ติดเบอร์ “ประจัญบาน” ศึกเดิมพันเบอร์หนึ่ง “เสาชิงช้า” มหกรรมเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่ “ร้าง” ห่างหายไป 9 ปีเต็ม จากการถูกขบวนการ “ลากตั้ง” ยึดไปนอนกอดยาวเป่านกหวีดเริ่มเกมอย่างเป็นทางการนับจากนี้ไปอีก 50 กว่าวันจะได้เห็นยุทธการหาเสียง บรรยากาศของการลงพื้นที่ของผู้สมัครที่ลุยเข้าตรอก ซอก ซอย รถหาเสียงเปิดเพลงเชียร์วิ่งกันขวักไขว่สิทธิ “ประชาธิปไตย” กลับมาอยู่ในมือของประชาชนคนเมืองกรุงมันจึงต้องเฟ้น พิจารณากันให้ถ้วนถี่ ก่อนเข้าคูหากาบัตรในวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคมแปะชื่อบนกระดาน “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์-สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์-วิโรจน์ ลักขณาอดิศร-พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง-น.ต.ศิธา ทิวารี-สกลธี ภัททิยกุล-รสนา โตสิตระกูล”ณ จุดเริ่มต้นสตาร์ต ถือว่า ม้าทุกตัวเท่ากันโพลออกมายังไงก็ไม่ถือว่าเป็นทางการ ของจริงต้องวัดกันที่คะแนนดิบเพราะมันมีประวัติศาสตร์ให้เห็นมาแล้ว “ผู้ว่าฯโพล”ความเจ็บปวดของ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.พะยี่ห้อพรรคเพื่อไทย ที่โพลนำโด่งจนถึงวันเลือกตั้ง แต่นับคะแนนออกมากลายเป็น “คุณชายหมู” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จาก ประชาธิปัตย์ แซงเข้าป้ายแบบม้วนเดียวจบผลจากมุกหลอกผี “ทักษิณ” สูตรเลือกผู้ว่าฯ กทม.ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลปรากฏการณ์ “พลังเงียบ” ออกมาต้าน “นายห้างดูไบ”และนั่นก็ทำให้คนเมืองหลวงได้บทเรียนเจ็บแสบ สภาพฝนตกน้ำท่วมถนนกลายเป็นคูคลอง ก็เพิ่งรู้จัก “น้ำรอการระบาย” โวยวายมากๆก็โดนไล่ไปอยู่บนดอยจะได้น้ำไม่ท่วมประวัติศาสตร์มีไว้ให้ศึกษา แต่คนกทม.จะจดจำหรือไม่ที่แน่ๆไม่กล้าเสี่ยงย่ำรอย ตามอาการอย่างที่ “รัฐมนตรีแกร่งสุดในปฐพี” อย่างนายชัชชาติ ตีกรรเชียงชิ่ง ไม่เสี่ยงสวมเสื้อวินพรรคเพื่อไทย ขอลงชิงชัยในนามอิสระโกยคะแนนนำโด่ง “ยืนหนึ่ง” มาทุกโพล “เต็งหาม” แบบไม่ต้องแห่แต่ภายใต้เงื่อนไขสถานการณ์ไม่เหมือนเดิม ก็ต้องรอดูโคตรเซียนยี่ห้อประชาธิปัตย์ที่ถนัดพลิกเหลี่ยมนาทีสุดท้ายจะมาลูกไหน ที่แน่ๆมุก “ไม่เลือกเรา เขามาแน่” มันเฝือไปแล้วแนวโน้มแบบที่ ดร.สุชัชวีร์ออกตัวสะดุดตั้งแต่ก้าวแรก กับปม “ทายาทสายตรงไอน์สไตน์” ยิ่งทำให้ระยะห่างจาก “เต็งหนึ่ง” อย่างนายชัชชาติ ทิ้งกันหลายช่วงตัวปชป.ไม่ใช่คู่แข่งที่น่ากลัวซะแล้วแต่ที่ส่อแววมาแรง ถ้าไม่แหกโค้งตีลังกาซะก่อนทีมสีส้ม พลังเด็กก้าวไกล ต่างหาก ที่เป็นก้างขวางคอของ “ชัชชาติ” โฟกัสคะแนนนิยมของดาวสภาฝีปากกล้าอย่างนายวิโรจน์ ไต่ระดับอย่างรวดเร็วกวาดฐาน “นิวโหวตเตอร์” แทบจะเหมาแต้ม “18 บวก”แต่ไม่รู้จะเป็นบวก หรือลบ กับมวยของค่ายเด็กก้าวไกล กับการที่ผู้นำจิตวิญญาณของทีมสีส้มอย่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ออกมาเชิดฉิ่งโหมโรงอวย “วิโรจน์” ฟันธง กรุงเทพฯต้องใช้ผู้ว่าฯที่มีเจตจำนงแน่วแน่ทางการเมืองนั่นไม่เท่ากับเรื่องหาเสียงแบบแหลมๆ เสียวๆตามสไตล์ ยังไม่ทัน“ติดเบอร์” ผู้สมัครของพรรคก้าวไกล ก็ชูนโยบาย ทวงคืน “สนาม หลวง” ให้ประชาชนใช้เป็นสาธารณประโยชน์ลากเข้าเงี่ยง ชอบเสี่ยงกับของสูงจนเป็นนิสัยเต็งหนึ่ง เต็งสอง เต็งสาม “ชัชชาติ-วิโรจน์-สุชัชวีร์” อัตราต่อรองแทงมากจ่ายน้อยและก็ต้องติดสอยห้อยติ่งไว้ กับรายของ พล.ต.อ.อัศวิน “อดีตผู้ว่าฯ กทม.ลากตั้ง”ที่ยังติดอกติดใจเก้าอี้นิ่มๆถิ่นเสาชิงช้า “ขันอาสา”ต่อสายไปหลายค่าย แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับด้วยความมั่นอกมั่นใจที่พกมาจากบ้าน “บิ๊กวิน”เลยลุยเดี่ยวลงสมัครอิสระ อาศัยขุมข่าย กทม.ที่วางสายไว้ตอนเป็นเบอร์หนึ่งเสาชิงช้ามา 3 ปีกว่าอย่างน้อยก็มีแต้มหน้าตัก จะไม่พูดถึงเลยก็ไม่ได้เดี๋ยวจะหาว่าไม่เท่าเทียม สื่อไม่ให้ราคาไม้ประดับ.“ตะวัน ทรงกลด”