เลขาฯสภาฯรับลูกรีบส่งรายงานประชุม กรธ.ครั้งที่ 501 ให้ศาล รธน.ยันมีเอกสารครบทุกอย่าง แฉ “มีชัย” สั่งไม่ต้อง จดชวเลขนัดที่ 500 “อภิชาต-สุพจน์” คุมตรวจรายงานเอง “วิษณุ” ระบุเป็นไปได้ศาล รธน.ชี้ชะตา 14 ก.ย. ยืนกรานไม่เคยคุยกับ “ซือแป๋” ส่งซิก “บิ๊กตู่” โชว์พาวนำทัพเอเปก “ลุงป้อม” รับเป็นพรีเซนเตอร์ผ้าไหม “อุ๊งอิ๊ง-ชลน่าน” ยกครอบครัว พท.ลุยเชียงใหม่ ขอเลือกทั้งคนทั้งพรรคให้แลนด์สไลด์ เปิดแคนดิเดตนายกฯเมื่อรู้วันเลือกตั้ง “คุณหญิงอ้อ” จ่อเปิดตัวกิจกรรมแรก “พิธา” ผุดแคมเปญ “ต้องก้าวไกล ให้ไทยก้าวหน้า” ลั่นเจอกันที่ทำเนียบ “หญิงหน่อย” รับบทนำ ทสท. อาสาปลดล็อกตัวถ่วงความเจริญ

ตามที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ส่งสำเนาบันทึกและรายงานการประชุมของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ครั้งที่ 501 เพื่อประกอบการพิจารณาคำร้องขอให้วินิจฉัยความเป็นนายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 17 วรรคสอง ประกอบมาตรา 158 วรรคสี่หรือไม่

...

เลขาสภาฯรีบส่งรายงานศาล รธน.

เมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 9 ก.ย. ที่รัฐสภา นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้จัดส่งสำเนาบันทึกการประชุม และรายงานการประชุมของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ครั้งที่ 501 วันที่ 11 ก.ย.2561 มีวาระการประชุมรับรองการประชุมครั้งที่ 500 วันที่ 7 ก.ย.2561 ที่คณะอนุกรรมการพิจารณาตรวจบันทึกการประชุมและรายงานการประชุมตรวจทานแล้วโดยไม่มีการแก้ไข ต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 13 ก.ย. เพื่อพิจารณาประกอบคำร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ขอให้วินิจฉัยความเป็นนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสอง ประกอบมาตรา 158 วรรคสี่หรือไม่ว่า ศาลรัฐธรรมนูญส่งหนังสือขอเอกสารมาทางอีเมลเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 8 ก.ย. สำนักงานเลขาธิการสภาฯเตรียมส่งเอกสาร ให้ศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ (9 ก.ย.)

ยันเอกสารบันทึกประชุมมีครบ

เมื่อถามว่าเอกสารของสำนักงานเลขาธิการสภาฯถือว่าเป็นหลักฐานทางชั้นศาลได้หรือไม่ นางพรพิศตอบว่า เป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญที่จะพิจารณา ยืนยันว่ามีเอกสารครบ เพราะเราเป็นแหล่งจัดเก็บเอกสารทางประวัติศาสตร์ของสถาบันนิติบัญญัติทั้งหมด ทุกอย่างมีครบ

บันทึกครั้งที่ 500 จดตาม “มีชัย” สั่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวว่า สำหรับเอกสารที่ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นบันทึกการประชุมในช่วงทำความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ 2560 พบว่าเป็นเพียงการทำบันทึกการประชุมโดยสรุป ต่างจากการจดบันทึกการประชุมปกติที่จะบันทึกโดยเจ้าหน้าที่ชวเลขที่ต้องจดบันทึกทุกคำพูดของกรรมการ กรธ. แต่ละคน มีการระบุว่า เนื่องจากนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. สั่งว่าไม่ต้องใช้เจ้าหน้าที่ชวเลขบันทึกละเอียดเพราะผ่านขั้นตอนการทำรัฐธรรมนูญปี 2560 เสร็จแล้ว เอกสารบันทึกการประชุม กรธ.ครั้งที่ 500 จึงเป็นการจดรายงานการประชุมแบบสรุป ที่ไม่ได้แยกบันทึกทุกคำของ กรธ.แต่ละคนที่แสดงความเห็น และเป็นการบันทึกรายงานสรุปตามความเข้าใจของเจ้าหน้าที่ผู้จดบันทึกการประชุม อีกทั้ง กรธ.ยังไม่ได้ตรวจรับรองรายงานการประชุมครั้งนี้ด้วย

