เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ความสุขในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หายไปจากสังคมไทย ตั้งแต่ โควิด-19 มาเยือน อย่างน้อยความสุขเล็กๆก็หายไป 3 ปี กลางปีที่ผ่านมา ชาวโลกเจอกับวิกฤติเศรษฐกิจ เริ่มจาก สงครามยูเครน-รัสเซีย กลายเป็นวิกฤติพลังงาน กระทบกับวิกฤติเศรษฐกิจ เกิดปัญหาเงินเฟ้อ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงนโยบายของ ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ลามไปจนถึงค่าเงินสกุลต่างๆ อัตราแลกเปลี่ยน การนำเข้า การส่งออก เป็นวัฏจักรเศรษฐกิจโลกขาลง ที่หนักกว่าวิกฤติเศรษฐกิจทุกครั้งที่เกิดขึ้นกับโลกใบนี้

ประเทศไทย จวนเจียนที่จะเกิดวิกฤติการเมืองทั้งในสภาและนอกสภาครั้งสำคัญ ไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง วิกฤติในสภา ยุทธการโค่นนายกฯ ที่ส่งผลกระทบไปถึง สถานะความสัมพันธ์ของสาม ป. ในวันนี้ ตามล้างตามเช็ดกันไม่เลิก เป็นความหวาดระแวงทางการเมือง ที่ต้องใช้กล้วยเข้าแก้ปัญหาทุกครั้ง

วิกฤตินอกสภา ก็ได้แก่ การที่ มวลชนคนรุ่นใหม่ ออกมาไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างต่อเนื่อง กลุ่มราษฎร การรวมตัวของนิสิตนักศึกษาทั่วประเทศที่ ไม่เห็นด้วยกับการสืบทอดอำนาจของ คสช. เริ่มทำกิจกรรมจากเบาไปหาหนัก ในขณะที่ รัฐบาล ใช้อำนาจรัฐทั้งจากฝ่ายความมั่นคงและกฎหมายอย่างเต็มที่ไม่มียั้ง ไม่มีการเจรจา วันนี้อาจเห็นภาพว่าฝ่ายราษฎรพ่ายแพ้ แต่ความพ่ายแพ้ถูกเก็บเอาไว้ จนตกผลึกจากเยาวชนคนรุ่นใหม่ไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง แนวทางปฏิรูปในอนาคต

ที่ต้องคิดเป็นการบ้าน เมื่อส่องขุมพลังของ คสช. ที่ร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองมาตั้งแต่ปี 2557 กลายร่างมาเป็นพรรคการเมืองและกลุ่มการเมือง ไม่มีพลังอำนาจ เหมือนในอดีต เมื่อต้องเล่นบนกติกาเดียวกันกับ พรรคการเมืองมืออาชีพ ความนิยมในตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ว่ากันว่า เป็นตัวดูดคะแนนนิยมจากชาวบ้านให้เลือกขั้ว คสช. เสื่อมลงจากหน้ามือเป็นหลังมือ

...

และเมื่อส่องไฟฉายเข้าไปใน รวมไทยสร้างชาติ โครงสร้างไม่ได้แข็งแรงและแข็งแกร่งเท่ากับเมื่อสร้าง พรรคพลังประชารัฐ ขึ้นมาในอดีต กำลังของกองหนุนที่เคยได้รับจากราชการและกองทัพ ไม่มีศักยภาพและเสถียรภาพเหมือนในอดีตเช่นกัน

ความเข้มแข็งกลับไปอยู่ในมือประชาชนและพรรคการเมืองอีกครั้ง

แม้แต่ ส.ส.ที่จะแยกจากประชาธิปัตย์ และพลังประชารัฐ ไปอยู่กับรวมไทยสร้างชาติ ที่มีพีระพันธุ์ เป็นหัวหน้าพรรค ก็ยังรู้สึกลังเล ชื่อพีระพันธุ์ ขายไม่ได้ ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ไม่สามารถเรียกคะแนนนิยมได้เหมือนเดิม ที่สำคัญบทบาท ผลงานที่ผ่านมาวัดจากวิกฤติครั้งสำคัญของประเทศเป็นบทพิสูจน์ว่าสิ่งที่เห็นไม่เหมือนกับสิ่งที่เชื่อ จนกระทั่งมีคำถามว่า รวมไทยสร้างชาติจะได้ถึง 25 เสียง พอที่จะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯหรือไม่

แต่ถ้าอยู่กับพลังประชารัฐหรือประชาธิปัตย์ได้เกินกว่า 25 เสียงชัวร์

และที่สำคัญคือจะไปจับมือกับพรรคการเมืองอื่นๆไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ไม่น่ามีปัญหา เพราะปัญหาไม่ได้อยู่ที่พรรคแต่อยู่ที่เงื่อนไขการไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ และ กปปส. ใช่ไม่ใช่.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th