การรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศเริ่ม 4-7 เม.ย.นี้ เป็นจุดเริ่มต้นของวิถีประชาธิปไตย น่าเสียดายว่า ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ แพทองธาร ชินวัตร หรือ เศรษฐา ทวีสิน ว่าที่แคนดิเดตนายกฯคนที่ 30 ไม่ได้อยู่ในบัญชีรายชื่อ ส.ส.ของพรรค อาจจะเป็นเพราะคิดว่าทำหน้าที่ช่วยพรรคหาเสียงอยู่แล้ว หรือไม่อยากเกี่ยวข้องงานการเมืองในสภาในฐานะ ส.ส. หรือไม่อยากไปเบียดบังลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อในพรรค ก็ตาม เป็นเหตุให้ รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ออกมาถามหาสปิริตความเป็นประชาธิปไตยในบริบทที่ว่า นายกฯจะต้องมาจากการเลือกตั้ง ที่เคยมีการบัญญัติเอาไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนก่อนที่จะถูกฉีกโดยกองทัพ

ซึ่งความเป็นจริงก็น่าจะเป็นอย่างนั้น

การจัดสรรผู้สมัคร ส.ส.แบบเขตก็ว่าลำบากแล้ว การจัดอันดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค ยิ่งยากกว่าเยอะ เจ้าของพรรคถึงกับเอามือกุมขมับ บางพรรคกว่าจะลงตัว เล่นเอาเหงื่อตก อ้างว่าทำไม ตำแหน่งคนนั้นอยู่ในลำดับดีกว่า คนนี้อยู่ในลำดับต้นๆ ไปขอกับหัวหน้าพรรค คนใกล้ชิดหัวหน้าพรรค ทั้งๆที่บางคนหิ้วกระเป๋ามาใบเดียวมาแต่ตัวด้วยซ้ำ เข้าทำนองชุบมือเปิบ

พรรคพลังประชารัฐ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค ส่อว่าจะมีปัญหาในพรรคพอสมควร เนื่องจากมีหลายกลุ่มการเมืองที่หิ้วกระเป๋าเข้ามาใบเดียว สุดท้ายก็มาสร้างปัญหาในพรรค จนทำให้คนที่ไม่คิดจะย้ายออกจากพรรคก็ต้องย้ายออกไปเพราะความอึดอัดกับการบริหารจัดการในพรรค

นอกจากกลุ่มสี่กุมาร อุตตม สาวนายน, สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ยังมี ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล, มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์, สกลธี ภัททิยกุล, อภิชัย เตชะอุบล ที่เพิ่งจะเข้ามาอยู่พลังประชารัฐ ก่อนการเลือกตั้งไม่กี่เดือน แต่ได้ลำดับปาร์ตี้ลิสต์ในลำดับต้นๆ ไม่รู้ว่าอนาคตพลังประชารัฐจะออกหัวออกก้อย

...

ในอดีตพลังประชารัฐเจียนอยู่เจียนไปหลายครั้ง ครั้งหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และกลุ่มสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติในปัจจุบัน ก็ต้องการที่จะเข้ามา บริหารจัดการพรรค แต่กลุ่มคนใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร ต่อต้านสุดฤทธิ์ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตร ไม่คุยเรื่องการเมืองกันจนถึงทุกวันนี้

การเอา พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา คู่ปรับ พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคในช่วงหนึ่งและต้องออกไปตั้งพรรคใหม่กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ย่อมมีนัยสำคัญทางการเมือง การที่ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค, สุชาติ ชมกลิ่น, เสกสกล อัตถาวงศ์, ธนกร วังบุญคงชนะ ต้องออกไปตั้งพรรคนั่งร้านให้ พล.อ.ประยุทธ์ เหตุเกิดจากการบริหารจัดการในพรรคทั้งสิ้นเป็นเหตุที่เกิดจากภายในไปสู่ภายนอก

จากวันนั้นถึงวันนี้พลังประชารัฐก็ยังหนีกับดักตัวเองไม่พ้น.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th