จากสภาฯล่มสู่ ครม.ร้าว 7 รมต.ภูมิใจไทยบอยคอต ยื่นใบลาไม่ร่วมถก ครม. ค้านแหลกต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว 30 ปี พรรคร่วมฯอึ้ง ภท.อารยะขัดขืน “เสี่ย โอ๋” ลั่นไม่ถูกต้องตาม ก.ม.ขัดหลักธรรมาภิบาล โขกค่าโดยสาร 65 บาท ประชาชนเดือดร้อน “อนุพงษ์” โวยเข็นเข้า ครม.มา 7 รอบแล้ว โต้รื้อสัญญาสางหนี้ 5 หมื่นล้านไม่ใช่ต่อสัมปทาน “บิ๊กตู่” รู้แล้วธาตุแท้ใครเป็นอย่างไร คาใจเคย เห็นชอบ 65 บาท ทำไมเพิ่งมาเปลี่ยนใจ ทุบเปรี้ยงครั้งหน้าต้องจบ “นิพนธ์” ขอ 2 สัปดาห์เคลียร์ 4 ประเด็นส่งกลับ ครม. “สาธิต” ชี้ปรากฏการณ์ ครม.เว้นระยะห่าง “เทพไท” ชี้ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก ภท.อารยะขัดขืนสั่นคลอน เรือแป๊ะ “บิ๊กป้อม” ยันไม่แย่งเก้าอี้ มท.1 ยัน “น้องตู่” ยังอยู่ พปชร.

ขณะที่ปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่นำไปสู่ปัญหาสภาฯล่มซ้ำซากยังไม่จางหาย ล่าสุดเกิดปัญหาภายในพรรคร่วมรัฐบาลขึ้นอีก เมื่อ 7 รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยประท้วงไม่เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี แสดงจุดยืนคัดค้านการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว

...

ครม.ร้าว 7 รมต.ภท.บอยคอต

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 ก.พ. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีแบบเต็มคณะหลังต้องประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยมีรายงานว่ากระทรวงมหาดไทยจะเสนอให้ ครม.เห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวของกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อขยายสัญญาสัมปทานให้บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ในเครือบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ออกไปอีก 30 ปี เป็นสิ้นสุดปี 2602 จากเดิมสิ้นสุดปี 2572 แลกกับการเก็บค่าโดยสาร 65 บาทตลอดสาย

ไม่สะดวกถกสัญญารถไฟฟ้าสีเขียว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่ทราบกันดีว่ารัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย ได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าไม่เห็นด้วย ปรากฏว่ารัฐมนตรีพรรค ภท.ทั้ง 7 คน ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.คมนาคม น.ส.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ และ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ไม่เข้าร่วมประชุม ครม.โดยยื่นใบลาประชุม ครม.ต่อเลขาธิการ ครม.แล้ว ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 7 ก.พ. ระบุเหตุผลว่าไม่สะดวกที่จะพิจารณาเรื่องนี้ มีเพียง น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุลรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ เข้าร่วมประชุมเพียงคนเดียว

“บิ๊กตู่” ถกเครียด-“ลุงป้อม” หวั่น ม.157

เมื่อเวลา 09.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐมนตรีพรรรค ภท.พร้อมใจลาประชุม ครม.ไม่ต้องการร่วมพิจารณาโครงการขยายสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว อาจมีผลต่อความสัมพันธ์ในพรรคร่วมรัฐบาลว่า รัฐบาลยังไม่มีการพิจารณา กำลังพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อไป ยังไม่ได้ตกลงใจว่าจะเอาอย่างโน้นอย่างนี้ ต้องพิจารณากันให้รอบคอบไม่เช่นนั้นอาจผิดมาตรา 157 ได้ เวลา 14.00 น. หลังการประชุม ครม.ที่ตึกสันติไมตรี พล.อ.ประยุทธ์ได้พูดคุยนอกรอบกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และนายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ที่ปรึกษานายกฯ ฝ่ายข้าราชการประจำอย่างเคร่งเครียด โดย พล.อ.ประยุทธ์ยื่นเอกสารรายละเอียดโครงการต่อขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว จากนั้นนายกฯไม่ได้ให้สัมภาษณ์หรือแถลงหลังการประชุม ครม.เพียงหันมาโบกมือให้สื่อมวลชน ก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที มีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐรมว.คลัง เดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปรอที่ห้องเขียวหารือนอกรอบกันต่อ

