เอกสาร “มีชัย” ตอบศาลรัฐธรรมนูญหลุดแชร์ว่อนโซเชียล ฟันธงวาระ 8 ปีนายกฯตู่ เริ่มนับ 6 เม.ย.2560 ตั้งแต่ประกาศใช้ รธน.ปี 60 โบ้ยเจ้าหน้าที่จดบันทึกการประชุม กรธ.ครั้งที่ 500 สรุปตามความเข้าใจทำให้เข้าใจผิด ไม่มีการรับรองใช้อ้างอิงเป็นหลักฐานไม่ได้ “ไทกร” อ้างคนในผู้รักความยุติธรรมทนไม่ได้ ปล่อยของประจานคนจงใจบิดเบือนเจตนารมณ์ รธน. ฉะคนเขียน รธน.ด้วยมือลบด้วยเท้า “วิษณุ” บอก รบ.ไม่ต้องเตรียมแผนพิเศษรับมือ “อนุทิน” เชื่อไร้ปัญหา “สุทิน” เตือนตีความเป็นอื่นนอกจากพ้นเก้าอี้ ระวังละเมิดพระราชอำนาจ “บิ๊กป้อม” นั่งหัวโต๊ะถก ครม.นัดที่ 2 รมต.ขาดอื้อ 6 คน พรรคร่วมฯประสานเสียงยังไม่ปรับ ครม.ตอนนี้ รัฐสภาถกร่างแก้ไข รธน. 4 ฉบับ “สมชัย” ยืนกรานปิดสวิตช์ ส.ว. “โรม” เฉ่งสารพัดแก๊งอุ้ม “ลุงตู่” “อมรัตน์” เหน็บบุญคุณ คสช.ใช้หมดรึยัง

กระแสสังคมจับตาศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมนัดพิเศษวันที่ 8 ก.ย.พิจารณาประเด็นวาระดำรงตำแหน่งครบ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ล่าสุดมีเอกสารเผยแพร่ทางออนไลน์อ้างเป็นหนังสือของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ระบุให้นับตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.2560

...

หนังสือ “มีชัย” ชี้ 8 ปี “บิ๊กตู่” นับปี 60

เมื่อวันที่ 6 ก.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกออนไลน์และสื่อโซเชียล มีการเผยแพร่เอกสารความเห็นของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เรื่อง “ความเห็นเกี่ยวกับ มาตรา 264 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย” ส่งถึงประธานศาลรัฐธรรมนูญ ตามที่มีคำสั่งให้จัดทำความเห็นในประเด็น “ผู้เป็นนายกฯอยู่ก่อนวันที่รัฐธรรมนูญ 2560 ใช้บังคับตามบทเฉพาะกาลมาตรา 264 สามารถนับรวมระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกฯดังกล่าว เข้ากับวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 158 วรรคสี่ หรือไม่และนับแต่เมื่อใด ในเอกสารนั้น นายมีชัยชี้แจงดังนี้ 1.รัฐธรรมนูญ 2560 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.2560 ตามที่ปรากฏในพระบรมราชโองการในวรรคห้า และถูกต้องตรงตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) 2557 ผลบังคับ จึงมีตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.2560 เป็นต้นไป และไม่อาจมีผลไปถึงการใดๆ ที่ได้ดำเนินการมาแล้วโดยชอบก่อนวันที่รัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ เว้นแต่จะมีบทบัญญัติไว้เป็นการเฉพาะ

ครม.ก่อนปี 60 ไม่นับเวลาดำรงตำแหน่ง

เอกสาร ระบุอีกว่า 2.ในส่วนที่เกี่ยวกับ ครม. รัฐธรรมนูญ 2560 ได้บัญญัติเรื่องคุณสมบัติ (มาตรา 160) ที่มา (มาตรา 88) วิธีการได้มา (มาตรา 159) และมาตรา (272) กรอบในการปฏิบัติหน้าที่ (มาตรา 164) ระยะเวลาในการดำรงตำแหน่ง (มาตรา 158 วรรคสี่) และผลจากการพ้นจากตำแหน่ง (มาตรา 168) ไว้แตกต่างจากรัฐธรรมนูญที่เคยมีมา ส่วนใหญ่เป็นไปในทางจำกัดสิทธิและเพิ่มความรับผิดชอบ ไม่อาจนำไปใช้กับบุคคลหรือการดำเนินการใดๆที่ได้กระทำไปโดยชอบแล้วก่อนที่รัฐธรรมนูญ 2560 มีผลใช้บังคับเว้นแต่จะมีบทบัญญัติกำหนดไว้เป็นประการอื่นโดยเฉพาะ โดยหลักทั่วไปกฎเกณฑ์ที่กำหนดขึ้นย่อมต้องมุ่งหมายที่จะใช้กับ ครม.ที่ดำรงตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ 2560

