โฆษกรัฐบาลโต้เสียงแข็ง “เรือแป๊ะ” ยังมั่นคง หยันฝ่ายค้านอย่าเสี้ยมให้ยาก ไม่มีทางสำเร็จ ลั่น “ลุงตู่” อยู่ต่อจนครบเทอมแน่ “สุรทิน” เย้ย “บิ๊กตู่” เทียบเชิญพรรคเล็กกินข้าวแก้เกี้ยวไม่ ใช่แก้เกม “ชลน่าน” ฟุ้ง 30 เสียงเทให้ฝ่ายค้านล้มรัฐบาลได้ แบะท่าหาก ปชช.ตอบรับดัน “อุ๊งอิ๊ง” ขึ้นแท่นแคนดิเดตนายกฯ “ชูศักดิ์” ข่มขวัญพรรคหนุน “ประยุทธ์” รอวันสูญพันธุ์ “พิจารณ์” ซัดนายกฯเขียนด้วยมือลบด้วยเท้า ฝืนเจตนารมณ์ รธน.ตะแบงอยู่เกิน 8 ปี “ยุทธพงศ์” ยิงทีเซอร์ก่อนศึกซักฟอก จับพิรุธประมูลท่อส่งน้ำอีอีซี ตัดตอนรวบรัดทำสัญญาเอื้อเอกชน ขู่ลากไส้เอาผิด 3 ป. 1 ช. “พี่ศรีฯ” ยื่น กกต.ยุบเพื่อไทย หลัง ส.ส.แห่บินไปสิงคโปร์พบ “ทักษิณ”จากกรณีรัฐบาลกับพรรคร่วมรัฐบาลขนาดเล็กเล่นเชิงการเมืองใส่กันไปมาส่งนัยวัดพลังทางการเมืองกัน ก่อนที่จะเปิดเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้าน ขณะที่โฆษกรัฐบาลเป็นตัวแทนของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ยืนยันเสถียรภาพรัฐบาลมั่นคงเหนียวแน่นไม่มีการยุบสภาจะอยู่จนครบเทอม รบ.โต้แน่นปึ้กหยันเกมเสี้ยมไม่สำเร็จเมื่อวันที่ 13 มี.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคราม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ระบุกรณีพรรคเล็กทานอาหารเที่ยงร่วมกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย เมื่อวันที่ 11 มี.ค.เป็นการกดดันและสั่นคลอนรัฐบาลว่า เป็นสิทธิฝ่ายค้านจินตนาการ แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่ พรรคการ เมืองจะนัดทานอาหารกันเป็นเรื่องปกติ รัฐบาลเองนัดทานอาหารกับพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงพรรคเล็กเป็นปกติเช่นกัน เพื่อหารือการทำงานร่วมกัน เน้นการทำงานแก้ปัญหาให้ประชาชน มากกว่าต้องมาเสียเวลาตอบโต้การเมืองไปมากับฝ่ายค้าน ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ ยืนยันว่าเสถียรภาพรัฐบาลยังมั่นคงเหนียวแน่น ฝ่ายค้านพยายามเสี้ยมให้พรรคร่วมรัฐบาลสั่นคลอน เป็นเพียงความพยายามจะเอาไม้ซีกมางัดไม้ซุงไม่มีทางสำเร็จ เอาเวลาว่างไปหาข้อมูลเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างที่โม้รายวันไว้ดีกว่า ไม่ใช่ออกแนวฝ่ายแค้น ก่อนที่ประชาชนจะทนไม่ไหวไม่ไว้วางใจฝ่ายค้านในการเลือกตั้งสมัยหน้าเสียเองลั่นไม่ยุบสภาอยู่ไปจนครบเทอมนายธนกรกล่าวอีกว่า วันนี้รัฐบาลยังได้รับความเชื่อมั่นจากพี่น้องประชาชน นักลงทุนและสายตานานาชาติทั่วโลก โดยเฉพาะการแก้ปัญหาโควิด-19 เป็นกันทั่วโลก แต่ไทยบริหารจัดการได้อย่างยอดเยี่ยมจนได้รับคำชื่นชมมากมาย จึงไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่รัฐบาลต้องยุบสภาในเวลานี้ ยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม จะอยู่บริหารประเทศเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนจนครบเทอมแน่นอน ตรงข้ามกับ ส.