มท.ชี้รื้อสัญญาแก้หนี้ไม่ต่อสัมปทาน

ผู้สื่อรายงานข่าวว่า ที่ประชุม ครม.ได้เลื่อนวาระขอความเห็นชอบผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวมาเป็นวาระสุดท้าย ใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมงถกเถียง โดยเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีการายงานว่าอัยการสูงสุด (อสส.) พิจารณาร่างสัญญาเป็นไปตามกฎหมายครบถ้วนแล้ว และเห็นว่าหาก กทม. ยืนยันยึดผลประโยชน์ของประชาชนก็ไม่เป็นไร พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย อธิบายว่าไม่ใช่การต่อสัมปทาน แต่เป็นการแก้ไขสัญญาเพื่อแก้ไขหนี้สินที่เกิดขึ้นให้ได้ เพราะไม่ว่าจะเป็น กทม.หรือรัฐบาลฝ่ายเดียวแก้ไขไม่ได้ เอกชนต้องมาช่วย ประชาชนจะได้ประโยชน์ เราจะได้แก้ปัญหาหนี้ 5 หมื่นล้านบาท การจะให้เอกชนลดค่าโดยสารให้ต่ำกว่า 65 บาทตลอดสายไม่สามารถทำได้อยู่แล้ว หากอยากได้ราคาถูก กทม.ต้องลดส่วนแบ่งรายได้เพื่อนำไปชดเชย ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 แล้วที่เสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. แต่เมื่อมีข้อสงสัยและกระทรวงคมนาคมทำหนังสือมาเมื่อวันที่ 7 ก.พ. มีคำถามให้ตอบ 4 ข้อ ส่วนใหญ่ได้ชี้แจงไปหมดแล้ว เหลือเพียงข้อกฎหมายที่ต้องทำให้ชัดเจนก่อนนำมาเข้า ครม. ส่วนนายกฯระบุว่าต้องนำเข้าสู่การประชุม ครม. ทุกอย่างมีความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว ถ้าเราไม่ทำอะไรอาจผิดมาตรา 157 ถึงอย่างไรต้องนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณา

นายกฯกำชับรอบหน้าเคาะได้แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รัฐมนตรีส่วนใหญ่เห็นด้วยที่เร่งพิจารณา เช่น นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ระบุเรื่องนี้เข้า ครม.หลายรอบแล้ว หากต้องตอบคำถามแบบนี้เรื่อยๆไม่จบเสียที นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมฯ กล่าวว่า เราควรตัดสินใจ ประชาชนเลือกเรามาให้เป็นคนตัดสินใจ รัฐบาลควรแสดงความเป็นผู้นำแก้ไขปัญหา พล.อ.ประยุทธ์จึงบอกว่า “รอบหน้าเคาะได้แล้ว” ทำให้นายจุติบอกว่าอยากให้พิจารณาให้เสร็จภายในวันนี้เลย นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สธ. เสนอแนะว่า ต้องตอบคำถามประชาชนให้เคลียร์ ชี้แจงให้ได้ ว่าถ้าผ่านหรือไม่ผ่านเพราะอะไร นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ระบุเช่นกันว่ารัฐบาลควรตัดสินใจได้แล้ว แต่ก็มีรัฐมนตรีบางคนไม่มั่นใจข้อกฎหมาย พยายามถามซ้ำหลายครั้งว่าการเจรจาและร่างสัญญาไม่ขัดต่อหลักกฎหมายใช่หรือไม่ อาทิ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ

คาใจเห็นด้วย 65 บาททำไมเปลี่ยนใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งนายกฯพูดถึงราคา ค่าโดยสาร 65 บาท ว่า “ก่อนหน้านี้ก็เห็นด้วยกันมาแล้ว แล้วทำไมตอนนี้ถึงมาเปลี่ยนใจ วันนี้ผมพิสูจน์แล้วว่าใครเป็นอย่างไร ขอบคุณทุกคนที่อยู่ในห้องนี้ ปัญหานี้คาราคาซังมานานแล้ว อยากให้มันจบ” พร้อมกับถาม พล.อ.อนุพงษ์ด้วยว่านำเรื่องกลับมาพิจารณาใน ครม.สัปดาห์หน้าได้เลยหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ตอบว่าไม่น่าจะทันเพราะต้องทำหนังสือถามไปหลายหน่วยงาน แม้ว่าทุกคำถามจะตอบไปแล้ว แต่มีข้อที่ต้องถาม ป.ป.ช.ไม่น่าจะทัน ทั้งนี้ ช่วงพักประชุม พล.อ.ประยุทธ์ได้คุยเล่นกับรัฐมนตรีที่เข้าประชุมว่า “วันนี้บรรยากาศดูเหงาๆ รัฐมนตรีหายไปเยอะ สงสัยรถไฟฟ้ามาหานะเธอ” ทำให้คนที่อยู่ตรงนั้นหัวเราะชอบใจ โดย พล.อ.ประยุทธ์บอกกับคนอื่นๆว่า “ผมเชื่อมั่นในฝ่ายกฎหมายของผม”