มี ครม.ในบทเฉพาะกาลไม่ให้ติดขัด

3.การที่จะได้มาซึ่ง ครม.ตามรัฐธรรมนูญ 2560 จะกระทำได้ก็ต่อเมื่อการเลือกตั้งทั่วไป มี ส.ส.และ ส.ว.ที่จะต้องแต่งตั้งขึ้นใหม่ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ก่อน แต่ประเทศไม่อาจว่างเว้นการมี ครม. เพื่อบริหารประเทศได้ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีบทเฉพาะกาล เพื่อกำหนดให้การบริหารราชการแผ่นดิน สามารถดำเนินต่อไปได้โดยไม่ติดขัด จึงได้มีบทบัญญัติ มาตรา 264 บัญญัติขึ้นเป็นการเฉพาะว่า “ให้ ครม.ที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้เป็น ครม.ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ จนกว่า ครม.ที่ตั้งขึ้นใหม่ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญนี้จะเข้ารับหน้าที่” โดยมีบทบัญญัติผ่อนปรนเกี่ยวกับคุณสมบัติและการปฏิบัติหน้าที่บางประการไว้ให้เป็นการเฉพาะ

เริ่มตั้งแต่ 6 เม.ย.60 รธน.ใช้บังคับ

4.โดยผลของมาตรา 264 ครม.รวมทั้งนายกฯที่ดำรงตำแหน่งอยู่เฉพาะในวันก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2560 จึงเป็น ครม.ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ตั้งแต่วันที่รัฐธรรมนูญ 2560 ใช้บังคับคือวันที่ 6 เม.ย.2560 และโดยผลดังกล่าวบทบัญญัติทั้งปวงของรัฐธรรมนูญ 2560 รวมทั้งบทเฉพาะกาลที่ผ่อนปรนให้ จึงมีผลต่อ ครม.และนายกฯดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.2560 อันเป็นวันที่รัฐธรรมนูญมีผลใช้บังคับเป็นต้นไป และระยะเวลาตามมาตรา 158 วรรคสี่ จึงเริ่มนับตั้งแต่บัดนั้น คือวันที่ 6 เม.ย.2560 เป็นต้นไป

โทษคนจดบันทึก กรธ.ทำเข้าใจผิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมีชัยยังได้ชี้แจงกรณีมีการเผยแพร่เอกสารบันทึกการประชุม กรธ. ครั้งที่ 500 วันที่ 7 ก.ย.2561 ก่อนหน้านี้ซึ่งปรากฏความเห็นของนายมีชัยและนายสุพจน์ ไข่มุก กรธ. ระบุถึงวาระดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี หรือไม่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องนับรวมก่อนปี 2560 ด้วยว่า ในส่วนที่เกี่ยวกับคำกล่าวของข้าพเจ้าขอเรียนว่าเป็นการจดรายงานที่ไม่ครบถ้วน สรุปตามความเข้าใจของผู้จด กรธ.ยังมิได้ตรวจรับรองรายงานการประชุมนั้น เพราะเป็นการประชุมครั้งสุดท้าย และ กรธ.ได้ประกาศสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 12 ก.ย.2561 ความไม่ครบถ้วนดังกล่าว อาจทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนได้ มีข้อผิดพลาดอยู่หลายประการ รายงานการประชุมดังกล่าวจึงยังไม่อาจใช้อ้างอิงเป็นหลักฐานเป็นข้อยุติได้ กรธ.ได้ตระหนักในเรื่องนี้ จึงได้กำหนดให้พิมพ์ข้อความไว้ที่หน้าปกรายงานการประชุมทุกครั้งว่า บันทึกการประชุมนี้ กรธ.ยังไม่ได้รับรอง ผู้ใดนำไปใช้หากเกิดความเสียหายใดๆ ผู้นั้นรับผิดชอบเอง จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดทราบ

ไม่มีใครการันตีเอกสารของจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีเอกสารคำชี้แจงหลุดออกมาในโลกออนไลน์จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ ล่าสุดเวลา 15.00 น. ยังไม่มีใครหรือหน่วยงานใดที่เกี่ยวข้องออกมายืนยันว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่ ผู้สื่อข่าวพยายามโทรศัพท์ไปยังนายมีชัยและนายปกรณ์ว่าเอกสารดังกล่าวเป็นของจริงหรือไม่ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เมื่อสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำตอบว่า เอกสารที่เผยแพร่ผ่านโลกออนไลน์ไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าเป็นเอกสารจริงหรือเท็จ เนื่องจากการพิจารณาคดีที่ผ่านมา คำชี้แจงหรือความเห็นของพยาน ผู้ร้อง ผู้ถูกร้อง ส่วนใหญ่ที่เข้าระบบของสำนักงานฯจะไม่เคยหลุดออกมาเช่นนี้

“ไทกร” อ้างมาจากคนในสุดทน

เมื่อเวลา 17.10 น. นายไทกร พลสุวรรณ สมาชิกคณะหลอมรวมประชาชนฯ ให้สัมภาษณ์ถึงเอกสารที่ปล่อยกันในโซเชียลมีเดีย ว่า ขอตั้งข้อสังเกตเป็นเอกสารที่คาดว่าผู้รักความยุติธรรม รักความถูกต้อง ยึดหลักนิติธรรม นิติรัฐในสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ทนไม่ได้ที่มีคนจงใจบิดเบือนเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯต่อ จึงได้ปล่อยเอกสารดังกล่าวออกมาเผยแพร่ต่อสาธารณะประจานบิดเบือนเจตนารมณ์ รธน.