“อภิชาต-สุพจน์” คุมตรวจเอง

ส่วนบันทึกการประชุม กรธ.ครั้งที่ 501 มีคำยืนยันว่า ได้ผ่านการพิจารณาตรวจบันทึกการประชุม และรายงานการประชุม โดยคณะอนุกรรมการตรวจบันทึกการประชุมและรายงานการประชุม ที่มีนายอภิชาต สุขัคคานนท์ เป็นประธาน และอนุกรรมการชุดดังกล่าวมีนายสุพจน์ ไข่มุกด์ เป็นอนุกรรมการตรวจบันทึกการประชุมด้วย หากบันทึกการประชุมของ กรธ.ครั้งที่ 500 เป็นเพียงการสรุปและทำไม่ถูกต้องตามที่นายมีชัยระบุไว้ในคำชี้แจงที่ส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญ นายสุพจน์ต้องทักท้วงและท้วงติงก่อนเสนอให้ที่ประชุม กรธ.ชุดใหญ่พิจารณาแล้ว เพราะในบันทึกการประชุม กรธ.ครั้งที่ 500 มีการจดบันทึกและรายงานการแสดงความคิดเห็นของนายสุพจน์ไว้คู่กับนายมีชัยด้วย ทั้งนี้ บันทึกการประชุมของ กรธ.เป็นเอกสารที่เผยแพร่ได้ในห้องสมุดรัฐสภา และอดีต กรธ.ทุกคนจะมีบันทึกการประชุมทุกนัดไว้คนละ หนึ่งฉบับอยู่แล้ว

ระบุเป็นไปได้ศาล รธน.ชี้ชะตา 14 ก.ย.

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งเรียกสำเนาบันทึกการประชุมและรายงานการประชุมกรธ. ครั้งที่ 501 เพิ่มเติม ถูกต้องแล้ว ไม่ถือว่าแปลกประหลาด แค่มีตุลาการฯบางคนติดใจสามารถเรียกมาดูได้ ศาลรัฐธรรมนูญสามารถพิจารณาไปได้เรื่อยๆ ไม่มีกำหนดเวลา แต่คดีนี้ดูแล้วเห็นว่าวันที่ 14 ก.ย.หมดเขตส่งเอกสาร อาจพิจารณาได้ตั้งแต่วันนั้นหรือวันรุ่งขึ้นเลย ทางรัฐบาลไม่มีอะไรจะชี้แจงแล้ว เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญคงไม่เรียกอะไรจากรัฐบาลอีก เมื่อถามว่าเอกสารที่หลุดออกมามีผลกระทบกับรัฐบาลหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า เอกสารที่หลุดออกมาเกิดขึ้นได้ในทุกคดี คำให้การที่ยื่นไปผ่านคนตั้งเยอะแยะ ฉะนั้นหลุดออกมาไม่ได้แปลกประหลาด เมื่อถามว่าอาจมีผลกระทบกับรัฐบาล เพราะอาจทำให้ฝ่ายตรงข้ามทำข้อมูลหักล้างยื่นเพิ่มเติมได้ นายวิษณุตอบว่า ต้องทำความจริงให้กระจ่างแจ้งเป็นการดีที่สุด อย่าไปคิดอะไรมาก ความจริงศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องแล้ว ผู้ร้องไม่สามารถยื่นคำร้องเพิ่มเติมได้อีก เว้นแต่ศาลรัฐธรรมนูญจะเรียก

ยืนกรานไม่เคยคุย “มีชัย”

