สายตรง “บิ๊กตู่” รับไม่ได้เสียงเย้ยหยัน “หมดลุงตู่ สู่ลุงป้อม” ขายไม่ออก “เฮ้ง” โบ้ยแค่สมาชิกพรรคพูดกันไปเอง พรรคไม่ได้คุย “ชัยวุฒิ” ยัน พปชร.ยังหนุน “บิ๊กตู่” วันนี้แคนดิเดตนายกฯยังชื่อ “ประยุทธ์” “ธนกร” อ้างนิด้าโพลคนใต้ยังเทใจ ให้ “ลุงตู่” ฟุ้งหลังเลือกตั้งได้กลับมาแน่ “รงค์” สวน พท.หาคนนำทัพตัวจริงให้ได้ก่อน โอ่แคนดิเดตนายกฯ พปชร.มีเยอะแยะ นายกฯนิ่งปรับ ครม.ยังไม่ได้ทำอะไร “จุรินทร์” ส่งชื่อ “นริศ” แล้วรอดุลพินิจผู้นำ พท.โวยรัฐบาลไม่ช่วย ปชช. “อุ๊งอิ๊ง” ไปอุบลฯให้กำลังใจชาวบ้าน อัดนโยบาย 3 ป. “แก้ปากท้อง-ป้อง ปชต.-หัวใจคือประชาชน” สู้ศึกเลือกตั้ง “ชลน่าน” แบไต๋พร้อมจับมือ พปชร.ตั้งรัฐบาล เงื่อนไขต้องไม่สนับสนุน “ประยุทธ์” “สุดารัตน์” ขอปักธงพรรคของคนอีสาน ลั่น 3 ปีแก้จน เริ่มต้นพักหนี้เติมทุน ออกหวยบำเหน็จ ซื้อเท่าไหร่อายุ 60 ปีได้คืนจากกรณีนายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช และกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำเสนอกลยุทธ์ “หมดลุงตู่ สู่ลุงป้อม” เพื่อการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น จนทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ในเชิงลบ ล่าสุดแกนนำพรรค พปชร.สายใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ต่างออกมาปฏิเสธว่าเป็นเรื่องที่สมาชิกพรรคพูดกันไปเอง พรรคยังไม่มีการหารือกัน “เฮ้ง” โบ้ยหมดลุงตู่ สู่ลุงป้อมพูดกันเองเมื่อวันที่ 23 ต.ค. นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึง การประชุมพรรคพลังประชารัฐในวันที่ 27 ต.ค. เพื่อสรุป ผลงานของพรรค ว่า คณะกรรมการบริหารพรรคคงจะ มีการชี้แจง ส่วนการเตรียมพร้อมของพรรค ในการจัดทัพ สู้ศึกเลือกตั้งนั้น ยังไม่ได้คุยอะไรกันเลย คงต้องรอ ความชัดเจนสักนิด เมื่อถามถึงกรณีนายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช และกรรมการบริหารพรรค พปชร. เสนอสูตรหาเสียง “หมดที่ลุงตู่ สู่ลุงป้อม” นายสุชาติกล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าอาจจะเป็นการพูดกันเองหรือไม่ ยืนยันว่าไม่มีวันนี้แคนดิเดตนายกฯยังชื่อ “บิ๊กตู่”ด้านนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพปชร.กล่าวว่า ไม่ทราบที่มีการเสนอสูตรหาเสียง “หมดที่ ลุงตู่ สู่ลุงป้อม” และยังไม่ได้คุยกันในพรรค เมื่อถามว่า ได้แพลนว่าจะเป็นแคมเปญหาเสียงของพรรคต่อไป หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า ไม่ทราบ พรรคยังไม่ได้คุยกัน เป็นเรื่องที่ต้องถามทางผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรรมการบริหารพรรค แต่ขอยืนยันว่าพรรค พปชร.ยังเป็นพรรคหลักของรัฐบาลและสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ในการทำงานเดินหน้าสร้างผลงานดูแลพี่น้องประชาชน ให้เต็มที่ เชื่อว่าผลงานรัฐบาลจะนำไปสู่การเลือกตั้งที่ทำให้ประชาชนยอมรับ และประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง ก็มาจากการทำงานของเรา วันนี้อย่า เพิ่งไปพูดถึงประเด็นการเมือง เป็นช่วงเวลาที่เราต้องเร่งทำงานให้ประชาชนให้ดีที่สุดก่อน เมื่อถามว่า ถึงวันนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวแคนดิเดตนายกฯ พรรค พปชร.หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ทุกวันนี้ยังเป็น พล.อ.ประยุทธ์27 ต.ค. เปิดว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปักษ์ใต้เมื่อถามว่า แสดงว่าวันนี้พรรค พปชร.