“บิ๊กตู่” เมิน “พี่ป้อม-เสี่ยหนู” ตั้งวงข้าวจับขั้วตั้งรัฐบาล ลั่นมันไม่ใช่เวลา ยังไม่ได้เลือกตั้งเลย ยักไหล่ไม่หวั่นโอ่หนักกว่านี้ก็เจอมาแล้ว ขออย่างเดียวประชาชน อย่าทอดทิ้ง “ลุงตู่” ร่วมกิจกรรม รทสช. เปิดตัวทีมเศรษฐกิจส่งสายตรง “ม.ล.ชโยทิต” นั่งหัวหน้าทีม “ไตรรงค์” นั่งกุนซือ “สุพัฒนพงษ์” ขายของเก่ากินลุยต่อโครงการ “คนละครึ่ง” “ลุงป้อม” ต้อนรับ “ธรรมรักษ์” เสริมทัพคุมภาพรวมอีสาน ไม่ตอบดีลเป็นผู้จัดการรัฐบาล แบ่งครึ่งเป็นนายกฯ เปิดใจให้ “น้องมายด์” เข้าสัมภาษณ์ การันตีไม่มีรัฐประหาร “เรืองไกร” ยันวงข้าวจับขั้วไม่มีโดดเดี่ยวรทสช. “วิรัช” เผย “อนุทิน” พูดชัด 2 ลุงใครได้เสียงมาก หนุนขึ้นนายกฯ ก้าวไกลเสี้ยม “พปชร.-ภท.” ลืมทิ้ง “ประยุทธ์” อย่าประมาท รทสช. “สมศักดิ์- สุริยะ” คืนรัง พท.อบอุ่น “อิ๊ง” ลุยอยุธยาแซะไม่เอาแล้วหน้ากากคนดี “เศรษฐา” ย้ำ 4 ปีคนไทยมีรายได้ 3 เท่าบรรดาพรรคการเมืองต่างเร่งเปิดตัวโชว์ทีมเศรษฐกิจและทีมงานรับผิดชอบนโยบายทุกด้าน เพื่อแสดงความพร้อมให้ประชาชนตัดสินใจเลือก พร้อมช่วงชิงการเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดตัวทีมเศรษฐกิจ ล้วนเป็นคนทำงานใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม“ประยุทธ์” นั่งรถส่วนตัวเข้าทำเนียบฯเมื่อวันที่ 23 มี.ค. เวลา 10.21 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เดินทางเข้าปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ โดยใช้รถเบนซ์ส่วนตัว ทะเบียน ญค 1881 กรุงเทพมหานคร จากนั้นเวลา 13.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ลาราชการเปลี่ยนไปสวมเสื้อยืดสีน้ำเงินและแจ็กเกตสีขาว โลโก้พรรค รทสช.เข้าร่วมกิจกรรมของพรรค ที่ซอยอารีย์ 5 เปิดตัวทีมเศรษฐกิจพรรค สวมเสื้อต้อนรับทีมเศรษฐกิจพรรคและเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค มีผู้สนับสนุนจาก จ.ชัยนาท มอบเหรียญหลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม (วัดบ้านแค) อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ให้นายกฯพกติดตัวไว้ พล.อ.ประยุทธ์บอกว่า “ราคาเกินกว่ากฎหมายกำหนดหรือไม่ ช่วยระวังให้ผมหน่อยนะ” จากนั้นพบกับแฟนคลับ 2 สามีภรรยา สามีชาวเยอรมัน พล.อ.ประยุทธ์จึงทักทายว่า How are you ก่อนขึ้นลิฟต์ไปบนที่ทำการพรรค รทสช.เปิดตัวทีม ศก.สานธีม “ทำต่อ”ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงข่าวมีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช.นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค พร้อมผู้บริหารพรรคร่วมงานคับคั่ง โดยนายพีระพันธ์ุกล่าวเปิดตัวทีมเศรษฐกิจพรรค คือ 1.นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและ รมว.พลังงาน 2.นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 3.นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาพรรค 4.ม.ล. ชโยทิต กฤดากร ที่ปรึกษานายกฯและผู้แทนการค้าไทยในรัฐบาล เป็นหัวหน้าทีม ศก.พรรค รทสช. 5.นายจักร บุญหลง กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ บริษัท โกลว์ พลังงานจำกัด (มหาชน) อดีตเอกอัครราชทูตหลายประเทศ 6.นายชวิน อรรถกระวีสุนทร กรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท 1.6 ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด 7.นายวิท วรรณไกรโรจน์ อาจารย์ภาควิชาพาณิชยศาสตร์ จุฬาฯ และ 8.นายวินท์ สุธีรชัย สมาชิกพรรคและอดีต ส.ส.พรรคก้าวไกล “ชโยทิต” หน.ทีม “ไตรรงค์” ที่ปรึกษานายพีระพันธุ์กล่าวต่อว่า ภารกิจเศรษฐกิจไม่ใช่แค่หาเงินมาใช้ ต้องบริหารระบบเศรษฐกิจประเทศ พรรค รทสช. มีความพร้อมในทีมเศรษฐกิจจะรับผิดชอบนโยบายพรรค ล้วนมีประสบการณ์ ไม่ใช่แค่ทำงานภาคธุรกิจหรือภาคอื่นๆและเปิดตัวที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจ คอยแนะนำนโยบายเศรษฐกิจสำคัญปากท้องประชาชนนำโดยนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษานโยบายพรรค เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจมหภาค นโยบายการคลัง นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ดูแลการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมฯ ดูแลกลุ่มคนเปราะบางและผู้สูงวัย นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯดูแลนโยบายภาคเกษตร พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ดูแลคุณภาพชีวิตและสุขภาพคนไทย“สุพัฒนพงษ์ ”ขายของเก่า “คนละครึ่ง”นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และรมว.