“เอกสารดังกล่าวที่มีการเผยแพร่ออกมาต่อสาธารณะ เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศรับรู้ว่า ขณะนี้กำลังมีความจงใจบิดเบือนเจตนารมณ์ในการร่างรัฐธรรมนูญของผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน ทั้งนี้ เอกสารดังกล่าวได้ให้ทีมกฎหมายคณะหลอมรวมประชาชนฯ พิจารณาแล้ว สะท้อนให้เห็นว่าผู้ร่างรัฐธรรมนูญเขียนด้วยมือแล้วลบด้วยเท้า” นายไทกรกล่าว

“วิษณุ” ระบุ รบ.ไม่มีแผนรองรับพิเศษ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมนัดพิเศษวันที่ 8 ก.ย.จะมีคำวินิจฉัยออกมาเลยหรือไม่ว่า เมื่อผู้ถูกร้องรวมถึงผู้ให้ความเห็นส่งความเห็นได้เร็วศาลรัฐธรรมนูญก็นัดประชุมได้เร็ว แต่วันที่ 8 ก.ย.จะเสร็จหรือไม่ ตนไม่ทราบ สมมติตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน ถกแถลงกันแล้วใครอยากได้อะไรเพิ่มเติมเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เป็นการทำงานในชั้นศาล ไม่มีกรอบเวลา ปกติเขาไม่บอกให้รู้ เมื่อถามว่า รัฐบาลมีแผนรองรับกรณีคำวินิจฉัยออกมาเป็นลบต่อ พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มี ไม่เคยมีเลย เชิงลบเชิงบวกอะไรไม่มีทั้งนั้น เมื่อถามว่าในฐานะฝ่ายกฎหมายและได้อ่านคำชี้แจงของ พล.อ.ประยุทธ์แล้วมองว่า พล.อ.ประยุทธ์จะได้กลับมาหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า เรื่องมันไปที่ศาลแล้ว รอแล้วกัน เมื่อถามว่าหลายฝ่ายมองว่า พล.อ.ประวิตรลงพื้นที่บ่อยเตรียมแผนสำรองหาก พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ไปต่อ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบ ท่านไปใน 2 สถานะคือรองนายกฯ และหัวหน้าพรรค พปชร. ส่วนนายนิพนธ์ บุญญามณี ลาออกจาก รมช.มหาดไทยแล้ว ศาลฯไม่จำเป็นต้องจำหน่ายคดี วันที่ 14 ก.ย.ต้องอ่านคำวินิจฉัยเรื่องคุณสมบัติของนายนิพนธ์

“อนุทิน” คาดวาระนายกฯไร้ปัญหา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงปมการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี จะไม่มีปัญหาอะไรใช่หรือไม่ว่า “ไม่มีหรอกครับ ตอนนี้โค้งสุดท้ายแล้ว อีกแป๊บเดียวก็ถึงเวลาเลือกตั้งแล้ว ไม่ว่าจะดึง จะยื้อหรืออะไรแล้วแต่ สุดท้ายต้องไปชนในวันที่ 22 มี.ค.66 ในการทำงานของรัฐบาลชุดนี้อยู่ดี ก็เท่านั้นแหละ” เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่ว่าถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ พล.อ.ประยุทธ์ไปต่อจะทำให้มีการชุมนุมบนท้องถนน นายอนุทินกล่าวว่า ถ้าจะมีม็อบด้วยเรื่องนี้ ถือว่าไม่เคารพการพิพากษาของศาล แล้วจะเสนอเรื่องไปให้ตีความทำไมต้องเคารพกติกา ต้องเชื่อศาลเพื่อให้ทุกอย่างดำเนินต่อไปได้

ทีม ก.ม.นายกฯชี้ยังไม่เร็วขนาดนั้น

พล.ต.วิระ โรจนวาศ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและทีมกฎหมาย กล่าวถึงการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดพิเศษในวันที่ 8 ก.ย.ที่จะพิจารณาแนวทางการวินิจฉัย ปมการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ต้องเดินทางไปรับฟังด้วยตัวเองหรือไม่ พล.ต.วิระตอบสั้นๆว่า คงไม่เร็วขนาดนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามกระบวนการหลังศาลรัฐธรรมนูญได้แนวทางในการวินิจฉัยแล้ว หลังจากนั้นจึงจะนัดคู่ความ มาฟังแถลงคำวินิจฉัย

