ปี่กลองการเมืองรอบรรเลงคึกคัก เหลือแค่ไม่กี่อึดใจ ทุกพรรคการเมืองได้ฤกษ์ยื่นใบสมัคร ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่ออย่างเป็นทางการ ในวันที่ 3 และ 4 เม.ย.นี้

ไฮไลต์สำคัญที่ถูกจับตามองคือ บัญชีปาร์ตี้ลิสต์แต่ละค่าย ที่พอเห็นเค้าลาง ใครตีตราจองเก้าอี้ ส.ส.บัญชีรายชื่อล่วงหน้า หรือเป็นแค่ไม้ประดับประกอบพิธีกรรม

ตามที่เห็นอาการดิ้นหนีตายของพวกรุ่นใหญ่หลายพรรคต้องวิ่งขาขวิด ขยับตัวเองเข้าไปอยู่ในพื้นที่เซฟโซน ไม่ให้หล่นไปอยู่ลำดับอันตราย เสี่ยงวืดเป็น ส.ส.

พรรคที่บัญชีรายชื่อนิ่งที่สุดคือ พรรคภูมิใจไทย ที่ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค คุมโผเบ็ดเสร็จ ไม่มีแรงกระเพื่อมใดๆ ส่วนค่ายเพื่อไทยก็ไร้ปัญหา แบ่งซอยเป็นหลายบัญชี ไม่ได้มีแค่ปาร์ตี้ลิสต์บัญชีเดียว เพื่อให้ทุกคนมีที่นั่งรองรับ ตามสูตรสำเร็จที่ใช้มาทุกยุคทุกสมัย

ขณะที่พรรคก้าวไกล ถึงมีผู้สมัครบัญชีรายชื่อหลากหลายกลุ่ม ก็คุมสถานการณ์ในทีมอยู่หมัด

แต่ที่ดูชุลมุนหนักกว่าใครคือ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ผู้สมัคร ส.ส.หญิงบัญชีรายชื่อ กำลังนัวเนียแย่งขึ้นไปอยู่ในลำดับปลอดภัยกันฝุ่นตลบ

...

คนที่ครั่นเนื้อครั่นตัว หนาวๆร้อนๆที่สุดคือ “หนูตั๊น” จิตภัสร์ กฤดากร รองเลขาธิการพรรค มีแนวโน้มถูกข้ามหัว เขี่ยกระเด็นไปอยู่ในลำดับเลขสองหลัก ไร้หลักประกันจะได้กลับมาป็นผู้แทน ถึงขั้นโพสต์เฟซบุ๊กระบายความน้อยเนื้อต่ำใจ อาจโบกมือลาไปอยู่พรรคอื่น

ศึกนางพญาในค่ายประชาธิปัตย์ขับเคี่ยวแย่งที่นั่งมันหยด ทั้ง น.ส.จิตภัสร์–คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รุ่นลายครามในพรรค-“มาดามเดียร์” วทันยา บุนนาค น้องใหม่กระเป๋าหนัก-มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข สายตรง “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หัวหน้าพรรค หรือ รัชดา ธนาดิเรก เด็กปั้น “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค บี้กันไม่มีใครยอมใคร

หลักอาวุโสที่ประชาธิปัตย์ยึดมั่นเป็นเกณฑ์วางตัวผู้สมัครแกว่งไปมา ลูกหม้อเก่าอย่าง น.ส.จิตภัสร์ที่อยู่กับพรรคร่วม 13 ปี อาจถูกเด็กเส้นและพวกทุนหนา เบียดกระเด็นตกข้างทาง

แม้ “เสี่ยต่อ” จะหลีกทางไม่ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่ก็ยังไม่สามารถเกลี่ยที่นั่งให้เพียงพอกับความต้องการของลูกพรรค

ตามสถานการณ์ขาลงที่คนในค่ายประชาธิปัตย์รู้กันอยู่เต็มอก หากใครไม่มีชื่อติด 10 ลำดับแรกของบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ ต้องทำใจ อาจหลุดขบวน หาทางเข้าสภารอบหน้าไม่เจอ