พลังงาน ในฐานะทีมเศรษฐกิจพรรค รทสช.กล่าวว่า ถ้าเป็น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ เป็นไปได้ตามกติกาพรรค ลงมาตรงนี้แล้วต้องทำให้เต็มที่ที่สุด นโยบายเศรษฐกิจจะไม่เน้นเหวี่ยงแห แต่มุ่งเป้าและส่งเสริมสิ่งใหม่ๆที่เป็นความร่วมมือกับประชาชนและทุกภาคส่วน ใช้หลักที่ฟันฝ่าอุปสรรคโควิด-19 มาได้ รอดูจะมุ่งเป้าสำหรับคนที่จำเป็น โครงการคนละครึ่งทำต่ออยู่แล้วจะต่างจากช่วงวิกฤติ เน้นผู้ที่ประหยัดค่าใช้จ่ายผู้ถือแอปพลิเคชันเป๋าตัง รอบหน้าเราเพิ่มเรื่องถุงเงินที่เน้นเอสเอ็มอี เน้นคนตัวเล็กซึ่งในถุงเงินภายใต้โครงการคนละครึ่งมีผู้มีสิทธิ์ 1 ล้านราย เราอยากให้มีมากขึ้นถึง 5 ล้านราย“ลุงตู่” ลั่นอย่าระแวง-ฝากอนาคตที่ผมได้จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับทีมเศรษฐกิจทุกคนที่ให้เกียรติมาทำงานกับพรรค รทสช. มีคนทุกรุ่นหลายช่วงวัย ประเทศนี้ไม่ใช่ของใครคนเดียว ประเทศไทยไม่ใช่สถานประกอบการธุรกิจ ทุกคนจึงมีส่วนร่วมกันพัฒนาประเทศ ก่อนตนจะเข้ามาเป็นรัฐบาล 8 ปีก่อนหน้านั้นเป็นอย่างไร 8 ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไรอยากขอให้ทุกคนทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้เรียกได้ว่าทุกคนคือคณะพระเอก ตนจะเป็นผู้บริหารคณะพระเอกเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่าระแวงผม การทำอะไรให้ประเทศต้องระมัดระวังที่สุด จะมาแก้ไขอุปสรรคได้อย่างไร ต้องปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่ล้าสมัย หรือสิ่งที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพ วันนี้เรามียุทธศาสตร์ประชาชนทุกคนฝากอนาคตไว้กับผมได้ จะนำพาบ้านเมืองไปสู่บ้านเมืองข้างหน้าที่สดใส มีอนาคตกว้างไกลไปกว่านี้อีก อย่าลืม 8 ปีเกิดอะไรขึ้นปัจจุบัน ขออย่างเดียวคือความสงบของบ้านเมือง ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถแก้ปัญหาบ้านเมืองได้ขณะที่เวลา 14.30 น. นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ อดีต ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อชาติ มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค รทสช. ได้พบ พล.อ.ประยุทธ์เข้าไปก้มคุกเข่าขอโทษ สิ่งที่เคยพูดในสภาฯด้วยถ้อยคำไม่สุภาพในวาระต่างๆ พล.อ.ประยุทธ์รับไหว้แล้วจับมือระบุว่า “ไม่โกรธเคืองกัน เข้าใจว่าการเมือง ก็คือการเมือง” เมิน“เสี่ยหนู-ลุงป้อม” กินข้าวแบ่งขั้วต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหมในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคร รทสช.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีหัวหน้า ภท.และแกนนำไปร่วมทานอาหารกลางวันกับหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อีกครั้งหลังจากมาเข้าพบนายกฯช่วงเช้า โดย พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามสื่อว่า “แล้วเป็นยังไงล่ะ” เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่ามีการพูดถึงเงื่อนไขในการจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า มันไม่ใช่เวลาอะไรในตอนนี้ มันยังไม่ได้เลือกตั้งเลย เมื่อถามว่ามีการระบุว่าต้องให้เฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตรเท่านั้น พรรคใครได้อันดับ 1 จะให้เป็นนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “ถ้าท่านพูดอย่างนั้นก็อย่างนั้นแต่เราต้องดูวันหน้าก็แล้วกัน” เมื่อถามย้ำว่าเห็นว่าได้พูดกับ พล.อ.