“สุทิน” เดือดครบ 8 ปีแล้ว

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กถึงการวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯว่า ศาลรัฐธรรมนูญมิอาจวินิจฉัยเป็นอย่างอื่น นอกจากวินิจฉัยชี้ขาดให้ความเป็นนายกฯของ พล.อ.ประยุทธ์สิ้นสุดลงเนื่องจากดำรงตำแหน่งนายกฯครบกำหนด 8 ปี ตามมาตรา 170 วรรคสองและมาตรา 158 วรรคสี่ของรัฐธรรมนูญ 2560 เนื่องจากการดำรงตำแหน่งนายกฯเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และเป็นไปตามประกาศพระบรม ราชโองการเพื่อให้มีหน้าที่และอำนาจในการบริหารประเทศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯตามพระบรมราชโองการลงวันที่ 24 ส.ค.57 และพระบรม ราชโองการลงวันที่ 9 มิ.ย.62 เมื่อทรงใช้พระราชอำนาจแต่งตั้งบุคคลใดเป็นนายกฯแล้ว บุคคลนั้นย่อมเป็นนายกฯตามรัฐธรรมนูญ และบุคคลดังกล่าวมิอาจดำรงตำแหน่งเกินกว่าที่พระมหากษัตริย์ทรงใช้พระราชอำนาจแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ภายใต้เงื่อนไขตามกำหนดระยะเวลาในมาตรา 158 ที่มิให้ดำรงตำแหน่งรวมกันเกินกว่า 8 ปีได้

ขู่ตีความเป็นอื่นละเมิดพระราชอำนาจ

นายสุทินระบุด้วยว่า ยกตัวอย่างกรรมการในองค์กรอิสระที่ดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนรัฐธรรมนูญ 60 มีบทเฉพาะกาลตามมาตรา 273 ที่ให้การอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ได้เพียงใดให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ เช่น กรณี กกต.ชุดเดิมต้องพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจาก พ.ร.บ.ว่าด้วย กกต.60 ให้พ้นจากตำแหน่ง ส่วนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชุดเดิมที่ยังไม่ครบวาระ ยังคงดำรงตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป และยังได้สิทธิดำรงตำแหน่งเท่าเดิมคือ 9 ปีมิใช่ 7 ปีตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจาก พ.ร.บ. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ที่อาศัยอำนาจตามบทเฉพาะกาลมาตรา 273 ของรัฐธรรมนูญ บัญญัติให้ดำรงตำแหน่งต่อไปตามระยะเวลาดำรงตำแหน่งเดิม เป็นต้น กรณีระยะเวลาดำรงตำแหน่งนายกฯไม่มีข้อยกเว้นในรัฐธรรมนูญ และกฎหมายใดที่จะมิให้นับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกฯ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาของ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อนับถึงวันที่ 23 ส.ค.65 พล.อ.ประยุทธ์จึงดำรงตำแหน่งนายกฯครบ 8 ปีแล้ว เมื่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ชัดเจน จึงมิอาจอ้างเหตุใดเพื่อใช้ดุลพินิจวินิจฉัยไปในทางอื่นได้ หากองค์กรใด บุคคลใด จะตีความหรือวินิจฉัยไปในทางที่จะให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่พ้นจากตำแหน่งนายกฯ ย่อมเป็นผู้ทำลายหลักความสูงสุดของรัฐธรรมนูญ และล่วงละเมิดพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์

“เต้” คาดส่อซ้ำรอย “รบ.สมชาย”

ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าหากศาลวินิจฉัยให้ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อ ประชาชนทั้งประเทศจะอยากให้อยู่ต่อด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์เชื่อมั่นหรือไม่ว่าจะเข้าไปทำงานในทำเนียบฯได้ เชื่อว่าจะไม่มีพื้นที่ให้เข้าไปทำงานได้แน่นอน คงไม่สามารถข้ามบังเกอร์กับรั้วลวดหนามไปได้ บรรยากาศคงคล้ายสมัยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์คงมีวิจารณญาณว่าควรพอแค่นี้ ทำงานมา 8 ปีแล้ว ใช้เวลาประเทศมากว่า 2,000 วันมากเกินพอแล้ว ฝากบอกไปถึงลูกหาบ พล.อ.ประยุทธ์และคนรอบข้างปลงเสียบ้าง ควรหาที่เกาะใหม่ได้แล้ว จะไปสมัครกับรักษาการนายกฯก็ได้

“บิ๊กป้อม” นั่ง ปธ.ประชุม ครม.นัดที่ 2

เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกฯ เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นครั้งที่ 2 ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะ รมว.กลาโหม ยังคงร่วมประชุม ครม.ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากกระทรวงกลาโหม โดย พล.อ.ประวิตรอารมณ์ดียิ้มรับไหว้สื่อมวลชน แต่บรรยากาศไม่ค่อยคึกคัก รัฐมนตรีหลายคนติดภารกิจ อาทิ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ ไปประเทศมองโกเลีย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ไปประเทศฟินแลนด์ ขณะที่นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย ลาออก และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ หยุดปฏิบัติหน้าที่

ปิดห้องคุย “บิ๊กป๊อก”นอกรอบ

ก่อนการประชุม ครม.ที่ห้องโถง ตึกสันติไมตรี พล.อ.ประวิตรร่วมกิจกรรมประชาสัมพันธ์งาน “อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 13” และงาน “Crafts Bangkok 2022” โดยกระทรวงพาณิชย์และนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกฯและคณะ เข้าพบ พล.อ.ประวิตร มอบหนังสือ “ทศชาติ ปณิธานมหาบุรุษไม่เปลี่ยนแปลง” ฉบับญาณวชิระ เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราช ชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนม พรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 จากนั้น พล.อ. ประวิตรเข้าห้องรับรองสีเหลือง เพื่อพูดคุยกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ก่อนประชุม ครม.

