อำนาจเผด็จการแข็งแกร่งยังไง ยังต้องพ่ายให้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง

ตามปรากฏการณ์นำร่องจากประเทศศรีลังกา ประชาชน ทั้งประเทศพากันชุมนุมขับไล่ผู้นำอย่างประธานาธิบดี “โกตาบายา ราชปักษา” จนต้องลี้ภัย หนีตายออกนอกประเทศ

ฐานบริหารผิดพลาดล้มเหลว ทำให้เศรษฐกิจของประเทศล้มละลาย

ถึงขั้นเงินทุนสำรองไม่เหลือ รัฐบาลไม่มีงบประมาณบริหาร ก่อให้เกิดสถานการณ์ขาดแคลนพลังงานเพราะไม่มีเงินนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง ภาพรถยนต์ต่อคิวยาวเหยียดเติมน้ำมันตามปั๊มแบบสิ้นหวัง ไฟฟ้าดับทั้งประเทศ ประชาชนต้องใช้ฟืนแทนแก๊สหุงต้ม สินค้าราคาแพงเพราะไม่สามารถนำเข้าจากต่างประเทศได้

ชาวศรีลังกากลัวอดตายมากกว่าปลายกระบอกปืน

ขนาดรัฐบาลที่มีกองทัพหนุนหลังประกาศเคอร์ฟิว ใช้อำนาจพิเศษยังคุมสถานการณ์จลาจลไม่อยู่ ประชาชนโกรธแค้นบุกเผาทำลายบ้านประธานาธิบดี ลามไปถึงคฤหาสน์ของนายกรัฐมนตรี

ต้องเผ่นกระเจิง หนีกันหัวซุกหัวซุน

อำนาจรัฐไม่อาจต้านทานพลังแห่งความยากลำบากของประชาชนที่หมดความอดทน

ตามแนวโน้มลามต่อกันเป็นลูกโซ่ “มหาวิกฤติเศรษฐกิจ” จะเป็นเงื่อนไขสั่นสะเทือนความมั่นคงในหลายๆประเทศ เหตุเกิดที่เอเชียใต้ สภาพเดียวกันยังก่อตัว อีกหลายเมือง อาการน่าห่วงใย

...

ไม่เว้นประเทศไทย เตรียมรัดเข็มขัดรับแรงกระแทกกันได้เลย

แกะรอยจากการที่อยู่ๆ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ก็เปิดโพยแถลงการณ์ว่าด้วย “3 แกน สร้างอนาคต” กันแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

ที่สำคัญยังถูกวิจารณ์ว่า ไม่มีความรู้จริงในสิ่งที่ประกาศยุทธศาสตร์ออกมา

อารมณ์แบบที่นายบรรยง พงษ์พานิช ผู้บริหารบริษัทเอกชนชื่อดัง ย้อนถาม “ใครเขียนให้วะ” ที่น่ากลัวกว่าคือนายกฯไม่ได้รู้เรื่อง ไม่ได้เข้าใจในสิ่งที่ท่านพูดเลย แนวเดียวกับนายสันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย ที่อัดนิ่มๆ ปลอมมาก ตลก เชื่อว่านายกฯไม่ได้เป็นคนคิดเอง

ผลคือมุกแป้ก ตอกย้ำความบ้อท่าของนายกฯที่อุปโลกน์ตัวเองเป็น “กัปตันทีมเศรษฐกิจ” แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันเป็นอะไรที่สะท้อน อาการนั่งไม่ติด

สถานการณ์ความล้มเหลวในเชิงการบริหารเศรษฐกิจกำลังเป็นไฟลนก้นผู้นำทหารอาชีพ ทั้งภาวะน้ำมันขึ้นราคา แก๊สหุงต้มพุ่งพรวดพราด ค่าไฟฟ้าจ่อกระหน่ำซ้ำชาวบ้าน

คนไทยส่วนใหญ่กำลังลำบากปากท้อง อยู่ในวงล้อม ภาวะ “แพงทั้งแผ่นดิน”