ประยุทธ์แล้วจริงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ก็คุยกันว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองสงบและปลอดภัย แต่ต้องดูที่ผลการเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง พูดแค่นั้น อย่าไปตีความกันเอาเองนะจ๊ะ”ยักไหล่ไม่หวั่นหนักกว่านี้เจอมาแล้วเมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า เมื่อถึงเวลาแล้วค่อยมาพูดกันใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ถึงเวลาก็ให้มีการเลือกตั้งก่อนสิ ถ้ามันพูดตอนนี้แล้วมันจะได้อย่างไร ยังไม่รู้ว่าใครจะได้มากได้น้อย ยังไม่รู้เลยตามกลไกของการเลือกตั้ง สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญในอนาคต เมื่อถามย้ำอีกว่า แค่ภาพกินข้าวแค่นี้ไม่หวั่นใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ชักสีหน้ายักไหล่พร้อมกล่าวว่า “ปัดโธ่ ถ้าอย่างนั้นผมก็ต้องหวั่นเวลาที่เขาไปกินข้าวกินน้ำ กินอะไรต่างๆ แล้ว ผมจะไปหวั่นอะไรล่ะ”ก่อนเอามือทุบหน้าอกข้างซ้ายกล่าวว่า “ผมเจอยิ่งกว่านี้มาแล้ว ยืนยันว่าวันนี้ไม่มีฝั่งอะไร ยังไม่มีฝั่งอะไรทั้งนั้น” เมื่อถามอีกว่า ในส่วนของ 2 ลุง พรรคไหนได้เสียงอันดับ 1 พรรคนั้นได้เป็นนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องเป็นเรื่องการพิจารณาร่วมกัน เมื่อถามว่ามองหรือไม่ว่า ภาพอะไรที่จะออกมาขณะนี้ ทั้งภาพทานอาหารร่วมกันแค่เกมอย่างหนึ่งที่จะนำไปสู่บรรยากาศหลังการเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์หัวเราะพร้อมกล่าวว่า “ก็เขาไปกินข้าว ก่อนนายอนุทินไปกินข้าวท่านก็มาหาผม มาอวยพรวันเกิดให้ผม เป็นเรื่องของท่าน ยินดีที่มาอวยพรให้ นึกถึงผม ว่ากันไป แต่หลังจากอวยพรผมแล้วจะไปกินข้าวที่ไหนก็ไปเลย ผมไม่ได้ว่าอะไรนี่”ขออย่างเดียว ปชช.อย่าทอดทิ้ง “ลุงตู่”เมื่อถามว่า ในการจัดตั้งรัฐบาลหน้าพรรครทสช.จะไม่โดนทิ้งใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ผมไม่กลัวตรงนั้น ขออย่างเดียวเพียงประชาชนอย่าทอดทิ้งผม” ทั้งนี้เมื่อพูดจบบรรดาแกนนำพรรคและทีมเศรษฐกิจพรรค ส่งเสียงเฮพร้อมปรบมือให้ เมื่อถามว่า หวังแลนด์สไลด์หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้เลือกตั้งก่อนสิ “ธรรมรักษ์” คืนเวทีร่วมทัพ พปชร.ช่วงบ่าย ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ทำกิจกรรมเปิดตัวและสวมเสื้อพรรคต้อนรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อย่างคึกคัก เวลา 13.30 น. พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตรองนายกฯและ รมว.กลาโหม สมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย เดินทางมาถึงมีทีมงานและผู้สนับสนุนตั้งแถวรอต้อนรับ พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า เหตุผลเพราะอยากมาช่วย เห็นว่าพรรค พปชร.มีนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง พล.อ.ประวิตรชักชวนมาใช้เวลาตัดสินใจไม่นาน อาจช่วยดูภาพรวมภาคอีสาน คุยกับ พล.อ.ธัญญา เกียรติสาร กรรมการบริหารพรรค ที่รับผิดชอบดูแลพื้นที่ภาคอีสานบ้าง แต่ยังไม่คุยในรายละเอียด อย่างไรก็ตามไม่ได้ข้ามห้วย เพราะพรรคไทยรักไทยกับพรรคเพื่อไทยเป็นคนละพรรค เมื่อถามว่ามั่นใจว่าจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ธรรมรักษ์กล่าวว่า ยังไม่รู้อะไรทั้งสิ้น “บิ๊กป้อม” มอบหน้าที่ดูภาพรวมอีสานต่อมาเวลา 15.00 น. พล.อ.ประวิตร พร้อมนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค ร่วมแถลงเปิดตัว พล.อ.ธรรมรักษ์ พร้อมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กว่า 70 คน อาทิ นางจิรวรรณ เรี่ยวแรง เขต 2 จ.นนทบุรี นายอารยะ ชุมดวง เขต 3 จ.สุโขทัย นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ กทม. โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า พล.อ.ธรรมรักษ์มาอยู่กับ พปชร. ให้มาช่วยดูภาคอีสาน ทำให้พรรคเข้มแข็ง ขอบคุณ เป็นบุญคุณอย่างยิ่ง ถึงแม้ท่านอายุมากแต่อายุไม่สำคัญ สมองสำคัญกว่า ด้าน พล.อ.ธรรมรักษ์กล่าวว่า วางมือการเมืองไปแล้ว แต่หัวหน้าพรรค พปชร.