ศาล รธน.มติเอกฉันท์ไม่นับรวมต่างด้าวที่ยังไม่ได้สัญชาติไทยไปคำนวณ ส.ส.แบ่งเขต แต่ไม่มีผลย้อนหลังไปถึงเลือกตั้งที่ผ่านมา กกต.เด้งรับลุยแบ่งเขตใหม่ อีกคดีรับคำร้อง ส.ส.ฝ่ายค้าน สั่ง “ศักดิ์สยาม” ยุติปฏิบัติหน้าที่ กรณีถือหุ้น “บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น” ชี้มีเหตุอันควรสงสัย “เสี่ยโอ๋” เตรียมคำชี้แจงแก้ต่าง มี “อธิรัฐ” รักษาการแทน “บิ๊กตู่” ชี้ไม่กระทบงาน “ปกรณ์วุฒิ ก้าวไกล” จี้ ครม.ระงับโครงการทั้งหมดไว้ก่อน “ชูวิทย์” เล่นใหญ่แฉซ้ำไม่ยอมคายเขากระโดง ขนาดศาลฎีกาพิพากษาแล้ว เย้ยคำสั่งศาล รธน.ถือว่า “ฟ้าบันดาล” “สมชัย” กัดติดร้อง ฟัน รทสช.ขู่แจ้งดำเนินคดี 7 อรหันต์ กกต. พท.ตั้งชุดดรีมทีมเศรษฐกิจ “หมอมิ้ง” นำทีม “เศรษฐา” ถกหอการค้า ไทย-จีน กร้าวไม่ได้นายกฯไม่เอาตำแหน่งอื่น “บิ๊กตู่” บุกกรุงเก่าขวัญหายดาบหล่นจากแท่น “สมเด็จธงชัย” สวดชยันโตให้ “จ้อน” ฉะ “ไตรรงค์” เปลี่ยนไปมาก “กรณ์” เสียใจ “ชวน” ทวงบุญคุณ “ตะวัน-แบม” ทรุดหนัก ปล่อยไว้ไตวายส่งกลับ รพ.

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ การกำหนดจำนวน ส.ส.แบ่งเขตเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 86 (1) ไม่ให้นำผู้ไม่ได้สัญชาติไทยมาคิดคำนวณ รวมถึงมีมติเอกฉันท์รับคำร้อง ส.ส.ฝ่ายค้าน และสั่งนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม หยุดปฏิบัติหน้าที่กรณีถือหุ้นบริษัทบุรีเจริญฯ ต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ 187

ศาล รธน.นัดชี้ขาดปมต่างด้าว

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 3 มี.ค.ที่ศาลรัฐธรรมนูญตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมแถลงด้วยวาจาปรึกษาหารือและลงมติ ตามคำร้องที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีหนังสือขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) เกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจในการประกาศจำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 86 โดย กกต.คิดคำนวณจำนวน ส.ส.แบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี นำจำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานการทะเบียนราษฎรตามที่สำนักทะเบียนกลางประกาศ ณ วันที่ 31 ธ.ค.2565 มาใช้ในการคิดคำนวณ

...

มติเอกฉันท์ไม่ให้เอามานับรวม

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า การกำหนดจำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 86 (1) ที่กำหนดให้ใช้จำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานทะเบียนราษฎร คำว่า “ราษฎร” ไม่หมายความรวมถึงผู้ไม่ได้สัญชาติไทย อย่างไรก็ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ มีผลตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.2566 เป็นต้นไป ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญมาตรา 76 วรรคหนึ่งและวรรคสาม และไม่มีผลย้อนหลังไปถึงการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา

ตั้งแท่นคดี “ศักดิ์สยาม” ซุกหุ้น

นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังได้พิจารณาเรื่องที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน 54 คน เข้าชื่อกันขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 187 หรือไม่ จากกรณียังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น อย่างแท้จริงจะทำให้ผู้ถูกร้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการ บริหารจัดการหุ้นหรือกิจการ เป็นการกระทำอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 187 ประกอบ พ.ร.บ.การจัดการหุ้นส่วนและหุ้นของรัฐมนตรีมาตรา 4 (1) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยามสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญหรือไม่

รับคำร้องสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 วรรคหนึ่ง และ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญมาตรา 7 (9) ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้รับคำร้องไว้วินิจฉัย และผู้ถูกร้องชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง และเห็นว่าข้อเท็จจริงตามเอกสารคำร้องและเอกสารประกอบคำร้อง ปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่าผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้อง จึงมีมติเป็นเอกฉันท์สั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย

กกต.ลุยแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่

ช่วงบ่ายวันเดียวกัน หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์วินิจฉัยคำว่าราษฎรไม่นับรวมบุคคลผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย ทำให้ส่งผลกระทบต่อ กกต. ที่ก่อนหน้านี้มีการคำนวณจำนวน ส.ส.พึงมีแต่ละจังหวัดนับรวมผู้ไม่มีสัญชาติไทยเข้าไปด้วยนั้น กกต.มีการประชุมเพื่อรับทราบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และพิจารณาแนวทางการคำนวณจำนวน ส.ส.พึงมีแต่ละจังหวัดใหม่ หาก กกต.เห็นชอบจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ภายใน 1-2 วันนี้ และการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ราว 8 จังหวัดที่จะได้รับผลกระทบ ที่คาดว่าจะแบ่งเขตใหม่ทุกเขต แต่บางเขตอาจไม่แตกต่างจากที่ได้แบ่งไว้

