ประธานวุฒิสภา มอง อาจยุบสภาก่อนครบวาระเล็กน้อย ลั่น ทำงานอิสระไร้คนชักใย รับมีฉุนบ้างถูกกล่าวหารับงาน พอใจสภาสูงผ่านกฎหมายฉลุย สังคมไทยวิเคราะห์ ส.ว.แยกค่ายสังกัด 2 ป. เป็นสิทธิ์คิดได้

วันที่ 31 ธ.ค. 2565 นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการเมืองหลังปีใหม่ 2566 ว่า เป็นไปตามระบบที่สภาฯ อยู่ครบวาระ อาจจะยุบสภาก่อนเพียงเล็กน้อย แต่เป็นการเมืองที่ใช้ระบบรัฐสภาและหลักนิติรัฐอย่างน่าพอใจ ไม่ใช่ว่าเลือกตั้ง 1 ปีแล้วยุบสภา ประชาธิปไตยจะเดินได้ระบบเหล่านี้ต้องเดินไปได้ด้วย ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญขอให้แก้ไปตามระบบ ขณะกฎหมายที่ผ่านไปนั้น ผ่านไปได้ดี ถ้าเทียบกับที่ผ่านมาต้องพูดว่าดีมาก แต่หากพูดถึงความพึงพอใจ ถือว่าดีพอสมควร ซึ่งที่ผ่านมาติดตามการพิจารณาร่างกฎหมายมาโดยตลอด แต่ไม่นานก็ยุบสภาบ้าง เกิดปฏิวัติบ้าง ปัจจุบันเป็นอย่างที่เห็นถือว่าน่าพอใจ

จากนั้นผู้สื่อข่าวถามถึงความเป็นอิสระของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ไม่มีใครสั่งการได้ โดยเฉพาะการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายพรเพชร ตอบว่า ยืนยันได้ตนอิสระ ไม่เคยไปสั่งการใคร และรู้สึกไม่พอใจที่ถูกกล่าวหาว่าลุกไปรับโทรศัพท์รับงานระหว่างทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมร่วมรัฐบาล ทั้งที่ความจริงลุกไปเข้าห้องน้ำเท่านั้น

...

ส่วนคำถามว่าตลอดเวลาที่ทำหน้าที่ประธานวุฒิสภามา รัฐบาลได้ขอความร่วมมืออะไรมาบ้าง นายพรเพชร กล่าวว่า ไม่มี อาจจะไม่ใช่เป็นการสั่งแต่เมื่อกฎหมายเข้ามาแล้ว รัฐบาลจะสอบถามมาว่าจะเข้าเมื่อไหร่ เร่งได้หรือไม่ แต่การให้ ส.ว. ลงอย่างไร มีอยู่อย่างเดียวคือเรื่องรัฐธรรมนูญ แต่เขาไม่ได้มาบอกตน ตนใช้วิจารณญาณเอาเอง

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เคยต่อสายโทรศัพท์พูดคุยหรือไม่ นายพรเพชร ระบุว่า ต่อสายไม่ค่อยมี มีคุยเรื่องอื่น คุยธรรมดา แต่ พล.อ.ประวิตร ท่านไม่คุยด้วย ส่วนที่ตอนนี้มีการแบ่งฝ่าย ส.ว. เป็นของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร นั้น เรื่องนี้มีคนประทับตราให้ ส่วนตัวไม่ทราบ แต่เขาก็มีสิทธิ์ที่จะคิดเช่นนั้น เพราะ ส.ว.หลายคนเคารพนับถือ พล.อ.ประวิตร ตลอดมา อีกด้านหนึ่งก็ทำงานให้กับพล.อ.ประยุทธ์ ตลอดมา ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดา อย่างไรก็ตาม ตามรัฐธรรมนูญ ส.ว. ต้องวางตัวเป็นกลาง สำหรับตนวางตัวเป็นกลางอยู่แล้ว แต่ใครจะคิดอย่างไรก็คิดได้.