ชวนให้มาช่วยกันมาร่วมกันทำนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง สร้างความปรองดอง เพราะคนไทยแตกแยกรุนแรง เหลื่อมล้ำสูง ปลายชีวิตราชการตนทำนโยบาย 66/23 ใต้ร่มเย็น การเมืองนำการทหาร จนสำเร็จมาด้วยดี เมื่อ พปชร.มีนโยบายทำเรื่องนี้จึงตัดสินใจมาร่วมกันไม่ตอบเป็นผู้จัดการ รบ.แบ่งครึ่งนายกฯเมื่อเวลา 16.00 น. พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ถึงการทานอาหารร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ว่า “ไปกินข้าวบ้านผมก็อร่อย” เมื่อถามว่าประเมินตัวเลข ส.ส.กันบนโต๊ะอาหารว่า พปชร.จะได้ 70 ที่นั่ง ภท.จะได้ 70 ที่นั่ง พล.อ.ประวิตรตอบว่า “ไม่รู้ แล้วแต่ประชาชน เวลาตอบไม่รู้สื่อชอบบอกว่าไม่รู้อีกแล้ว ให้รอเดี๋ยวจะมีเพลงไม่รู้มาให้ฟัง เดี๋ยวจะออกแล้ว” เมื่อถามย้ำว่า หัวหน้าพรรคจะร้องเพลงไม่รู้ด้วยตัวเองหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่รู้ เมื่อถามว่า ถูกตั้งข้อสังเกตว่า พล.อ.ประวิตรเป็นผู้จัดการรัฐบาลใหม่ พล.อ. ประวิตรตอบว่า ยังไม่ได้เลือกตั้งเลย สื่อคิดเองพูดเอง ไม่ได้ปฏิเสธ แต่สื่อไปพูดเองเออเอง เมื่อถามว่ามีคำพูดที่ว่าใครได้คะแนนมากกว่าให้เป็นนายกฯไป พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มีๆ พร้อมส่ายหัวและระบุว่า ไม่ให้ถามแล้ว หยุดพูดตั้งแต่ตอนนี้ ตอบ “น้องมายด์” ไม่มีรัฐประหารผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลัง พล.อ.ประวิตรตัดบทไม่ตอบคำถาม แต่ได้เปิดโอกาสให้ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ แกนนำกลุ่มคณะราษฎร 2563 ที่มาขอสัมภาษณ์ได้ซักถาม พล.อ.ประวิตรระบุว่า พรรคมีจุดยืนที่ทำให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้า เดินไปข้างหน้าให้ได้ เป็นสิ่งที่อยากทำ ส่วนการเมืองใครคิดอย่างไรว่าไป พรรคต้องการทำให้คนไทยรักกัน สามัคคี พล.อ.ประวิตรยังตอบคำถามถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 60 ที่ยังมีข้อถกเถียงกันอย่างมาก มีแนวทางแก้ไขอย่างไรว่า ยังไม่ได้ดำเนินการตรงนี้ ไม่มีความคิดแก้ไข เพราะเป็นเรื่องของรัฐสภาจะดำเนินการ ต้องไปว่ากันตรงนั้น หลังเลือกตั้งค่อยว่ากัน เมื่อถูกถามถึงการป้องกันการรัฐประหารว่า “รัฐประหารจะไม่เกิดขึ้นอีกแล้วถ้าประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียวบ้านเมืองจะไม่มีรัฐประหารอีกแล้ว ไม่มีความขัดแย้ง ไม่มีการใช้กำลังให้ประชาชนล้มตาย ไม่มี แต่ถ้าไม่สงบบ้านเมืองลุกเป็นไฟก็จำเป็น” ผู้สื่อข่าวถามเสริมว่าถ้าพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะมีรัฐประหารหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบหนักแน่นว่า ไม่มี ถ้าคนไทยเป็นหนึ่งเดียว รับรองได้ว่าจะไม่มี“ชัยวุฒิ” ยัน 2 ลุงยืนอยู่ฝั่งเดียวกันนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้า พปชร.กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรทานข้าวกับหัวหน้าพรรค ภท. ว่า เป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าพรรคใหญ่ พรรคกลาง พรรคเล็กกินข้าวกันประจำอยู่แล้ว ส.ส.และนักการเมือง เข้าออกกันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่วงทานข้าวเมื่อวันที่ 22 มี.ค.อาจเป็นประเด็น เพราะนายอนุทินมาและเป็นพรรคใหญ่ มีการพูดคุยกันการเมือง คุยกันประจำ ยืนยันมากินข้าวกันทุกพรรคอยู่แล้ว ยกเว้นฝ่ายค้าน เพราะเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ได้คุยขนาดจับมือจัดตั้งรัฐบาล แค่บอกว่าต้องรอหลังการเลือกตั้งก่อนว่าใครได้ ส.ส.เท่าไหร่ ค่อยมาดูกัน แต่สัญญาณชัดอยู่แล้ว พรรคร่วมรัฐบาลเดิมอยากทำงานร่วมกันต่อ เพราะประสานงานกันได้ด้วยดี ไม่อยากเปลี่ยน ผู้สื่อข่าวถามว่า เหมือนนายอนุทินเหยียบเรือสองแคม นายชัยวุฒิตอบว่า “ลุงป้อม ลุงตู่ ก็อยู่ฝั่งเดียวกัน” พรรค รทสช.ถือเป็นพรรครัฐบาล อยู่ด้วยกันนั่นแหละ รทสช.จะไปจับมือกับใครถ้าไม่ใช่ พปชร. พปชร.เรามีผู้สมัครเกรดเอตั้งเป้าไว้ 150 เสียง เป้ายังอยู่ที่ 150 ที่นั่งชี้ถกจับขั้วปัดโดดเดี่ยว รทสช.นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรค พปชร.ให้สัมภาษณ์ Thai PBS ยอมรับว่าในวงอาหารเที่ยง ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ระหว่างพรรค พปชร.และพรรค ภท. พูดคุยถึงสมการตัวเลขทางการเมือง ขั้วรัฐบาล คุยกันต่อเนื่องจากครั้งก่อน คุยกันปกติ ครั้งที่แล้วยังบอกให้นายกฯรับทราบในฐานะทำงานด้วยกันมา และพูดคุยว่าในเส้นทางการเมืองถ้าเป็น ไปได้เป็นพันธมิตรกันไป ประเมินตัวเลขคาดหวังกัน เมื่อถามว่าสมการนี้เหตุใดไม่มี รทสช.รวมอยู่ด้วย นายเรืองไกรตอบว่า ไม่ได้ปฏิเสธ รทสช. เพราะเป้าหมายของพรรค พปชร.คือความปรองดอง ก้าวข้ามความขัดแย้ง ยินดีต้อนรับหมด เพื่อให้การบริหารบ้านเมืองเดินหน้าไปได้“วิรัช” เผยชัด “อนุทิน” หนุนทั้ง 2 ลุงนายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค พปชร.เปิดเผยในรายการคมชัดลึกทางช่องเนชั่นทีวี 22 ถึงการตกลงจับขั้วตั้งรัฐบาล 4 พรรคว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท.นัดหมายกินข้าวไว้ล่วงหน้า พูดคุยในภาพรวมว่าเราจะอยู่ตรงไหนหลังเลือกตั้ง ตัวเลขเป็นอย่างไร เราต้องเช็กว่าข้อมูลที่ทำเมื่อเทียบกับโพลเป็นอย่างไร ก็รู้ในใจเฉพาะเขตไม่ต่ำกว่า 100 ที่นั่ง บัญชีรายชื่อไม่น้อยกว่า 20 บางพรรคที่บอกได้ 310 โฆษณาเกินจริง ถ้าจำไม่ผิดพรรคเพื่อไทยได้ไม่เกิน 170 ที่นั่ง พปชร.กับ ภท.ได้ถึง 200 บวกกับพรรค รทสช.และอื่นๆจะก้าวข้าม 250 ที่นั่งได้ เราได้มากกว่าพรรค รทสช.แน่นอน ไม่มีการปิดหรือเปิดดีล แค่คุยกันถ้าได้ขนาดนี้แล้วมารวมกัน เกริ่นไว้ล่วงหน้า วันนี้ไม่ได้บอกจะสลายขั้ว แต่ทำอย่างไรให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพปชร.เป็นนายกฯ คนที่ 30 แค่พูดลักษณะว่า ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร ใครได้มากกว่ากัน ต้องไปถามนายอนุทิน เพราะท่านปรารภออกมาว่า “ระหว่าง 2 พี่น้อง ใครได้มากผมก็สนับสนุนคนนั้นเป็นนายกฯ”“เสธ.อ้าย” ซบ ปชป.โวมั่นใจ หน.พรรคที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย เข้าพบนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ปชป. นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค สมัครเป็นสมาชิกตลอดชีพ มีนายจุรินทร์และนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค ในฐานะ ผอ.เลือกตั้งพรรค ปชป.เป็นผู้มอบบัตรสมาชิกพรรค โดย พล.อ.บุญเลิศกล่าวว่า มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ปชป.เพราะมีความศรัทธาเชื่อมั่นในการทำงานของหัวหน้าพรรค ที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน และต้องการเข้ามาช่วยพรรคจริงๆไม่ได้มาหาตำแหน่งหรือหาผลประโยชน์ใดๆจากพรรค ทั้งนี้ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย เป็นอดีตประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก ประธานนักเรียน ตท.1 เพื่อนร่วมรุ่น พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรีและอดีตนายกฯ เป็นนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 12“สุวัฒน์ ม่วงศิริ” ทิ้ง พปชร.รวมญาติเมื่อเวลา 15.00 น. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ปชป. พร้อมนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคดูแลพื้นที่ กทม. นายสากล นายสาครและนายสามารถ ม่วงศิริ ร่วมต้อนรับนายสุวัฒน์ ม่วงศิริ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรค พปชร.ที่เพิ่งลาออกมาสมัครเป็นสมาชิก ปชป.แบบตลอดชีพ เสนอตัวเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตจอมทอง-ท่าข้าม พรรค ปชป. โดยนายเฉลิมชัยสวมเสื้อสัญลักษณ์พรรคและมอบบัตรสมาชิกให้พร้อมต้อนรับเข้าสู่ครอบครัว ปชป. จะลงสมัคร ส.ส.กทม. เขตที่ 26 บางขุนเทียน เฉพาะแขวงท่าข้าม และเขตจอมทอง ยกเว้นบางขุนเทียน พรรคได้สมาชิกจากครอบครัวตระกูลม่วงศิริมาร่วมสมทบเพิ่มหลังการแบ่งเขตของ กกต. จำเป็นต้องปรับเพื่อความเหมาะสม อยากเห็นคนตระกูลม่วงศิริทั้งหมดมาอยู่ทำการเมืองร่วมกัน เพื่อประโยชน์ต่อพื้นที่ฝั่งธนบุรีมากขึ้น ฝากผู้สื่อข่าวไปตอบนายสกลธี ภัททิยกุล ว่า ดีลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ ดีลสายเลือด ไม่มีอะไรใหญ่กว่านี้ ถ้าดีลอื่นๆ ปชป.