ยังไม่ได้ เร่งในส่วนของนโยบายใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า เราเน้นทำงาน ทุกอย่างที่ทำไปคือนโยบายของรัฐบาล และเป็นนโยบายของพรรค ขอให้ดูที่ผลงานและสิ่งที่ เราทำ เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจ ถ้าให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลมีหลายอย่างที่ดีขึ้นและพัฒนาไปมาก เมื่อถามว่าสูตรที่ออกมาไม่ได้หยั่งเสียงประชาชน ใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าว ยังไม่รู้ว่าใครพูดเลย สมาชิก พรรคทุกคนแสดงความเห็นได้ แล้วแต่เป็นความคิด ที่แตกต่างหลากหลาย แต่สุดท้ายขึ้นอยู่กับผู้บริหารพรรคและผู้หลักผู้ใหญ่ที่จะพูดคุยกัน ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากทุกคนมุ่งมั่นจะทำงาน ยังรักและสามัคคีเดินหน้าทำงานร่วมกันเพื่อให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำมาถือว่าประสบความสำเร็จในทุกเรื่อง ส่วนวันที่ 27 ต.ค. ที่จะประชุม สรุปผลงานพรรค จะมีการแถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พื้นที่ภาคใต้ด้วย ไม่ได้มีนัยสำคัญอะไรยอมรับถิ่นสะตอจุดแข็งที่มั่น ปชป.นายชัยวุฒิกล่าวว่า ขอบคุณพี่น้องชาวภาคใต้ ที่ยังเชื่อมั่นและให้ความนิยม พล.อ.ประยุทธ์เป็นอันดับหนึ่ง จากนิด้าโพล เรื่อง “คนที่ใช่ พรรคที่ชอบ ของคนใต้” สะท้อนให้เห็นถึงการสนับสนุนรัฐบาล เชื่อมั่นว่าจะเป็นกำลังใจให้รัฐบาลตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนอย่างดีที่สุด ส่วนที่คนใต้สนับสนุนพรรค ปชป.เป็นอันดับหนึ่ง ต้องยอมรับว่าพรรค ปชป.เป็นพรรคที่คุ้นเคยกับพี่น้องชาวภาคใต้มานาน และเชื่อมั่นพรรค ปชป.อยู่แล้วเป็นส่วนใหญ่ ถือเป็นจุดแข็งของพรรค ปชป. ส่วนพรรค พปชร.พยายามเต็มที่ ส.ส.ดูแลรับใช้พี่น้องประชาชนอย่างแข็งขัน เพราะอยู่ในช่วงที่ประชาชนต้องการความช่วยเหลือ ทั้งจาก น้ำท่วม คุณภาพชีวิต ขอให้เชื่อมั่นการทำงานของ พรรค พปชร.ด้วย“รงค์” โต้ พท.หาแคนดิเดตให้ได้ก่อนนายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช และกรรมการบริหารพรรค พปชร. กล่าวถึงกรณีพรรค เพื่อไทยวิจารณ์กลยุทธ์ “หมดลุงตู่ สู่ลุงป้อม” ของ พรรค พปชร. ว่า เป็นกลยุทธ์แต่ละพรรคจะเสนออะไร ประชาชนจะเห็นด้วยหรือไม่ ผ่านการออกเสียงวันเลือกตั้ง การมาบอกพรรคใดดีหรือไม่ดี เป็นการบูลลี่ทางการเมือง เอาดีเข้าตัว เอาความไม่ได้เรื่องเข้าคนอื่น ทุกพรรค การเมืองมีทั้งจุดอ่อนและจุดแข็ง อย่างพรรคเพื่อไทย ถึงวันนี้ยังบอกไม่ได้ว่าแคนดิเดตนายกฯคือใครควรเอาสิ่งที่คิดออกมาขายให้ประชาชน ประชาชนจะได้ไม่สับสน ส่วนแคนดิเดตนายกฯพรรค พปชร.มีเยอะแยะ มีความพร้อม ความสมบูรณ์จะทำอะไรได้ มากมาย ขึ้นอยู่กับจะเอาใครที่เหมาะสมในสถานการณ์แล้วขายในสิ่งที่ประชาชนต้องการ“ธนกร” ฟุ้ง “ลุงตู่” ได้กลับมาแน่นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร.กล่าวถึงกรณี “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิต พัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เผยผลสำรวจประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม เป็นบุคคลที่คนใต้จะสนับสนุนให้เป็นนายกฯวันนี้ว่า การบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์พิสูจน์ให้เห็น ผ่านโพลแล้ว โดยเฉพาะคนใต้ที่ได้เห็นถึงความจริงจัง มุ่งมั่นแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน จึงต้องการ ให้กลับมาบริหารประเทศอย่างต่อเนื่องอีกครั้งสมัยหน้า เหนือกว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พรรคเพื่อไทย ที่ชูนักหนาว่าเป็นคนรุ่นใหม่ รวมถึงนายเศรษฐา ทวีสิน ที่คนใต้แทบจะนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าทำอะไรเพื่อประเทศมาบ้าง ดังนั้น ในการเลือกตั้งสมัยหน้า หากประชาชนโดยเฉพาะคนใต้ได้เห็นนโยบายของพรรค พปชร. ที่ถูกคิดมาเพื่อคนไทยทุกกลุ่มแล้ว เชื่อว่าจะทำให้พรรค พปชร.