ศบค. รายงานสถานการณ์โควิดวันนี้ 5 พ.ค. 65 ติดเชื้อ 9,790 ราย ยอด ATK พบเข้าข่ายอีก 8,728 ราย รวมติดเชื้อวันนี้ 18,518 ราย เสียชีวิต 54 ศพ อาการหนัก ใส่เครื่องช่วยหายใจยังลดลง

วันที่ 5 พฤษภาคม 2565 พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย มีรายละเอียดดังนี้

ติดเชื้อในประเทศ 9,790 ราย
ติดเชื้อในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 14 ราย
ติดเชื้อจากต่างประเทศ 4 ราย
รักษาหายเพิ่มขึ้น 17,109 ราย

หายป่วยสะสม 4,170,419 ราย (ตั้งแต่ปี 2563) อยู่ระหว่างรักษาตัว 101,281 ราย แบ่งเป็น ในโรงพยาบาล 31,227 ราย โรงพยาบาลสนามและอื่นๆ 70,054 ราย ในจำนวนนี้มีอาการหนัก 1,638 ราย ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 776 ราย อัตราการครองเตียงระดับ 2-3 อยู่ที่ 20.1% มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 54 ศพ ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 28,914 ศพ (ตั้งแต่ปี 2563)

ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 4,300,614 ราย
ประเทศไทยเป็นอันดับที่ 24 ของโลก

สำหรับผู้ติดเชื้อ 9,790 รายใหม่ แบ่งเป็นดังนี้

ผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 9,719 ราย
ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 53 ราย
เรือนจำ/ที่ต้องขัง 14 ราย
ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 4 ราย

...


ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกนั้นวันนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อ 604,662 รายต่อวัน และมีผู้เสียชีวิตรวม 1,960 ศพ โดยติดเชื้อมากที่สุดเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา

ส่วนยอดการตรวจ ATK วันที่ 5 พ.ค. 65 ตามการรายงานของกระทรวงสาธารณสุข มียอดผู้ติดเชื้อเข้าข่ายจำนวน 8,728 ราย โดยจำนวนนี้ไม่รวมในการรายงานยอดผู้ติดเชื้อใหม่ ซึ่งยืนยันผลด้วย RT-PCR เมื่อรวมกับยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ 9,790 ราย จะเท่ากับมีผู้ติดเชื้อ 18,518 ราย

สำหรับ 5 อันดับจังหวัดผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 2,990 ราย, บุรีรัมย์ 321 ราย, ชลบุรี 296 ราย, สมุทรปราการ 274 ราย และร้อยเอ็ด 267 ราย

พญ.สุมนี กล่าวว่า หากดูจากตัวเลขพบว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ส่วนอัตราครองเตียงของผู้ป่วยปานกลางและผู้ป่วยหนักเริ่มลดลง เช่นเดียวกับทิศทางผู้ป่วยใส่ท่อเครื่องช่วยหายใจ ขณะที่ผู้ป่วยปอดอักเสบยังมีอัตราทรงตัว มีเพียง 2 จังหวัดที่เพิ่มขึ้นคือ อุดรธานีและขอนแก่น ส่วนผู้เสียชีวิตวันนี้ยังเป็นกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยภาคอีสานมีจำนวนมากที่สุด ขณะที่ 61% พบว่าไม่ได้รับวัคซีนเลยหรือรับวัคซีนแค่ 1 เข็ม.