เลือกตั้งรอบต่อไป เมืองพิจิตรส่งออกกล้วยแทนข้าวได้เลย จากแนวโน้มตะลุมบอนกันอุตลุดในการแย่งเก้าอี้ ส.ส.เมืองชาละวัน ว่ากันตั้งแต่ทีมเซราะกราว ภูมิใจไทย นำโดย “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรค นำหางเครื่องชุดใหญ่ ไปแท็กทีมกับ “เสี่ยอ๊อด” นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีต รมช.คลัง

ประกาศกวาดผู้แทนฯพิจิตรยกจังหวัด

มั่นอกมั่นใจถึงขั้นจัดสรรปันส่วนโควตารัฐมนตรีให้กันล่วงหน้า หากทำได้ตามเป้า

และนั่นก็ทำเอาก้นร้อนนั่งกันไม่ติด ในจังหวะต่อเนื่องติดๆกัน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ขาใหญ่ค่ายพลังประชารัฐ ต้องขนทีมงานขึ้นไปร่วมมหกรรมเลี้ยงโต๊ะจีน

ฉลองวันเกิด ส.ส.พิจิตร พรรค พปชร. แสดงตัวแสดงตนเป็นเจ้าถิ่น

ไม่ให้ใครมาตีกิน แย่งชิ้นปลามันกันง่ายๆแน่

แต่นั่นก็ช้ากว่าพรรคเศรษฐกิจไทยของ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่มี ส.ส.พิจิตร อดีตกบฏค่ายพลังประชารัฐอยู่ในสังกัด ประกาศไม่ยอมเสียพื้นที่อาณานิคม

...

อารมณ์พร้อมใส่หมดหน้าตัก ไม่ยอมถอย

ยังไม่นับอาการหึงของอดีตเจ้าถิ่นอย่างยี่ห้อประชาธิปัตย์ ที่ยืนยันว่าตระกูล “แก้วทอง” ยังไม่แขวนนวม พร้อมร่วมวงแชร์แต้ม ส.ส.เมืองชาละวัน

ด้วยศักดิ์ศรี ปชป.หนีไม่ออกเหมือนกัน

ฝุ่นตลบแต่หัววัน ขาใหญ่หน้าตักหนาต่างทุ่มเดิมพันศึกเลือกตั้งใหญ่ ปักหมุดจองพื้นที่กันล่วงหน้า ประชันกันเลยว่าใครจะใจใหญ่ มือหนักกว่ากัน

การเมืองเชิงปริมาณ ในหมู่พรรคร่วมรัฐบาลที่อู้ฟู่ กินดีอยู่ดี ต่างฝ่ายต่างตุนกล้วย ไว้เต็มตู้เสบียงรถไฟ กระสุนดินดำยิงได้ไม่อั้น

ม่านหมอกสีเทาแบงก์พัน ยังปกคลุมประเทศไทย

ที่แน่ๆมาถึงจุดนี้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม น่าจะต้องเหล่ตาไปที่ “เสี่ยหนู” เป็นพิเศษ ตามอาการเบ่งตัว “พองลม” เห็นได้ชัดเจน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า หวังปาดหน้าคั่วแคนดิเดตผู้นำ

ว่ากันตามตัวเลข ถ้าค่ายเซราะกราวอัดพลังกล้วยที่ตุนไว้ได้ไม่อั้น กวาดต้อนบ้านใหญ่ ในหลายจังหวัดมาเป็นอาณานิคม และทำแต้มได้เป็นกอบเป็นกำ

ยี่ห้อ “ภูมิใจไทย” แซงขึ้นแป้นอันดับหนึ่งในฝั่งขั้วตรงข้าม “ทักษิณ”

นั่นหมายถึงชื่อของ “อนุทิน” ก็ได้คิวก่อน “บิ๊กตู่” ที่ตอนนี้ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า จะสิงสถิตอยู่ในบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรคไหน

ในสภาพที่ไม่สามารถยึดป้อมพลังประชารัฐได้ ต้องส่งเครือข่ายสายตรงอย่าง “เสี่ยตุ๋ย” นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค กุนซือนายกฯ ทายาทผู้ก่อตั้งปั๊มน้ำมัน “สามทหาร” ไปทำนั่งร้าน ก่ออิฐ โบกปูนพรรครวมไทยสร้างชาติ

รองรับภารกิจ “รวมไทยสร้างตู่” ที่ดูท่าจะหนักหนาเอาการ

กับการ “เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน” ตามสภาพของค่าย “รวมดาวกระจุย” ทีมงานขาใหญ่ก๊วน กปปส. ของ “ลุงกำนัน”นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ทับซ้อนกับคนของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถึงวาระต้องแหกค่าย แตกทัพ แยกทางใครทางมัน

ตามรูปเกมทีมแห่ “บิ๊กตู่” เบิ้ลนายกฯรอบสาม ยักแย่ยักยันเต็มที

เอาเป็นว่า ถ้าไม่สะดุดสายล่อฟ้า เคลิ้มกัญชาจนเพี้ยน ตาม อารมณ์เกรียนๆของ “เสี่ยหนู” ที่ชอบเรียกแขก จุดกระแสหมั่นไส้ แพ้ภัยตัวเอง

รอบนี้ก็ใกล้เคียง “ฝันเป็นจริง” มากที่สุดแล้ว

ทั้งนี้ทั้งนั้น ในมุมของพรรคร่วมรัฐบาลทหารเฒ่า 3 ป. ที่แข่งกัน “พองลม” แย่งกันเบ่งตัวเลข ส.ส.เพื่อชิงฐานนั่งร้านปีนขึ้นสู่เก้าอี้ผู้นำรอบต่อไป แบบใครดีใครได้

ติดกับดัก ดิ้นไม่พ้นบ่วงการเมือง

เห็นจะมีแค่รายของ “เดอะท็อป” นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว. ทรัพยากรฯ หัวขบวนพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ไม่ทิ้งเรื่องการบริหารตามเนื้อผ้าในตำแหน่ง ตามภาพข่าว ขึ้นเขา ลงห้วย เข้าป่า ดำน้ำทะเล ประเมินจากเนื้องานที่นำเสนอผ่านเพจเฟซบุ๊ก สั่งเอง ลุยปฏิบัติเองไปกับลูกน้อง

ที่สำคัญ ไม่มักใหญ่ ฝันไกลถึงเก้าอี้นายกฯ “เดอะท็อป” ลั่นขอแค่เก้าอี้ รมว.ทรัพยากรฯยาวๆไป

สไตล์ “บ้างาน” ตีตั๋วผูกขาดพรรคร่วมรัฐบาล.

ทีมข่าวการเมือง