ส.ฝ่ายค้านบางคนที่รีบบินไปรายงานนายใหญ่ถึงเมืองนอก มีการไปหารืออะไรกันใช่หรือไม่ อาจถูกมองว่าเข้าข่ายครอบงำพรรค การเมืองหรือไม่ เอาเวลาไปเตรียมคำอธิบายกับป.ป.ช.หากมีคนไปยื่นเรื่องร้องเรียนจะดีกว่า“ดำรงค์” รับเทียบเชิญไปร่วมรับฟังนายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย กล่าวถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เชิญพรรคการเมืองขนาดเล็กร่วมรับประทานอาหารในวันที่ 17 มี.ค.ว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ตัวแทนผู้ประสานงาน ได้ประสานมาที่ตน ให้เข้าร่วมทานอาหารวันที่ 17 มี.ค.แล้ว จะไปร่วมงานด้วย เพื่อรับฟังว่าจะมีการพูดคุยอะไรกันบ้าง“สุรทิน” เย้ย “ลุงตู่” แก้เกี้ยวไม่ใช่แก้เกมนายสุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ กล่าวถึงกรณีไม่ได้รับเทียบเชิญจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้เข้าร่วมรับประทานอาหารวงพรรคเล็กวันที่ 17 มี.ค.ว่า ขณะนี้ยังไม่มีคนฝ่ายรัฐบาลติดต่อให้ไปร่วมรับประทานอาหารวงพรรคเล็กร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกฯในวันที่ 17 มี.ค. แต่ถึงจะติดต่อมาก็ไม่ไปเพราะติดลงพื้นที่พบประชาชน การที่นายกฯนัดพรรคเล็กกินข้าวไม่ใช่การแก้เกมแต่เป็นการแก้เกี้ยวมากกว่า เหมือนเด็กเล่นขายของ เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้คิดเอง แต่คนแวดล้อมคิดให้ การกินข้าวกับพรรคเล็กคงไม่เกิดประโยชน์ถ้าคุยแล้วยังไม่ใส่ใจกันเหมือนเดิม ส่วนพรรคเล็กบางคนระบุว่าหากนายกฯคิดจะอยู่ครบเทอม ต้องเห็นหัวพรรคเล็กบ้าง เป็นอารมณ์แต่ละคนต่างคนต่างคิดไม่เหมือนกัน แต่นายกฯควรมาถามกันบ้างยังดี พรรคเล็กก็เป็น ส.ส.ไม่ใช่พรรคข้างถนน การเป็นรัฐบาลต้องอาศัยมือ ไม่ใช่อาศัยคำพูด“ชลน่าน” โอ่ 30 เสียงเทให้ฝ่ายค้านที่โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม นัดพรรคเล็กทานอาหารวันที่ 17 มี.ค.ว่า เป็นมิติทางการเมืองของนักการเมือง ต้องมีกิจกรรมแสดงถึงความพร้อมในสถานการณ์ขณะนี้ ที่ผ่านมาการนัดทานอาหาร เพื่อประกาศความแน่นแฟ้น แต่สิ่งที่ขาดไปคือกลุ่มพรรคเล็กไม่ได้ถูกเชิญไปร่วมรับประทานอาหาร จึงต้องแสดงออกถึงความพร้อมนัดทานอาหารพูดคุยทิศทางการทำงาน เชื่อว่าพรรคเล็กนัดทานข้าวดูทรงพลังกว่าพรรคใหญ่นัดทานอาหารกันอีก ตอนนี้ 30 เสียงจากพรรคขนาดเล็กและพรรคเศรษฐกิจไทยคือตัวแปร จะไปไหนก็ได้ ใครจัดการ 30 เสียงได้คือผู้ชนะเกมนี้ เป็นไปได้สูงที่เสียงเหล่านี้จะมาเติมให้พรรคร่วมฝ่ายค้าน เห็นได้จากงานเลี้ยงรับประทานอาหารทั้ง 2 งาน บ่งชี้ให้เห็นชัดเจนว่า จะมี 30 เสียงมาอยู่กับเรา จึงเชื่อว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจสามารถล้มรัฐบาลได้ “อุ๊งอิ๊ง” แคนดิเดตนายกฯอยู่ที่ ปชช.