ต้องถ่อเดินทางไกลไปรับกันถึงถิ่นจังหวัดพะเยา ตามอีเวนต์การเปิดตัวกลับบ้านเก่าของ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่คุกเข่ามอบพวงมาลัยก้มกราบ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าค่ายพลังประชารัฐ

ได้โอกาสหวนคืนรัง เพื่อหามแห่ “บิ๊กบราเธอร์” เป็นนายกฯ คนที่ 30
ไม่ต้องลับๆล่อๆอีกต่อไป ต่อแต่นี้ก็ชัดเจน “ผู้กองนัส” คือหนึ่งในขุนพลข้างกาย “บิ๊กป้อม” ในการปักหลักรักษาค่ายพลังประชารัฐไม่ให้เป็นพรรคร้าง
อย่างน้อยก็มีเลือดไหลเข้า ไม่ใช่มีแต่พวกชิ่งไหลออก
แต่แน่นอนด้วยสภาพของ “ผู้กองนัส” ที่เต็มไปด้วย “โจทก์การเมือง” รอบตัว การหวนกลับเข้าค่ายพลังประชารัฐ อย่างไรเสียก็ต้องก่อให้เกิดแรงกระเพื่อม
ปฏิกิริยาสะท้อน “น้ำ” กับ “น้ำมัน” ที่กลืนเป็นเนื้อเดียวกันไม่ได้
สังเกตว่ารอบนี้มีแค่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ขาใหญ่เมืองโคราช ที่ติดสอยห้อยตามแห่คณะของ “บิ๊กป้อม” ไปประกาศยินดีต้อนรับ “ผู้กองนัส” คืนบ้านเก่า แต่เจ้าประจำอีกคนอย่างนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เลขาธิการพรรค พปชร. หายไปจากจอ ไม่ได้ร่วมฉากอีเวนต์ต้อนรับ ร.อ.ธรรมนัส แต่อย่างใด
...

นั่นก็เพราะมีอาการค้างคาใจกันอยู่จากช็อตเกือบฟาดปากกันต่อหน้า “พี่ใหญ่”
อีกทีมที่หายหน้าไปเลย ไม่ปรากฏกายร่วมขบวนกับ “บิ๊กบราเธอร์” มาพักใหญ่แล้ว ก็คือก๊วนสามมิตรของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม
ตามฟอร์มของ “โคตรเซียน” ที่ยังไม่ยอมหงายไพ่ใบสุดท้าย
ดึงจังหวะกั๊ก ไม่ปักหมุดจะอยู่หรือไปจากอ้อมอก “บิ๊กป้อม”
แต่แน่นอน เมื่อ “โจทก์” สำคัญอย่าง “ผู้กองนัส” ที่วงในรู้กันดีว่า ผีไม่เผาเงาไม่เหยียบกับ “สมศักดิ์-สุริยะ” รีเทิร์นกลับมาร่วมค่ายพลังประชารัฐ
มันก็น่าจะเป็นปัจจัยที่ช่วยให้การตัดสินใจเร็วขึ้น
ตามเงื่อนไขสถานการณ์ “สมศักดิ์-สุริยะ” ไม่น่าจะอยู่ร่วมชายคากับ ร.อ.ธรรมนัส ได้อีกต่อไป สอดรับกับกระแสแว่วๆว่า กลุ่มสามมิตรอาจย้อนเส้นทางเก่ากลับเข้าสังกัดพรรคเพื่อไทย ต่อสายผ่าน “เจ๊แดง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ กลับสู่อ้อมอกของทีม “นายห้างดูไบ”

โหนกระแส “แลนด์สไลด์” ตามฟอร์มนักเลือกตั้งอาชีพ
ถนนทุกสายมุ่งกลับหา “นายใหญ่” และถึงตรงนี้ก็เหมือนจะแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ กับภาพของ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่อุ้มท้องขึ้นเวทีปราศรัย
ออดอ้อนคนอีสานแห่ “แลนด์สไลด์” ช่วยพ่อ “ทักษิณ ชินวัตร” กลับบ้าน
กวาดคะแนนสงสาร โกยแต้มเห็นอกเห็นใจอย่างเป็นกอบเป็นกำ ตอกย้ำด้วยสารพัดโพล ทั้งสำนักมาตรฐาน และสำนักโพลรับจ้าง สำรวจความนิยมกันถี่ยิบแบบรายสัปดาห์
ปรากฏ “อุ๊งอิ๊ง” นำโด่ง ยืนแป้นอันดับหนึ่งตลอด
นั่นเลยเป็นที่มาของความมั่นอกมั่นใจ ทีม “นักรบห้องแอร์” ของนายห้างดูไบ ปล่อยโพลยี่ห้อ “ทักษิณ” ที่ว่าแม่นยำกว่าใคร แห่ตัวเลขของพรรคเพื่อไทย
“แลนด์สไลด์” ทะลุ 300 เก้าอี้ไปแล้ว
ตามแนวโน้มสถานการณ์ที่น่าจะต้อง “เลยตามเลย” จากตอนแรกที่อ่าน “เหลี่ยม” โคตรเซียนการตลาดอย่าง “ทักษิณ” น่าจะปล่อย “อุ๊งอิ๊ง” มาปลุกกระแสที่กำหลังหลับใหล โดนทีมเด็กรุ่นใหม่ค่ายก้าวไกล แย่งสัมปทานกองเชียร์ฟากประชาธิปไตยไปเกือบหมด
เกมปล่อยลูกสาวมาใช้ เพื่อเป็นแค่ตัว “เรียกแขก” เท่านั้น

ทำให้เห็นว่า ถึงขั้นกล้าเสี่ยงเอา “กล่องดวงใจ” มาล่อเป้า เพื่อการการันตีกับทีมลูกหาบและกองเชียร์ว่า “ทักษิณ” ยังเอาจริง เหยียบคันเร่งมิดไมล์ ใส่เต็มเกจ์
และก็ได้ผลตามคาด “อุ๊งอิ๊ง” ใช้สถานการณ์ที่คนไทยเบื่อ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม กระแสสังคมเอือมระอากับขุมอำนาจทหารเฒ่า 3 ป. เต็มแก่
หันมาช่วยกันหามแห่ลูกสาวคนสุดท้องของ “ทักษิณ” เข้าเหลี่ยมตีกินของ “นายห้างดูไบ”
แต่กระแสไหลมาถึงตรงนี้ คงจะสับขาหลอก เปลี่ยนไพ่นาทีสุดท้ายยากแล้ว ในเมื่อแนวโน้มกองแห่ “ทักษิณ” ปักใจเชื่อในตัวของ “อุ๊งอิ๊ง” จะมาพลิกเกมบริหารจากทีมทหารเฒ่า
ถึงเวลาจะเอา “ตัวหลอก” ไพ่ที่ซ้อนไว้ สลับฉากมาเป็นนายกฯ ล่อสหบาทาแทน กองเชียร์คงไม่ยอม
และมันจะเป็นโจทย์โคตรยากของ “ทักษิณ” คนที่รักลูกดังดวงใจ จะยอมให้ลูกสาวกระเตงหลานมาเสี่ยงภัย ท้าทายชะตากรรมตามรอย พ่อกับอา
“นายใหญ่” จะใจแข็ง นั่งลุ้นฉากโหดๆได้ขนาดนั้นเชียวหรือ.
ทีมข่าวการเมือง