ย่างเข้าเมษายน เดือนแห่งความร้อนระอุแดด ขณะที่ “คลื่นความร้อนทางการเมือง” หักเหจากสนามใหญ่ชั่วคราว ไปโฟกัสสนามเล็ก ศึกเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่เปิดเกมตะลุมบอนอย่างเป็นทางการติดเบอร์ แปะป้าย เปิดยุทธการหาเสียงกันเต็มที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง น.ต.ศิธา ทิวารี นายสกลธี ภัททิยกุล ฯลฯทั้งลุยเดี่ยวอิสระ ทั้งสังกัดพรรคติดยี่ห้อม้าเต็ง ม้ารอง ม้ามืด ม้านอกสายตา หรือตกม้าตาย ว่ากันตามสภาพแห่งความเป็นจริงทางการเมือง มันก็มีลุ้นกันอยู่ในบรรดาชื่อข้างต้นนี้เท่านั้นไม่ใช่เรื่องจะให้ราคาหรือไม่ให้ราคาเหล่าไม้ประดับ บางคนก็รู้ว่า ไม่มีสิทธิ์ลุ้น แพ้แน่ แต่ก็ยังลงสมัคร เพื่อเป้าหมายอื่น ทั้งการอัปชั้น อัปเกรดตัวเอง การเลี้ยงกระแส ย้ำชื่อพรรคต้นสังกัดให้ติดกระดานการเมืองเรื่องของเรื่อง มันคือสีสันของประชาธิปไตยและบรรยากาศนับจากนี้ไปจนถึงวันที่ 22 พฤษภาคม อีกเกือบ 2 เดือน เมืองกรุงจะเต็มไปด้วยป้ายหาเสียง รถแห่วิ่งกันขวักไขว่ ผู้สมัครนำทีมหาเสียงเดินสายเข้าซอยนั้น ออกซอยนี้รวมถึงการจัดเวทีประชันวิสัยทัศน์ วัดกึ๋นแคนดิเดตแต่ละเบอร์พื้นที่ข่าวในสื่อกระแสหลักก็จะมุ่งไปที่สนามเล็กเวทีเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เป็นห้วงเวลาที่การเมืองสนามใหญ่ได้พักหายใจหายคอ และมีเวลาเตรียมแต่งตัว เสริมความพร้อมรับศึกเลือกตั้งสนามใหญ่ทั้งพรรคเก่า พรรคใหม่ ทุกป้อมค่ายขยับปรับทัพเช็กกำลังพลไหลเข้าไหลออก ไล่ต้อน ส.ส.เข้าคอกที่คึกคักกว่าใครก็คือทีมนายห้างดูไบ ขุมข่ายพรรคเพื่อไทย ที่อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร เจ้าตำรับ โคตรเซียนการตลาด กดปุ่มยุทธศาสตร์ “ตีปี๊บ”โหมกระแส “แลนด์สไลด์” ย้ำความได้เปรียบตามกติกาบัตรเลือกตั้ง 2 ใบแบบที่เคยทำได้มาแล้วในยุคอดีตพรรคพลังประชาชน และยุคพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งใหญ่ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สร้างประวัติศาสตร์เป็นนายกฯ หญิงคนแรกของเมืองไทยเมื่อความได้เปรียบกลับมาอยู่ในกำมือ “นายห้างดูไบ” เลยโหมบุกเต็มที่ โดยการทิ้งไพ่เด็ดตั้งแต่หัววัน การวางเดิมพันด้วย “กล่องดวงใจ” ไฟเขียวให้ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร โดดลงสนาม โชว์ตัวเป็น “นางกวัก” พรรคเพื่อไทย“ดีเอ็นเอ” ชัดเจนยิ่งกว่า “นอมินี”ไล่จากตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทยด้านนวัตกรรมและการมีส่วนร่วม ยกระดับขึ้นเป็น “หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย” พาสชั้นในห้วงเวลาไม่กี่อึดใจสื่อความหมายให้กองเชียร์ ผู้สนับสนุนเข้าใจได้ว่าเป็น “แคนดิเดต” ในบัญชีนายกฯพรรค“ทักษิณ” เล่นใหญ่ โดยไม่สนใจคนทักส่งลูกรักเข้า “ทุ่งสังหาร”และโดยสถานการณ์ต่อเนื่องกัน นอกจากการเดิมพันด้วยกล่องดวงใจ โหมกระแสแลนด์สไลด์ “นายห้างดูไบ” ยังเปิดปฏิบัติการแฉข้ามประเทศ ประจานดังๆจากแดนไกลดักคอ ดักทาง พวกแอบตกปลาในบ่อเพื่อไทยไล่ตั้งแต่ปมลูกหาบพรรคเพื่อไทยแอบไปรับ “วัคซีน” จากพรรครัฐบาล หัวละ 20-30 ล้าน รายเดือนอีกเดือนละ 2 แสนบาท ล่องูเห่าให้ย้ายรูไม่บอกก็รู้ว่า อดีตนายกฯ ทักษิณหมายถึงทีมเซราะกราวที่กำลังเบ่ง พองตัวเต็มที่อาการหมั่นไส้แบบที่ “สารวัตร เหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำรุ่นเก๋าพรรคเพื่อไทย ออกมาขู่จะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภา ล็อกเป้า “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย“นายห้างดูไบ” ต้องชิงสกัด ปรากฏการณ์ “เงินจ้างผีโม่แป้ง”อดีตนายกฯทักษิณยังเปิดปฏิบัติการฟาดหางใส่อดีตลูกน้องเก่า พฤติการณ์ “เลวทราม” ออกจากพรรคเพื่อไทย ไปตั้งพรรค เสร็จแล้วไปพูดในวงไฮโซ เหตุที่ ออกจากพรรคเพื่อไทย เพราะ “ทักษิณ” ไม่เอาเบื้องสูง ถือเป็นเรื่องไร้สาระและคนคนเดียวกันนี้ ยังไปชวน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ให้ไปอยู่พรรคที่ตั้งขึ้นใหม่ อ้างว่าพรรคเพื่อไทยถูกยุบแน่ เพราะเบื้องบนไม่เอา บังอาจจริงๆไม่แน่ใจว่านายห้างดูไบ “โยนระเบิด” ใส่ใครแต่ในบรรดาอดีตลูกน้องที่ออกจากพรรคเพื่อไทยไปตั้งพรรคใหม่ พวกที่อยู่ในข่าย ต้องรวม “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองกรุง ที่กำลังก่ออิฐโบกปูนพรรคไทยสร้างไทยเจอดอกนี้เข้าไป “เจ้าแม่เมืองกรุง” หูผึ่งเลยก็แล้วกันทั้งหมดทั้งปวง มันคือยุทธการโหมโรงของนายห้างดูไบ โหมกระแส “แลนด์สไลด์” ไปพร้อมๆกับไล่อุดเลือดไหล ต้อน ส.ส.กลับเข้าคอกพรรคเพื่อไทยความได้เปรียบในกติกาบัตร 2 ใบกลับมาอยู่ในมือ โอกาสชิงพลิกขั้วอำนาจใกล้เคียงความจริงที่สุดและนั่นก็สวนทางกันเลย กับปฏิบัติการสกัด “แลนด์สไลด์”โฟกัสไปที่กระบวนการจัดทำกฎหมายลูก ทั้ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ล่าสุดคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ที่มีนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน ได้ลงมติชี้ขาดด้วยเสียงข้างมาก ให้ใช้บัตรเลือกตั้ง ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นคนละเบอร์กัน ตรงตามเสียงส่วนใหญ่ของพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะค่ายพลังประชารัฐหักมุมกับพรรคเพื่อไทยที่ต้องการให้ใช้เบอร์เดียวทั่วประเทศเท่ากับว่ายุทธการ “แลนด์สไลด์” สะดุดปมแรก เพราะบัตรเลือกตั้งคนละเบอร์ น่าจะสร้างความยากลำบากให้ผู้สมัคร ส.