เปิดคลิปยันลงพื้นที่ไม่ได้นั่งหลับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุม ครม.ที่ พล.อ.ประวิตรเป็นประธานเป็นครั้งที่ 2 มีรัฐมนตรีลาประชุม 6 คน บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา แต่ช่วงท้ายมีการเปิดเพลง “ใจบันดาลแรง...แรงบันดาลใจ” ของเบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ สอดคล้องกับคำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประวิตรที่บอกว่า “ใช้ใจบันดาลแรง ไม่ใช่แรงบันดาลใจ” ก่อนเริ่มประชุมเจ้าหน้าที่ได้นำคลิปวิดีโอมาเปิดให้ ครม.เป็นพยานยืนยันว่าการลงพื้นที่ จ.กระบี่ไปทำงานจริง ไม่ได้มีการนั่งหลับ ตามที่ถูกนำภาพนิ่งนั่งหลับมาเผยแพร่ทางโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์กัน

บอกจบไปแล้วนาฬิกายืมเพื่อน

ต่อมาเวลา 12.20 น. พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ ภายหลังการประชุม ครม.ถึงกรณีคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) เตรียมเชิญ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกฯ ในฐานะผู้จัดการมรดกของนายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ เพื่อนที่ให้ยืมนาฬิกาหรู หลังตรวจสอบไม่ปรากฏหลักฐานว่ามีนาฬิกาหรูในบัญชีมรดก โดย พล.อ.ประวิตรส่ายศีรษะพร้อมกล่าวสั้นๆ 2 ครั้งก่อนขึ้นรถว่า มันจบไปแล้วๆ เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี กมธ.ป.ป.ช.เตรียมเชิญ พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ ส.ว. มาชี้แจงกรณี เกี่ยวกับ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม พล.อ.ประวิตร ไม่ตอบก่อนขึ้นรถกลับไปทันที

“วิษณุ” หนุนปรับหลังปิดคดี 8 ปี

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรักษาราชการแทนนายกฯ ระบุรอให้ พล.อ.ประยุทธ์กลับมาปรับ ครม.แบบนี้ แสดงว่า ครม.ยังหวังให้ พล.อ.ประยุทธ์กลับมาดำรงตำแหน่งเช่นเดิมใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบ ใครคิดอะไรก็พูดไป คำตอบของ พล.อ.ประวิตรถูกต้องที่สุด เมื่อไปเซ้าซี้ถามท่าน ท่านยังไม่แน่ชัดว่า พล.อ.ประยุทธ์จะกลับหรือไม่กลับ เอาไว้ให้ พล.อ.ประยุทธ์กลับมาแล้วค่อยว่ากัน หรือถ้ารู้แน่ว่าไม่กลับจะได้ว่ากันใหม่ เมื่อถามว่ากรณีนายนิพนธ์ บุญญามณี ลาออกจาก รมช.มหาดไทย จำเป็นต้องปรับ ครม.หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ยังไม่มีใครพูดอะไร สื่อถามอยู่ทุกวัน ถ้าไปผลีผลามปรับ ครม. พอปรับ ครม.เสร็จแล้วมีเรื่องอะไรอีก รอให้ปิดบัญชีให้หมดเสียก่อน

“สมศักดิ์” เชื่อไม่มีขยับช่วงนี้

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ พรรค พปชร. กล่าวว่า รัฐบาลมีจุดแข็งปรับ ครม.ยาก ไม่ทำให้ร้าวฉาน และอายุรัฐบาลเหลือประมาณ 6 เดือน ไม่ได้มีงานอะไรมากมาย อีก 1 สัปดาห์สภาฯจะปิดสมัยประชุม คิดว่าการปรับ ครม.โดยนายกฯรักษาการไม่น่าจะมี คงรอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปมดำรงตำแหน่งนายกฯได้ข้อยุติถึงจะปรับ จึงไม่ควรปรับ ครม.ตอนนี้ ในอดีตรักษาราชการแทนนายกฯไม่มีใครเคยปรับ ครม. พล.อ.ประวิตรบอกว่าไม่มีการปรับ ครม.ก็แปลว่าไม่มีการเสนอ กระแสข่าว ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) จะย้าย กลับมาพรรค พปชร. ถ้ากลับมาก็ไม่มีปัญหาอะไร

ยัน “หน.ป้อม” ให้เกียรติ “ลุงตู่”