ได้ ส.ส.เพิ่มมากขึ้นด้วย ไม่เว้นแม้แต่ภาคใต้ และจะกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง แน่นอน เชื่อว่าทั้ง พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. เข้าไปนั่งอยู่ในใจพี่น้องคนใต้แล้ว เพราะทั้ง 2 ท่านทำการเมืองเพื่อประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม เน้นแก้ปัญหา ทำมากกว่าพูด ไม่เน้นเกมการเมือง นายกฯนำ ครม.วางพวงมาลา ร.5เมื่อเวลา 08.15 น. ที่พระบรมราชานุสรณ์ พระลานพระราชวังดุสิต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม วางพวงมาลาเนื่องใน วันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในนามนายกฯ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย ร่วมวางพวงมาลา โดยตั้งแต่ช่วงเช้ามีหน่วยงานราชการ ข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา ภาคเอกชน ประชาชนทุกหมู่เหล่า รวมทั้งนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา สมาชิกพรรค ประชาธิปัตย์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มาวางพวงมาลาและถวายบังคมพระบรมราชานุสรณ์ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวอย่างพร้อมเพรียงบอกปรับ ครม.ยังไม่ได้ทำอะไรจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์สั้นๆถึงการปรับ ครม. ได้นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯในตำแหน่ง รมช.มหาดไทยแล้วหรือยัง โดย พล.อ.ประยุทธ์ส่ายหัวและกล่าวว่า ยังไม่ได้ทำอะไร เมื่อถามย้ำว่าจะเสร็จก่อนการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ตอบคำถาม จากนั้นขึ้นรถยนต์เดินทางกลับ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายกฯกำลังจะเดินทางกลับ ได้มีประชาชนตะโกนให้กำลังใจ “นายกฯสู้ๆ” พล.อ.ประยุทธ์ จึงหันไปตอบว่า “ขอบคุณจ้า รักทุกคนนะ ขอให้โชคดี วันมงคลนะครับ ขอให้คิดและ พูดแต่เรื่องดีๆ”“จุรินทร์” รอดุลพินิจนายกฯนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงสัญญาณในการปรับ ครม. หลังจากพรรคส่งชื่อนายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง เป็น รมช.มหาดไทยแล้วเป็นอย่างไรบ้างว่า ยังไม่มีสัญญาณอะไร ตนเพียงแต่ส่งชื่อให้นายกฯไปแล้ว จากนี้เป็นดุลพินิจของนายกฯจะพิจารณาดำเนินการอย่างไร เมื่อไหร่ คงต้องเป็นไปตามดุลพินิจของนายกฯต่อไป ส่วนกรณีทีม กทม.ของพรรคลงพื้นที่ต่อเนื่อง เป็นภารกิจของพรรคที่ผูกพันกับชาว กทม.มายาวนาน เราให้ความสำคัญพื้นที่ กทม.ไม่แพ้พรรคอื่น เคยมีผู้แทน กทม.มาทุกยุคทุกสมัย ยกเว้นคราวที่แล้วที่ไม่ได้เลย แต่จากการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ชาวกรุงเทพฯ ตอบรับพรรคดีขึ้นในระดับน่าพอใจ เราวางตัวผู้สมัคร ส.ส.มาก่อนแล้ว ตัดสินใจไปหลายเขต ยกเว้นบางเขต เช่น เขตใหม่ที่ยังต้องรออีกระยะหนึ่งว่าจะเพิ่มเติมอย่างไร มั่นใจว่าคราวหน้าเราจะได้เสียงตอบรับจากชาวกรุงเทพฯดีขึ้นมากสะกิด กกต.คลายกฎช่วยน้ำท่วมนายจุรินทร์ยังกล่าวถึงกรณีพรรคร่วมรัฐบาลโยนกลองหน้าที่การแก้ปัญหาน้ำท่วมว่า พรรค ปชป.ไม่ได้ไปโยนให้ใคร รัฐบาลมีผู้รับผิดชอบชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นใคร เห็นว่าผู้รับผิดชอบพยายามทำหน้าที่อยู่ พล.อ.