บอลโลกไม่ได้ดูสดๆกระแทกตา คนดูถูก นินทาเถิดเทิงแน่ ยังมองโลกแง่ดีว่าเป็นกุศโลบายสร้างฉากจบฟินเว่อร์ พระเอกขี่ม้าขาวฝ่าวงล้อมศัตรูมาชิงตัวนางเอกไปได้อย่างเหลือเชื่อ

ทำให้มันดูยากเย็นจวนเจียนสิ้นหวัง แล้วหักมุมปั้ง รัฐบาล “3 ป.” จัดให้เต็มคาราเบล ประทับใจทั้งประเทศ
นาทีนี้นาทีทอง หรือ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ค่ายภูมิใจไทยจะประกาศทุบโต๊ะเปรี้ยงปาดหน้าคว้าพุงปลาไปบริหารจัดการเบ็ดเสร็จ ก็คงไม่มีใครกล้าบอกว่าน่าเกลียด
ได้แต้มจากคนไทยทุกเพศ ทุกวัย ยิ่งใกล้เลือกตั้งต้องชิงเหลี่ยมกันทุกเม็ดอยู่แล้ว ประเภททุนใหญ่ใจป๋าไม่น่าพลาด ได้คะแนนตูมตามวันนี้ แถมเอาไปหาเสียงได้อีกยาว
เรื่องของเรื่อง สาเหตุปัญหามาจากความล่าช้าไม่ใส่ใจ ทำเหมือนธุระไม่ใช่
ประเทศเพื่อนบ้านเขาได้ลิขสิทธิ์กันไปเรียบร้อยตั้งแต่ต้นปี แล้วเราทำอะไรกันอยู่

...
พอยต์คือไม่มีเจ้าภาพหลัก ติดกับดักกฎหมาย Must Have และ Must Carry โดย กสทช. อีกแล้วครับท่าน ความวัวยังไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก เรื่องควบรวม “ทรู-ดีแทค” ยังนัวเนียในชั้นศาลอยู่เลย
คำสั่ง ระเบียบ หลายอย่าง อ้างเจตนาป้องโกง แต่เข้าตำรา “คนทำไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ทำ” เสียเวลา โอกาส ต้องตามล้างตามเช็ด ตีเป็นมูลค่าแล้วเสียหายยิ่งกว่า
เรื่องลิขสิทธิ์บอลโลกลีลาเยอะจนโดนโก่งราคาลิขสิทธิ์ไปไกลถึง 1,600 ล้านบาท ตอนนี้ตาลีตาเหลือกไฟลนก้น แต่ก็ไม่กล้าควักเกิน 600 ล้าน ราคามาตรฐานที่ประเทศเพื่อนบ้านได้ไปตั้งแต่ไก่โห่ กลัวโดนด่าผลาญภาษี
สุดท้ายต้องบากหน้าไปเรี่ยไรเอกชน บริหารจัดการกันแบบนี้ยังไงก็โดนด่าทั้งขึ้นทั้งล่อง
เห็นแล้วหงุดหงิด หันไปโฟกัสที่งานใหญ่ประชุมเอเปก คำถามยังวนเวียนอยู่ที่ไทยได้อะไรในแง่มหภาค เวทีโลก
สมาชิก 21 เขตเศรษฐกิจ ขนาดของ GDP ปริมาณการค้าเกิน 50% ของโลก ตลาดใหญ่ขนาดนี้ อย่าว่าแต่ฟื้นเศรษฐกิจไทย พลิกฟื้นเศรษฐกิจโลกยังได้ แต่แก่นคือ ประเทศไทยเราตักตวง ไขว่คว้าโอกาสมาได้แค่ไหน

ถ้ายังคิดวนเวียนอยู่แค่ soft power ก็หน่อมแน้มไปหน่อย และประเด็นมันดันไปอยู่ที่ปม “ดราม่าปลาเค็ม” ซะงั้น อ่านข่าวกันไปแบบฮาๆ แต่น้ำตาไหล เพราะมันหมายความว่าไม่มีเรื่องใหญ่ เรื่องสำคัญให้โฟกัสเลย
ชาวบ้านร้านตลาดทั่วไปได้ยินทุกครั้งบนเวทีระดับโลก คือแนวทางสวยหรูชูประเด็นลดโลกร้อน แต่ไม่เคยรู้เลยว่าจะแก้ปัญหาร้อนเงินกันยังไง
เลยไม่รู้จะสนใจไปทำไม อยากรู้แค่ว่าจะได้หยุดงานวันไหนบ้างแค่นั้น
และดูเหมือนว่าเวทีใหญ่ประเทศไทยจะไม่ได้ถูกโฟกัสให้ความสำคัญจากชาติมหาอำนาจ หรือชาติใหญ่ๆ ระดับบิ๊กไปพบกันเวทีรอง เวทีย่อยกันหมดแล้ว
งานนี้ต้องมีหน้าชากันบ้าง ตั้งความหวังไว้เยอะ วาดฝันสร้างเกียรติยศชนิดที่โลกต้องจำ แต่ดูทรงแล้วไม่ “พรีเมียม” อย่างที่คิด
สุดท้ายต้องถามว่านอกจากมีชื่อเป็นเจ้าภาพ ยังมีสิ่งอื่นอีกไหมให้ได้จดจำ
งานนี้ถือเป็นเดิมพันสุดท้ายของรัฐบาล ผลงานจะชี้วัดว่าควรอยู่ต่อหรือพอกันที
การเคลื่อนไหวของม็อบต่อต้านตอนนี้ ถูกตั้งแง่ไปในทางสร้างความเดือดร้อนรำคาญ ไม่รู้กาลเทศะ เป็นอุปสรรคขัดขวาง ตะบันค้านทุกเรื่อง แต่พอหลังจบงานความคิดคนไทยอาจเปลี่ยนไปสิ้นเชิง

ถ้าทำเสียของ จัดประชุมระดับโลกแล้วคว้าน้ำเหลว รัฐบาลจะยิ่งเสียเรตติ้งกันไปใหญ่
สูงสุดคืนสู่สามัญ ถ้าเอเปกไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน รัฐบาลหนีไม่พ้นต้องงัดไม้ตายขายผ้าเอาหน้ารอด
หว่านนโยบายประชานิยมอัดใส่มือชาวบ้านช่วงโค้งสุดท้ายปลายเทอม หรืออาจต้องจัดหนักกว่า ราวกับเป็นรัฐสวัสดิการยังไงยังงั้น เพื่อชดเชยปะผุ
และเมื่องานใหญ่ไม่ปัง แผนแยกค่ายแข่งกันใหญ่ของ “2 ป.” อาจต้องล้มเลิก
เพราะมีโอกาสแยกกันไปตาย ขายขี้หน้ามากกว่า
“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อาจต้องเรียก “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เข้ามาจับเข่าคุย
เหมือนที่เคยทำมาทุกครั้ง เมื่อ “3 ป.” อาการไม่ดี ส่อไปไม่รอด
ต้องกอดคอประคองอำนาจกันต่อไปอย่างทุลักทุเล.
ทีมข่าวการเมือง