สู้ไม่ได้อยู่แล้ว ส่วนการทานอาหารร่วมกันของหัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆเป็นสิทธิ ไม่ใช่เรื่องแปลก ตนก็ทานอาหารกับทุกคน เพียงแต่ไม่ได้โชว์ภาพชทพ.หวังแลนด์สไลด์ “นครปฐม”นายอนุชา สะสมทรัพย์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงความพร้อมต่อการเลือกตั้งในพื้นที่ จ.นครปฐมว่า จ.นครปฐมได้ ส.ส.เพิ่มอีก 1 เขต เป็น 6 เขต ยังหาบุคคลที่เหมาะสมลงสมัครอีก 2 เขต อยากได้แลนด์สไลด์เหมือนกันได้ผู้แทนฯทั้งจังหวัด มั่นใจว่าได้เกินกึ่งหนึ่ง 4 เขต ขึ้นไปแน่นอน ทะลุ 4 เขตได้ ถือว่าแลนด์สไลด์แล้ว ที่พรรคเพื่อไทยเตรียมเปิดเวทีปราศรัยปลุกกระแสแลนด์สไลด์ที่ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ทุกพรรคลงพื้นที่ได้ แต่แลนด์สไลด์หรือไม่อยู่ที่บุคคล จ.นครปฐม อาจแลนด์สไลด์ให้พรรค แต่ไม่ได้ตัวบุคคลก.ก.เสี้ยม “บิ๊กป้อม–หนู” ลืมทิ้ง “บิ๊กตู่”นายณัฐวุฒิ บัวปทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เหยียบเรือสองแคม เข้าอวยพรวันเกิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เช้า แต่ช่วงเที่ยงพาแกนนำพรรค ภท. ไปที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดรับประทานอาหารกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรค พปชร. โดยมีการพูดคุยเบ่งเค้กกันนั่งนายกฯ และการจับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคต่างๆว่า การส่งสัญญาณผ่านภาพถ่ายมีความชัดเจนในระดับหนึ่งว่าอาจจะมีการจับขั้วทางการเมืองเดิมเป็นหลักในการตั้งรัฐบาลสำหรับนักการเมืองอาจเร็วไปที่จะพูดจนกว่าตัวเลขสุดท้าย หรือคณิตศาสตร์ทางการเมืองจะออกมาว่าผลการเลือกตั้งเป็นอย่างไร และการไม่มี พล.อ.ประยุทธ์อยู่ในสมการ รทสช.คงต้องขยับว่าลืมกันได้อย่างไรเตือนอย่าประมาท รทสช.เมื่อถามว่าหาก รทสช.ไม่ได้ ส.ส.มากพอจะถูกพรรคร่วมรัฐบาลทิ้งหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เราอย่าประมาทพรรค รทสช. เพราะเป็นหนึ่งในไม่กี่พรรคที่มีการจัดตั้งตัวแทนประจำจังหวัดครบแล้วทั้ง 77 จังหวัด ก่อนหน้าพรรคการเมืองเก่าด้วยซ้ำ ยังมีการรวมตัวกันของ ส.ส.จากหลากหลายส่วน ตนคิดว่า รทสช.มีศักยภาพเพียงพอที่จะแข่งขัน แต่เราแค่ยังไม่เห็นนโยบายอย่างชัดเจน หรือเห็นการดีเบตของ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งนี้ อยากให้รอดูรายชื่อแคนดิเดตนายกฯของแต่ละพรรคการเมือง และรอดูการดีเบตและการนำเสนอนโยบายของแต่ละคน เพื่อให้ประชาชนใช้ในการตัดสินใจในวันเลือกตั้ง พท.รับ “สมศักดิ์–สุริยะ” คึกคักเมื่อเวลา 10.20 น. ที่พรรคเพื่อไทย แกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พร้อมแกนนำพรรคต้อนรับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีต รมว.ยุติธรรม และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.อุตสาหกรรม นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน ภรรยานายสมศักดิ์ เข้าเป็นสมาชิกพรรค โดย นพ.ชลน่านแถลงว่า ขอต้อนรับเคยทำงานร่วมกันมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย ไม่ใช่คนใหม่ แต่ด้วยมิติทางการเมืองที่ผันผวนเป็นเหตุให้ต้องไปทำงานการเมืองกับพรรคอื่นๆ ประชาชนรู้ซึ้งได้ว่าต้องดำเนินกิจกรรมทางการเมืองเช่นนั้นเพื่อรักษาสภา นายสมศักดิ์กล่าวว่า มีความสุขและความหวังขอบคุณพรรคที่เปิดโอกาสเข้ามาช่วยงานให้สมบูรณ์แบบ เป็นที่พึ่งที่หวังให้ประชาชน 100% วันนี้เราต้องแลนด์สไลด์ จะเข้ามาเสริมเติมเต็มเพื่อให้สำเร็จ วันนี้ฟ้าเปิดเมฆหมองจางหายสู่บรรยากาศประชา ธิปไตย ไม่เปลี่ยนขั้วอีกแน่นอน ขณะที่นายสุริยะกล่าวว่า 8 ปีที่ผ่านมาที่มีการทำรัฐประหาร 4 ปีแรกทำโครงสร้างเศรษฐกิจพังทลายจนนักลงทุนไม่กล้าเข้ามา 4 ปีหลังพรรค พปชร.เป็นรัฐบาลแต่เสียงไม่มากพอ ทำให้กระทรวงเศรษฐกิจไปอยู่พรรคอื่น แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ ถ้าอยู่ต่อไปคงทุกข์ยากลำบากมาก บางคนสนิทกันมากระซิบว่าย้ายพรรคเถอะ ลงพื้นที่เจอเพื่อนฝูงไม่มีใครเชียร์ให้อยู่พรรค พปชร.