ส.หาเสียงลำบาก ในการแยกหาคะแนนให้ตัวเอง กับหาคะแนนให้พรรค และก็ไม่ต้องพูดถึงประชาชนที่อาจสับสนในการเลือกกาบัตร เลือก ส.ส.เขต กับเลือกพรรคโอกาสคะแนนไม่ไหลไปทางเดียวกันเป็นไปได้สูงและนั่นก็น่าจะรวมไปถึงการนับคะแนน ส.ส.แบบ บัญชีรายชื่อ ที่เสียงของพรรคร่วมรัฐบาล นำโดยค่ายพลังประชารัฐ ต้องการให้ใช้การคำนวณแบบจัดสรรปันส่วนผสม ด้วยการหารด้วย 500 แบบการเลือกตั้งใหญ่ครั้งที่ผ่านมาเปิดทางให้พวก “ส.ส.ปัดเศษ” ได้ลุ้นแต้มหลักหมื่นขณะที่พรรคเพื่อไทย ทีมนายห้างดูไบ ต้องการให้หารด้วย 100 ตามการคำนวณแบบการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ ปี 2540 ปิดทางลุ้นของพวก ส.ส.ปัดเศษดันแต้ม ส.ส.ปาร์ตี้ ลิสต์ขึ้นไปหลักแสนแผนการนี้จะทำให้ทีมนายห้างดูไบสะดุดอีกปม เพราะถ้าพรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.เขตจำนวนมาก ก็จะผกผันกับจำนวน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์จะได้จำนวนน้อยลง หรือไม่ได้เลยเหมือนการเลือกตั้งรอบที่ผ่านมาบรรดา “บิ๊กเนม” อดเข้าสภา สอบตกบัญชีรายชื่อเป็นศูนย์ตามรูปการณ์ก็ไม่แปลกที่ได้เห็นอาการของนายห้างดูไบ รีบต้อน ส.ส.เขตกลับเข้าคอก สกัดเลือดไหลออก เพราะต้องดันแต้ม ส.ส.เขตให้ได้มากสุด จาก 400 เขต อย่างน้อยต้องให้เกิน 350 เขต เกินครึ่งของที่ประชุมรัฐสภา เพื่อจัดตั้งรัฐบาลงานนี้ทีมอำนาจ 3 ป. ต้องยื้อกระแส “แลนด์สไลด์” แบบสุดแรงเกิดและอีกทางก็ต้องงัดแผนแตกแบงก์ร้อยเป็นแบงก์ยี่สิบ เหรียญสิบ แบบที่มีการตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ เตรียมพรรคไทยสร้างสรรค์ แยกตัวออกมาจากค่ายพลังประชารัฐนอกจากแก้ปมสนิมเนื้อในทีม 3 ป. ยังเป็นการไล่เก็บเบี้ยใต้ถุนร้านกองหนุน “บิ๊กตู่” ต้องไล่เก็บแต้มทุกเม็ด เพื่อไปรวมกับ “250 ส.ว.ลากตั้ง” ปฏิบัติการแห่ท่านผู้นำทำแฮตทริกนายกฯ รอบ 3 ลากยาวอำนาจแบบมาราธอนต่างฝ่ายต่างยื้อกติกา ลากเกมเข้าทางฝั่งตัวเองให้มากที่สุดในจังหวะเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ “พลิกผัน” ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกขณะห้วงเวลาระทึก นับตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคมเป็นต้นไป ในโหมดของการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญ ภายใต้เงื่อนไขสถานการณ์ที่ผู้นำรัฐบาลอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเผชิญภาวะคับขัน โดนต้อนเข้าทางตันเสี่ยงอันตรายจากเกม “ซ่อนแต้ม” ในสภาผู้แทนราษฎร.“ทีมการเมือง”