เมื่อถามว่า 30 เสียงดังกล่าวฝ่ายค้านจะดึงมาใช้ในการอภิปรายหรือไม่ นพ.ชลน่านตอบว่า ถ้าทุกฝ่ายเห็นแก่ประเทศ ประชาชนเป็นไปได้สูงมาก ถ้าประชาชนส่งเสียงเรียกร้องมาในภาวะวิกฤตินายกฯต้องออกไป เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่ามีเพียงเสียงเดียวของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำพรรคเศรษฐกิจไทย ที่ไม่สนับสนุนรัฐบาล นพ.ชลน่านตอบว่า เป็นความเห็นของ พล.อ.ประวิตร แต่ข้อเท็จจริงเท่านั้นที่ต้องดู ครั้งนี้หลายพรรคไม่ได้มองประโยชน์ทางการเมือง แต่มองประโยชน์ภาพรวมประเทศ หากยังไปสนับสนุนรัฐบาลที่ประชาชนไม่เอาจะส่งผลต่อพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า จึงต้องตัดสินใจว่าจะเลือกอย่างไร ส่วนแคนดิเดตที่มองว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย อยู่ที่ประชาชนจะว่าอย่างไร ถ้าตอบรับมีเสียงสนับสนุนเป็นไปได้ทั้งหมดอยู่ที่ประชาชนยันฝ่ายค้านเห็นต่างแต่ไม่แตกแยกเมื่อเวลา 09.00 น. ที่โรงแรมอมารี วอเตอร์เกท ประตูน้ำ มีการจัดกิจกรรมโครงการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพบประชาชน ประจำปีงบประมาณ 2565 “ฝ่ายค้านรับฟังปัญหาทั่วไทยพบประชาชน” โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝายค้าน กล่าวปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่งว่าเดือน ส.ค.จะครบ 8 ปี การทำงานของนายกฯ ฝ่ายค้านต้องชี้ให้เห็นว่าคนไม่มีคุณสมบัติอยู่เกิน 8 ปีไม่ได้ หมดเวลานายกฯแล้ว รัฐบาลชุดนี้เก่ง ทำให้ทุกคน เท่าเทียมกันคือติดโรค ยากจน และซื้อของแพงเท่าเทียมกัน ส่วนที่มองฝ่ายค้านแตกแยกชอบขัดแย้งกันเป็นเรื่องดี ประชาธิปไตยแท้จริงคือความเห็นต่าง กลไกฝ่ายค้านที่มีเอกภาพเชิงเป้าหมายร่วมกันคือ ต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง โค่นล้มเผด็จการ แต่วิธีปฏิบัติแต่ละพรรคเราให้สิทธิกัน ทุกพรรคมีสิทธิแสดงความเห็น จึงมีความหลากหลายเชิงปฏิบัติ แต่เรายอมกันและกัน หลายเรื่องแม้ไม่ได้กำหนดทิศทางร่วมกัน แต่มีเป้าหมายร่วมกัน ยืนยันฝ่ายค้านไม่แตกแยก แต่ความเห็นต่างมีเยอะถือเป็นสีสันขย่มพรรคหนุน “บิ๊กตู่” รอสูญพันธุ์จากนั้นเป็นการเสวนาหัวข้อ “หมดเวลานายกฯก่อนประเทศหมดเวลา” นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานที่ปรึกษากฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่ควรให้เวลานายกฯคนนี้มาตั้งแต่แรก เพราะยึดอำนาจรัฐประหารโดยสมคบคิดกับกลุ่มการเมืองและพรรคการเมืองมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ทราบดีความถูกต้องชอบธรรมไม่มี สร้างกลไกรัฐธรรมนูญปี 2560 สืบทอดอำนาจให้ ส.ว.ร่วมเลือกให้เป็นนายกฯ อยู่ยาวกว่า 7 ปี กำลังจะครบ 8 ปีเดือน ส.