“ไชน่าอินเด็กซ์” จัดอันดับประเทศไทยติดอันดับ 4 จาก 82 ประเทศทั่วโลก ที่ได้รับอิทธิพลจากพี่เบิ้มจีน
โดยประเทศไทยได้รับอิทธิพลจีนสูงถึง 70 เปอร์เซ็นต์ รับแรงกดดันจากจีน 23 เปอร์เซ็นต์ และได้รับผลกระทบจากจีน 52 เปอร์เซ็นต์!!
ถ้าเทียบกลุ่มอาเซียนด้วยกัน ประเทศที่ได้รับอิทธิพลจีนสูงที่สุดอันดับ 2 คือกัมพูชา
อันดับ 3 สิงคโปร์ อันดับ 4 ไทย อันดับ 7 ฟิลิปปินส์ และอันดับ 10 มาเลเซีย
นี่เป็นมุมมองจากภายนอกที่มองประเทศไทยว่าเอียงขั้วฝ่ายจีนอย่างชัดเจน
“แม่ลูกจันทร์” มองว่า การที่ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจีนสูงเป็นอันดับ 4 ของโลก มีทั้ง “ข้อดี” และ “ข้อเสีย” กลั้วเกลี้ยพอๆกัน
แต่ข้อสำคัญคือไทยต้องหลีกเลี่ยงปัญหาขัดแย้งพี่เบิ้มจีน
อะไรที่หยวนๆกันได้ ก็ต้องยอมหยวนๆกันไป
ที่เห็นชัดๆคือการเซ็นสัญญาจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีนวงเงิน 13,500 ล้านบาท ซึ่งกำหนดเงื่อนไขต้องใช้เครื่องยนต์ดีเซลเอ็มทียู–396 ของเยอรมัน
แต่รัฐบาลเยอรมันไม่ยอมขายเครื่องยนต์ดีเซลให้จีนนำไปติดตั้งในเรือดำน้ำที่จีนต้องส่งมอบให้กองทัพไทย
ทำให้ปัญหายืดเยื้อมาแล้วกว่า 1 ปี!
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าต้นเหตุของปัญหาเกิดจากฝ่ายจีนไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขในการเซ็นสัญญา
รัฐบาลไทยจึงมีความชอบธรรมที่จะขอยกเลิกสัญญา และขอคืนเงินมัดจำ 7,000 ล้านบาท ที่จ่ายล่วงหน้าตามข้อตกลง
แต่ถ้าฝ่ายไทยจะยกเลิกสัญญาก็เกรงว่าจะกระทบสัมพันธไมตรีอันซี้ปึ้กกับพี่ใหญ่จีน
ทำให้โครงการจัดซื้อเรือดำน้ำลำแรกต้องล่าช้ามากว่า 1 ปี
แทนที่กองทัพเรือจะได้เรือดำน้ำเข้าประจำการปีหน้า ต้องเลื่อนกำหนดส่งมอบไปอีก 2 ปี
...
การส่งมอบล่าช้ากว่ากำหนด ทำให้ฝ่ายไทยเสียประโยชน์เต็มเปา!!
แถมฝ่ายจีนยังยื่นข้อเสนอ (ที่ยากจะปฏิเสธ) ให้รัฐบาลไทยยอมรับเครื่องยนต์ดีเซล ที่จีนผลิตเอง ติดตั้งในเรือดำน้ำแทนเครื่องยนต์ดีเซลของเยอรมัน
ทั้งๆเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นนี้ยังไม่เคยใช้กับเรือดำน้ำจีนมาก่อนเลย!!
ถ้ารัฐบาลไทยยอมรับเครื่องยนต์ดีเซลที่จีนผลิตเอง??
เราจะมั่นใจได้อย่างไร ว่าเครื่องยนต์ดีเซลที่ใช้ขับเคลื่อนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและชาร์จแบตเตอรี่เรือดำน้ำ จะมีประสิทธิภาพสูงแข็งแรงทนทานเท่ากับเครื่องยนต์ดีเซลของเยอรมัน?
แถมการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขสำคัญในสัญญา ทำให้ฝ่ายไทยได้สินค้าไม่ตรงปก กลับไม่มีการลดราคาลงมาแม้แต่บาทเดียว
ล่าสุด พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงว่ากองทัพเรือยังไม่ได้ตกลงใจตอบรับเครื่องยนต์ดีเซลจีน
โดยกองทัพเรือจะส่งทีมไปร่วมทดสอบประสิทธิภาพเครื่องยนต์ดีเซล ที่โรงงานผลิตเป็นเวลา 3 เดือน
นอกจากนี้ยังได้เพิ่มเงื่อนไขให้บริษัทผู้ผลิตเครื่องยนต์ดีเซลจีนต้องได้รับใบรับรองมาตรฐานสินค้าจากกองทัพเรือจีน
(ซึ่งกองทัพเรือจีนต้องออกใบรับรองมาตรฐานให้อย่างแน่นอน)
“แม่ลูกจันทร์” เชื่อว่าในที่สุดกองทัพเรือไทยจะตอบตกลงโอเค ยอมรับเครื่องยนต์ดีเซลจีน แทนเครื่องยนต์เยอรมัน
ส่วนเรือดำน้ำที่กองทัพเรือจะสั่งซื้อเพิ่มอีก 2 ลำ ก็ต้องจำใจใช้เครื่องยนต์จีนแทนเครื่องยนต์เยอรมันตามข้อเสนอของพี่เบิ้มจีน
ผีถึงป่าช้าแล้ว ไม่หยวนก็ต้องหยวนละคุณโยม.
“แม่ลูกจันทร์”