เป็นเส้นทางเดินที่ยาวไกลของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” และคณะกับการผลักดันให้มีการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น

วันที่ 29-30 พ.ย.นี้ ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เพื่อยกเลิกบทบัญญัติในหมวด 14 การปกครองส่วนท้องถิ่น มาตรา 249-254 จะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา

ที่ “ธนาธร”–คณะก้าวหน้า–พรรคก้าวไกล ออกรณรงค์ภายใต้โครงการ “ขอคนละชื่อปลดล็อกท้องถิ่น” เชิญชวนบุคคลผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้าชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อขจัดอุปสรรคในการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น ที่เกิดจากรัฐธรรมนูญปัจจุบัน

จนสามารถรวบรวมรายชื่อประชาชนจากทุกพื้นที่ทั่วประเทศได้ 80,772 รายชื่อ ผ่านการรับฟังความคิดเห็นประชาชนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 77 เรียบร้อยแล้ว

บ่งชี้ได้ว่า มีประชาชนส่วนหนึ่งอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหารราชการของประเทศ อยากเห็นการกระจายอำนาจที่สมบูรณ์เกิดขึ้นในประเทศไทย

“เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอิสระในการกำหนดนโยบาย การบริหาร การจัดทำบริการสาธารณะ การบริหารงานบุคคล การเงินและการคลัง จัดทำและใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อแก้ปัญหาหน้าที่และอำนาจที่ซ้ำซ้อนกับราชการส่วนกลางและส่วนภูมิภาค และเพื่อให้ประชาชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ”

เป็นกรอบหลักการเพื่อจะนำไปสู่การ ปลดล็อกงาน ที่ถูกจำกัดไม่ให้สามารถทำงานตอบสนองความต้องการประชาชนได้อย่างเต็มที่

ปลดล็อกเงิน เพราะไม่มีเงินงบประมาณเพียงพอในการทำภารกิจและโครงการใหม่ๆ จากส่วนแบ่งรายได้ที่ไม่เท่าเทียม ส่วนกลางได้ 65% ท้องถิ่นได้ 35%

ปลดล็อกคน ท้องถิ่นขาดทรัพยากรคน และขาดความคล่องตัวในการบริหารงานบุคคล

...

ปลดล็อกอำนาจ ที่ถูกแทรกแซงอำนาจโดยส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ผ่านการออกระเบียบ คำสั่ง จนทำให้ท้องถิ่นไม่มีอิสระ แปลงสภาพจากการกำกับดูแล เป็นการบังคับบัญชา ขี่คอท้องถิ่น

สิ่งที่ประชาชนจะได้คือ ปัญหาในพื้นที่จะได้รับการตอบสนองทันท่วงที มีคุณภาพชีวิตที่ดีในบ้านเกิด ไม่ต้องเข้าสู่เมืองใหญ่ มีส่วนร่วมมากขึ้นในฐานะพลเมือง

ส่วนประเทศชาติก็จะได้ การระเบิดพลังทางเศรษฐกิจ และศักยภาพของประเทศครั้งใหญ่ เกิดการสร้างสรรค์นโยบายใหม่ๆ ที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่

ลดความเหลื่อมล้ำของเมืองหลวงและต่างจังหวัด ประเทศไทยจะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลกได้เร็วขึ้น และดีกว่า เพราะไม่ได้รวมศูนย์อำนาจ

“ธนาธร” เองก็คงรู้ตัวว่าโอกาสที่ร่างฉบับนี้จะแท้งก่อนรับหลักการมีสูง ยากที่จะฝ่าด่านอรหันต์พรรครัฐบาล และ ส.ว.ลากตั้งไปได้ ถึงได้ร่อนจดหมายเปิดผนึกถึงพี่น้องประชาชน ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น และข้าราชการท้องถิ่นทุกคน

ให้ช่วยกันรณรงค์ ส่งเสียงเรียกร้องไปยังสมาชิกรัฐสภากดดันให้รับหลักการร่างฉบับนี้ เพื่อเป็นสารตั้งต้นของการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น

ที่หลายคนตั้งคำถามว่า เหตุใดประเทศไทยจึงไม่สามารถไปได้ไกลกว่านี้

ทำไมเราจึงสตั๊น อยู่ในสถานะประเทศกำลังพัฒนา รายได้ปานกลางมา 30–40 ปี

รัฐราชการรวมศูนย์คงเป็นคำตอบได้ดี.

เพลิงสุริยะ