การเปลี่ยนกติกาเลือกตั้งกลับ มาเป็นระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เพิ่ม ส.ส.เขต จาก 350 คน เป็น 400 คน ลดโควตา ส.ส.บัญชีรายชื่อ จาก 150 คน เหลือ 100 คน ฯลฯ

ทำให้พรรคการเมืองขนาดกลางและขนาดเล็กต้องปรับกระบวนทัพรับศึกเลือกตั้งครั้งหน้ากันชุลมุนวุ่นวาย

เพราะระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ทำให้พรรคใหญ่ได้เปรียบทุกประตู

ตัวอย่างล่าสุด คือ นายกรณ์ จาติกวณิช หน.พรรคกล้า ตัดสินใจยุบพรรคตัวเอง ไปร่วมหัวจมท้ายกับ “นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ” ประธานพรรคชาติพัฒนา

เหตุผลที่ “นายกรณ์” ต้องมูฟออน เพราะระบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ไม่เอื้อให้พรรคกล้า ซึ่งเป็นพรรคตั้งใหม่ ชนะเลือกตั้งได้ ส.ส.เข้าสภาเป็นกอบเป็นกำ

เนื่องจากพรรคกล้าไม่มีฐานคะแนน ส.ส.เขต ที่ชัวร์จริงๆ

ส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ยังพอมีหวังอยู่บ้าง แต่ไม่น่าจะถึง 10 คน

แถมจุดยืนของพรรคกล้า ก็ยังไม่ชัดเจน

ไม่รู้จะเป็นขั้วประชาธิปไตย? หรือเป็นขั้วลุง 3 ป.?

ถ้าจะโชว์จุดขายเป็นพรรคคนรุ่นใหม่ ก็ติดด่าน “พรรคก้าวไกล”

ถ้าจะโชว์จุดขายด้านเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ ก็ติดด่านพรรคสร้างอนาคตไทย ซึ่งมี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นตัวชูโรง

“แม่ลูกจันทร์” มองว่า การที่ “นายกรณ์” ตัดสินใจถอนเสาเรือนย้ายไปตอกเสาเข็มกับพรรคชาติพัฒนา เป็นทางเลือกที่ดี

ดีทั้งพรรคกล้า และดีทั้งพรรคชาติพัฒนาเอง

พรรคชาติพัฒนาของ นายสุวัจน์ ได้ “นายกรณ์” เป็นขุนพลเศรษฐกิจเสริมจุดแข็งที่ขาดไป

ส่วน “นายกรณ์” ก็จะได้อาศัยบารมี “นายสุวัจน์” เป็นมือประสานสิบทิศทางการเมือง

...

เพราะไม่ว่าขั้วไหนเป็นรัฐบาล พรรคชาติพัฒนา สามารถเสียบได้ทุกขั้วอย่างสะดวกโยธิน!!

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าข้อดีอันประเสริฐของการยุบพรรคกล้า ไปผนึกกับพรรคชาติพัฒนา จะเพิ่มน้ำหนักต่อรองทางการเมืองได้อย่างสำคัญ

ถ้า “สุวัจน์–กรณ์” ช่วยกันหิ้ว ส.ส.เข้าสภา ได้เกิน 15 คน

พรรคชาติพัฒนา (ปัจจุบันมี ส.ส. 4 คน) จะยกระดับเป็นพรรคขนาดกลาง

เป็นพรรคขนาดคอมแพ็ก ไม่ใหญ่ เทอะทะ แต่ไม่เล็กเกินไป พรรคขนาดกำลังดีที่จะเสียบร่วมรัฐบาล!!

“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่า ถ้าการสยุมพร ระหว่าง “กรณ์ กับ สุวัจน์” ส่งผลให้ได้ ส.ส.เข้าสภาเกิน 15 คน

รับประกันซ่อมฟรี พรรคชาติพัฒนาจะได้โควตารัฐมนตรีว่าการ 1 กระทรวง และรัฐมนตรีช่วยฯอีก 1 กระทรวง

แต่...แต่ก่อนที่เสือสองตัวจะย้ายไปอยู่ถ้ำเดียวกัน

“เสือสุวัจน์” กับ “เสือกรณ์” ต้องปิดห้องคุยรายละเอียดให้ชัดเจนทุกประเด็น? ใครจะเป็นหัวหน้าพรรค? ใครจะเป็นเลขาธิการพรรค?

ใครจะลงขันใส่เงินกองกลางกี่เปอร์เซ็นต์?

และใครจะเป็นคิวแรกที่เป็นรัฐมนตรี ฯลฯ

คุยกันให้จบก่อนนิมนต์พระเจิมป้าย ไม่งั้นยุ่งตายชักนะโยม.

"แม่ลูกจันทร์"