“ระเบิดเวลา” ที่ชนวนไหลเข้าใกล้จุดบึม กระชั้นเข้าไปทุกขณะ

ไฟต์บังคับ “บิ๊กตู่” เลยต้องรีบเจาะรูระบายแรงกดดัน เปิดโพย 3 แกน สร้างอนาคต ขายฝัน ล้างปัญหาความยากจน ปั้นความร่ำรวยแบบกระจายไปทั่วทั้งแผ่นดิน

แต่อารมณ์คนไม่รู้วันนี้พรุ่งนี้จะกินอะไร เลยไม่อินตามฝันไกลของท่านผู้นำ

กระแสส่วนใหญ่เรียกร้องให้เปลี่ยนผู้นำและทีมบริหารมากกว่า

ในจังหวะสถานการณ์ที่ พล.อ.ประยุทธ์และ ครม.กำลังเดินเข้าสู่ “คิลลิ่งโซน” ทางการเมือง ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะประจัญบานกันในวันที่ 19-22 กรกฎาคมนี้

เวทีเชือดครั้งสุดท้ายปลายเทอมสภา

ท่ามกลางฝุ่นควันโขมงจากเกมเชิดฉิ่งโหมโรงของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล รัวเกราะ เคาะไม้ ตามฟอร์ม ขู่ผู้นำและรัฐมนตรี

ระวังตัวให้ดี โดนทีเด็ดน็อกคาสภาได้

เขย่าขวัญพวกอยู่ในข่ายหนีแต้มบ๊วย ทั้ง “เสี่ยเฮ้ง” นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน “เสี่ยโอ๋” นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง

ต้องขนกล้วยออกจากโกดัง ป้อนลิง ต้อนงูเห่ากันมือเป็นระวิง

ชิ่งคะแนนที่โหล่ อันจะมีผลต่อการปรับ ครม.ที่น่าจะเกิดขึ้นหลังศึกไม่ไว้วางใจ

แต่ที่หนักหนาสาหัสกว่าใคร ตามสถานะของ “เป้าทำลายล้าง” หนีไม่พ้นผู้นำอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้นำรัฐบาล ที่ต้องรับผิดชอบสูงสุดในฝ่ายบริหาร

ตามรูปการณ์ที่ฝ่ายค้านจัดคิวนายกฯไว้ลำดับท้ายสุดของเป้าเชือด

ตั้งท่าใส่กันเนื้อๆเน้นๆ เอาให้เลือดโชก

และจุดที่เป็นไฮไลต์ ถือเป็นการเปิดฟลอร์โหมโรงศึกไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้าย นั่นก็คือการประกาศของ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย

ถอนตัวออกจากสนับสนุนรัฐบาลแบบร้อยเปอร์เซ็นต์

ไม่เป็นพรรคครึ่งบกครึ่งน้ำอีกต่อไป

ด้วยเหตุผลที่อ้างโยงไปถึงการพ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปางเขต 4 ที่ “ผู้กองนัส” ระบุชัดว่า สาเหตุจากท่าทีครึ่งๆกลางๆของพรรคที่ค่อนไปทางรัฐบาล ทำให้คนภาคเหนือตอนบนที่ไม่ชอบ “บิ๊กตู่” ไม่พอใจการบริหารเศรษฐกิจของผู้นำรัฐบาล 3 ป. ทำคนลำบากปากท้อง

เลยพาลไม่เลือกผู้สมัครของพรรคเศรษฐกิจไทย

นั่นจึงเป็นความจำเป็นให้ ร.อ.ธรรมนัสต้องถีบตัวเองออกจากฝั่งรัฐบาล เลิกเหยียบเท้ากันเล่นกับ “บิ๊กบราเธอร์” อย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

เปิดหน้าซัดมีดใส่คู่อาฆาตอย่าง “บิ๊กตู่” แบบไม่ต้องยั้งไมตรี

แน่นอน นี่คือเหลี่ยมเขี้ยวของ “ผู้กองนัส” ที่ถือโอกาสดึงจังหวะจากที่พลาดท่าพ่ายศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เขต 4 แบบเนียนๆ ไม่เสียหน้าเสียเหลี่ยมเกินไป

