จะว่าไปแล้ว พรรครวมไทยสร้างชาติ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูกมรสุมการเมือง กระแทกใส่เอาแบบจุกๆตั้งแต่ เรื่องที่ พรรคถูกแฉในสภาโดย ส.ส.ก้าวไกล โดยเฉพาะ รังสิมันต์ โรม โยงเอากรณี ส.ว.ทรงเอ กับ เจ้าของที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ ในปัจจุบัน ซึ่งไม่ว่าเท็จจริงจะเป็นอย่างไรก็ตาม ในเมื่อหมวกอีกใบของ พล.อ.ประยุทธ์ คือผู้นำประเทศ ผู้บริหารปกครองประเทศเมื่อมี เรื่องที่ผิดกฎหมายเกิดขึ้น จะต้องทำให้กระจ่าง ไม่ใช่มองแต่เป็นเรื่องทางการเมืองอย่างเดียวยังมีเรื่อง การทุจริตในค่ายทหาร โยงไปถึงคนใกล้ชิดและญาติพี่น้องอีกหลายประเด็น พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นทั้ง รมว. กลาโหม ประธาน ก.ตร. ย่อมรู้หน้าที่ดี ว่าควรจะทำอย่างไร ให้เป็นแบบอย่างที่ดีในการปกครองประเทศ การตั้งคนใกล้ชิด ในการทำงานด้านการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ ก็จะต้องรู้ที่มาที่ไปของแต่ละคน ในเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจที่จะสวมหมวกสองใบ ก็ต้องระวังตัวให้มากระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวกับผลประโยชน์ส่วนรวมต้องแยกกันให้ออกไม่อย่างนั้น จะไปตอบคำถามเรื่องทุนสีเทา เรื่องบ่อนพนัน เรื่องที่ ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาพรรครวมไทยสร้างชาติไปพูดถึง สถาบันเบื้องสูง บนเวทีหาเสียงที่ จ.นครราชสีมา อย่างไร เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้ยินเองเต็มสองหู และ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ใช้ที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติที่มีปัญหาด้วยตัวเองแล้วด้วยล้วนแต่เป็นเรื่องใหญ่ในทางกฎหมาย สามารถนำไปสู่การยุบพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้หลายกรรมหลายวาระ และถ้า เรื่องนี้ไม่มีความผิด ต่อไปจะเป็นบรรทัดฐานในการหาเสียงของพรรค การเมืองต่างๆ ที่สามารถจะแอบอ้างเบื้องสูงในการหาเสียงได้เช่นกัน จะอ้างว่ามีการว่ากล่าวตักเตือนแล้ว ไม่ใช่คำตอบของผู้นำเรื่องที่ต้องขยาย ระหว่าง ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กับ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข และ เนวิน ชิดชอบ จุดเดือดเกิดจาก กัญชาเสรี รถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่ง ทั้งคมนาคมและสาธารณสุข เจ้าของเรื่องอยู่ในสังกัดพรรคภูมิใจไทย ที่ชูวิทย์พร้อมจะขุดไปถึงที่ดินเขากระโดงและผลประโยชน์กัญชาเสรีจะตกกับใครบ้างเรื่องของผลประโยชน์ เรื่องของเงินๆทองๆข้อกล่าวหาต่างๆ ล้วนแต่เกี่ยวโยงไปถึงการทุจริตในภาครัฐทั้งสิ้น ต้องยอมรับว่า พล.อ.ประยุทธ์มีพระดี ถ้าเป็นผู้นำคนอื่น คงไม่รอดมาจนถึงตอนนี้ เรียบร้อยไปตั้งแต่ปีแรกแล้วยุทธการกระชากหน้ากากคนดี ในช่วงโค้งสุดท้ายของ รัฐบาลชุดนี้ จะเป็นดัชนีชี้วัดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไปต่อได้สำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับประชาชนจะเป็นคนตัดสินแต่ก็อย่างว่า การเมืองไทย มีอะไรที่เหนือความคาดหมายเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็เอาด้วยกล (โกง) ไม่ได้ด้วย มนตร์ก็เอาด้วยคาถา ตอนจบของวันนี้ต้องยืมคำพูดของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่เปิดใจเอาไว้ในจดหมายน้อยฉบับที่สาม ประเทศไทยไม่สามารถตัดวงจรการปฏิวัติรัฐประหารได้อย่างเด็ดขาด จริงมะ.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.th