ไม่มีปัญหาให้ กทม.ไปหาข้อยุติ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ชี้แจงแทนนายกฯถึงข้อเท็จจริงปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียวและท่าทีพรรค ภท.ไม่เข้าร่วมประชุม ครม.จะส่งผลกระทบต่อโครงการและการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ว่า นายกฯชี้แจงว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร วันนี้ดำเนินการตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่กำหนดให้กระทรวงมหาดไทยและ กทม.นำผลการเจรจาเสนอให้ ครม.พิจารณา การพิจารณาวันนี้บางหน่วยมีข้อสังเกตบางประการ จึงมอบหมายให้ กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหารือกันให้ได้ข้อยุติก่อนเสนอ ครม.พิจารณาต่อไป และนายกฯฝากถึงสมาชิกสภาฯให้เข้าร่วมประชุมให้มากที่สุด มีกฎหมายสำคัญหลายฉบับรอพิจารณา ขณะนี้การเมืองไทยมีเสถียรภาพ เรายังเป็นเป้าหมายของต่างประเทศที่ประคับประคองสถานการณ์โควิด-19 ได้ดี

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ชี้แจงแทนนายกฯ ถึงกรณี พล.อ.ประวิตรยืนยัน พล.อ.ประยุทธ์จะไม่ไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ มีการคุยกันแล้วถือเป็นคำตอบของนายกฯ เองใช่หรือไม่ นายธนกรกล่าวว่า นายกฯชี้แจงว่าขณะนี้นายกฯยังคงอยู่กับพรรค พปชร. พรรคที่สนับสนุนนายกฯในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ขณะนี้ยังไม่มีความเห็นเรื่องนี้ ขอบคุณทุกพรรคที่ยืนยันสนับสนุนนายกฯในการทำงานทั้งวันนี้และอนาคต ส่วนการเมืองและการเลือกตั้งเป็นเรื่องของอนาคต ทุกพรรคทั้งเก่าใหม่ต้องแก้ปัญหาการเมืองภายในพรรคตัวเอง การเลือกตั้งเมื่อมาถึงเป็นเรื่องของประชาชนและเป็นเรื่องที่นายกฯต้องพิจารณาต่อไป

มท.1 โต้ไม่ได้ถอนแค่เพิ่มเติมข้อมูล

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม.ว่า ณ ตอนนี้กระทรวงคมนาคมยังต้องการให้ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม ครม.มีมติให้ไปชี้แจงเพิ่มเติมข้อมูลและเสนอกลับเข้ามาใหม่ หลังจากกระทรวงคมนาคมมีหนังสือทักท้วงมา 4 ข้อ ต้องไปชี้แจงนำกลับมาเสนอใหม่ ที่ประชุม ครม.ได้พิจารณาวาระดังกล่าว ไม่ได้เป็นการถอนออกไป เพียงแค่ให้เอาข้อมูลมาเพิ่มเติมและพิจารณาในที่ประชุม ครม.ครั้งต่อไป

ขอ 2 สัปดาห์รีบส่งเรื่องกลับ ครม.

นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.ขอให้กระทรวงมหาดไทยกลับไปดูรายละเอียดของกระทรวงคมนาคมที่ทำความเห็นมาประกอบการพิจารณาอีกครั้ง โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการตามเงื่อนไขการอนุญาตให้เข้าพื้นที่กรณีการติดตั้งสะพานเหล็กแยกหทัยราษฎร์ และแยกพุทธมณฑลสาย 2 ที่จะต้องพิจารณาประกอบ เพื่อจัดทำรายละเอียดค่าใช้จ่ายของโครงการ กระทรวงมหาดไทยจะรีบกลับไปดูข้อมูลทั้งหมด เพื่อสรุปมาเสนอ ครม.อีกครั้งโดยเร็วที่สุดภายใน 2 สัปดาห์นี้