ค. เรามีอะไรเป็นความสุขบ้าง คนมีความสุขคือนายทุนขนาดใหญ่รวยเอาๆ การเมืองเป็นแบบแจกกล้วย ไม่มีการปฏิรูปการเมือง แทนที่จะปรองดองกลับยิ่งแตกแยกมากกว่าเดิม เพราะ พล.อ.ประยุทธ์กลายเป็นคู่ขัดแย้งของคนในสังคม เป็นหน้าที่ฝ่ายค้านต้องยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้าย พรรคใดหนุนนายกฯคนนี้ต่อไปอาจสูญพันธุ์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ส่วนอายุทำงาน 8 ปีของนายกฯ รัฐธรรมนูญมาตรา 170 (6) ไม่ได้กำหนดข้อยกเว้นให้อยู่ 8 ปีไว้ อยากดูศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินอย่างไร แต่ถ้าต้องการความสง่างามจริงๆให้ลาออกก่อนถึงเดือน ส.ค.“เสรีพิศุทธ์” ขอฝ่ายค้านคุมงูเห่าให้ดีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์หน้าตาหมองคล้ำ ร่างกายหมดสภาพ จิตใจเริ่มหวั่นไหวเพราะสร้างศัตรูไว้เยอะ เกรงว่าจะมาเอาคืน มัวแต่ทุ่มงบฯให้ทหาร ปล่อยให้มีการทุจริตมากมาย 8 ปีประเทศมีแต่ตกต่ำลงทุกวัน มีแต่กู้ๆมาแล้ว 5.5 ล้านล้านบาท กู้มาแล้วก็โกง อันดับความโปร่งใสประเทศตกไปอยู่ที่ 110 ของโลก ส่วนสถานการณ์ในพรรค พปชร.กำลังจะแตก ปกครองคนในพรรคยังไม่ได้ แล้วจะไปปกครองประเทศได้อย่างไร ทางออกตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์มีแค่ยุบสภาฯกับลาออก ถ้ามาเจออภิปรายเดี๋ยวร่วง การันตีได้ว่าเลือกตั้งครั้งหน้า พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีโอกาสเป็นนายกฯ การอภิปรายครั้งหน้าฝากให้ฝ่ายค้านดูแลอย่าให้ใครเป็นงูเห่าเพิ่มอีก เห็นใจพรรคใหญ่ที่คุมยาก หากช่วยดีลฝ่ายรัฐบาลมาเป็นพวกได้ยิ่งดีพท.โต้ไม่เกี่ยวยุจ่ายค่าโง่โฮปเวลล์ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงว่า กรณีมีการเผยแพร่เฟกนิวส์ระบุพรรคเพื่อไทยมีผลประโยชน์สนับสนับสนุนให้รัฐบาลจ่ายเงินให้บริษัทโฮปเวลล์ 2.4 หมื่นล้านบาท รวมถึงเชื่อมโยงเกี่ยวข้องโครงการตั้งแต่สมัยรัฐบาลไทยรักไทยที่มีนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ ขอชี้แจงว่าโครงการทางรถไฟยกระดับโฮปเวลล์เกิดขึ้นตั้งแต่สมัย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกฯ เมื่อมีรัฐประหารปี 2534 มีการตรวจสอบโครงการ ทำให้ส่งมอบพื้นที่ไม่ได้ สุดท้ายเหลือแต่ตอม่อ ต่อมาสมัยนายชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็น รมว.คมนาคม ได้ยกเลิกสัญญาบริษัทโฮปเวลล์ ทำให้บริษัทยื่นฟ้องรัฐบาลไทยชดใช้ค่าเสียหาย มีอนุญาโตตุลาการมาเกี่ยวข้อง ฟ้องร้องศาลปกครอง แพ้ชนะคดีไม่ได้เกี่ยวกับนายทักษิณและพรรคเพื่อไทยตามที่มีสื่อออนไลน์บางแห่งระบุ ยืนยันไม่เคยมี ส.ส.เพื่อไทยแม้แต่คนเดียวไปสนับสนุนให้จ่ายค่าโง่ให้โฮปเวลล์ จับพิรุธประมูลท่อส่งน้ำภาค ตอ.