เมื่อถามว่า ได้คุยกับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธาน กรธ. เรื่องบันทึกการประชุม กรธ.หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า แม้ถูกมองว่าอยู่ก๊วนเดียวกัน แต่ไม่เคยคุยไม่เคยปรึกษาอะไรทั้งสิ้น ยืนยันได้ เมื่อถามว่าบันทึกการประชุม กรธ. ครั้งที่ 500 กับครั้งที่ 501 ต่างกันอย่างไร นายวิษณุตอบว่า ไม่ตอบแล้ว พูดเรื่องนี้ทุกวันแล้ว ตนก็ไม่เคยเห็น ไม่รู้ว่ามันเป็นอย่างไร เห็นแต่หนังสือแนวทางตีความรายมาตราที่แจกกัน เป็นบันทึกเกี่ยวกับเจตนารมณ์มาตราต่างๆ และรัฐบาลใช้ตัวนี้อ้างไป เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม สั่งการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ไม่มี ไม่ได้คุยอะไรกัน พล.อ.ประยุทธ์คงไม่ได้เดือดร้อนที่จะไปติดต่อกับใคร

ชี้น่าภูมิใจถ้า “บิ๊กตู่” นำทัพเอเปก

เมื่อถามว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญยังไม่วินิจฉัย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ รักษาราชการแทนนายกฯ สามารถตัดสินใจปรับ ครม.ได้หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ยืนยันโดยทฤษฎีทำได้ แต่ในทางปฏิบัติถ้าจะทำ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ถ้าจะตอบว่าทำไม่ได้ก็ผิดจึงต้องตอบว่าทำได้ แต่อย่าไปแสดงว่าทำได้เดี๋ยวจะทำแล้วมันไม่ใช่ เพราะถ้าทำได้ง่ายที่ว่างมา 2 ตำแหน่งคงทำไปแล้ว ทำไมไม่ปรับล่ะ แสดงว่ามันยาก มันมีความยุ่งยากอะไรอยู่ในทางปฏิบัติ ไม่อย่างนั้นเขาทำไปนานแล้ว เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นนายกฯทำหน้าที่การประชุมเอเปก เสร็จแล้วยุบสภาหรือลาออกแบบไหนดีกว่ากัน นายวิษณุตอบว่า ถ้าลาออกต้องหานายกฯใหม่ โดยเข้าสภาเลือกนายกฯใหม่ แต่ถ้ายุบสภาไม่ต้องหานายกฯใหม่ แต่ในเมื่อกฎหมายลูกยังไม่ประกาศใช้ยังยืนยันการยุบสภาทำให้เกิดความยุ่งยาก เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้มาเป็นประธานการประชุมเอเปก ภาพประเทศไทยน่าจะดีกว่าใช่หรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ไม่ทราบ ไม่อยากชี้นำอะไร แต่เห็นว่าน่าภาคภูมิใจมากกว่า เพราะผู้นำต่างประเทศที่เดินทางมาประชุมเอเปกก็คิดว่าจะต้องมาเจรจากับใคร

คณะหลอมรวมนัดที่เก่าเวลาเดิม

ที่สถานีโทรทัศน์ออนไลน์พีซทีวี คณะหลอมรวมประชาชน นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. แถลงกรณีเอกสารชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธาน กรธ. หลุดว่า ถ้าเอกสารดังกล่าวเป็นคำชี้แจงของนายมีชัยจริง เท่ากับระเบิดพลีชีพตัวเอง เพราะให้การขัดกับความเป็นจริง ที่บอกว่าการประชุมครั้งที่ 500 เป็นครั้งสุดท้ายแต่ข้อเท็จจริงมีการประชุมครั้งที่ 501 นายมีชัยเป็นประธานการประชุมเอง ส่วนเอกสารของ พล.อ.ประยุทธ์อ้างไม่ขัดกับมาตรฐานสากลนั้น สงสัยว่ามาตรฐานสากลของประเทศไหน การอ้างเป็นคนดีมีมาตรฐานสากล ปฏิบัติจริงหรือไม่ คนที่จะได้ชื่อว่าดีนั้นอยู่ๆจะมาสถาปนาตัวเองไม่ได้ มิฉะนั้นจะเหมือนกลองที่ดังเอง คือเป็นกลองจัญไร คณะหลอมรวมประชาชนยืนยันไม่กดดันศาลรัฐธรรมนูญ แต่เอกสารที่ออกมาทุกชิ้นกดดันหัวใจประชาชน เราจะปล่อยให้โชคชะตาบ้านเมืองอยู่ในมือคนที่พูดอย่างทำอย่าง ละเมิดกฎหมาย ฉีกรัฐธรรมนูญมากับมือต่อหรือ ขอนัดชุมนุมในวันที่ 11 ก.ย.นี้ ที่เดิมคือราชประสงค์