โยนระเบิดให้ “บิ๊กตู่” รับไปเนื้อๆเต็มๆ

กับสภาพของผู้นำที่บริหารเศรษฐกิจผิดพลาด ทำประชาชนเดือดร้อนปากท้อง

มาถึงจุดที่ใครเกี่ยวโยงด้วย ยังต้องพาลเจ๊งไปตามๆกัน

ก่อนอื่นเลยการถอนสมอของทีม “ผู้กองนัส” เท่ากับตัดเสียงของพรรคเศรษฐกิจไทยออกจากฝ่ายหนุนรัฐบาลชัดเจน ไม่มีการแทงกั๊กยึกๆยักๆ

มันก็ทำให้สมการตัวเลขของฝ่ายหนุน “บิ๊กตู่” หล่นมาอยู่ใกล้เส้นก้ำกึ่ง

สถานการณ์แบบที่นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ประธานวิปรัฐบาล ยอมรับสารภาพตามตรง เป็นจุดที่น่าห่วงใยในเสถียรภาพพอสมควร

แต่อีกมุมหนึ่งก็เป็นฝั่งของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ยอมรับสภาพเหมือนกัน ด้วยเสียงของงูเห่าที่ถูกซื้อตัวไปอยู่กับพรรคร่วมรัฐบาล

ทำให้ฝ่ายค้านโค่นรัฐบาลลำบาก

ขณะที่นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประธานวิปฝ่ายค้าน แสดงความเชื่อมั่น การที่พรรคเศรษฐกิจไทยย้ายข้างมาอยู่ฝ่ายค้าน แม้จะล้มรัฐบาลไม่ได้ แต่ก็ทำให้รัฐบาลสั่นคลอน

หากเป็นนายกฯคนอื่นที่ไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์ คงตัดสินใจลาออกแล้ว

สรุปตามรูปเกม การที่ “ผู้กองนัส” ถอนสมอชิ่งรัฐบาล อย่างน้อยเลยก็ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลากเรือเหล็กปะผุ เสียงปริ่มน้ำไปต่อลำบากยากขึ้นไปอีก

ถูลู่ถูกังไปได้ ด้วยการแจกกล้วยแลกแต้ม

ฉาวโฉ่มากกว่ารัฐบาลชุดไหนๆที่ผ่านมา

ถ้าไม่บังเอิญว่า จังหวะเข้าเหลี่ยมพอดี กับปัญหากฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.สูตรปาร์ตี้ลิสต์หาร 500 ที่ส่อเค้าว่าจะมีการแย่งกันยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ

ตามเงื่อนไขมันก็น่าจะทำให้การเลือกตั้งใหญ่ยังเกิดขึ้นเร็วไม่ได้

ถ้าจบไม่ลง และ “บิ๊กตู่” ไม่ใช้อำนาจออกพระราชกำหนดให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกกติกาเลือกตั้งมาใช้ชั่วคราว เผลอๆจะลากเกมไปจนเลยเวลาสภาชุดนี้ที่กำหนดครบเทอมเดือนมีนาคมปีหน้า

เกมในสภา “บิ๊กตู่” พอเอาตัวรอดได้แบบถลอกปอกเปิก

แต่ปมปัญหามันอยู่ที่กระแสนอกสภา ตามสภาพของผู้นำทหารอาชีพที่อ่อนเชิงบริหาร เดินหมากเศรษฐกิจผิดพลาด ทำประชาชนลำบากปากท้อง

ตราประทับที่ “ผู้กองนัส” อัดซ้ำ ถึงขั้นทำให้พวกที่เกี่ยวโยงพาลเจ๊งไปตามๆกัน

และนั่นจะพาลไปถึงพรรคร่วมรัฐบาลหลักๆทั้งค่ายพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย และค่ายประชาธิปัตย์ อยู่ในข่ายโดนเหมารวม เททิ้งในสนามเลือกตั้ง

ยิ่ง “บิ๊กตู่” ลากอำนาจยาวไปเท่าไหร่ ก็ยิ่งโดนฝ่ายค้านไล่ทุบน่วม

ภาพของการถูลู่ถูกังดันทุรังก็ยิ่งเด่นชัด

ต่อให้อัดกล้วยเป็นโกดัง แจกกันเป็นรถเสบียงก็ทานกระแสต้านลำบาก

สภาพใครเกาะ “บิ๊กตู่” มีหวังร่วงระนาว.

“ทีมการเมือง”