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรองหัวหน้าพรรค พปชร.กล่าวว่า หากฟัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ระบุต้องรอให้ พล.อ.ประยุทธ์มาทำหน้าที่ถึงจะปรับจะไปบอกว่ามั่นใจ ศาลฯจะวินิจฉัยให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้กลับมาทำหน้าที่ต่อคงไม่ได้ แต่พูดในหลักการว่าการจะปรับ ครม.ขณะที่ท่านเป็นรักษาราชการแทนนายกฯ ท่านไม่อยากจะทำ ต้องรอให้นายกฯเป็นคนทำ แสดงให้เห็นว่า พล.อ.ประวิตรจะทำอะไรให้เกียรติ พล.อ.ประยุทธ์ตลอด มีการคุยกันตลอด แต่ละพรรคมีรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือลาออกไป ผู้ใหญ่ทุกพรรคต้องมาคุยกัน รัฐบาลยังทำงานทดแทนกันได้ อยากให้มั่นใจรัฐบาลยังทำงานได้

รมช.ว่าง 4 เก้าอี้ไม่กระทบงาน

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า รมช.ว่างลงรวม 4 ตำแหน่ง ยังมี รมว.อยู่ การบริหารราชการแผ่นดินยังดำเนินการได้ ไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาล ทราบจากข่าวว่า พล.อ.ประวิตรระบุว่าจะไม่ปรับ ครม.ช่วงที่ตัวเองยังรักษาราชการแทนนายกฯ จึงต้องรอดูปลายเดือน ก.ย. หรือรอดูคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

“อนุทิน” นิ่ง มท.2 ออกไม่กดดัน ภท.

นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย พรรคภุมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่าเบื้องต้น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ยังไม่มีการแบ่งหน้าที่เพิ่มเติมถือว่าเร็วเกินไป แม้ว่าพรรค ปชป.ยืนยันและเตรียมเสนอชื่อบุคคลที่จะมาแทน ตนได้พูดคุยกับผู้บริหารพรรค ภท.ได้รับการยืนยันว่า ภท.จะยังไม่มีสัญญาณอะไรเรื่องปรับ ครม.

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. กล่าวว่ากรณีนายนิพนธ์ บุญญามณี ลาออกจาก รมช.มหาดไทย ไม่มีแรงกดดัน ภท. พรรคใครพรรคมัน ไม่จำเป็นต้องทำตามกันทุกเรื่อง ที่มาเทียบกับนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ หยุดปฏิบัติหน้าที่แต่ไม่ลาออก แล้วแต่ใครมอง ภท.ไม่ได้เตรียมคนมาแทนนางกนกวรรณ ทุกคนยังทำงานตามหน้าที่ปกติ คนปรับ ครม.คือนายกฯ เรายังไม่ได้รับสัญญาณใดๆ เมื่อถามว่า ยังคงมีการวิพากษ์วิจารณ์กรณีรูปที่นายอนุทิน และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ไปกินข้าวกลางวันกับนายกฯ ที่กระทรวงกลาโหมว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ไปต่อ อาจส่งไม้ต่อให้นั่งนายกฯ นายอนุทินหัวเราะ พูดแค่ว่า “no news is good news”

ตั้ง “ธีระพงษ์” นั่งปลัดสำนักนายกฯ

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ครม.มีมติเห็นชอบแต่งตั้งให้นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ที่ปรึกษานายกฯฝ่ายข้าราชการประจำ เป็นปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.65 เป็นต้นไป รวมถึงแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ครบวาระ 4 ราย ดังนี้ 1.พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง 2.นายวรวิทย์ สุขบุญ 3.นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ และ 4.นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.65 เป็นต้นไป

ตร.เบิกงบฯสกัดม็อบ 141 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ที่ประชุม ครม.มีมติอนุมัติงบฯปี 65 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นวงเงิน 141.42 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุมระหว่างวันที่ 1 พ.ย.64-31 มิ.ย.65 ตามที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เสนอ เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ตร. ในพื้นที่ กทม. และนอก กทม.โดย ตร.ได้ปรับแผนการใช้จ่ายงบฯปกติไปส่วนหนึ่งแล้ว แต่ไม่สามารถปรับแผนงบฯได้อีก จึงขอรับการสนับสนุนงบกลาง 141.42 ล้านบาท เป็นค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติ 56.47 ล้านบาท ค่าอาหาร 67.71 ล้านบาท ค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ ฝ่ายอำนวยการ 1.57 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายเดินทางไปราชการ 0.13 ล้านบาท ค่าน้ำมัน 0.85 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายอื่นๆ 14.68 ล้านบาท