“เสี่ยโอ๋” เตรียมคำชี้แจงแล้ว

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทางไลน์ว่า รับทราบคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ และหยุดปฏิบัติภารกิจแล้ว จากเดิมต้องเดินทางไปตรวจงานที่ จ.นครนายก และ จ.ปราจีนบุรี ก็ยกเลิกงานดังกล่าวทันทีที่รับทราบข่าวและหลังได้รับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญอย่างเป็นทางการแล้ว จะชี้แจงข้อกล่าวหาไปตามกรอบเวลาภายใน 15 วัน เตรียมคำชี้แจงไว้เรียบร้อยแล้ว ยืนยันว่าถอนหุ้นจากบริษัทดังกล่าวก่อนเป็นรัฐมนตรีแล้ว อย่างไรก็ตาม ระหว่างต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม จะปฏิบัติหน้าที่รักษาการ รมว.คมนาคม โครงการต่างๆ ของกระทรวงคมนาคมที่อยู่ในขั้นตอนเตรียม เสนอ ครม. และงานอื่นๆ จะไม่มีสะดุดแน่นอน

ยันไม่มีผลกระทบภูมิใจไทย

นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญแค่รับพิจารณาในเบื้องต้น และสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ เช่น กรณีนายกฯปม8ปี หรือรัฐมนตรีคนอื่นๆ หลังจากนี้นายศักดิ์สยามจะดำเนินการตามขั้นตอน และชี้แจงข้อเท็จจริงภายใน 15 วัน ได้คุยกับนายศักดิ์สยามแล้วยืนยันสามารถชี้แจงเรื่องเหล่านี้ได้ทั้งหมดไม่กังวล ที่ผ่านมาได้อธิบายให้ ส.ส.และสมาชิกพรรคทราบข้อเท็จจริง รวมทั้งชี้แจงเรื่องนี้ให้สังคมรับทราบมาต่อเนื่องสมาชิกพรรคทุกคนมีกำลังใจดี ไม่มีผลกระทบอะไรต่อพรรค

จี้ ครม.ระงับโครงการไว้ก่อน

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวว่า จากคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญที่ให้นายศักดิ์สยามหยุดปฏิบัติหน้าที่ พิสูจน์ว่าแม้จะเป็นเสียงข้างน้อยในสภาฯ ไม่สามารถล้มรัฐมนตรีกลางสภาฯ ได้ แต่หากมีข้อมูลหลักฐานที่แน่นหนาพอ ส.ส.สามารถทำหน้าที่ตรวจสอบจนอาจดึงรัฐมนตรีลงจากเก้าอี้ได้จริงๆ ท้ายที่สุดขอเรียกร้อง ครม. ที่กำลังจะอนุมัติงบทิ้งทวนก่อนยุบสภา ว่าขอให้ระงับโครงการที่เสนอเข้า ครม.โดยนายศักดิ์สยามทั้งหมด เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ประชาชนจะตัดสินในคูหาเลือกตั้ง ว่าใครควรจะเข้ามาบริหารเงินภาษีของพวกเขาในรัฐบาลชุดต่อไป

“ชูวิทย์” เล่นใหญ่แฉเขากระโดง

ที่โรงแรมเดอะเดวิส คอนเนอร์วิงค์ สุขุมวิท 24 กทม. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง เปิดแถลงข่าว “แฉเพื่อชาติ ตายยกรัง” มีการนำป้ายไวนิลข้อความคำพิพากษาศาลฎีกา พร้อมเค้กรูปเขากระโดงพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย 5,083 ไร่ มาแสดงกับสื่อมวลชน นายชูวิทย์กล่าวว่า ศาลมีคำพิพากษาให้รื้อถอนขับไล่ รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ของผู้บุกรุกที่ออกจากพื้นที่ทั้งหมด แต่เหตุใดธุรกิจของตระกูลชิดชอบยังอยู่ในที่ดินของ รฟท.ได้ แสดงให้เห็นว่า รฟท.กระทำ 2 มาตรฐาน นายศุภวัฒน์เกษมสุทธิ์ ที่เป็นลูกจ้างบริษัทบุรีเจริญฯ มีเงินเดือน 9,000 บาท แต่กลับมีรายชื่อปรากฏถือหุ้น 119 ล้านบาท และพบว่านายศักดิ์สยาม ชิดชอบ โอนเงินให้นายศุภวัฒน์ 40 ล้านบาท และมีรายชื่อบริจาคเงินให้พรรคภูมิใจไทย 7.5 ล้านบาท รวมถึงนายศุภวัฒน์ยังให้บริษัทตัวเองกู้เงิน 221 ล้าน โดยไม่มีดอกเบี้ย และสัญญาเงินกู้ และยังรับงานก่อสร้างของกรมทางหลวงหลายโครงการ มูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท พฤติกรรมทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นว่านายศุภวัฒน์เป็นนอมินีของนายศักดิ์สยาม

คำสั่งศาล รธน. “ฟ้าดินบันดาล”

นายชูวิทย์กล่าวต่อว่า วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายศักดิ์สยามยุติการปฏิบัติหน้าที่ รมว.คมนาคม ฟ้าดินบันดาลให้เป็นจริง อยากให้ติดคุกนานกว่าตนที่เคยติดคุกมา และต้องรับในสิ่งที่ทำ ระหว่างแถลงนายชูวิทย์ได้นำเค้กที่สั่งทำเป็นรูปที่ดินเขากระโดง ในราคา 5,083 บาท ที่มีชื่อธุรกิจของตระกูลชิดชอบปักอยู่หลายจุด พร้อมสวดมนต์สาปแช่งคนที่กินที่ดินหลวง และถามว่าอร่อยมากมั้ย ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ก็เกรงกลัวพรรคภูมิใจไทย เพราะอยากอยู่ในตำแหน่งและพรรคภูมิใจไทยเป็นฐานให้ เลยต้องปกป้อง นายกฯไม่อยากให้ประเทศเจริญหรือ ถึงให้คนเหล่านี้เข้ามามีตำแหน่งบริหารประเทศ จากนั้นนายชูวิทย์ได้ฉีดสเปรย์ใส่โมเดลรถไฟสีส้ม และใช้ค้อนพลาสติกขนาดใหญ่ทุบ แล้วตัดเค้กเขากระโดงแจกผู้สื่อข่าว แต่ไม่มีใครกล้ากิน

