรือวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ยอมขึ้นรถแห่ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองแห่ง ตามธรรมเนียมด้วยเช่นกัน
ว่ากันว่า บรรยากาศของการรับสมัครเลือกตั้งที่ สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง วันแรกคึกคัก ชุลมุนวุ่นวาย เป็นพิเศษ แม้ กกต. จะห้ามนำมหรสพ ประเภทกลองยาว แตรวง มาบรรเลงในบริเวณการรับสมัคร แต่กองเชียร์ก็ยังหนาแน่น ระหว่างการรอให้กำลังใจผู้สมัคร ทั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งพูดคุยกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม โดย พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อเรื่องความสัมพันธ์กับ พล.อ.ประวิตร เอาไว้ตอนหนึ่งว่า ท่านอยู่พรรคอื่น เราสู้กันแบบการเมืองต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างดำเนินการทางการเมืองไป วันนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน ส่วนหลังเลือกตั้งจะจับมือกันหรือไม่ ไม่ขอตอบตรงนี้
ในจำนวน พี่น้องสาม ป. พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ ถูกจับตาถึงอนาคตทางการเมืองมากที่สุด ส่วน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ก็เลือกที่จะอยู่ข้าง พล.อ.ประยุทธ์ อยู่แล้ว วิถีการเมืองของสาม ป. ต่อจากนี้ไปจะเป็นการแยกกันเดินร่วมกันตีชั่วคราว หรือมีแนวทางการเมืองที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงก็เป็นเรื่องของอนาคต
...
คนที่เคยเป็นที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร อย่าง ไพศาล พืชมงคล มักจะออกมาคาดการณ์ทางการเมืองบ่อยๆ ล่าสุด โพสต์หัวข้อ การเมืองขั้วที่สามผงาดขึ้นมาแล้ว
ขยายความว่า ลุงป้อม นำ พปชร. เป็นพรรคการเมืองขั้วที่ 3 สมบูรณ์แล้ว และประกาศความชัดเจนว่า ไม่ใช่ฝักฝ่ายกับ พล.อ.ประยุทธ์ อีกแล้ว ยุคสาม ป. ปิดฉากลงเด็ดขาดแล้ว
ในฐานะการเมืองขั้วที่ 3 ลุงป้อมประกาศแนวทางการเมือง ก้าวข้ามความขัดแย้ง เริ่มต้นประเทศไทยใหม่ หรือที่ลุงจิ๋วเรียกว่า สามัคคีภายใน รับศึกใหญ่ภายนอก ทำคลื่นใหญ่นโยบาย 66/23 ที่นำพาชาติบ้านเมืองรอดปลอดภัยมาแล้ว ถือเอาประชาชนเป็นใหญ่ เคารพอธิปไตยของปวงชน จะต้องเป็นนายกฯที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่หลอกลวงว่ามาจากการเลือกตั้ง ทั้งที่ไม่เคยได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนเลยแม้แต่เสียงเดียว
สรุปได้ว่า โพสต์นี้เป็นการ เชียร์ลุงป้อม และ บูลลี่ลุงตู่ เต็มๆ ที่เพจ ป้อมรายวัน เคยโพสต์ข้อความไปก่อนหน้านี้ และพยายามจะปักหมุดว่า ลุงป้อม กับ ลุงตู่ แยกกันเดินอย่างถาวรทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
ส่วนจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นหรือแย่ลงเป็นอีกเรื่อง.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th