ในหนังสือ 101 คำถามสามก๊ก (หลี่ฉวนจวินและคณะ เขียน ถาวร สิกขโกศล แปล สำนักพิมพ์มติชน พ.ศ.2556) คำถามที่ 100 ทำไม ปัญญาชนยุคสามก๊กส่วนมากจึงมีความคิดว่า ควรหาความสุขให้ทันเวลา

“ดื่มสุราร้องขับศัพท์บรรสาน ชีวิตคนจะยืนนานสักเพียงไหน?”

บทร้อยกรองในคำถาม เป็นบทหนึ่งในลำนำเพลงสั้น หรือ ต่วนเกอสิง ที่โจโฉแต่ง ชาวจีนจดจำเล่าขานต่อเนื่องถึงวันนี้

ต่วนเกอสิง หรือลำนำเพลงสั้น เป็นชื่อทำนองเพลงของลำนำกรมดุริยางค์ ยุคราชวงศ์ฮั่น เป็นเพลงประเภทร้องคลอดนตรี บันไดเสียงผิง เพลงประเภทนี้ ร้องอย่างไร ขาดการสืบทอดไปนาน

ผู้รู้จีนรู้แต่เพียงว่า นอกจากมีลำนำเพลงสั้น ต่วนเกอสิงแล้ว ยังมีลำนำเพลงยาว ฉางเกอสิง อู๋จิง คนยุคราชวงศ์ถัง มีคำอธิบายประโยคหนึ่ง ลำนำเพลงยาวจึงร้อนแรง

ในร้อยกรองบท ลำนำเพลงสั้น ของโจผี มีข้อความวรรคหนึ่ง ลำนำเพลงสั้น มีเสียงเบา ไม่ทอดยาว คงจะเป็นเพลงพรรณนาอารมณ์ที่เสียงต่ำเบา

สาระสำคัญในบทกวีลำนำเพลงสั้นของโจโฉอยู่ที่ หวังจะมีคนเก่งคนดีจำนวนมากมาร่วมงานใหญ่ในการรวบรวมแผ่นดินกับตน แต่บทกวีสองวรรคสุดท้าย ที่แสดงอารมณ์อยากได้คนเก่ง “หวังมีมิตรทั่วหล้ามาพร้อมพรัก”

กลับดึงดูดหัวใจได้น้อยกว่า บท “ดื่มสุราพลางขับศัพท์บรรสาน ชีวิตคนจะยืนนานสักเพียงไหน”

มีคำอธิบายที่มาของอารมณ์ชื่นชมบทกวีบทนี้...ว่า ปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันออก การเมืองวุ่นวาย สังคมสั่นคลอน ผู้มียศศักดิ์ไม่มั่นคง เช้าไม่อาจประกันได้ว่า จะรอดไปถึงค่ำ

ตั๋งโต๊ะ ซัวหยง อ้องอุ้น ล้วนพบจุดจบอย่างรวดเร็วไปในการช่วงชิงอำนาจ

ปัญญาชนผู้มีชื่อเสียงวิ่งหาที่พึ่งไปอยู่กับขุนศึกผู้มีอำนาจ แต่ยากที่จะรักษาชีวิตไว้ได้ ขงหยง เอี้ยวสิ้ว จีคาง ล้วนถูกประหาร ส่วนปัญญาชนชั้นล่าง และชาวบ้านยิ่งไร้ที่พึ่ง ต้องร่อนเร่ บ้างตายกลางถนน

...

ผู้คนตายในยุคจลาจลนี้มากมายประมาณมิได้

โจโฉกล่าวไว้ในกวีนิพนธ์อีกบทหนึ่ง “กระดูกขาวพราวทุ่งถิ่น พันลี้สิ้นเสียงไก่ขัน” เป็นสภาพอันน่าสลดรันทด

ทั้งยังมีโรคระบาดที่ผู้คนหวาดผวา เกิดติดต่อกันแรมปีร่วมไปกับไฟสงคราม

ช่วงปลายราชวงศ์ฮั่น ราชวงศ์วุ่ย และจิ้น ในพงศาวดารมีข้อความพรรณนาเหมือนๆกัน ยุคโจผี รัชศกเจี้ยนอาน ปีที่ 22 (ค.ศ.217) เกิดโรคระบาดใหญ่ ทำให้เกิดสภาพ ตายยกครอบครัว หรือตายหมดทั้งตระกูล

สังคมเกิดปรากฏการณ์ “ทุกบ้านมีศพสุดโศกา ทุกเคหามีเสียงโศกร่ำไห้”

ปราชญ์ทางอักษรศาสตร์ ในกลุ่ม “เจ็ดเธียรเจี้ยนอาน” อย่างเฉินหลิน สี่ว์ก้าน อิง ช่าง หลิวเจิน ล้วนตายเพราะโรคระบาดคราวนั้น

หลี่ฉวนจวิน จบข้อเขียนเรื่องนี้ว่า ด้วยเหตุที่ชีวิตเปราะบางเช่นนี้ บ้านเมืองจลาจลไม่มีสิทธิ์จะมั่งคั่งสูงศักดิ์ได้ ชีวิตจึงมีค่าควรถนอมสูงสุด

ความคิดควรหาความสุขให้ทันเวลา วันนี้มีเหล้าวันนี้ดื่ม จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนตระหนักขึ้นเอง

ผมเพลินกับเนื้อหาลำนำเพลงสั้นของโจโฉ บางอารมณ์ก็เผลอคิดว่าเหตุการณ์ในยุคสามก๊กกว่าพันแปดร้อยปีที่แล้ว เป็นเหตุการณ์ที่กำลังเกิดในบ้านเมืองในโลกสมัยใหม่ใกล้ตัว

คนไทยหลายคน คงไม่ได้อ่าน พลเอกประยุทธ์ เปิดเผยความในใจหลังได้คืนเก้าอี้นายกฯ ความยาวถึงสามหน้ากระดาษ จนถูกคอการเมืองค่อนขอด ท่านช่างเขียนได้รวดเร็วทันใจ หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินแป๊บเดียว

เขาว่า...ท่านรู้ตัวดี มีเวลาเหลืออยู่หกเดือน จะถือเป็นคำอำลาล่วงหน้าก็ได้ เขาว่ากันอีกนะครับ...ป.น้องถอดใจ จะส่งไม้ต่อให้ ป.ผู้พี่ การเมืองไทย ยังต้องวนเวียนอยู่กับ สาม ป.ต่อไป.

กิเลน ประลองเชิง