“สมชัย” กัดติดร้อง “ประยุทธ์”

ที่สำนักงาน กกต. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย นายวีระ สมความคิด ประธานยุทธศาสตร์แผนงานต้านคอร์รัปชัน พรรคเสรีรวมไทย เข้าพบนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. เพื่อขอคำชี้แจงกรณีสำนักงาน กกต.มีหนังสือแจ้งไม่รับคำร้องที่ยื่นขอให้ กกต.ตรวจสอบกรณีการขนคน และแจกทรัพย์สินให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เดินทางเข้ารับฟังการปราศรัยเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าสมัครสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เมื่อวันที่ 9 ม.ค. แต่นายแสวงติดภารกิจ นายสมชัย และนายวีระ จึงได้พบกับผู้อำนวยการฝ่ายสืบสวนสอบสวน 1 สำนักงาน กกต.

ขู่แจ้งดำเนินคดี 7 อรหันต์ กกต.

นายสมชัยกล่าวหลังรับฟังคำชี้เเจงว่า เหตุผลที่ กกต.ไม่รับคำร้องไว้พิจารณา เนื่องจากอยู่ในกรอบระยะเวลา 180 วัน และยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. ไม่ได้อยู่ในหนังสือที่ส่งมาให้ตน เห็นว่าไม่มีเหตุผลเพียงพอ ที่ผ่านมา กกต. เตือนให้พรรคการเมือง และผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ระมัดระวังการหาเสียงในช่วงระยะเวลา 180 วัน ระเบียบ กกต.ว่าด้วยการหาเสียงก็เขียนไว้เป็นความผิดชัดเจน นอกจากนี้ที่อ้างว่าตนไม่ใช่ผู้มีส่วนได้ ส่วนเสีย เพราะไม่ใช่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตนั้น ถือเป็นข้ออ้างที่ไร้สาระต้องการปัดตกคำร้องแบบง่ายๆ เรื่องทั้งหมดไม่ได้อยู่ที่เจ้าหน้าที่ แต่เป็นการวินิจฉัยตีตกคำร้องของ กกต. จึงอยากนัดพบนายแสวงอีกครั้ง ในวันที่ 10 มี.ค. จะให้เวลารวบรวมข้อมูล ถ้าหากยังไม่ได้ความชัดเจน จะไปแจ้งความกองปราบปรามให้ดำเนินคดีกับ กกต.ทั้ง 7 คน

ร้อง “สามสี” เอาถึงขั้นยุบพรรค

นายสมชัยกล่าวอีกว่า ได้ยื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้พิจารณา และเสนอเรื่องพร้อมความเห็นสั่งยุบพรรค รทสช. จากกรณีนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี แกนนำพรรค รทสช. ปราศรัยพาดพิงสถาบันฯ บนเวทีปราศรัยใหญ่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ผิดระเบียบ กกต.ว่าด้วยการหาเสียง ที่ระบุชัดว่าห้ามนำสถาบันมาเกี่ยวข้องกับการหาเสียง และผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 73 (5) ให้ศาลเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง 20 ปี รวมทั้งการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายลักษณะเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 92 (2) เป็นเหตุให้ต้องถูกยุบพรรค ตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน กำหนดให้เลขาฯ กกต. จะรับหรือไม่รับพิจารณาคำร้องดังกล่าวภายใน 7 วัน ดังนั้นในวันที่ 10 มี.ค.ที่จะครบ 7 วัน จะมาติดตามและสอบถามอีกครั้ง หากยังไม่ดำเนินการใดๆ อาจแจ้งความเอาผิดนายแสวงอีกคนด้วย

พท.แต่งตั้งชุดดรีมทีมเศรษฐกิจ

ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ มี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตรองนายกฯสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร เป็นประธาน มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯด้านเศรษฐกิจ เป็นรองประธาน พร้อมผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจด้านต่างๆ ได้แก่ นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ อดีตที่ปรึกษาด้านนโยบาย 3 นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นายศุภวุฒิ สายเชื้อ นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง นายปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตผู้แทนการค้า และที่ปรึกษานายกฯด้านเศรษฐกิจและการต่างประเทศ ร่วมเป็นที่ปรึกษา

“หมอมิ้ง” ลั่นพลิกฟื้นประเทศ

นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า วิกฤติเศรษฐกิจรอบนี้ เป็นความท้าทายของพรรคการเมืองที่จะนำพาประเทศและประชาชนฝ่าพ้นวิกฤติครั้งนี้ให้จงได้ การต่อสู้ในสงครามเศรษฐกิจครั้งนี้ต้องเข้าใจปัญหา เท่าทันสถานการณ์ เราต้องระดมสมอง แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เพื่อกำหนดแนวทาง และวิธีการแก้ปัญหา พรรคจึงเชิญบุคคลผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจชั้นนำของประเทศมาให้คำปรึกษา และร่วมเป็นกรรมการ สำหรับกรรมการที่ได้รับเชิญ อาทิ นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ นักวิชาการด้านการเกษตร ที่จะแปรเปลี่ยนผลิตผลทางการเกษตรให้เป็นรายได้ นายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ อดีตผู้บริหารฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย จะเป็นแกนกลางระดมความรู้ ความสามารถและความร่วมมือ เพื่อกอบกู้เศรษฐกิจต่อไป เราจะบริหารให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเราจะกอบกู้เศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง

“เศรษฐา” ถกหอการค้าไทย–จีน

ต่อมาเวลา 11.00 น. ที่อาคารหอการค้าไทย-จีน นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรคเพื่อไทย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ อดีต ส.ส.กทม. ร่วมพบปะหารือนายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานหอการค้าไทย-จีน และคณะผู้บริหารฯ นายเศรษฐากล่าวว่า การพบหอการค้าไทย-จีน ถือเป็นงานแรกอย่างเป็นทางการ หลังได้รับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนของประเทศ นโยบายในอดีตของพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย ให้ความสำคัญกับการค้าระหว่างประเทศสูงสุด หากเราสามารถจัดตั้งรัฐบาลมั่นใจว่าจะทำได้ดีและดีมากกว่านี้ ด้วยการเปิดตลาดการค้า พบปะนักธุรกิจ และผู้นำต่างประเทศ รวมทั้งนโยบายเปิดประเทศ นำสินค้าไทยไปขายที่จีนให้มากขึ้น จีนจะเข้ามามีบทบาทสำคัญทางการค้ากับไทยมากยิ่งขึ้น เราจะสานต่อข้อตกลงต่างๆ และจะทำต่อไปให้ดีกว่านี้ถ้าได้เป็นรัฐบาล

ไม่ใช่นายกฯไม่เอาตำแหน่ง

เมื่อถามว่าที่ประกาศจะรับตำแหน่งนายกฯเท่านั้น จะไม่รับตำแหน่งใดๆทางการเมืองหากไม่ได้เป็นนายกฯใช่หรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า มันไม่ใช่ความต้องการ วันนี้ตนเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ขั้นตอนจากนี้ต้องได้รับเลือกเป็นแคนดิเดตนายกฯ เข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง ย้ำว่าพรรคส่งแคนดิเดตนายกฯครบ 3 รายชื่อ คณะกรรมการบริหารพรรคต้องเลือกว่าใครจะได้รับความไว้วางใจตรงนี้ เมื่อถามว่าถ้าไม่ใช่ตำแหน่งนายกฯ ก็ไม่เอาใช่หรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า “ก็คือไม่เอา แต่อาจไปให้คำแนะนำอยู่ข้างหลัง หรือยังเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยอยู่ต่อก็ได้ ผมก็ยังเป็นสมาชิกเพื่อไทยอยู่ ทำงานให้คำแนะนำโดยไม่มีตำแหน่งก็ได้”

เป็นตำแหน่งที่ทำงานได้จริง

เมื่อถามอีกว่าที่สื่อสารออกไปถูกตีความว่าต้องเป็นนายกฯเท่านั้น นายเศรษฐาตอบว่า ในฐานะที่เราเป็นคนไทยคนหนึ่ง สามารถทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองได้เหมือนกัน ถ้าเกิดมีตำแหน่ง ถ้าต้องขับเคลื่อนอะไรจริงๆ ตำแหน่งนายกฯเป็นตำแหน่งที่มีอำนาจ สามารถทำได้จริง เมื่อถามว่า ถ้าไม่ได้ตำแหน่งนายกฯ แสดงว่าตำแหน่งอื่นๆ อย่างรองนายกฯด้านเศรษฐกิจก็ไม่เอา นายเศรษฐาตอบว่า “ไม่เอาครับ” เมื่อถามว่าเท่ากับว่าตำแหน่งนายกฯมีอำนาจ ทำทุกอย่างได้ง่ายขึ้น นายเศรษฐาตอบว่า มันต้องมี ภาคส่วนที่เข้ามาตรวจสอบกัน มีระบบรัฐสภา ไม่อยากให้เข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องของอำนาจเบ็ดเสร็จ มันไม่ใช่

ปัดไม่เคยมีดีลกดดันพรรค

เมื่อถามว่าจะเป็นการกดดันพรรคหรือไม่ว่าต้องเลือกนายเศรษฐาเป็นนายกฯเท่านั้น นายเศรษฐาตอบว่า ไม่มี เรารู้จักกันมานาน เรารู้ตัวตนของตัวเองมานาน เรื่องของการกดดันหรือเรื่องของการอ้อมค้อมไม่มีแน่นอน ไม่ใช่นิสัยของตนอยู่แล้ว ผู้ใหญ่ในพรรคก็รู้ดีว่าตนเป็นคนอย่างไร ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีแน่นอน เมื่อถามว่าการดีลเข้ามาในพรรค พท. เป็นการดีลในตำแหน่งเดียว คือนายกฯใช่หรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า ไม่ได้ดีลแบบนั้น แต่ดีลเข้ามาอย่างเดียวคือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ชวนเข้ามาทำงาน ชวนเข้ามาช่วยให้คำปรึกษา ก็น้อมรับด้วยความเต็มใจ และรู้สึกเป็นเกียรติ