พรรคเก่าพรรคแก่สาละวันเตี้ยลงเรื่อยๆ อาจเหลือ ส.ส.บัญชีรายชื่อไม่ถึง 10 คน จากเดิมตอนเลือกตั้งปี 2562 ยังได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ติดมือมา 19 คน

ออกอาการร่อแร่ไม่ต่างจากพรรคพลังประชารัฐของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ที่กว่าจะเคลียร์โผผู้สมัครบัญชีรายชื่อลงล็อก ก็ต้องสลับอันดับ เปลี่ยนชื่อไปมาหลายตลบ

มีคนชอกช้ำหลายราย อย่างที่ลูกหม้อรุ่นแรกอย่าง “มาดามแหม่ม” นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ประกาศโชว์ความเป็นลูกผู้หญิงตัวจริง สละสิทธิ์เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ หลีกทางให้คนรุ่นใหม่ในพรรค หลังโดนกำลังภายในขั้นสูงกระแทกหลุดจากลำดับเลขตัวเดียว หล่นตุ้บไปอยู่อันดับ 20

แทบจะหมดลุ้นกลับมาเป็น ส.ส. แต่ยังต้องโชว์สปิริตอยู่ช่วยพรรคในยามวิกฤติต่อไป

ตกที่นั่งเดียว “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ทีม ส.ส.ในสังกัดก็ถูกจับยัดอยู่ในโซนที่ไม่ปลอดภัย

ทีมอำนาจเก่าข้างกาย “บิ๊กป้อม” ถูกบอนไซ ห้ามกลับมาใหญ่ ต่างกับกลุ่มอำนาจใหม่ที่ห้อมล้อมกรอกหูหัวหน้าพรรค ได้ดิบได้ดี มีชื่อยืนอยู่ในลำดับหัวแถว รอแต่งตัวเป็น ส.ส.ล่วงหน้า

ตามการประเมิน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ค่ายพลังประชารัฐน่าจะมีไม่เกิน 7-10 ที่นั่ง ฝากผีฝากไข้ได้แค่ ส.ส.เขตจากกลุ่มบ้านใหญ่ แต่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ยังฝากความหวังลำบาก เพราะชื่อ “บิ๊กป้อม” ไม่มีจุดขายมากเหมือนชื่อ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ของพรรครวมไทยสร้างชาติ

สารพัดโพลที่ออกมา ชื่อ “บิ๊กป้อม” ไม่ติดลำดับต้นๆ ในโผที่คนไทยเชียร์ให้เป็นนายกฯ

ยิ่งล่าสุดเจอข่าวช็อก “แม่ทัพเมืองปากน้ำ” ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม เสียชีวิตกะทันหัน จากภาวะฮีตสโตรก กระทบพื้นที่สำคัญ จ.สมุทรปราการ อ่อนยวบ สะเทือนทั้ง ส.ส.เขต และแต้มปาร์ตี้ลิสต์ในพื้นที่

แต้มพลังประชารัฐมีสิทธิดิ่งฮวบลงไปอีก

2 พรรคใหญ่ “พลังประชารัฐ–ประชาธิปัตย์” ฟุบยาว คลื่นใต้น้ำในพรรคกระเพื่อมแล้วกระเพื่อมอีก

แกนนำทั้งสองพรรคเก็บทรงไม่อยู่ แข่งช่วงชิงความอยู่รอด ตะเกียกตะกายหนีตายมาอยู่ในพื้นที่เซฟโซน สะท้อนความจริงให้เห็นกันชัดๆ ตัวเลขของจริงกับตัวเลขปั่นกระแสตามหน้าสื่อ ต่างกันลิบลับแค่ไหน

ที่เห็นทำท่าปากกล้า แต่ของจริงขาสั่นกันทุกคน.

ทีมข่าวการเมือง