นายยุทธพงศ์แถลงถึงความไม่โปร่งใสโครงการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในพื้นที่อีอีซี ภาคตะวันออกว่า ในพื้นที่ภาคตะวันออกมีโครงการท่อส่งน้ำ 3 โครงการคือ 1.โครงการดอกกราย-มาบตาพุด สัตหีบ 2.โครงการหนองปลาไหล-หนองค้อ 3.โครงการหนองค้อ-แหลมฉบัง ทั้งหมดบริหารจัดการโดยบริษัท อีสท์วอเตอร์ ที่เป็นบริษัทลูกของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) มี กปภ.ถือหุ้น 40% การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยถือหุ้น 5% มีระยะเวลาดำเนินโครงการ 30 ปี จะหมดสัญญาสัมปทานวันที่ 31 ธ.ค.2566 ต่อมามีการพิจารณารวมสัญญาทั้ง 3 โครงการ เป็นสัญญาเดียว และให้คัดเลือกบริษัทที่จะเข้ามาบริหารจัดการโครงการใหม่ ผลการคัดเลือก วันที่ 13 ส.ค.2564 บริษัท อีสท์วอเตอร์ชนะการประมูล แต่ถูกยกเลิกประมูล ทำให้บริษัทอีสท์วอเตอร์นำเรื่องไปฟ้องศาลปกครองแฉตัดตอนรวบรัดทำสัญญานายยุทธพงศ์กล่าวว่า จากนั้นให้คัดเลือกบริษัทใหม่ พร้อมปรับทีโออาร์ใหม่ ได้แก่ 1.ยกเลิกลักษณะต้องห้ามผู้ยื่นเสนอ จากเดิมต้องไม่เป็นผู้ถูกหน่วยงานรัฐบอกเลิกสัญญาให้เอาออกไป 2.ปรับลดทุนจดทะเบียนผู้ยื่นเสนอจาก 500 ล้านบาท เป็น 300 ล้านบาท 3.ปรับลดหนังสือรับรองวงเงินสินเชื่อจาก 800 ล้านบาทเหลือ 300 ล้านบาท 4.เปลี่ยนข้อกำหนดทางเทคนิค จากเดิมต้องเป็นนิติบุคคลผู้มีอาชีพและประสบการณ์ประกอบธุรกิจและหรือบริหารจัดการระบบท่อส่งน้ำ เป็นนิติบุคคลที่ดำเนินการสาธารณูปโภคเกี่ยวกับการจัดการน้ำ ส่งผลให้บริษัทวงษ์สยามเป็นผู้ชนะ โดยเสนอผลประโยชน์ให้รัฐมากที่สุด 25,693 ล้านบาท ทำอย่างเร่งรีบประกาศให้บริษัทวงษ์สยามเป็นผู้ชนะ ในวันที่อธิบดีกรมธนารักษ์เกษียณอายุราชการวันที่ 30 ก.ย.64 ทั้งที่บริษัทวงษ์สยามมีทุนจดทะเบียนและสินทรัพย์น้อยกว่าบริษัทอีสท์วอเตอร์ จำนวนมาก ต่อมาวันที่ 11 ก.พ.65 หลังมีอธิบดีกรมธนารักษ์คนใหม่แล้ว นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ประธานที่ประชุมคณะกรรมการราชพัสดุมีมติให้ชะลออนุมัติผลการคัดเลือกที่บริษัทวงษ์สยามชนะไว้ก่อน รอผลพิจารณาศาลปกครองที่บริษัทอีสท์วอเตอร์ยื่นฟ้องแต่คณะอนุกรรมการราชพัสดุไม่รอศาลปกครอง เตรียมอนุมัติให้บริษัทวงษ์สยามได้ทำสัญญาวันที่ 14 มี.ค.65 เหตุใดรีบร้อนทั้งที่สัญญาจะหมดปี 66จ่อยื่นซักฟอกเอาผิด 3 ป.-1 ช.“เรื่องนี้ 3 ป. คือ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่ดูแล กปภ. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ประธานอีอีซี และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง กำลังทำอะไรอยู่ ปล่อยให้อีสท์วอเตอร์ที่เป็นบริษัทลูก กปภ.กำลังจะล้ม พรรคเพื่อไทยจะเป็นหัวหอกเปิดอภิปราย 3 ป. กับ 1 ช. ไม่ได้เป็นเอกสารข่าวตัดแปะ จะเปิดอภิปราย ไม่ไว้วางใจ 3 ป. 1 ช.