ประวิตรถือเป็นหัวเรือใหญ่ทำหน้าที่อยู่ หลายหน่วยงานต้องเข้ามาช่วยกัน ทั้งจังหวัดและท้องถิ่น เพราะน้ำท่วมไม่ได้ขีดวงเฉพาะตามระเบียบราชการ ตามหน่วยราชการ ตามจังหวัด หรือการปกครองส่วนท้องถิ่น สำคัญที่สุดต้องแก้แบบบูรณาการ เห็นใจพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม หลายพื้นที่ท่วมขังมานาน แต่นักการเมืองมีข้อจำกัด ผู้สมัคร ส.ส.และผู้ประสงค์จะลงสมัคร ส.ส.ไม่สามารถลงไปในพื้นที่ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ได้ นอกจากไปเยี่ยมเยือนเท่านั้น เพราะติดระเบียบ กกต. หากทำอะไรได้มากกว่าการเยี่ยมเยือนจะเป็นเรื่องที่ดี จะได้ช่วยกันคนละไม้ละมือ เมื่อถามว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เรียกร้อง กกต.คลายล็อกการช่วยเหลือประชาชนไปรอบหนึ่งแล้ว นายจุรินทร์กล่าวว่า ต้องอยู่ที่ กกต.ต้องไปพลิกกฎหมายดูว่าจะทำให้คนอีกกลุ่มหนึ่งที่มีศักยภาพ ไปช่วยบรรเทาทุกข์ร่วมกับรัฐบาล หรือคู่ขนานไปกับรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐได้หรือไม่ภท.เอาแน่พักหนี้ 3 ปีหยุดต้น-ดบ.นายภราดร ปริศนานันทกุล โฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. เสนอมาตรการ “พักหนี้ 3 ปี เป็นการพักหนี้ แบบหยุดต้น ปลอดดอกเบี้ย คนละไม่เกิน 1 ล้านบาท” ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมว่า ประชาชนในพื้นที่ต้องการมาก เพราะน้ำท่วมครั้งนี้กระทบวงกว้างไม่เฉพาะ จ.อ่างทอง กระทบการทำมาหากิน โดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกร ต้องรีบลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชนมีโอกาสหายใจและตั้งตัวได้ จึงเสนอให้พักหนี้ 3 ปี โดยผู้เข้าร่วมโครงการจะไม่มีภาระดอกเบี้ย ซึ่งเวลา 3 ปี ถือว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม ต้องยอมรับว่าเป็นสถานการณ์อุทกภัย แต่ส่วนหนึ่งคือการบริหารจัดการน้ำที่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขัง ประชาชนต้องเดือดร้อนเป็นวงกว้าง รัฐบาลต้องเยียวยาให้เกษตรกรกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม มาตรการนี้ที่จะทำให้เกษตรกรกลับมาลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง “อุ๊งอิ๊ง” สวมชุดอินเดียชมงานดิวาลีเมื่อเวลา 17.00 น. ที่คลองโอ่งอ่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค เพื่อไทย พร้อม ส.ส.กทม. เดินทางร่วมงานเทศกาลดิวาลี ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นเมืองอินเดีย แสง สี เสียง สไตล์บอลลีวูด ชิมอาหารอินเดีย-ไทย โดย น.ส.แพทองธาร และคณะ สวมชุดสไตล์อินเดียเข้าสักการะพระพิฆเนศและพระลักษมี ที่นำมาประดิษฐาน ให้ประชาชนสักการะในงาน พร้อมพบปะทักทายประธาน VHP Mr.Susheel Sarraff เจ้าของกลุ่ม Saraff ประกอบด้วยอัญมณี เครื่องประดับ และโรงไฟฟ้า และนายชวน ฐกูร นายกสมาคมอินเดียแห่งประเทศไทย ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ Mr. Ravi Sehgal ประธานหอการค้าไทยอินเดีย ITCC ที่มา ต้อนรับ ก่อนเยี่ยมชมบูธต่างๆ โดยมีประชาชนให้ ความสนใจและถ่ายภาพเป็นจำนวนมากลุยอุบลฯรับฟังชาวบ้านน.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า น้ำท่วมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บางพื้นที่หนักกว่าปี 2554 และปี 2562 เช่น จ.อุบล ราชธานี ประชาชนทนน้ำท่วมนานเกือบ 4 เดือน แต่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐเท่าที่ควร นายกฯไม่มีข้อจำกัดถูกผูกมัดด้วยกฎเหล็ก 180 วันของ กกต.