รัฐสภาถกแก้ไข รธน.เหลือ 4 ฉบับ

อีกเรื่อง เมื่อเวลา 11.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภา มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานที่ประชุมพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม 5 ฉบับ ได้แก่ 1.ร่างแก้ไขมาตรา 43 เกี่ยวกับเรื่องสิทธิบุคคลและชุมชน ที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เสนอ 2.ร่างแก้ไขมาตรา 120 เรื่ององค์ประชุมสภาฯ ที่นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เสนอ 3.ร่างแก้ไขมาตรา 25 วรรค 5 มาตรา 29 มาตรา 34 มาตรา 44, 45, 47 และ 48 เกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพประชาชน การเพิ่มสิทธิในกระบวนการยุติธรรม นพ.ชลน่าน เสนอ 4.ร่างแก้ไขมาตรา 159 และมาตรา 170 คุณสมบัติ และที่มาของนายกฯ นพ.ชลน่าน เสนอ และ 5.ร่างแก้ไขมาตรา 272 ตัดอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯของนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ในฐานะคณะผู้รณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 64,151 คน เสนอ ก่อนเข้าสู่วาระนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค (ภท.) ขอถอนร่างที่ 2 ของนายวิรัช ที่ประชุมอนุญาต ทำให้เหลืออยู่ 4 ร่าง

“สมชัย” ยืนกรานปิดสวิตช์ ส.ว.

จากนั้นที่ประชุมให้ผู้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมชี้แจงหลักการและเหตุผล โดย นพ.ชลน่าน ชี้แจงหลักการแก้ไขมาตรา 159 เสนอแก้ไขให้สภาฯให้ความเห็นชอบนายกฯมาจาก ส.ส. และเป็นคนที่มีชื่ออยู่ในบัญชีพรรคการเมืองเท่านั้น และห้ามเป็นนายกฯเกิน 8 ปี ไม่ว่าจะต่อเนื่องหรือไม่

นายสมชัยชี้แจงหลักการแก้ไขมาตรา 272 ว่า ขอตัดอำนาจ ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ เป็นทางออกประเทศ ที่ฝ่ายคัดค้านอ้างว่า ส.ว.ชุดนี้เหลือเวลาอีก 1 ปีกว่าๆจะหมดเงื่อนไขเรื่องเลือกนายกฯนั้น มองว่าการเลือกนายกฯต้องเป็นไปด้วยความสง่างาม การมีนายกฯโดยให้ ส.ว.มีส่วนร่วมอีกจะสร้างความขัดแย้งรอบใหม่ และการลงมติงดออกเสียงในร่างนี้ไม่ได้แสดงออกถึงความเป็นกลาง แต่ไม่ประสงค์ให้ผ่านวาระรับหลักการ

“โรม” ฉะ ส.ว.สารพัดแก๊งอุ้ม “บิ๊กตู่”

กระทั่งเวลา 13.00 น. หลังจากผู้เสนอร่างแก้ไขทุกฉบับชี้แจงเสร็จแล้ว นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) อภิปรายว่า ขอให้ยกเลิกมาตรา 272 ตัดอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯ ส.ว.ชุดนี้โหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯต่อเนื่องหลังยึดอำนาจ มีทั้งแก๊ง ตท.12 แก๊ง ตท.6 รวมถึงพวกพ้องน้องพี่ อีกสารพัดคณะคอยสนับสนุน ทำให้นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ส.ว.ลุกขึ้นประท้วงให้ถอนคำว่า “แก๊ง” ขอให้ดูตัวเองบ้าง เป็นหนี้ กยศ.ยังไม่ใช้ ควรสำเหนียกตัวเอง นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ประธานที่ประชุม ขอให้ถอนคำพูดแต่ไม่มีใครถอน ปะทะคารมกันอยู่ช่วงหนึ่ง นายรังสิมันต์ยืนยันใช้หนี้ กยศ.ไปเรียบร้อยแล้ว สุดท้ายนายพรเพชรตัดบทไม่ให้นายกิตติศักดิ์พูดต่อ จากนั้นนายรังสิมันต์อภิปรายต่อว่า ส.ว.ทั้ง 250 คนเป็นมรดกตกทอดคณะรัฐประหาร จะไว้ใจให้มีอำนาจเลือกนายกฯต่อไปได้หรือ รู้ว่าหวงอำนาจ แต่อำนาจนี้ไม่ใช่ของท่าน ควรคืนให้ประชาชน

เหน็บหนี้บุญคุณ คสช.ใช้หมดยัง

นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. อภิปรายว่า ถ้าแก้ไขมาตรา 272 ไม่ได้ การเลือกตั้งครั้งต่อไปก็หมดความหมาย ผู้นำที่ปล้นอำนาจไร้ความสามารถอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ หากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และความยุติธรรมมีจริง ศาลสถิตยุติธรรมควรเปิดเครื่องประหารหัวสุนัขเตรียมรอได้แล้ว ทุกวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์พยายามแสวงหาอภินิหารทางกฎหมาย ดันทุรังให้เป็นนายกฯต่อหลัง 8 ปี เสพติดอำนาจไม่ละอาย ขอเรียกร้องให้ ส.ว.กลับมายืนข้างประชาชน มีเกียรติยศศักดิ์ศรีมากกว่า เป็นนั่งร้านให้ทรราชย์สืบทอดอำนาจต่อ ที่ ส.ว.บางคนบอกว่านายรังสิมันต์ โรม ใช้หนี้ กยศ.ยังไม่หมด ขอถามว่า ส.ว.ใช้หนี้บุญคุณ คสช.ครบหรือยัง

