ไม่ทันจะถึง วันเลือกตั้ง มีเรื่องที่ไม่ควรจะเป็นเรื่อง กลายเป็นเรื่องเป็นราว เมื่อมี ส.ว.บางคนออกมายอมรับว่า มีการตั้งกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่ว่าด้วยการกำหนดวาระนายกฯครบ 8 ปี ให้เป็น นายกฯได้ Forever อ้างว่าไม่ได้ทำเพื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่จะเป็นประโยชน์กับนายกฯทุกคนที่ประชาชนเลือกขึ้นมา ใครจะได้เป็นนายกฯประชาชนจะเป็นคนเลือกเอง อ้างว่า แพทองธาร ชินวัตร ได้ประโยชน์มากกว่า เพราะอายุยังน้อยกว่า พล.อ.ประยุทธ์ แถมยังมีการข่มขู่ด้วยว่า ส.ว.จะไม่เลือกนายกฯที่มาจากบางพรรค นำไปสู่ความวุ่นวายทางการเมืองเลยต้องหาทางออกกันเอาไว้ สารพัดเหตุผลในการชักแม่น้ำทั้งห้ามาประกอบ แต่ที่เป็นข้อเท็จจริงก็คือ จะแก้ปัญหานายกฯครึ่งเทอมของ พล.อ.ประยุทธ์ ได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

ถามว่าเหมาะสมหรือไม่ เอาแบบตรงไปตรงมา เข้าใจว่า คนเขียนรัฐธรรมนูญป้องกันความผิดพลาดหากกรณีการตั้งรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์ แต่เป็นฝ่ายตรงกันข้าม ก็จะเจอกับดักจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไปเต็มๆ และถ้าเป็น พล.อ.ประยุทธ์ ก็คงจะเป็นนายกฯได้ถึงสองสมัยซึ่งก็ถือว่านานเกินพอแล้ว ถ้าเทียบกับนายกฯของประเทศไทยที่ผ่านมา ทำสถิติสูงสุดเอาไว้แค่ 8 ปี

ดังนั้น เลยเขียนรัฐธรรมนูญกำหนดวาระของนายกฯเอาไว้ ไม่คาดคิดว่าจะเป็นกับดักกลับมาเชือดคอตัวเอง เหตุผลเกรงว่า เมื่อนายกฯอยู่ในอำนาจเกินกว่า 8 ปี จะเป็นการผูกขาดอำนาจ สำหรับระบอบประชาธิปไตยแล้ว ถือว่าการป้องกันอำนาจการผูกขาดหรือเผด็จการเสียงข้างมาก สอดคล้องกับหลักการของระบอบประชาธิปไตยแน่นอน ในหลายประเทศทั้งฝ่ายประชาธิปไตยหรือเผด็จการก็มีการกำหนดวาระการเป็นผู้นำเอาไว้ชัดเจน เหตุผลก็คงจะคล้ายๆกับรัฐธรรมนูญปี 60 แต่บางประเทศก็มีการซิกแซ็ก สลับการดำรงตำแหน่งระหว่างการเป็นนายกฯกับการเป็นประธานาธิบดี ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นผู้นำแบบไม่มีขีดจำกัด สิ้นเรื่องสิ้นราว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นประเทศที่เคยปกครองแบบลัทธิคอมมิวนิสต์ ส่วนโลกเสรีจะยอมรับกติกาอย่างเคร่งครัด ต่างกันตรงนี้

...

กรณีนี้ ถือว่า เป็นดาบสองคม สำหรับอนาคตทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ สมมติว่าแก้ไขสำเร็จ พล.อ.ประยุทธ์ก็สามารถเป็นนายกฯได้ยาวไป และสามารถที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญในการเอื้อประโยชน์ให้กับ ส.ว.ชุดนี้ที่จะครบวาระในปี 2567 ได้ยาวอยู่คู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ไปเรื่อยๆ เพราะถ้า พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีเสียง ส.ว. 250 สนับสนุน ก็ทำงานลำบาก จะปล่อยให้มีการเลือกตั้ง ส.ว. ตามรัฐธรรมนูญก็เรียบร้อยโรงเรียนการเมือง

แต่ในอีกมุมมอง อำนาจที่อยู่ในมือประชาชนไม่สามารถที่จะควบคุมได้ เมื่อปรากฏข่าวการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปลดล็อกนายกฯ 8 ปีที่มองแล้วว่า จะเป็นประโยชน์กับ พล.อ.ประยุทธ์ไปเต็มๆ อย่างไม่มีข้อสงสัย ชาวบ้านก็จะพากันใช้วิธีตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลม พากันเทคะแนนเลือกตั้งไปให้ฝ่ายตรงกันข้าม พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ฝันแลนด์สไลด์ของเพื่อไทยเป็นความจริง เช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่คนเทคะแนนให้กับชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นผู้ว่าฯ กทม. เพราะกลัวว่า ฝ่ายตรงกันข้ามจะเข้ามาเป็นผู้ว่าฯ ทีนี้แหละจะไม่มีทั้งสาม ป. Forever และนายกฯ Forever มีแต่แลนด์สไลด์เท่านั้น.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th