ฉะ “บิ๊กตู่-มีชัย” ประโยชน์ทับซ้อน

นายนิติธร ล้ำเหลือ อดีตแกนนำพันธมิตร กล่าวว่า นายมีชัยเป็นอดีตประธาน กรธ. ถ้าเอกสารนี้เป็นของจริงถือว่าเป็นเซียนเอาตัวเองรอด พยายามไม่พัวพันกับการตัดสินคดีนี้ จึงต้องทำลายตัวเองด้วยเอกสารที่เป็นข้อกล่าวอ้างแบบไม่มีน้ำหนัก ส่วนเอกสารชี้แจงของ พล.อ.ประยุทธ์ถ้าเป็นจริงถือว่ามีเจตนาไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญ แสดงอำนาจบาตรใหญ่ การอ้างคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ พล.อ.ประยุทธ์ตั้งขึ้นเมื่อปี 2565 และให้นายมีชัยมาเป็นประธาน ถือเป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน และทำเพื่อคนคนเดียว

ขอ นศ.วปอ.ยึดประโยชน์ชาติ

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่อาคารอเนกประสงค์ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวระหว่างเป็นประธานพิธีปิดการศึกษาหลักสูตร นักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 64 (วปอ.) ว่าถือเป็นหน้าที่ของทุกคนทุกฝ่ายต้องร่วมมือและสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อรักษาเสถียรภาพและประโยชน์ร่วมกันในทุกมิติ ให้พร้อมแข่งขันและประสานประโยชน์ร่วมกันในเวทีโลก ทุกประเทศอาเซียนต่างมีจุดแข็ง หากประสานประโยชน์จากจุดแข็งที่มีร่วมกันจะเป็นประโยชน์ร่วมกันในภูมิภาค การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ไม่สามารถดำเนินการได้ลำพัง จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อเดินหน้าอนาคตของลูกหลานไปด้วยกัน ขอให้นำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับ ช่วยกันดูแลปกป้องประเทศชาติ และสถาบันกษัตริย์ ยึดประโยชน์สูงสุดของชาติเป็นเป้าหมายร่วมกัน

“ลุงป้อม” รับพรีเซนเตอร์ผ้าไหม

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ รักษาราชการแทนนายกฯ ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมผ้าไหมไทย สร้างรายได้ให้พี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ต่อยอดสู่การค้าต่างประเทศ จึงร่วมเป็นพรีเซนเตอร์แบบไม่คิดค่าใช้จ่ายให้กับกรมหม่อนไหม เพื่อสนับสนุนการแปรรูปผ้าไหมไทย ครั้งนี้ได้นำลายผ้าขาวม้ามาพัฒนาดัดแปลงเป็นลายเนกไท ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมทั้งเป็นซอฟต์เพาเวอร์ที่มีความงดงามเป็นเอกลักษณ์ จากเดิมที่ผ้าไหมไทยได้รับความนิยมจากทั่วโลกอยู่แล้ว ยิ่งส่งเสริมให้เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น และนำมาใส่ได้ทุกโอกาส พล.อ.ประวิตรยังเชิญชวนให้รัฐมนตรีทุกคน ร่วมสนับสนุนส่งเสริมผลิต ภัณฑ์จากเกษตรกร ช่วยยกระดับความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น และสร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืน

“อุ๊งอิ๊ง-ชลน่าน” นำลุยเชียงใหม่

เวลา 09.00 น. ที่สหกรณ์การเกษตร อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แกนนำและ ส.ส.พรรค อาทิ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ลงพื้นที่พบปะตัวแทนเกษตรกรภาคเหนือ อาทิ ชาวสวนลำไย เกษตรกรผู้ปลูกหอมใหญ่ รับฟังปัญหาและนำไปจัดทำเป็นนโยบาย นพ.ชลน่านกล่าวว่า สิ่งที่ได้รับฟังจากเกษตรกรพรรคจะนำไปจัดทำนโยบายทันที กำลังเร่งยกร่าง พ.ร.บ.ลำไยผลักดันให้เร็วที่สุด หากรัฐบาลอยู่ครบเทอมการเลือกตั้งจะมีไม่เกินเดือน พ.ค.2566 เพื่อไทยมั่นใจจะได้แลนด์สไลด์ ล่าสุดได้ยินว่าหลังเอเปกเดือน พ.ย.นี้ จะยุบสภาทำให้เลือกตั้งเร็วขึ้นอีก

อ้อนเลือก พท.ทั้งคนทั้งพรรค

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า เห็นใจพี่น้องชาวเกษตรกรทุกคน วันนี้ปัญหาหลักคือรัฐบาลไม่ให้การดูแลอย่างที่ควรจะเป็น สมัยรัฐบาลไทยรักไทยเราให้ความสนใจในการพัฒนาภาคเหนือมาโดยตลอด ถ้าเพื่อไทยได้รับโอกาสเป็นรัฐบาล จะดูแลพี่น้องเกษตรกรทุกคนเป็นอย่างดี เพราะคือจิตวิญญาณของพวกเราที่มีมายาวนานไม่ว่าจะเปลี่ยนมากี่พรรคก็ตาม หลังได้มาร่วมฟังปัญหาวันนี้ได้ไอเดียใหม่ๆ จะเป็นคำตอบที่นำไปใช้ได้จริง ย้ำว่าเราจะดูแลพี่น้องเกษตรกรให้ดีที่สุด ถึงวันเลือกตั้งเมื่อไหร่พรรคเพื่อไทยขอแลนด์สไลด์ เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค ให้เรามาแก้ไขปัญหาให้ทุกคน

ไม่เต็มปากสานต่อจำนำข้าว

ต่อมาทีมงานครอบครัวเพื่อไทย เดินทางต่อมายังบริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) เพื่อชมกระบวนการแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับข้าวโพด จากนั้น น.ส.แพทองธารพร้อมนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ นำคณะเดินกาดหลวง (ตลาดวโรรส) พบปะแม่ค้าและประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของ ได้รับการตอบรับอบอุ่น น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ว่า กิจกรรม “สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ” ในวันที่ 10 ก.ย. จะมีเซอร์ไพรส์ขอให้ประชาชนติดตาม เราทำงานหนักเพื่อคิดแต่ละนโยบายขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาของประชาชน เราไม่ได้มองแค่การหาเสียงหรือการชนะเลือกตั้ง แต่ปากท้องประชาชนต้องเริ่มตั้งแต่เกษตรกร เมื่อถามว่าเพื่อไทยจะสานต่อนโยบายจำนำข้าวหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า เรื่องนี้ต้องทบทวนรายละเอียด และต้องทำให้ดี แน่นอนว่ากระบวนการที่มีปัญหาหรือมีอะไรบางอย่าง ต้องนำมาแก้ไขเพื่อตอบสนองประชาชนได้อย่างแท้จริง อย่างที่เคยพูดนโยบายจำนำข้าวเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร จุดมุ่งหมายของพรรคคืออยากให้เกษตรกร ประชาชนลืมตาอ้าปากได้ ดังนั้นนโยบายจำนำข้าวในเรื่องคอนเซปต์ยังเป็นสิ่งที่ดี