“สุดารัตน์” นำทีมบุกเชียงใหม่

ที่วัดสันดอนมูล จ.เชียงใหม่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรค นายการุณ โหสกุล และนายต่อพงษ์ ไชยสาส์น แกนนำพรรคลงพื้นที่ มีประชาชนผูกข้อมือรับขวัญต้อนรับอบอุ่น คุณหญิงสุดารัตน์ขึ้นปราศรัยว่า ให้มั่นใจว่า ทสท.เป็นรัฐบาลสามารถทำนโยบายที่ได้ประกาศไว้สำเร็จเป็นรูปธรรมได้ภายใน 3 ปี สร้างประเทศที่ดีกว่านี้เพื่อคนรุ่นต่อไป อีกทั้งมีพันธกิจดูแลประชาชนตั้งแต่เกิดจนแก่ ผ่านนโยบาย 3 สร้าง คือ สร้างพลังอำนาจให้ประชาชน ผ่านการแก้หนี้ เติมทุน สร้างรายได้ สร้างโอกาสและความสุข ด้วยบำนาญประชาชนผ่าน 30 บาทพลัส หวยบำเหน็จ และนโยบายเรียนฟรีถึง ป.ตรี จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์ไปพบปะประชาชน ที่โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ มีกลุ่มพี่น้องชาติพันธุ์ มอบเสื้อคลุมให้ คุณหญิงสุดารัตน์ปราศรัยว่า หากพี่น้องเห็นด้วยกับแนวทางของเราว่าต้องหยุดการเมือง 2 ขั้ว เลือกฝั่งหนึ่งก็ติดหล่ม เลือกอีกฝั่งก็ติดล็อก ขอให้มาร่วมกันสร้างทางออก ทางรอด กับเราไทยสร้างไทย

เพื่อชาติยกอีสานโกอินเตอร์

ร.อ.จารุพล เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อชาติ(พช.) กล่าวว่า มีโอกาสลงพื้นที่พบปะกับแม่ๆศิลปินหมอลำ กลุ่มศิลปินหมอลำผู้อนุรักษ์วัฒนธรรมอีสาน บ้านเปลือยใหญ่ ต.รอบเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด ที่เป็นระดับครูบาอาจารย์ปูชนียบุคคล เป็นสมบัติอันล้ำค่าของคนอีสาน ทุกวันนี้ชาวต่างชาติมาประเทศไทยไม่ได้อยากมาดูตึกในกรุงเทพฯหรือแสงสีอย่างเดียว แต่อยากเห็นวัฒนธรรมที่เขาไม่เคยเห็น กินสิ่งที่ไม่เคยกิน เพราะวัฒนธรรมเป็นสมบัติของผู้เจริญแล้ว ไม่เกี่ยวว่ารวยจน วัฒนธรรมที่สวยงามของเราเป็นตัวชี้ว่า คนไทยเป็นผู้เจริญแล้ว พรรค พช.จะรักษาผลักดันให้วัฒนธรรมอีสาน และของทุกภาค กลับมาเฟื่องฟูชัดเจนเป็นออริจินอลผสมผสานกับการตลาดยุคใหม่ ออกสู่สายตาชาวโลก ตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของพรรค

“บิ๊กตู่” บุกกรุงเก่าเอาฤกษ์เอาชัย

ช่วงสายวันเดียวกันที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม นำคณะตรวจราชการ อาทิ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี จุดแรกเป็นวัดใหญ่ชัยมงคล ได้กราบสักการะพระพุทธชินราชจำลอง และนมัสการเจ้าอาวาสวัดใหญ่ชัยมงคล ที่ได้มอบรูปหล่อพระนเรศวรหน้าตัก 5 นิ้ว ให้นายกฯเพื่อความเป็นสิริมงคล ระหว่างเดินไปยังเจดีย์ชัยมงคลได้แวะทักทายนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทั้งฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และถ่ายภาพร่วมกัน จากนั้นทำพิธีห่มผ้าพระเจดีย์ชัยมงคล และสักการะพระพุทธรูปปางไสยาสน์ต่อ

ขวัญหายดาบหล่นจากแท่น

ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์สักการะพระบรมราชา นุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่มี ผวจ.พระ นครศรีอยุธยา อธิบดีกรมศิลปากร ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ มีกองเชียร์ราว 10 คน มายืนถือป้ายตะโกนให้กำลังใจ ช่วงที่เจ้าหน้าที่ยกแท่นวางดาบที่อยู่ในฝัก เพื่อให้นายกฯนำไปถวาย ปรากฏว่าดาบได้หล่นลงจากแท่น ลงมาใส่ที่บริเวณข้อพับแขน สร้างความตกใจให้ พล.อ.ประยุทธ์เล็กน้อย เป็นที่น่าสังเกตมือของนายกฯยังมีอาการบวมเนื่องจากนิ้วล็อกอยู่ จากนั้นนายกฯและคณะเดินทางต่อไปยังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ตรวจติดตามโครงการก่อสร้างอาคารจัดแสดงเครื่องทองอยุธยา และพระบรมสารีริกธาตุ สอบถามถึงประวัติของเครื่องทองกรุวัดราชบูรณะอย่างสนใจ

“เจ้าคุณธงชัย” สวดชยันโตให้

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์เดินทางต่อไปยังวัดศาลาปูน เพื่อสักการะพระประธาน หลวงพ่อแขนลาย และพระนาคปรกพระประจำวันเกิดที่ พล.อ.ประยุทธ์สร้างถวายให้วัด มีสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี หรือเจ้าคุณธงชัย เจ้าคณะใหญ่หนกลาง และผู้ช่วยเจ้า อาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร นั่งรออยู่ในอุโบสถ ทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์มาถึง เจ้าคุณธงชัยได้สวดชยันโตให้พร แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชน และผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปบันทึกภาพ หลังสวดบทชยันโตจบ พล.อ.ประยุทธ์เดินออกมาพร้อมเจ้าคุณธงชัย และหยุดยืนที่บริเวณหน้าซุ้มกำแพงโบสถ์ เจ้าคุณธงชัยได้เรียกให้ทุกคนมายืนถ่ายรูปด้วยกัน พร้อมกล่าวว่า “ใครจะเป็น ส.ส. ใครจะเข้าทำเนียบมายืนถ่ายรูปกัน”