“อิ๊ง” ลุยอยุธยาแซะหน้ากากคนดีเมื่อเวลา 17.30 น. ที่เวทีปราศรัยลานกิจกรรม ตลาดน้ำอโยธยา อ.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่ นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ รวมทั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พระนครศรีอยุธยาทั้ง 5 เขต มีประชาชนมาฟังปราศรัยเต็มพื้นที่ โดย น.ส.แพทองธารปราศรัยตอนหนึ่งว่า วันนี้มาเต็มทีม ตนท้องครบ 8 เดือน แต่ไม่พลาดมาอยุธยาแน่นอน อยุธยาอุดมสมบูรณ์ แต่พี่น้องมีหนี้มีสินมากมาย พรรคจะนำเทคโนโลยีมาช่วยทำการเกษตรเหนื่อยน้อยลงแต่ได้เงินมากขึ้น 8 ปีลำบากมามาก เรามีนโยบายดีๆ ทำให้ได้ก่อนปี 70 แน่นอน ที่บอกกันว่าอยุธยาไม่สิ้นคนดี วันนี้ไม่เอาแล้วหน้ากากคนดี ขอให้เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคให้แลนด์สไลด์ย้ำ 4 ปีคนไทยต้องมีรายได้ 3 เท่า นายเศรษฐาปราศรัยว่า พอกันที 8 ปียาวนานมาก หวังว่า 4 ปีข้างหน้าจะไม่เห็นหน้ากันอีก ภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย ประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน จ.พระนครศรีอยุธยา มีโบราณสถานเยอะการท่องเที่ยวน่าจะดี แต่ทำไมท่องเที่ยวตกต่ำรายได้หาย เป็นเพราะรัฐบาลจัดการปัญหาประเทศไม่ได้ อยุธยาไม่สิ้นคนดีฉันใด เพื่อไทยก็ไม่สิ้นนโยบายดีๆฉันนั้น เราใช้นโยบายนำมาโดยตลอด ถ้าเราได้เป็นรัฐบาลภายใน 6 เดือน จะสำรวจครัวเรือนไหนมีรายได้ไม่ถึง 20,000 บาท เราจะเติมให้ ใครอายุ 16 ปีขึ้นไปเราจะสร้างกระเป๋าตังค์ดิจิทัลให้ใช้จ่ายในพื้นที่ 4 กม.กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น ทำให้รายได้สุทธิของประชาชนเพิ่มขึ้น 3 เท่าใน 4 ปี “ตะวัน–แบม” บุกเวทีชูป้ายแก้ 112ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ น.ส.แพทองธาร ปราศรัยอยู่นั้น น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือแบม นักกิจกรรมเคลื่อนไหวต่อต้านมาตรา 112 ทำกิจกรรมหน้าเวทีด้วยการชูป้ายสำรวจความคิดเห็นว่า ประชาชนต้องการให้พรรค พท.เสนอนโยบายยกเลิก 112 หรือไม่ และสอบถามว่าคุณคิดว่าปากท้องกับเสรีภาพไปด้วยกันได้หรือไม่ โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนที่มาร่วมฟังการปราศรัยติดสติกเกอร์โหวตว่าต้องการหรือไม่ต้องการให้ยกเลิก โดย น.ส.แพทองธารระบุว่า “ขอบคุณน้องๆมากที่มา แต่ตอนนี้พี่ขออนุญาตทำหน้าที่ปราศรัยก่อน เดี๋ยวเราจะคุยกันหลังจากที่พรรคเพื่อไทยปราศรัยจบ” หลังจากนั้น น.ส.แพทองธารได้ปราศรัยต่อ “เจริญ จรรย์โกมล” ร่วมงาน ทสท.ที่พรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ให้การต้อนรับพร้อมเปิดตัวนายเจริญ จรรย์โกมล อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายธนกฤติ จรรย์โกมล บุตรชาย ในฐานะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชัยภูมิ พรรรค ทสท. โดยคุณหญิงสุดารัตน์เป็นผู้สวมเสื้อพรรคไทยสร้างไทย ให้กับนายเจริญและบุตรชาย เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการยืนหยัดร่วมอุดมการณ์เดียวกับพรรคไทยสร้างไทยในการเลือกตั้งที่จะมาถึง โดยคุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีที่นายเจริญและบุตรชายได้เข้ามาร่วมอุดมการณ์กับพรรคไทยสร้างไทย ที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นายเจริญจะเข้ามาเป็นแกนนำ ดูแลพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง เชื่อมั่นว่าจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับพรรคไทยสร้างไทย เพราะนายเจริญถือเป็นบุคคลการเมืองที่มีผลงานทั้งในสภาฯและการทำงานในพื้นที่ดูแลรับใช้พี่น้องประชาชนมายาวนาน มั่นใจว่านายเจริญจะเป็นอีกหนึ่งบุคลากรของพรรคที่ช่วยกันสร้างทางรอดให้กับประเทศไทย มาร่วมกันสร้างชัยชนะให้กับประชาชน ต้องการการเปลี่ยนแปลงจากการเมือง 2 ขั้วมั่นใจเป็นพรรคของคนอีสานแน่นายเจริญกล่าวว่า การตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรค ทสท.