เหมือน ส.ส.และพรรคการเมือง แต่ลงพื้นที่ไปแค่รับฟังรายงานจากหน่วยงานเฉพาะหน้า ไร้มาตรการช่วยเหลือเร่งด่วน พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านไม่นิ่งดูดาย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์หลายจังหวัด มีข้อเสนอแนะแก่รัฐบาลไปแก้ปัญหาให้ตรงจุดทันท่วงที แต่ไม่ได้รับการตอบรับ ดังนั้นวันที่ 24 ต.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อม ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทยจะลงพื้นที่ให้กำลังใจรับฟังปัญหาชาวอุบลราชธานี นายกฯควรเร่งเยียวยา ช่วยเหลือประชาชนโดยด่วน อย่าลืมน้ำท่วมไม่ได้หยุดเสาร์-อาทิตย์เหมือนรัฐบาลพท.เข็นนโยบาย 3 ป.สู้ศึก ลต.นายนพดล ปัทมะ รองประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรค พท. กล่าวว่า ไม่ว่าแคนดิเดต นายกฯพรรค พปชร.จะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรค พปชร. พรรคพท.สะดวกแข่งกับทุกคนทุกพรรค พรรคเพื่อไทยขอเอาเวลาไปนำเสนอนโยบายแก้ไขความทุกข์ยากประชาชน โดยเฉพาะปัญหาปากท้อง ถ้าได้เป็นรัฐบาลพรรคเพื่อไทยมีแนวทางชัดเจนแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ ทั้งการสร้างรายได้ สร้างโอกาส สร้างความสามารถการแข่งขัน สร้างคุณภาพและความมั่นคงของชีวิตปากท้อง-ปชต.-ปชช.สำคัญสุด“พรรคเพื่อไทยจะประกาศสงคราม 4 ปัญหาใหญ่คือ สงครามความยากจน สงครามความเหลื่อมล้ำ สงครามความถดถอยแข่งขันไม่ได้ และสงครามยาเสพติด พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับนโยบายที่สัญญากับประชาชน จะทำตามที่พูด ไม่เบี้ยว ส่วนพรรคใดเบี้ยวไม่ทำตามนโยบาย ประชาชนคงจำได้ คงจะให้คำตอบผ่านการกาบัตรเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคใดจะเสนอ 2 ป.หรือ 3 ป.สุดแล้วแต่ ส่วนพรรคเพื่อไทยมุ่งเดินหน้าแก้ปัญหา 3 ป.ของเพื่อไทยคือ แก้ปากท้อง ป้องประชาธิปไตย และหัวใจคือประชาชน” นายนพดลกล่าวเย้ยคนไทยไม่เอา “ลุงตู่” สู่ “ลุงป้อม”นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรี ธรรมราช และกรรมการบริหารพรรค พปชร. เสนอสูตร “หมดลุงตู่ สู่ลุงป้อม” ว่า พรรคเพื่อไทยขอตั้งคำถามว่า ไปถาม 3 ป.หรือยัง เรื่องนี้เป็นวิธีคิดแต่ละพรรค ขอไม่แสดงความคิดเห็น ในทางการเมืองมีสิทธิเสนอได้แต่ต้องถามประชาชนเห็นด้วยหรือไม่ จาก “ลุงตู่” สู่ “ลุงป้อม” ผลัดกันเป็นนายกฯคนละ 2 ปี ถ้าประชาชนเลือก แสดงว่าประชาชนต้องการ ถ้ามองในมุมพรรคเพื่อไทย คิดว่าประชาชนไม่เลือก 8 ปีที่ผ่านมา ประชาชนเจอวิกฤติจากการบริหารงานรัฐบาลชุดนี้ ไม่สามารถออกจากวิกฤติได้ จะส่งต่ออย่างไร ถ้าประชาชนไม่เลือก อยากให้ส่งต่ออย่างนี้ พรรคเพื่อไทยได้ประโยชน์ ประชาชนจะมีข้อตัดสินใจที่ชัดเจน โดยเลือกพรรคเพื่อไทยไม่ปิดทางจับมือ พปชร.ตั้ง รบ.เมื่อถามว่า ถ้าเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. จะสร้างความหนักใจให้พรรค พท.หรือไม่ นพ.ชลน่านตอบว่า ไม่กังวล พรรค พท.พร้อมแข่งทุกพรรค ไม่ว่าระบบจะเป็นอย่างไร ระบบร้ายที่สุดผ่านมาแล้ว แต่ พล.อ.ประวิตรมีข้อดีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯในมุมความเป็นการเมือง เข้าใจประชาชน เข้าถึงสภาพปัญหา มีความเป็นมนุษย์ มีความเห็นอกเห็นใจสูงกว่า เมื่อถามว่าหาก พล.อ.ประวิตรดีกว่า จะมีโอกาสจับมือกับพรรค พท.หรือไม่ นพ.ชลน่านตอบว่า ขอประกาศก่อนเลือกตั้งจะไม่ประกาศจับมือพรรคใด เราเคารพประชาชน ถ้าประกาศไปก่อน จะเป็นการนำสิ่งที่ประชาชนไม่เห็นด้วยไปบังคับให้เขาไม่มีทางเลือก ตั้งเงื่อนไขต้องไม่หนุน “ประยุทธ์”นพ.