ไหว้พระพุทธนิมิตวิชิตมาร

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์เดินทางไปวัดหน้า พระเมรุ เข้ากราบพระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญบรมไตรโลกนาถ พระประธานวัดหน้า พระเมรุ ที่รอดพ้นจากการถูกทำลายเมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 เป็นพระพุทธรูปศิลปะอู่ทอง ทรงเครื่องพระมหากษัตริย์ เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่สมัยต้นกรุงศรีอยุธยา แล้วเดินทางต่อไปวัดพระศรีสรรเพชญ์ อุทยานประวัติศาสตร์พระ นครศรีอยุธยา เข้าสักการะหลวงพ่อมงคลบพิตร ในวิหารพระมงคลบพิตร ติดตามความคืบหน้าบูรณ ปฏิสังขรณ์ พร้อมทักทายพูดคุยกับนักท่องเที่ยวต่างชาติอารมณ์ดี มีนักท่องเที่ยวเข้ามาขอเซลฟี่ด้วยจำนวนมาก

คดี “ศักดิ์สยาม” ไม่กระทบงาน

พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม หยุดปฏิบัติหน้าที่ว่า ศาลรัฐธรรมนูญให้โอกาสชี้แจง ก็ติดตามกันต่อไป เมื่อถามว่าคำวินิจฉัยกรณีต่างด้าวจะกระทบต่อการเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ตนไม่ทราบ เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม กำหนดการเดิมยังอยู่ ใช้กำหนดการเดิมไปก่อน เมื่อถามว่าจะมีผลต่อการทำงานของคณะรัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ไม่มีหรอก งานทำกันไปตามนโยบายอยู่แล้ว มอบนโยบายไปแล้ว แต่ละกระทรวงต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ รัฐมนตรีไม่อยู่ยังมีปลัดกระทรวงอยู่ และรองนายกฯยังอยู่ ระหว่างนี้อาจต้องมีการตั้งผู้แทนชั่วคราวมั้ง เมื่อถามว่าดูเหมือนช่วงนี้รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยจะพบกับอุปสรรคมาก พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ตอบคำถาม และเดินขึ้นรถไปทันที

“ธนาธร” ควง “พิธา” ลุยร้อยเอ็ด

ที่ อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล พร้อมนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และคณะ เดินทางมาเยี่ยมชม และแถลงผลความสำเร็จการทำงานติดตั้งมิเตอร์น้ำประปาดื่มได้อัจฉริยะท้องถิ่นก้าวหน้า ที่เทศบาลตำบลอาจสามารถ นายธนาธรกล่าวว่า หลายพื้นที่ในประเทศไทยยังต้องใช้น้ำไม่มีคุณภาพ ไม่มีเพียงพอใช้ เรื่องพื้นฐานเช่นนี้คนไทยควรได้รับบริการที่ดีกว่านี้จากภาครัฐ ได้ปรึกษากับ ส.ส.มองว่าปัญหาน้ำประปาเป็นปัญหาสำคัญของประเทศ จึงจะนำมาเป็นนโยบายพรรค ผ่านการเสนอร่าง พ.ร.บ.น้ำประปาดื่มได้ เข้าสภาฯชุดใหม่ทันที เพื่อผลักดันให้น้ำประปาในประเทศไทย เป็นน้ำประปาที่ดื่มได้ภายใน 8 ปี นั่นคือความฝันของเรา ที่จะส่งเสริมความเสมอภาค

เชื่อ ก.ก.แข็งแกร่งกว่ายุค อนค.

นายธนาธรกล่าวอีกว่า ขอบคุณพรรคก้าวไกลที่เชิญมาเป็นผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้ง ขอทำเต็มที่ให้ประเทศกลับไปเป็นประชาธิปไตย ไม่เอาพรรคทหารจำแลง เมื่อถามว่านโยบายด้านเศรษฐกิจถือเป็นหัวใจหลักในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้หรือไม่ นายธนาธรตอบว่า ไม่ทั้งหมด การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างให้กลับมาเป็นประชาธิปไตยสำคัญเท่ากับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ เมื่อถามว่ามองว่ากระแสนิยมของก้าวไกลไม่เหมือนสมัยอนาคตใหม่ นายธนาธรตอบว่า ยิ่งดี เพราะก้าวไกลไม่ได้แข็งขึ้นเพราะความนิยมส่วนบุคคล แต่เพราะผลงานในสภา แต่แข็งแกร่งกว่าพรรคอนาคตใหม่แน่นอน เมื่อถามถึงกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เตรียมร้อง กกต.ให้ตรวจสอบกรณีพรรคก้าวไกลแต่งตั้งทั้ง 3 คนเป็นผู้ช่วยหาเสียง อาจนำไปสู่การยุบพรรค นายธนาธรตอบว่า ไม่มีปัญหาอะไร ตามกฎหมายสามารถทำได้ แค่ถูกตัดสิทธิ์การเป็นสมาชิกพรรค ห้ามตั้งพรรคใหม่ ห้ามลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่ยังสามารถแสดงความคิดทางการเมืองได้เหมือนคนทั่วไป สามารถเป็นผู้ช่วยหาเสียงได้