เปิดแคนดิเดตนายกฯเมื่อรู้วันเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า หลายพรรคเริ่มเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทยควรมีความชัดเจนเร็วขึ้นหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า อยากให้กำหนดวันเลือกตั้งชัดเจนก่อน เพื่อไทยจะมีความชัดเจนแน่นอน เมื่อถามว่าจะมีฟ้าลิขิตให้เป็นนายกฯได้หรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า ต้องอยู่ที่พี่น้องประชาชน คนในพรรค และต้องดูเรื่องความเหมาะสม ประเทศต้องไปต่อ ไม่ใช่ดูว่าใครจะเป็นผู้นำ พรรคเพื่อไทยจะเปิดแคนดิเดตนายกฯเมื่อได้วันเลือกตั้ง แต่สุดท้ายแล้วก็อาจจะไม่แน่ ขอให้ประชาชนรอลุ้นต่อไป เมื่อถามว่าจะเป็นชื่อ น.ส.แพทองธารตามผลโพลหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า กราบขอบพระคุณที่ผลโพลออกมาดี ดีใจมาก แต่ขอให้รอดูกันอีกที เนื่องจากผลโพลสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามเหตุการณ์ เมื่อถามย้ำว่าพร้อมเป็นตัวเลือกให้ประชาชนแล้วหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า พร้อมไปเจอประชาชนพร้อมรับฟังปัญหา ส่วนความพร้อมในการเป็นแคนดิเดตนายกฯ ขอยังไม่ตอบตอนนี้ เมื่อถามว่าต้องใช้ใจบันดาลแรงมากขึ้นหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า อะไรที่เรามีใจอยู่แล้ว ไม่ต้องทำมาก

“ชลน่าน” โวกวาดเรียบเชียงใหม่

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคตั้งเป้าและปักธงมั่นใจว่าจะได้รับความไว้วางใจจากชาวเชียงใหม่ทั้ง 11 เขต โดยเฉพาะเขต 8 ที่เราสูญเสียไปเนื่องจากการเลือกตั้งซ่อม ขณะนี้ในพื้นที่บอกกับเราว่าจะสนับสนุนเรา

“หญิงอ้อ” จ่อเปิดตัวกิจกรรมแรก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดกิจกรรม “สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ” ในวันที่ 10 ก.ย.ของครอบครัวเพื่อไทย ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ จ.เชียงใหม่ ที่นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นอกจากการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พื้นที่ภาคเหนือของพรรคแล้ว คนในครอบครัวของ น.ส.แพทองธารจะมาร่วมกิจกรรมทั้งหมด ทั้งพี่ชาย พี่สาว พี่เขย และที่สำคัญคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะมาร่วมกิจกรรมให้กำลังใจ น.ส.แพทองธารด้วย ถือเป็นการร่วมกิจกรรมทางการเมืองครั้งแรกหลังจากยุคพรรคไทยรักไทย

“ต้องก้าวไกล ให้ไทยก้าวหน้า”

ช่วงบ่าย ที่ลานราษฎร ชั้น 7 อาคารอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล จัดเวทีเปิดแคมเปญ “เลือกตั้งใหญ่ พรรคก้าวไกล” ภายใต้สโลแกน “ต้องก้าวไกล ให้ไทยก้าวหน้า” เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งปี 2566 มีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ที่น่าสนใจคือ นายปิยรัฐ จงเทพ “โตโต้” อดีตหัวหน้าการ์ดวีโว่ ลงสมัครเขตพระโขนง นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนสีประจำพรรคใหม่ จากเดิมสีส้มเป็นสีส้มจี๊ด มีความหมายถึงวันใหม่ๆที่กำลังจะเจอกันในอนาคต พร้อมการเปิดตัวมาสคอตพรรคคือ เเมวสีส้มชื่อว่าน้องไข่ต้ม ขณะที่แกนนำพรรคเข้าร่วมกันพร้อมหน้า

“พิธา” ลั่นแล้วเจอกันที่ทำเนียบ

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงวิสัยทัศน์สำหรับการเลือกตั้งใหญ่ว่า อดีตพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบไปพวกเราแยกออกเป็น 2 ทาง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ไปทำงานด้านท้องถิ่นจนมีระบบน้ำประปาที่ทันสมัยที่สุดในประเทศที่ อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด ตอนนี้เราจะเข้าสู่ศึกการเลือกตั้งโดยไม่มีพวกเขา แต่เรา
ได้พิสูจน์แล้วว่าพรรคของเราสร้างอนาคตใหม่ได้ เหมือนที่สื่อบอกคบเพลิงนั้นอยู่ในมือพิธา และพิธาพูดกับทุกคนว่าเรามาไกลเกินกว่าที่จะแพ้ ตนไม่ได้มาเล่นๆ พร้อมเป็นนายกฯของทุกคน ไม่ว่าจะรวยดีมีจน อายุมากหรืออายุน้อย เลือกหรือไม่เลือกตนพร้อมจะเป็นนายกฯที่ทันสมัย ทำให้คนไทยเท่าเทียมกัน ให้ประเทศไทยก้าวหน้าไปในอนาคต แล้วเจอกันที่ทำเนียบรัฐบาล