รอพบได้เลย เพราะวันนี้กำลังเอาสมบัติชาติไปยกให้บริษัทเอกชน จะเกิดการผูกขาดหรือไม่ ค่าน้ำจะสูงขึ้นเท่าไร ข้อมูลวันนี้แค่น้ำจิ้ม อภิปรายไม่ไว้วางใจมีข้อมูลมากกว่านี้ สลับซับซ้อนมากกว่า 3 ป. 1.ช.เตรียมตัวได้เลยปชป.ลบคำปรามาสโวคัมแบ็ก กทม.เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ ในงาน The 2 Leaders’ Visions “เศรษฐกิจประเทศ-เศรษฐกิจเมือง” ที่พรรคจัดทำทิศทางแนวคิดของพรรคประชาธิปัตย์เพื่อเปลี่ยนแปลงกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในทิศทางที่ดีขึ้นว่า หลายคนปรามาสว่าประชาธิปัตย์คงจะสูญพันธุ์ แต่มั่นใจว่ามาถึงวันนี้เรากำลังเดินขึ้นและมั่นใจพี่น้อง กทม. จะต้อนรับประชาธิปัตย์อีกครั้งหนึ่ง เราผูกพันกันมายาวนาน เลือกตั้งผู้ว่าฯกำลังจะมาถึง การไม่ส่ง ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และผู้สมัคร ส.ก.คือตัดทางเลือกของคนกรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์มีมติส่งนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.กับผู้สมัคร ส.ก. 50 เขต ถือเป็นการนับ 1 ที่พรรคเสนอทางเลือกที่ดีที่สุดให้พี่น้อง กทม. ภารกิจผู้ว่าฯ กทม.ต้องบริหารกรุงเทพฯ แบบ “Mini Thailand” เกิดนวัตกรรมใหม่ทางการบริหารอย่างน้อย 3 นวัตกรรมคือ 1.มี ครม.กรุงเทพฯ ทั้งรัฐมนตรีเศรษฐกิจ กทม. รัฐมนตรีสวัสดิการ กทม. 2.กรอ.กรุงเทพฯ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจกรุงเทพฯร่วมกับเอกชน และ 3.คณะกรรมการบูรณาการการบริหารกรุงเทพมหานครกับปริมณฑล “ดร.เอ้” ดัน กทม.เมืองสวัสดิการด้านนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ว่า ลงพื้นที่พบเห็นความเหลื่อมล้ำใน กทม.ไม่ใช่วาทกรรม มีน้ำเน่าครบทุกเขต ฟุตปาท-ถนนไม่เคยเรียบ ทั้งที่ถนนในเยอรมนี ออสเตรียสร้างยากกว่ากรุงเทพฯ ไม่รู้กี่เท่า แต่ถนนเขาไม่ทรุด บริการสาธารณสุขในเมืองที่มีประชากรขนาดเท่าเราหรือมากกว่าพัฒนาไปไกลแค่ไหน วิสัยทัศน์ที่บอกชัดคือกรุงเทพฯ ต้องเป็นเมืองสวัสดิการทันสมัย ต้นแบบอาเซียน ต้องมีโรงเรียนดีมีคุณภาพใกล้บ้าน 50 เขต ต้องมี 50 โรงเรียนต้นแบบ ไม่ต้องย้ายโรงเรียนเลย มีห้องสมุดดีที่สุดได้ มีครูดีที่สุดได้ ขณะที่ศูนย์บริการสาธารณสุขหลายเขตสร้างไว้อย่างดี แต่ไม่มีหมอแค่เพิ่มหมอ 3 วันต่อสัปดาห์เป็นหมอเฉพาะทาง ชีวิตคนกรุงเทพฯเปลี่ยน ไม่ต้องไปออที่ รพ.มีชื่อของรัฐ ต้องเป็นเมืองที่อินเตอร์เน็ตเป็นสวัสดิการพื้นฐานของเมือง เหมือน 59 เมืองทั่วโลกคำนวณไว้แล้ว กรุงเทพฯ 1,600 ตร.กม. 150,000 จุด เด็กจะมีโอกาสเห็นโลก แม่ค้าขายของออนไลน์ได้ และทำให้ระบบสาธารณสุขเข้าถึงประชาชนผ่านอินเตอร์เน็ตได้“สกลธี” งัด “กรุงเทพฯดีกว่านี้ได้”นายสกลธี ภัททิยกุล อดีตรองผู้ว่าฯ กทม.เปิดเผยว่า หลังลาออกมาสมัครชิงผู้ว่าฯ กทม.จะเปิดตัวเป็นทางการวันที่ 24 มี.ค.