ชลน่านกล่าวว่า หลังเลือกตั้งเมื่อผลคะแนนออกมา ถ้าประชาชนไว้วางใจ พท.แลนด์สไลด์เกิน 250 เสียง เรากำหนดทิศทางได้จะเลือกพรรคใดมาทำหน้าที่รัฐบาล เงื่อนไข 1.มีอุดมการณ์เช่นเดียวกัน 2.ไม่เลือกพรรคสนับสนุนเผด็จการ และสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ 3.การทำงานร่วมกัน เอานโยบายมาสอดประสานเป็นนโยบายรัฐบาล การเจรจาเข้ามาทำงานกระทรวงต่างๆ ถ้าพรรค พปชร.มีเงื่อนไข 3 ข้อนี้ พรรค พท.พิจารณาได้ ยืนยันพรรคใดสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ไม่ขอทำงานด้วย แคนดิเดตนายกฯพรรค พท.เป็นกลไกและกลยุทธ์สำคัญที่จะให้ตัดสินใจ จาก 1.นโยบาย 2.แคนดิเดตนายกฯ 3.ตัวผู้สมัคร ส.ส. นี่คือความเข้มแข็งของพรรค พท. มั่นใจถ้าประกาศชื่อแคนดิเดตนายกฯ พรรค พท.จะตอบโจทย์ปัญหาที่ประชาชนต้องการขณะนี้ทุกมิติ โดยเฉพาะเศรษฐกิจปากท้อง การเมือง สังคมและสิ่งแวดล้อมหึ่ง “ไพจิต” พท.ส่อย้ายซบ ภท.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท.ไปร่วมแสดงความยินดีกับนายภาคิน คำวิลัยศักดิ์ หรือโตโน่ นักร้องและนักแสดงชื่อดังที่ทำกิจกรรมว่ายน้ำโขงระดมเงินซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้ รพ.นครพนม และ รพ.แขวงคำม่วน สปป.ลาว เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ช่วงสายวันที่ 23 ต.ค.นายอนุทินพร้อมนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาคนที่ 2 และ ส.ส.นครพนม พรรคภท.ได้ไปกราบสักการะพระธาตุพนม จ.นครพนม มีนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนมหลายสมัย พรรค พท.มาต้อนรับ เป็นที่น่าสังเกตว่านายไพจิตมีแนวโน้มจะมาร่วมกับพรรค ภท. เนื่องจากได้ส่งนายชูกัน กุลวงษา รองนายก อบจ.นครพนม และอดีต ส.ส.พรรค พท.คนใกล้ชิดมาลงสมัคร ส.ส.เขต 4 นครพนมในนามพรรค ภท.แล้วเจ้าตัวโวยข่าวปั่นดิสเครดิตด้านนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีข่าวบิดเบือนว่าตนจะย้ายไปซบพรรค ภท. ขอยืนยันจุดยืน 32 ปีไม่เคยเปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ยึดมั่นประชาธิปไตย ให้มั่นใจไม่ใช่คนหักหลังใคร เชื่อมั่นว่าพรรค พท.ยังเป็นความหวังของประชาชน ไม่เคยมีความคิดดังกล่าว ยังต้องการจะขับเคลื่อนสนับสนุน พรรค พท.พัฒนาร่วมกับชาวนครพนม ที่ให้ความไว้วางใจตลอดมา 11 สมัย ไม่เคยจะหนีจากพรรคเพื่อไทย เมื่อเช้าวันที่ 23 ต.ค. มีโอกาสไปร่วมทำบุญที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พื้นที่เขตเลือกตั้งของตน บังเอิญไปพบปะนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ หัวหน้าพรรค ภท. ที่มาทำบุญขอพรที่วัด พร้อมนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯกับทีมงาน จึงทักทาย เชิญถ่ายรูปร่วมกัน ในฐานะคนรู้จักและเป็นผู้ใหญ่ในแวดวงการเมือง สุดท้ายกลับถูกนำเสนอข่าวบิดเบือน เชื่อว่าเป็นการหวังดิสเครดิตของคนบางกลุ่ม สร้างความแตกแยกให้ ส.ส.พรรค พท. เลือกตั้งสมัยหน้าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นยืนยันจะทำงานกับพรรค พท. ไม่เกี่ยวกับการเมืองท้องถิ่นที่ผ่านมา ต้องแยกให้ออกเสรีรวมไทยไปต่อไม่ควบรวมใครพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคเสรีรวมไทยจะควบรวมกับพรรคการเมืองอื่น ในการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า ยอมรับมีพรรคอื่นมาทาบทามไปอยู่ด้วย เพราะอยากได้ตน ทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคไทยสร้างไทย แต่ได้สร้างพรรคเสรีรวมไทยมาหากไปอยู่พรรคอื่น