ปลุกพลังฉุดประเทศพ้นปากเหว

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ประกาศยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรคว่า 8 ปีภายใต้ระบอบประยุทธ์ ประเทศถอยหลังจนไปอยู่ปากเหวในทุกด้าน เขาสถาปนาอำนาจที่ไม่ได้มาจากประชาชน ใช้คุก ทหาร ตำรวจทุบทำลายสิทธิเสรีภาพประชาชน เลือกตั้งครั้งหน้าไม่ใช่แค่เปลี่ยนรัฐบาล แต่ต้องเปลี่ยนประเทศ ไม่เพียงเปลี่ยนตัวนายกฯ แต่เปลี่ยนประเทศให้ก้าวหน้า ประเทศถอยหลังไม่ได้แล้ว มีแต่ต้องก้าวไกล ให้ไทยก้าวหน้า หนึ่งเสียงของทุกคนจะเพิ่มความเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคต

“หญิงหน่อย” รับบทนำเต็มตัว

วันเดียวกัน ที่โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน พรรคไทยสร้างไทย จัดประชุดใหญ่วิสามัญ “มาร่วมกันเปลี่ยนประเทศ สร้างชีวิตที่ดีกว่ากับพรรคไทยสร้างไทย” ท่ามกลางบรรยากาศคึกคักของสมาชิกและโหวตเตอร์จากทั่วประเทศกว่า 700 คน มีแกนนำผู้บริหารพรรคเข้าร่วมงานพร้อมหน้า จากนั้นที่ประชุมมีมติเลือกคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นหัวหน้าพรรคและเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรค มีนายสุพันธุ์ มงคลสุธี นายประวัฒน์ อุตตะโมช พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ เป็นรองหัวหน้าพรรค น.ต.ศิธา ทิวารี เป็นเลขาธิการพรรค และ น.ส.ธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ เป็นโฆษกพรรค คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ว่า ขอนำประสบการณ์ 30 ปี มานำทัพไทยสร้างไทย ให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่เราตั้งปณิธานไว้ ร่วมกันเปลี่ยนประเทศ สร้างชีวิตที่ดีกว่าให้กับพี่น้องคนไทยทุกคน เหนื่อยมามากแล้ว จากนี้ไปพรรคไทยสร้างไทยขออาสาที่จะเหนื่อยแทน ทำให้ชีวิตของพี่น้องดีขึ้น

ขอปลดล็อกตัวถ่วงความเจริญ

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า 90 ปีมานี้ ประชาชนยังถูกบั่นทอน คุกคามสิทธิเสรีภาพ ด้อยค่าประชาธิปไตย หลายพรรคอ้างประชาธิปไตย แต่ไม่เคยปกป้องประชาธิปไตยเมื่อมีการรัฐประหาร ไม่เคยคิดต่อสู้กับระบอบอำนาจนิยม กลับไปร่วมมือกดทับประชาชน ไม่มียุคใดสมัยใดที่ประชาชนโดยเฉพาะคนตัวเล็กถูกละเลยและย่ำยีได้เท่ากับช่วง 8 ปีนี้อีกแล้ว กระบวนการยุติธรรมถูกบิดเบือน คอร์รัปชันมโหฬาร ไม่มียางอาย เพราะระบบตรวจสอบมาจากอำนาจนิยม ระบบราชการมุ่งรับใช้อำนาจนิยม ประชาชนจึงแทบไม่เหลือตัวตน กระทบไปถึงภาพรวมทางเศรษฐกิจ ไทยสร้างไทยขอประกาศปลดล็อกคือ 1.ปลดล็อกความขัดแย้งทางการเมือง 2.ปลดล็อกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคขัดขวางการทำมาหากินของประชาชน 3.ปลดล็อกรัฐราชการ ให้เป็นรัฐประชาชน และ 4.ปลดล็อกจากการทุจริตคอร์รัปชัน อันเปรียบเสมือนมะเร็งร้ายเป็นรากเหง้าของปัญหา โดยเฉพาะนักการเมือง ราชการ และรัฐวิสาหกิจ

