ภาวะผู้นำมีส่วนสำคัญที่จะชี้ถึงชะตา อนาคตประเทศโดยตรง ซึ่งหมายถึงจะส่งผลต่อ วิสัยทัศน์ มุมมอง วิธีแก้ปัญหาของผู้นำ โดยเฉพาะ ในช่วงวิกฤติและโอกาส จะแก้วิกฤติและใช้โอกาส อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศและประชาชน จะต้องไม่ขี้งอน จะต้องไม่ขี้น้อยใจ จะต้องไม่ใช้ อำนาจเพื่อส่วนรวมมาเป็นประโยชน์เพื่ออำนาจส่วนตัว เป็นต้น

ปัญหาภายในของ พลังประชารัฐ พูดกันแบบตรงไปตรงมาไม่ดัดจริต เกิดจากส่วนตัวไปสู่ส่วนรวม ก็คงไม่ผิดนัก ไม่ใช่ความผิดของ ส.ส.พรรค หรือผู้บริหารพรรค หรือหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค แต่เกิดจากภาวะผู้นำและอคติ ทัศนคติ ของคนกลุ่มหนึ่ง คนหนึ่ง เท่านั้น

เพราะฉะนั้นการที่ 21 ส.ส. กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจากพรรคพลังประชารัฐแล้วไปอยู่พรรคใหม่ เรื่องก็ยังไม่จบง่ายๆ ยังมีการตามล้างตามเช็ดกันไม่เลิก เอาตรงๆก็คือ ตราบใด ที่ยังมีชื่อของ ร.อ.ธรรมนัส อยู่ เรื่องไม่จบง่ายๆ ต่อให้ถอยไปจนสุดซอยก็ไม่จบอยู่ดี

มีสมาชิกพลังประชารัฐไปร้องขอให้ กกต.ตรวจสอบมติที่พรรคขับกลุ่ม 21 ส.ส.ออกจากพรรคชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ถ้าเกิดไม่ชอบ ขึ้นมาก็เสี่ยงที่จะพ้นจากสภาพของ ส.ส. เนื่องจากขัดกับรัฐธรรมนูญ

ไม่ใช่แค่นั้นปัญหาคือการวินิจฉัยข้อกฎหมายที่ดิ้นได้ ตามรัฐธรรมนูญ ส.ส.จะมี 2 ฐานะ คือเป็นสมาชิกพรรคและฐานะที่เป็น ส.ส. ในกรณีที่ถูกขับออกจากพรรคชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ผลของคำวินิจฉัยของ กกต. จะมีผลทำให้สมาชิกภาพของพรรคการเมืองนั้น สิ้นสุดลง แม้ฐานะของ ส.ส.ยังดำรงอยู่ก็ตาม ซึ่งจะเป็นหลักฐานนำไปสู่การวินิจฉัยปัญหาอื่นๆตามมาอีกบานตะไท

ถือว่าเป็นกลเกมการเมืองที่อำมหิตผิดมนุษย์

การที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้ ส.ส.ที่ถูกขับออกจากพรรคสามารถเข้าสังกัดพรรคใหม่ได้ภายใน 30 วัน ช่วงรอยต่อที่สมัครเข้าพรรคใหม่ กับการวินิจฉัยการดำรงสถานะของ ส.ส. ใน 2 สถานะคือเป็นสมาชิกของพรรคใหม่ และสถานะของ ส.ส.ที่ยังมีอยู่ ตามบทบัญญัติแล้วให้ กกต.แจ้งให้ลบชื่อ ส.ส.ออกจากสมาชิกพรรคเพราะไปสมัคร เป็นสมาชิกของพรรคใหม่แล้วก็ตาม

...

กลายเป็นช่องว่างทางกฎหมายที่สามารถจะให้คุณให้โทษได้ทันที

ถ้างานนี้ไม่จบจริง มีความพยายามจะดึง ส.ส.ที่เหลืออยู่ในพลังประชารัฐ ย้ายไปอยู่กับรวมไทยสร้างชาติ ที่เสกสกล อัตถาวงศ์ เป็นตัวตั้งตัวตี โดยคนในรัฐบาลและเป็นสายตรงนายกฯ ใช้แม่น้ำทั้ง 5 รวมทั้งกรณีที่กำลังเกิดกับกลุ่ม 21 ส.ส. เป็นสารตั้งต้นที่จะกลายเป็นวิกฤติของ กลุ่ม 21 ส.ส. และสถานภาพของพรรคพลังประชารัฐในอนาคต

ถือว่าคนวางเกมมีความเชี่ยวชาญทางกฎหมาย ใช้อำนาจผลประโยชน์ต่อรอง ร่างคำร้องให้สมาชิกให้ ส.ส.ไปร้อง กกต. ใช้ ความอำมหิตไม่มีพี่มีน้องอีกต่อไป เพียงแค่ คำว่าชนะ เพียงคำเดียว

วันนี้สภาก็ล่มแล้ว ครม.ก็มีการประท้วงไม่เข้าประชุมจาก รมต. พรรคภูมิใจไทย อันเนื่องมาจากเรื่องของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ระหว่างมหาดไทย กทม. และคมนาคม ปล่อยไปแบบนี้ต่อไป ประเทศไทยก็ล่ม

เพราะแค่การเอาชนะอย่างนั้นหรือ.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th