ที่ร้านบางรัก ริเวอร์วิว เขตบางรัก ชูสโลแกน กทม.More หรือกรุงเทพฯ ดีกว่านี้ได้ จะเปิดตัวทีมที่ปรึกษาและทีมงานบางส่วน เป็นนักวิชาการ นักปฏิบัติเชี่ยวชาญ มีนโยบาย 6 ด้านคือ 1.เน้นการจราจร สานต่องานโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) สายสีเทา เส้นแรกวัชรพล-ทองหล่อ 16 ก.ม.บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์) เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายต่างๆ เดินหน้าโครงการรถไฟฟ้ารางเดี่ยวบางนา-สุวรรณภูมิ เชื่อมต่อล้อ-ราง-เรือ จะทำเรือไฟฟ้าโดยสารคลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากร เรือไฟฟ้าเส้นทางคลองแสนแสบจากวัดศรีบุญเรือง-ผ่านฟ้า และสร้างระบบรถเมล์ฟีดเดอร์ป้อนคนเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้า 2.ด้านความปลอดภัย เพิ่มกล้องซีซีทีวีครอบคลุมพื้นที่ จากเดิมมี 62,000 ตัว 3.ด้านสิ่งแวดล้อม เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ทั้ง 50 เขตมีสวนสาธารณะใกล้บ้านอย่างน้อยเขตละ 1 แห่ง 4.เพิ่มศักยภาพศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. 69 แห่งให้เป็นระบบ Telemedicine เชื่อมต่อกับแพทย์ตามโรงพยาบาล ส่งเสริม รพ.ในสังกัด กทม.ทั้ง 11 แห่งเป็น รพ.เฉพาะทาง มีแพทย์ บุคลากรและอุปกรณ์การแพทย์ครบ 5.ด้านโยธา การขออนุญาตก่อสร้างโปร่งใสตรวจสอบได้ ปรับปรุงทางเท้าใน กทม.ใหม่ทั้งหมดให้เป็นสากล และ 6.ด้านพัฒนาสังคม เปิดหลักสูตรสนับสนุนอุปกรณ์ให้โรงเรียนฝึกอาชีพที่ทันสมัยตร.ระงับเหตุ 2 ม็อบหวิดปะทะเมื่อเวลา 18.00 น. พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเลขา ผกก.สน.พญาไท นำกำลังเจ้าหน้าที่ บก.อคฝ.บช.น.และเจ้าหน้าที่ ปจ.บก.น.1 รวม 1 กองร้อยพร้อมรถควบคุมผู้ต้องหาและรถปฏิบัติการ 20 คัน เข้าควบคุมสถานการณ์รอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หลังกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยและกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) นัดหมายรวมตัวทำกิจกรรมช่วงเย็น วันเวลาเดียวกัน ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 17.30 น. ทั้ง 2 กลุ่มที่มีแนวร่วมหลายสิบคนเกิดโต้เถียง หวิดวางมวยใส่กันบริเวณเกาะพญาไท แต่เหตุการณ์คลี่คลายลง เจ้าหน้าที่ตำรวจวางกำลังรอท่าไว้ตั้งแต่ 15.00 น.แล้ว สอบถาม พ.ต.อ.บวรภพให้ข้อมูลว่ากลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยนัดหมายมาทำกิจกรรมร่วมกันที่สกายวอล์ก ฝั่งเกาะพญาไท ตั้งแต่ 15.00 น.จากนั้นราว 17.00 น. กลุ่ม ศปปส.นำรถขยายเสียงเคลื่อนเข้ามาในพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเพื่อรอเปิดเพลงชาติ กระทั่งทั้ง 2 ฝ่ายโต้เถียงกัน กำลังตำรวจที่มาสังเกตการณ์จึงเข้าควบคุมสถานการณ์จนทั้ง2 ฝ่ายแยกย้ายกันไปทำกิจกรรมและสลายตัว