โอ่ปั้นเศรษฐกิจไทยแล่นฉิว

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวอีกว่า ความจริงใจของผู้นำเป็นปัจจัยสำคัญในการปราบทุจริตคอร์รัปชัน หากผู้นำใสสะอาดจะปราบคอร์รัปชันได้ พรรคไทยสร้างไทยเตรียมโมเดลไว้แล้ว มั่นใจว่าจะเอาตัวคนโกงมาติดคุกได้ เมื่อปลดล็อกออกจากสิ่งกดทับทั้งปวง พรรคไทยสร้างไทยจะสร้างอำนาจให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยการปลดปล่อยและสร้างพลังอำนาจ ส่งเสริมประชาชนคนตัวเล็กรวมตัวกันให้มีอำนาจต่อรอง เข้าถึงแหล่งทุนความรู้และการตลาด มั่นใจเศรษฐกิจไทยจะแล่นทะยานอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และไทยสร้างไทยจะดูแลคุณภาพชีวิตตั้งแต่เกิดจนแก่ เช่น โครงการ 30 บาท สุขภาพดีถ้วนหน้า เรียนฟรีจบปริญญาตรี ลดเวลาเรียน เพิ่มคุณภาพการศึกษา และโครงการบำนาญประชาชน 3,000 บาท รองรับสังคมผู้สูงวัย

“ท็อป” มั่นใจไร้อุบัติเหตุการเมือง

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า ระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาปม 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหมอยู่ คิดว่าไม่น่าจะมีสถานการณ์ใดๆรุนแรงเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องการปรับ ครม.ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรักษาราชการแทนนายกฯ บอกเองว่ายังไม่ทำอะไร ช่วงนี้ไม่คิดว่าจะมีอุบัติเหตุทางการเมืองใดๆ ส่วนที่หลายพรรคเปิดตัวปรับโครงสร้างพรรคกันในช่วงนี้ ไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมายเพราะอายุของรัฐบาลอยู่ถึงวันที่ 24 มี.ค.66 เหลือเวลา 6 เดือนเท่านั้น และวันอังคารที่ 13 ก.ย. พรรค ชทพ.จะเปิดตัวนายตรงสิทธิ์ ตั้งจตุรวิธ เป็นผู้สมัคร ส.ส.ยโสธร เขต 3 อีก 1 คน พรรคตั้งเป้าได้ ส.ส. 25 เก้าอี้ เพื่อให้เสนอกฎหมายได้ ไม่ต้องพึ่งเสียงพรรคอื่น ส่วนแคนดิเดตนายกฯขึ้นอยู่กับที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคพิจารณา

ตรังเดือด “สมบูรณ์” แย้งโพล “เดชอิศม์”

ขณะที่นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ผู้เสนอตัวลงสมัคร ส.ส.ตรัง เขต 4 กล่าวถึงกรณีนายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ดูแลพื้นที่ภาคใต้ เปิดผลสำรวจโพลอ้างว่าทำกับชาวบ้านในพื้นที่ ปรากฏว่านายกาญจน์ ตั้งปอง สมาชิกสภาเทศบาลเมืองกันตัง มีคะแนนนำมีการประกาศในพื้นที่ว่านายกาญจน์เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 ของพรรคว่า นายเดชอิศม์แจ้งให้ทราบแล้ว เลยแย้งไปว่าควรชี้แจงรายละเอียดของผลสำรวจนี้ ว่าสถาบันไหนเป็นผู้ทำ ทำตามหลักวิชาการหรือมีการชี้นำต่อชาวบ้านหรือไม่ เพราะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลให้ตรวจสอบได้ จะนำเรื่องนี้ไปแจ้งต่อผู้ใหญ่ และกรรมการบริหารพรรค เพื่อขอทราบรายละเอียด ยังเชื่อว่าพรรคมีหลักการ เป็นสถาบันการเมืองที่ซื่อสัตย์สุจริต ในการคัดสรรคนมาเป็นผู้สมัครด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้