รัฐบาล-ส.ว.ตีรวนไม่ส่งชื่ออภิปราย

ผู้สื่อข่าวรายงาน การอภิปราย 2 ชั่วโมงแรก มีแต่ ส.ส.ฝ่ายค้านอภิปรายฝ่ายเดียว ไม่มี ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและ ส.ว.ส่งชื่ออภิปรายแม้แต่คนเดียว จนผิดสังเกต ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรค พท.ท้วงติงว่า ฝ่ายค้านขอใช้เวลาอภิปรายเป็น 3 ชั่วโมง หากครบแล้วถ้า ส.ส.รัฐบาล และ ส.ว.ไม่ใช้สิทธิอภิปราย ขอให้พักประชุมอภิปรายต่อในวันที่ 7 ก.ย. ขณะที่นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. กล่าวเสริมว่า มีเรื่องไม่ปกติ ส.ว.ไม่เสนอชื่ออภิปรายไม่รู้เป็นเกมการเมืองเพื่อจะอภิปรายตลบหลังวันที่ 7 ก.ย.เพียงฝ่ายเดียวหรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนี้ให้ปิดประชุมไปเลย ทำให้บรรยากาศเริ่มตึงเครียด นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. เสนอพักประชุม ให้วิป 3 ฝ่ายไปหาทางออก ด้าน น.ส.ภาดาห์ วรกานนท์ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงว่า หากไม่มี ส.ส.รัฐบาลและ ส.ว.อภิปราย ขอให้พักประชุมอภิปรายต่อในวันที่ 7 ก.ย. ในที่สุดนายพรเพชร ประธานที่ประชุม ขอให้ฝ่ายค้านอภิปรายไปก่อน หากไม่มีผู้อภิปรายแล้วจะสั่งพักประชุม ไปอภิปรายต่อในวันที่ 7 ก.ย.

“คำนูณ-เสธ.อู้” หนุนหั่นทิ้ง ม.272

กระทั่ง 15.00 น. มี ส.ว.ลุกขึ้นมาอภิปรายเป็นคนแรกคือ นายคำนูณ สิทธิสมาน ต่อด้วย พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โดยทั้งคู่อภิปรายสนับสนุนร่างแก้ไขมาตรา 272 ตัดอำนาจ ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ จากนั้นบรรยากาศการอภิปรายในช่วงบ่ายถึงเย็นเป็นไปอย่างเงียบเหงา ยังมีแต่ ส.ส.ฝ่ายค้านอภิปรายสนับสนุนแก้ไขมาตรา 272 ให้ตัดอำนาจ ส.ว.ขณะที่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและ ส.ว.สลับอภิปรายเพียงประปรายเท่านั้น มีนายเฉลา พวงมาลัย ส.ว. อภิปรายว่า มาตรา 272 ไม่ได้เสียหายอะไร ดีใจที่รัฐสภาเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ขณะนั้นมีตัวเลือกแค่ 2 คน ดูแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ถือว่าดีที่สุด ที่ผ่านมาสมาชิกบางคนให้ร้ายป้ายสี ส.ว. 250 คน ไม่ได้เลวร้าย ทุกคนมีความสามารถ เป็นข้าราชการผู้ใหญ่ทั้งสิ้น ขอได้ให้เกียรติให้ความสำคัญกับ ส.ว.ด้วย หลังจากนายเฉลา อภิปรายจบ ไม่มีสมาชิกขออภิปรายต่อ นายพรเพชร ประธานที่ประชุม สั่งพักการประชุม ไปอภิปรายต่อในวันรุ่งขึ้น

ม็อบบุกสภาฯ ขอยกเลิก 3 วาระรวด

วันเดียวกัน คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) และเครือข่ายภาคประชาชนคัดค้าน ม.272 นำโดย น.ส.ธนพร วิจันทร์ หรือไหม เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน นายธัชพงศ์ แกดำ และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนา ได้ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ที่รัฐสภา เพื่อเรียกร้องให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณายกเลิกรัฐธรรมนูญมาตรา 272 แบบ 3 วาระรวด พร้อมทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ฉีกและนำกรรไกรมาตัดป้ายคำว่า ส.ว.ทิ้ง โดยมีนายณัฐกานต์ ชูชนะ เลขานุการคณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาฯ เป็นตัวแทนรับหนังสือ น.ส.ธนพร กล่าวว่า ขอให้ยกเลิกมาตรา 272 เพื่อให้การเลือกตั้งอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าดำเนินไปด้วยความเป็นธรรม และไม่ถูกครอบงำจากคนบางกลุ่มอีกต่อไป ให้พรรคการเมืองเสียงข้างมากเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างสมความภาคภูมิ และเป็นไปตามประชามติของประชาชนอย่างแท้จริง