จับตาวันนี้ (17 พ.ค.) ที่ประชุม ครม.จะตัดสินใจเรื่องสำคัญที่จะมีผลกระทบกระเป๋าประชาชน และกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม
ปัญหาราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งมีปัญหาเชื่อมโยงต้องตัดสินใจอีก 6 ประเด็น
ข้อ 1, รัฐบาลจะต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 3 บาทต่อลิตร ซึ่งจะสิ้นสุดในวันศุกร์นี้ (20 พฤษภาคม) ต่อไปอีกหรือไม่??
ข้อ 2, ถ้ารัฐบาลจะต่ออายุมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซลต่อไป จะขยายระยะเวลาอีกกี่เดือน
(1 เดือน? 2 เดือน? 3 เดือน?)
ข้อ 3, รัฐบาลจะลดภาษีน้ำมันดีเซลลิตรละ 3 บาทเท่าเดิม หรือจะลดเพิ่มเป็นลิตรละ 5 บาท เพื่อบรรเทาผลกระทบราคาตลาดโลกที่กำลังโป่งพอง??
ข้อ 4, รัฐบาลจะปรับราคาน้ำมัน ดีเซลขายปลีก จากลิตรละ 32 บาท เป็นลิตรละ 33 บาท ตามแผนขั้นบันได หรือยังล็อกไว้ลิตรละ 32 บาทเท่าเดิม??
ข้อ 5, ถ้ารัฐบาลจะต่ออายุลดภาษีน้ำมันดีเซลต่อไป รายได้จากภาษีสรรพสามิต จะแหว่งไปอีกก้อนโต เพราะการลดภาษีดีเซลลิตรละ 3 บาท รัฐบาลต้องสูญรายได้ ไปถึง 5,700 ล้านบาทต่อเดือน หรือ 17,100 ล้านบาทต่อ 3 เดือน
ถ้าขยายมาตรการลดภาษีดีเซล ลิตรละ 3 บาทอีก 3 เดือน รายได้ภาษีสรรพสามิตจะโบ๋ไปถึง 34,200 ล้านบาททีเดียว!!
ข้อ 6, แม้จะปรับราคาน้ำมันดีเซลขายปลีก เป็น 35 บาทต่อลิตร รัฐบาลต้องทุ่มงบอุ้มน้ำมันดีเซลอีก 5 บาทต่อลิตร
ถ้าต้องอุ้มน้ำมันดีเซลระยะยาวต้องอ้วกแตกแน่นอน!!
นี่คือ 6 ประเด็นร้อนๆ ที่รอนายกฯลุงตู่ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ตัดสินใจว่ารัฐบาลจะรับมือ
อย่างไรกับราคาน้ำมันดีเซลที่บานไม่หุบยุบไม่ลง
“แม่ลูกจันทร์” มองว่า ประเด็นต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล มันแค่น้ำจิ้มเท่านั้นเอง
...
แต่ปัญหาคอขาดบาดตายคือ... รัฐบาลจะหาเงินจากไหนไปชดเชยภาษีสรรพสามิตที่โหว่ไป 34,200 ล้านบาท??
และรัฐบาลต้องวิ่งกู้เงินเพิ่มอีกเท่าไหร่มาอุ้มราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ระยะยาว??
อีกเมื่อไหร่ (วะ) ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกจะพลิกเป็นขาลง??
เพราะถ้าราคาน้ำมันดิบตลาดโลกยังไม่ต่ำกว่า 100 เหรียญต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดีเซลจริงๆคือ 40 บาทต่อลิตรเชียวนะคุณ!!
คนไทยใช้น้ำมันดีเซล 70 ล้านลิตรต่อวัน รัฐบาลต้องใช้เงินอุดราคาน้ำมันดีเซล 700 ล้านบาทต่อวัน หรือ 21,000 ล้านบาทต่อเดือน หรือ 63,000 ล้านบาทต่อ 3 เดือน!!
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่า ถ้า “นายกฯลุงตู่” ใช้จ่ายเงินกู้ก้อนแรก 1 ล้านล้านบาท บวกเงินกู้เพิ่มรอบ 2 อีก 5 แสนล้านบาท อย่างรอบคอบรัดกุม
รัฐบาลจะเหลือเงินกู้สำหรับอุ้มราคาน้ำมันดีเซลอย่างสบายๆ
“แม่ลูกจันทร์” เสียดายที่รัฐบาลเอาเงินกู้กว่า 2.2 แสนล้านบาท ไปใช้จ่ายในเรื่องไม่เร่งด่วน ไม่ฉุกเฉิน ไม่จำเป็น
เช่น โครงการอบรมอาชีพกลุ่มจังหวัด โครงการกำลังใจ โครงการพัฒนาตำบล โครงการจ้างงานชั่วคราว 1.4 หมื่นคน ฯลฯ
อ้างว่าเป็นงบกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น เสนอโครงการแบบเร่งรีบ ไม่คำนึงถึงประโยชน์ยั่งยืน ไม่กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างที่ตีปี๊บโฆษณา
ถ้าใช้เงินกู้อย่างรอบคอบรัดกุม รัฐบาลยังเหลือเงินกู้อีกหลายแสนล้านบาทใช้อุ้มราคาดีเซล ก๊าซหุงต้มได้อย่างพอเพียง
ไม่อยากพูดเยอะ เดี๋ยวเจ็บคอ.
“แม่ลูกจันทร์”