เพราะเห็นว่าเป็นพรรคที่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยที่ชัดเจน คุณหญิงสุดารัตน์เป็นผู้นำที่มีความสามารถและมือสะอาด มีผลงานโดดเด่นทั้ง 30 บาทรักษาทุกโรค การปราบโรคซาร์ส โรคหวัดนก มีความจริงใจกับประชาชน เป็นที่รักของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะชาวอีสาน และมั่นใจว่าพรรคไทยสร้างไทยจะเป็นพรรคการเมืองของชาวอีสานได้อย่างแน่นอน ขณะที่นโยบายซึ่งได้ประกาศต่อพี่น้องประชาชนล้วนเป็นนโยบายที่ตอบโจทย์ประเทศชาติ ประชาชนอย่างยิ่งในเวลานี้ โดยเฉพาะการดูแลพี่น้องประชาชนตั้งแต่เกิดจนแก่ เช่น การเรียนฟรีจนจบปริญญาตรีอย่างมีคุณภาพโดยไม่เป็นหนี้ กยศ. การยกระดับราคาพืชผลทางการเกษตร รวมถึงการแก้ไขปัญหาน้ำแล้งน้ำท่วม นโยบายบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับสังคมผู้สูงวัย ทำให้ประชาชนสามารถอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี“เต้” เปิดตัว “พิเชษฐ” ประธาน ทศล.ที่โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ (ทศล.) แถลงเปิดตัวนายพิเชษฐ สถิรชวาล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. ย้ายมาอยู่พรรค ทศล.ว่า นายพิเชษฐ จะมาเป็นประธานพรรคและประธานยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจของพรรค ขณะนี้เหลืออีก 53 วัน จะเลือกตั้ง พรรคจะเดินทางไป 40 จังหวัด เปิดนโยบายให้ประชาชนทราบ โดยเฉพาะนโยบายบัตรคนจนจะเพิ่มเงินเป็นเดือนละ 3,000 บาท จากผู้ลงทะเบียน 20.5 ล้านคนจะใช้เงิน 8 แสนล้านต่อปี โดยจะใช้เงินจากกาสิโนถูกกฎหมายที่คนรวยเล่นพนัน มั่นใจพรรคจะเป็นทางเลือกให้ประชาชนได้แน่นอนแจงทิ้ง พ.เปลี่ยนมุ่งแก้แต่หวยนายพิเชษฐกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยระบุว่าจะไปร่วมงานกับพรรคเปลี่ยน แต่พอเข้าไปแล้ว เป็นเพียงการทำเป็นกลุ่มเล็ก ส่งผู้สมัครคนเดียว มุ่งผลักดันนโยบายเรื่องลอตเตอรี่อย่างเดียว ไม่สอดคล้องกับงานการเมืองที่ทำเพื่อประชาชน ส่วนความสัมพันธ์กับพรรค พปชร.นั้นยืนยันจบกันด้วยดีกต.มั่นใจไร้บัตรตกน้ำซ้ำรอยปี 62ที่กระทรวงการต่างประเทศ นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรว่า สถานเอกอัครราชทูตไทยและสถานกงสุลใหญ่ไทยมีหน้าที่จัดเลือกตั้งล่วงหน้าก่อนวันเลือกตั้งในประเทศไม่น้อยกว่า 7 วัน โดยจะกำหนดวันและรูปแบบที่เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ต่อไป ต้องประกาศข้อมูลภายในวันที่ 29 มี.ค.และคาดว่าช่วงสิ้นเดือน มี.ค.จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรได้ กระทรวงการต่างประเทศได้พัฒนาระบบเฝ้าติดตามการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร (Oversea Voting Monitoring System-OVMS) เพื่อให้ทุกฝ่ายติดตามได้แบบเรียลไทม์ อาทิ จำนวนประชาชนใช้สิทธิ์ การส่งถุงเมล์บัตรลงคะแนนกลับประเทศ ต่อไปจะไม่เกิดปัญหาบัตรตกหล่นเหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ขอให้ทุกคนมั่นใจ การเลือกตั้งจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยราบรื่นโปร่งใส“โรม”ยื่นสอบศาลถอนหมายจับ ส.ว.ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายรังสิมันต์ โรม อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ยื่นหนังสือให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของอธิบดีศาลอาญา รองอธิบดีศาลอาญา และผู้พิพากษาเวร กรณีการเพิกถอนหมายจับนายอุปกิต ปาจรียางกูร ส.ว. และยื่นเรื่องติดตามความคืบหน้าตรวจสอบการแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จของนายอุปกิต กรณีขายโรงแรงอัลลัวร์ รีสอร์ต นายรังสิมันต์กล่าวว่า 1.สงสัยว่านายอุปกิต ขายอัลลัวร์ รีสอร์ต ไม่ได้เกิดขึ้นจริง เป็นนิติกรรมอำพราง 2.อธิบดีศาลอาญา รองอธิบดีศาลอาญา และผู้พิพากษาเวร เพิกถอนหมายจับนายอุปกิต ที่ก่อนหน้าตนได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ไปแล้ว หวังว่าจะนำตัวนายอุปกิตเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างตรงไปตรงมาเท่าเทียมกัน