แล้วลูกน้องจะไปอย่างไร ทิ้งลูกน้องไม่ได้ ถ้าตนไปแล้วลูกน้องจะเอาเงินเดือนที่ไหนกินใช้ มันก็ลำบากในการตัดสินใจ แต่ไม่เอาประโยชน์ส่วนตน ยึดส่วนรวมก่อน ได้แค่ไหนก็แค่นั้น ไม่ย้ายหรือไปควบรวมกับพรรคไหน ขอเดินหน้าต่อ“สุดารัตน์” ลั่นปักธงพรรคคนอีสานที่ อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรค นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รองหัวหน้าพรรค พร้อมนายธนวณิช ชัยชนะ นายยุทธพงษ์ แสงศรี และนายณัฐพล เนื่องชมภู ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บึงกาฬ พรรค ทสท. ลงพื้นที่พบปะประชาชนแนะนำตัวผู้สมัคร ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยมีคุณยายนำเงิน 43 บาท ใส่กระติ๊บข้าวเหนียวมาให้คุณหญิงสุดารัตน์ร่วมสร้างพรรค โดยคุณหญิงสุดารัตน์กล่าวปราศรัยว่า มาบึงกาฬหลายครั้ง แต่ทุกครั้งพี่น้องยังยากจนเหมือนเดิม สร้างพรรค ทสท.เป็นภารกิจสุดท้ายเพื่อให้เป็นพรรคของพวกเราชาวอีสาน ขอปักธงให้เป็นพรรคของชาวอีสานให้ได้ 3 ปีแก้จน-พักหนี้เติมทุน-หวยบำเหน็จคุณหญิงสุดารัตน์กล่าวอีกว่า จะขอแบกความทุกข์แทนพี่น้อง ขอทำงานแทนพี่น้องให้สำเร็จ แก้ปัญหาให้พี่น้องต้องเริ่มจากพักหนี้ 2 ปีแรกจะจ่ายดอกเบี้ยให้พี่น้องก่อน พร้อมเติมทุนให้พี่น้อง จะยกระดับราคาสินค้าเกษตรทุกตัว มีกลไกสร้างสินค้าเกษตรราคาดียั่งยืน ขอเวลา 3 ปีให้พี่น้องหายจน หมดหนี้ มีรายได้อย่างยั่งยืนให้ได้ ยืนยันทำได้จริง เพราะเคยทำสำเร็จมาแล้วในสมัยที่เป็น รมว.เกษตรฯ นอกจากนี้จะออกนโยบายออมเงินผ่านโครงการหวยบำเหน็จจูงใจให้คนออม ครบอายุ 60 ปีรับเงินคืน “ซื้อเท่าไหร่ได้คืนหมด” โดยจะได้ลุ้นรับรางวัลทุกเดือน รัฐบาลนำเงินไปใช้จ่ายหมุนเวียนให้เกิดประโยชน์ด้วย“ไทยภักดี” หาทุนรบแตกหักคนโกงเมื่อเวลา 13.30 น. ที่ห้องรอยัล จูบิลี่ เมืองทองธานี พรรคไทยภักดีจัดระดมทุนภายใต้ตรีมงาน “รบแตกหัก คนโกงชาติ ปฏิวัติพลังงาน พรุ่งนี้รวย” พร้อมเปิดนโยบายพรรค ภายในงานจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีน 37 โต๊ะ ราคาโต๊ะละ 1 แสนบาท และเก้าอี้อีก 1,200 ตัว ตัวละ 1 พันบาท เข้ารับฟังนโยบายและวิสัยทัศน์ของผู้บริหารพรรค ตั้งเป้าระดมทุน 50 ล้านบาทขึ้นไป จากนั้น นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดีกล่าวว่า พรรคไทยภักดีไม่มีนโยบายเอาเงินจากทุนผูกขาด ทุนโกงชาติ ทุนสามานย์มาใช้เลือกตั้ง แต่จะใช้เงินของประชาชน พร้อมชูนโยบายเกษตรพลังงาน สนับสนุนปลูกหญ้าเนเปียร์ใช้ผลิตพลังงานเป็นนวัตกรรมที่กำลังจดสิทธิบัตรระดับโลก ผลิตไฟฟ้าสะอาดจะทำให้ราคาไฟฟ้าเหลือ 2.50 บาทต่อหน่วย จะยกเลิกค่า FT หน่วยละ 13.50 บาท ชูการผลิตก๊าซ LNG จากพลังงานสะอาด ต้นทุนตันละ 2,500 บาท พรรคจะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นผู้ส่งออกพลังงานสะอาดรายใหญ่ของโลก การผลิตปุ๋ยยูเรียจากหญ้าเนเปียร์ ตีตลาดโลกได้กว่า 100 ล้านตัน และก๊าซหุงต้ม ก๊าซรถยนต์ที่ใช้ก๊าซ LNG ผลิตจากเกษตรพลังงานในประเทศ ประกันกำไรเกษตรกรที่ปลูกหญ้าเนเปียร์ไร่ละ 10,000-14,000 บาท ประเทศไทยจะได้คาร์บอนเครดิต 5 ปี 1 ล้านล้านบาท ไม่ต้องให้พวกแก้มาตรา 112 เข้ามา ไม่ต้องให้คนโกงกลับมา พรรคจะทำให้พี่น้องรวยได้ ถ้าได้เป็นรัฐบาลนอกจากใช้กฎหมายปราบโกงแล้ว จะปราบเสี้ยนหนามแผ่นดินให้สิ้นซาก“ถาวร” ชงเลิกใช้แบงก์พันเอื้อโกงง่ายด้านนายถาวร เสนเนียม ประธานพรรคไทยภักดี กล่าวตอนหนึ่งว่า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมาการทุจริตไม่ได้ลดลงเลย