แตกแบงก์พันประชันกัน...หลังจบศึกซักฟอกทุกพรรคคงเดินหน้าเพื่อเตรียมความพร้อม เปิดประตูไปสู่สนามเลือกตั้งไม่ว่าพรรคใหญ่-เล็ก เก่า-ใหม่ ให้ทุกอย่างลงตัว

อย่างหนึ่งก็คือการเตรียมพร้อมให้สอดรับกับกติกาการเลือกตั้ง ที่แม้ว่าตอนนี้ยังไม่ชัดเจนต้องรอวาระ 3 และศาลรัฐธรรมนูญจะชี้ออกมาอย่างไร

นั่นคือการได้มาซึ่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อจะใช้แบบ 100 หาร หรือ 500 หาร เพราะมีความสำคัญต่อการได้มาซึ่งจำนวน ส.ส.ของแต่ละพรรค

อย่าง “เพื่อไทย” ซึ่งกำลังเตรียมการรับมือกับสูตร 500 หารด้วยแนวคิดแตกแบงก์พันตั้งพรรคการเมืองใหม่ขึ้นมารองรับ

โผล่ชื่อพรรค “ครอบครัวเพื่อไทย”...มุ่งหวังจะได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เพียงอย่างเดียว

และยังเกลี่ยผู้สมัครที่ต้องมาจากปาร์ตี้ลิสต์ออกมาสังกัดพรรคการเมืองใหม่นี้ด้วย

แต่นั่นเป็นเพียงแนวคิดยังไม่มีความชัดเจน เพราะยังหวังว่าจะได้คะแนนเสียงจากผู้ไปใช้สิทธิลงคะแนนพุ่งไปถึง 19 ล้านเสียง

ก็ว่ากันไป...

อีกพรรคคือพลังประชารัฐอย่างที่เคยพูดเอาไว้ว่าจะต้องมีอีกพรรคเพื่อรองรับเรื่องนี้ด้วย หรือมุ่งหวังให้เป็นพรรคสำรองเผื่อเหลือเผื่อขาด

พรรครวมไทยสร้างชาติที่ “แรมโบ้” เตรียมเอาไว้ตั้งแต่ต้นกำลังมีความเคลื่อนไหวขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

“เอกนัฏ พร้อมพันธุ์” อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์และแกนนำ กปปส. เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างการร่วมจัดตั้ง ซึ่งจะมีการเปิดตัวในเร็วๆนี้ ทั้งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคที่เป็นอดีตนักการเมืองหลายคน

จะมีการประชุมใหญ่ในวันที่ 3 ส.ค.65

“พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ที่ปรึกษานายกฯ ได้รับการคาดว่าจะมาเป็นหัวหน้าพรรคและมีอดีตแกนนำ กปปส.อีกหลายคนร่วมด้วย

...

“วิทยา แก้วภราดัย” ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่จะเข้ามาร่วมด้วย

นี่เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น แต่คาดว่าจะเป็นอีกพรรคหนึ่งที่มีนักการเมืองที่มีชื่อเสียงเข้ามาร่วมเป็นจำนวนไม่น้อย

ที่สำคัญก็คือบรรดานักการเมืองเหล่านี้ล้วนใกล้ชิดกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ บางคนเคยร่วมงานกับพลังประชารัฐมาแล้ว

ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ที่ยังไม่มั่นใจว่าพลังประชารัฐจะไปรอดหรือไม่หรือจะสนับสนุนให้เป็นนายกฯต่อไปหรือไม่

จึงเตรียมพร้อมที่จะมาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติด้วย

สนามเลือกตั้งคราวต่อไปนี้จึงมีพรรคการเมืองใหม่ๆเข้ามาสู่เวทีกันหลายพรรคคงทำให้การเมืองมีสีสันเพิ่มมากขึ้น

“เพื่อไทย” ที่มุ่งหวังจะชนะเลือกตั้งด้วยแลนด์สไลด์คงไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่ผ่านมา เพราะนักการเมืองจะกระจายไปอยู่พรรคต่างๆ

นักการเมืองหน้าเก่าที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมอยู่แล้วคงจะมีพื้นที่ให้เข้ามาสู่เวทีการเมืองไม่ยาก

เชื่อได้เลยว่าการเมืองไทยจะเปลี่ยนแปลงไปอีกหน้าหนึ่ง!

“สายล่อฟ้า”