ภูมิใจ ส.ส.ผู้ทำหน้าที่ซักฟอก

เมื่อถามถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม หยุดปฏิบัติหน้าที่ นายธนาธรตอบว่า นี่คือตัวอย่างเป็นผลจากการอภิปรายในสภาของ ส.ส.ก้าวไกล ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา สภาชุดนี้มีนักการเมืองบางกลุ่ม บางพรรค ที่รับผลประโยชน์มหาศาลเป็นพันเป็นหมื่นล้าน จากสัมปทานที่มีข้อกังขามากมาย ภูมิใจมากที่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลได้เป็นตัวแทนประชาชนในการทำและกล้าพูดเรื่องนี้ จนนำไปสู่การให้นายศักดิ์สยามยุติบทบาทรัฐมนตรี แม้ในทางปฏิบัติจะไม่มีผลอะไรมาก เพราะอีก 2 สัปดาห์ก็จะหมดวาระอยู่แล้ว แต่อย่างน้อยเป็นสัญลักษณ์ให้สังคมเห็นว่ามีคนที่กล้าปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนในสภาฯ

พปชร.พร้อมสมรภูมิเลือกตั้ง

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยการแบ่งเขตเลือกตั้งไม่นับรวมต่างด้าวว่า พปชร.เตรียมแผนไว้รองรับอยู่แล้ว ทั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อ รวมถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้า พปชร. ตอนนี้รอเพียง กกต.ประกาศแบ่งเขต พปชร.พร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง

“บิ๊กป้อม” ช่วยบ้านใหญ่ปากน้ำ

เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ จ.สมุทรปราการ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เลขาธิการพรรค พปชร. เปิดตลาดเชิงท่องเที่ยวศูนย์กลางจำหน่ายผลผลิตทางการประมงและศูนย์ส่งเสริมพัฒนาเศรษฐกิจ จ.สมุทร ปราการ มีนายสุนทร ปานแสงทอง รมช. เกษตรฯ รวมถึง ส.ส.สมุทรปราการ นายศุภมิตร ชิณศรี ผวจ.สมุทรปราการ น.ส.นันทิดา แก้วบัวสาย นายก อบจ.สมุทรปราการ นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ประธานหอการค้า จ.สมุทรปราการ แกนนำกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า ผู้นำท้องถิ่น รอต้อนรับ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอชื่นชมที่ทุกภาคส่วนช่วยกันทำให้ จ.สมุทรปราการ สวยงาม น่าอยู่ จะช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ช่วยให้พี่น้องชาวสมุทรปราการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมไปถึงการพัฒนาเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ขอฝากพรรคพลังประชารัฐไว้ในอ้อมใจทุกคน หลังเปิดงาน นายชนม์สวัสดิ์ได้ขับรถกอล์ฟให้ พล.อ.ประวิตรนั่ง มีนายสันติและนายสุนทรนั่งข้างหลังไปพบปะประชาชนที่ชูป้ายต้อนรับและให้กำลังใจ บางคนโผเข้ากอด โดย พล.อ.ประวิตรร่วมถ่ายภาพอย่างเป็นกันเอง อารมณ์ดี

“จ้อน” ปัด ปชป.ซื้อเสียง กก.บห.

อีกเรื่อง นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี แกนนำพรรค รทสช. ระบุถึงการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค ปชป. มีการซื้อเสียงให้ผลประโยชน์แลกเปลี่ยนกันว่า ในฐานะ กก.บห.และเป็นรองหัวหน้าพรรคหลายสมัย จนถึงทุกวันนี้ได้รับเลือกจากที่ประชุมใหญ่พรรค ยืนยันว่าไม่เคยซื้อเสียงและไม่เคยพบเห็นว่ามีการซื้อเสียง ที่นายไตรรงค์ระบุว่า อุดมการณ์ของพรรคอ่อนลง ถือเป็นมุมมองส่วนตัว ตั้งแต่ก่อตั้งพรรคมาจนถึงวันนี้ยังยึดมั่นอุดมการณ์ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่ใช่พรรคที่ตั้งมาเฉพาะกิจเพื่อคนใดคนหนึ่งเพียงชั่วครั้งชั่วคราว ถึงอยู่มาได้กว่า 77 ปี กรณีพรรคที่ตกปลาในบ่อเพื่อน เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับพรรค ปชป.และพรรคอื่นๆที่ตกเป็นเหยื่อ ถูกทาบทามเสนอเงื่อนไขแลกเปลี่ยนย้ายพรรค คิดไม่ถึงว่านายไตรรงค์จะกล่าวหาใส่ร้ายทำลายชื่อเสียงพรรค ปชป.ได้ถึงปานนี้ เปลี่ยนแปลงไปมากจริงๆ ผิดหวังมากๆ

“กรณ์” เสียใจ “ชวน” ทวงบุญคุณ

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “เขียนตอบท่านชวน ด้วยความเคารพ” ออกมาจากประชาธิปัตย์ 3 ปี ไม่เคยพูดให้ร้ายพรรคแม้แต่ครั้งเดียว ออกเพราะอยากไปทำงานตามที่ตั้งใจ สำหรับตน ปชป.เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม ความฝันทางการเมืองวันนี้ไม่ใช่เรื่องตำแหน่ง แต่คือโอกาสสร้างพรรคที่ตรงกับอุดมการณ์ และส่งเสริมนักการเมืองรุ่นใหม่ให้มีโอกาสทำงาน ท่านชวนพูดเชิงทวงบุญคุณว่า “คนได้เป็น รมต.คลังจากพรรค พอดีพอร้ายเขาไม่ไปไหนกันหรอก” ยังสัมภาษณ์ว่าห้ามตนไม่ให้ออกแต่ไม่ฟัง ท่านมีสิทธิคิด แต่ขอให้ลองฟังคนที่เคยรักเลือกและศรัทธาใน ปชป.มายาวนานแบบพวกเราด้วย เรา “เสียดายและเสียใจ” วันนี้มีผู้สมัครคนใต้คุณภาพคับแก้วหลายคนเลือกลงสมัครกับ ชพก. ทำให้รู้สึกว่าเรามาถูกทาง วันหนึ่งหากใครตัดสินใจลาออกไปในเส้นทางใหม่ ตนจะทบทวนสิ่งที่พรรคทำมา อวยพรให้เขาประสบความสำเร็จ

