ฤดูกาลการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลกลับมาอีกครั้ง พรรคฝ่ายค้านขู่ว่าคราวนี้มีหมัดเด็ด สามารถน็อก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้แน่ ประเด็นสำคัญได้แก่การซื้ออาวุธ และการค้ามนุษย์ นอกจากการซื้อเรือดำนํ้าที่ไม่มีเครื่องยนต์แล้ว ยังมีการจัดซื้ออากาศยานไร้คนขับ 3 ลำ 4,100 ล้านบาท

การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านๆมา มักจะเน้นเรื่องความล้มเหลว การไร้ความสามารถในการบริหาร ทำให้เศรษฐกิจร่อแร่ และเรื่องที่ขาดไม่ได้โดยเด็ดขาด คือการทุจริตคอร์รัปชัน แต่ขณะนี้ถ้าฝ่ายค้านโจมตีเรื่องการทุจริต ฝ่ายรัฐบาลมักจะสวนกลับทันควัน แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน เพราะไก่เห็นตีนงู

ขณะเดียวกัน งูก็เห็นนมไก่ ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านต่างกล่าวหา ถ้าฝ่ายค้านพูดถึงการทุจริตของฝ่ายรัฐบาล โฆษกรัฐบาลหรือคนอื่นๆ มักจะสวนกลับว่าเหตุที่เศรษฐกิจมีปัญหา เพราะการทุจริตโกงกินของรัฐบาลก่อนๆ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตผู้นำ กปปส.กล่าวหา ว่าฝ่ายค้านโกงติดต่อกันหลายรัฐบาล

การทุจริตที่เกิดขึ้นในอดีตเป็นเรื่องจริง มีหลักฐานชัดเจน กล่าวคือมีการฟ้องร้องนักการเมืองหลายคดี มีทั้งคดีที่ตัดสินแล้วและยังไม่ตัดสิน มีเรื่องราวบันทึกไว้ว่านักวิชาการชื่อดังคนหนึ่ง เป็นอดีตรัฐมนตรีและที่ปรึกษาหลายรัฐบาล เคยเสนอแนะนายกรัฐมนตรีในอดีตให้ป้องกันการทุจริต ด้วยการบูชาพระพุทธรูปปางห้ามญาติทุกวัน

การทุจริตคอร์รัปชัน เป็นเรื่องที่มีทุกยุคทุกสมัย ผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง พบว่างบประมาณแผ่นดินที่มาจากภาษีประชาชน ถูกนักการเมืองนักธุรกิจ และข้าราชการสมคบคิดงาบไปปีละหลายแสนล้านบาท แต่ผลการสำรวจความเห็นประชาชนเมื่อหลายปีก่อน พบว่าคนส่วนใหญ่ไม่ว่าอะไร แม้รัฐบาลจะโกงกิน

...

พูดอีกอย่างก็คือ ถ้า “กินแบ่ง” ชาวบ้านไม่ว่าอะไร แต่ไม่เห็นด้วย ถ้ารัฐบาลจะ “กินรวบ” ไม่ยอมแบ่ง การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอาจชนะเป็นเรื่องธรรมดา แต่ฝ่ายค้านต้องมีข้อมูลและหลักฐานสำคัญที่สามารถฟ้องร้องเอาผิดรัฐมนตรีที่ถูกกล่าวหาได้ ความผิดฐานทุจริตอาจต้องโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต

แต่ถ้าเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ด้วยการกล่าวหานายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี ด้วยสำนวนโวหารที่เลื่อนลอย นอกจากจะไม่ระคายเคืองผู้ที่ถูกโจมตี แต่จะทำให้ผู้กล่าวหาหมดความน่าเชื่อถือ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งเป็นอาวุธสำคัญที่สุดในการตรวจสอบควบคุมรัฐบาลกลายเป็นแค่พิธีกรรมหรือปาหี่การเมือง.