ทั้งที่รัฐบาลให้คำมั่นสัญญาว่าจะปฏิรูปประเทศ จะปราบปรามการทุจริต แต่ยังทำไม่ได้ พรรคไทยภักดีเสนอนโยบายปราบปรามทุจริต อาทิ ยกเลิกใช้ธนบัตรฉบับละ 1,000 บาทตัดตอนการใช้เป็นเครื่องมือทุจริต ง่ายต่อการนำไปติดสินบน เน้นใช้เงินดิจิทัลแบบประเทศจีนที่ปราบโกงได้สำเร็จและเอาจริง เสนอประชาชนที่จ่ายเงินใต้โต๊ะเป็นผู้เสียหาย เอาผิดแค่นักการเมืองและข้าราชการเท่านั้น คดีทุจริตต้องไม่มีอายุความ นอกจากนั้นกำหนดระยะเวลาพิจารณาคดีทุจริต และเปลี่ยนความคิดคนไทย ให้เชื่อว่าการทุจริตแก้ได้และให้รังเกียจการทุจริต“นิด้าโพล” ชี้คนใต้ยังไว้ใจ “ลุงตู่”วันเดียวกัน นิด้าโพล เผยผลสำรวจความเห็นประชาชน เรื่อง “คนที่ใช่ พรรคที่ชอบของคนใต้” ระหว่างวันที่ 17-20 ต.ค. จากผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไปและมีสิทธิเลือกตั้งในภาคใต้ 2,001 หน่วยตัวอย่าง พบว่าบุคคลที่คนใต้จะสนับสนุนให้เป็นนายกฯในวันนี้ ร้อยละ 23.94 เป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซื่อสัตย์สุจริต เด็ดขาด กล้าตัดสินใจ ร้อยละ 13.24 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พรรค พท.เป็นคนรุ่นใหม่ ชื่นชอบพรรคและนโยบาย ชื่นชอบผลงานตระกูลชินวัตร ร้อยละ 12.79 ยังหาคนเหมาะสมไม่ได้ ร้อยละ 11.24 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคก้าวไกล ต้องการให้คนรุ่นใหม่มาบริหารประเทศ มีวิสัยทัศน์ ชื่นชอบนโยบายและอุดมการณ์การเมืองของพรรค ร้อยละ 6.14 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พรรคเสรีรวมไทย ร้อยละ 5.95 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ พรรค ปชป.แต่พรรคที่รักยังคงเป็น ปชป.นิด้าโพลระบุอีกว่าส่วนพรรคที่คนใต้มีแนวโน้มจะเลือก ส.ส.เขต ร้อยละ 27.49 พรรค ปชป. ร้อยละ 14.94 เป็นพรรค พท. ร้อยละ 12.09 พรรค พปชร. ร้อยละ 12.09 ยังไม่ตัดสินใจ ร้อยละ 11.84 พรรคก้าวไกล ร้อยละ 7.45 พรรค ภท. ร้อยละ 3.60 พรรคประชาชาติ ร้อยละ 3.10 พรรคเสรีรวมไทย ร้อยละ 1.50 พรรคชาติพัฒนากล้าและพรรคไทยสร้างไทย ขณะที่พรรคที่คนใต้จะเลือกให้เป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ร้อยละ 27.64 พรรค ปชป. ร้อยละ 15.54 พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 12.54 ยังไม่ตัดสินใจ ร้อยละ 12.49 พรรคก้าวไกล ร้อยละ 11.89 พรรค พปชร. ร้อยละ 6.95 พรรค ภท. ร้อยละ 3.15 พรรคเสรีรวมไทย ร้อยละ 2.75 พรรคประชาชาติยังจำเป็นต้องมีมาตรา 112สำนักวิจัยซูเปอร์โพล นำเสนอผลสำรวจ เรื่อง ความจำเป็นของมาตรา 112 จากประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ 2,007 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 20-22 ต.ค. พบว่าร้อยละ 95.4 ระบุจำเป็นต้องรักษา กฎหมายมาตรา 112 เอาไว้เช่นเดิม เพราะไม่กระทบการดำเนินชีวิตปกติ สิทธิส่วนบุคคล ช่วยรักษาความมั่นคงของชาติเอาไว้ มีเพียงร้อยละ 4.6 ระบุไม่จำเป็น โดยร้อยละ 97.6 ระบุจำเป็นที่ประมุขทุกประเทศต้องมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีและมีกฎหมายคุ้มครอง ขณะที่ร้อยละ 2.4 ระบุไม่จำเป็น ทั้งนี้ร้อยละ 97 ระบุจำเป็นต้องมีกฎหมายป้องกัน การล้มล้างสถาบันหลักของชาติจากกลุ่มผู้ไม่หวังดี บิดเบือน ใส่ร้ายและจาบจ้วง ขณะที่ร้อยละ 3 ระบุไม่จำเป็น โดยนักการเมืองที่ประชาชนเชื่อมั่นวางใจปกป้องรักษาสถาบันหลักของชาติ ร้อยละ 82 ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 79.6 นายอนุทิน ชาญวีรกูล และร้อยละ 75.6 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