“ชวน” ให้คนต่อสายหา “ชุมพล”

นายชุมพล กาญจนะ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ต่างคนต่างอยู่ คนมาใหม่ไม่กี่วันก็มาเป็นใหญ่ ที่ผ่านมาเคยสนทนาเรื่องในพรรคด้วยความห่วงใยกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ยืนยันไม่ได้รับเงินแน่นอน เชื่อว่านายชวนไม่มีเจตนาว่าตน เมื่อคืน (2 มี.ค.) นายชวนฝากให้คนสนิทโทร.มาหา บอกว่ายังรักและนับถือเหมือนเดิม ท่านไม่มีเจตนาเช่นนั้น และเข้าใจเหมือนเดิม ไม่กลัวว่านายชวนคิดเช่นนั้น แต่กลัวคนอื่นเข้าใจในทางที่ไม่ดีหรือรับเงิน ไม่มีตัวเลข 200 ล้านบาทแลกกับกวาด ส.ส.ยกจังหวัด ตอนอยู่มีแต่ให้ ไม่เคยได้อะไรจากพรรค พวกที่เป็นรัฐบาลอยู่ถือว่ากินบุญเก่าพวกตน

“ตะวัน–แบม” ทรุดหนักส่งกลับ รพ.

เมื่อเวลา 17.50 น. ที่ประตู 2 หน้าศาลฎีกา รถพยาบาลจาก รพ.ตำรวจ เดินทางมาจอดรับตัว น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือแบม ผู้ต้องหามาตรา 112 ที่อดข้าวเรียกร้องสิทธิประกันตัวผู้ต้องหามาตรา 112 รายอื่น เพื่อนำกลับไปรักษาตัวที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มีนายสมหมายและนางกาหลงตัวตุลานนท์ พ่อแม่ตะวัน นายสุชาติและนางพรนิภา ภู่พงษ์ พ่อแม่ของแบม ทีมทนายนำโดยนายกฤษฎางค์ นุตจรัส น.ส.กุณฑิกา นุตจรัส พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 และ พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม รวมถึงมวลชนพากันตะโกนให้กำลังใจสู้ๆ จากนั้นมวลชนกลุ่มทะลุวังได้จัดเก็บเต็นท์ปรับอากาศ ข้าวของต่างๆออกจากพื้นที่ ทำให้มวลชนที่มาร่วมประท้วงเก็บข้าวของแยกย้ายกลับตามไปด้วย

ทนายเผยปล่อยไว้ถึงขั้นไตวาย

นายกฤษฎางค์กล่าวว่า ทั้งพ่อแม่และทนาย ตัดสินใจร่วมกันว่าต้องนำทั้งคู่กลับไปรักษาที่ รพ.เพราะอาการหนักมาก แพทย์ห่วงว่าปล่อยไว้อาจเกิดภาวะไตวาย ทั้งคู่ไม่ยินยอมในช่วงแรก และยังอยากให้ศาลปล่อยตัวเพื่อนที่ยังอยู่ในเรือนจำทั้งหมดก่อน ตนในฐานะที่ได้รับสิทธิ์ตัดสินใจตกลงกับพ่อแมว่าหากปล่อยไว้จะไม่สามารถผ่านคืนวันที่ 3 มี.ค.นี้ไปได้ ได้รับการอนุเคราะห์จาก รพ.ตำรวจ และ สน.ชนะสงคราม นำรถมารับทั้งคู่ไปที่ รพ.ธรรมศาสตร์ ดีใจที่สามารถร่วมกันรักษาชีวิต ตะวัน-แบมได้

ม็อบยืนหยุดขังสดุดี 2 ผู้กล้า

ต่อมาเวลา 18.42 น. กลุ่มพลเมืองโต้กลับ ที่ทำกิจกรรมยืนหยุดขัง 1.12 ชั่วโมง ที่หน้าศาลฎีกา เป็นวันที่ 268 ได้ยุติกิจกรรมประจำวัน นายไพศาล จันปาน แกนนำ กล่าวกับมวลชนว่า “ขอชวนทุกคนร่วมปรบมือและส่งกำลังใจไปที่ รพ.ธรรมศาสตร์ เพราะทราบว่าตะวัน-แบม มีอาการไตวายกะทันหัน ดีใจที่น้องได้รับการรักษาและเสียใจกับกระบวนการยุติธรรมไทย คนแค่ 4 คน ที่ต้องการเรียกร้องให้ได้ประกันตัวแต่ผู้ที่เกี่ยวข้องเพิกเฉย ขอชื่นชมความเสียสละหากอยู่ในภาวะสงครามสิ่งที่น้อง 2 คนทำถือว่าเป็นการพลีชีพ กล่าวเสร็จชวนมวลชนหันหน้าไปยังศาลฎีกาชู 3 นิ้ว ตะโกนคำว่า “ปล่อยเพื่อนเรา ปล่อยผู้บริสุทธิ์ คืนสิทธิการประกันตัว ยกเลิก 112”