คค.ตั้ง 4 ข้อขวางขยายสัมปทาน

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาวาระผลการเจรจาและเห็นชอบร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวว่า เรื่องนี้ยังไม่ผ่าน ต้องเอาเข้า ครม.อีกครั้ง ถือว่าผ่านการพิจารณาจาก ครม.แต่ยังไม่เสร็จสิ้น ไม่ได้ถอนออกไป เนื่องจากกระทรวงคมนาคมเพิ่งตั้งข้อสังเกตถึง 4 ข้อลงวันที่ 7 ก.พ. กระทรวงคมนาคมไม่ได้มานั่งในที่ประชุมและกระทรวงมหาดไทยเพิ่งมาเห็น จึงต้องไปหาคำตอบ เสร็จเมื่อไหร่แล้วค่อยเอาเข้าที่ประชุมต่อให้เสร็จสิ้น นายกฯวางกรอบให้ดำเนินการโดยเร็ว ไม่แน่ใจว่าเป็นประเด็นใหม่หรือเก่า 1.ยังไม่ชัดเจนเรื่องราคา 2.การใช้ระบบตั๋วร่วม 3.ปัญหากฎหมายบางประการ ไม่รู้ว่าอะไร และ 4.สะพาน 2 แห่งที่รื้อย้ายที่ถนนหทัยราษฎร์และถนนพุทธมณฑลสาย 2 เมื่อถามอีกว่าหากกระทรวงคมนาคมไม่เห็นชอบ ครม.จะพิจารณาต่อไม่ได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า สามารถโหวตพิจารณาได้ หลายเรื่องไม่จำเป็นต้องเห็นชอบกัน

“โอ๋” ลั่นทำมาไม่ถูก ก.ม.ลุยค้านต่อ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมตั้งข้อสังเกตให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายและหลักธรรมาภิบาลหลายประเด็น กทม.ยังทำไม่รอบด้านและครบถ้วน 7 รมต.ของพรรค ภท.แสดงออกชัดเจนไม่เข้าร่วมประชุม ครม.ไม่เห็นด้วยที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอขอขยายสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวในขณะที่การดำเนินการยังไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่อยากให้ต้องเมื่อเข้าร่วมประชุมแล้วไปถกเถียงกันใน ครม.ให้เป็นเรื่องราว ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้ทำความเห็นส่งไปยังเลขาธิการ ครม.หลายครั้งและชัดเจนมากใน 4 ประเด็นก่อนหน้านี้ ครั้งนี้เพิ่มไปอีก 2 ประเด็น ทั้งการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ยังคงมีกรรมสิทธิ์ส่วนต่อขยายหมอชิต-คูคตที่ กทม.ยังไม่จ่ายค่าชดเชยให้ และการคำนวณค่าโดยสารไม่เป็นธรรม ตลอดสายทำให้ถูกกว่า 65 บาทได้ หาก มท.เสนอวาระกลับเข้ามา แต่ทำให้ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับกฎหมายและหลักธรรมาภิบาล พรรค ภท.จะสนับสนุน ถ้ายังไม่เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย บอกได้เลยว่าพรรค ภท.ยังคงคัดค้าน

“ชัยวุฒิ” เชื่อค่อยๆเคลียร์ทางออก

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงกรณีได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองหัวหน้าพรรคว่า จะช่วยกันทำงานอย่างเต็มที่เพื่อรัฐบาลอยู่ครบเทอม ไม่ได้พูดถึงการยุบสภาหรือมีการเลือกตั้งเร็วๆนี้ ยังมั่นใจว่าทุกคนจะช่วยกันสนับสนุนรัฐบาลให้ทำหน้าที่ต่อไปให้ครบเทอม ส่วนรัฐมนตรีพรรค ภท.ไม่เข้าร่วม ครม. เพราะไม่เห็นด้วยการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ภาพรวมพรรคร่วมรัฐบาลยังเข้าใจกันดีอยู่ ทำงานร่วมกันได้ ไม่ได้มีปัญหาอะไร บางประเด็นอาจมีข้อขัดข้องบ้าง เดี๋ยวค่อยๆพูดคุยกันหาทางออกจนได้

ครม.เว้นระยะห่าง-ภท.อารยะขัดขืน

นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ครม.เว้นระยะห่างที่ประชุม ครม.เว้นระยะห่าง มีรัฐมนตรีลาประชุมมากที่สุดเท่าที่ตั้งรัฐบาลมา ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรี ธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ก่อนหน้านี้มี ส.ส.บอยคอตไม่เข้าร่วมแสดงตนเป็นองค์ประชุมสภา สภาล่มซ้ำแล้วซ้ำอีกจนถึงข่าวรัฐมนตรี 7 คนของพรรค ภท.ลาการประชุม ครม.ยกพรรคประท้วงเงียบ หรือบอยคอตไม่เข้าร่วมประชุม ครม. ส่งสัญญาณทางการเมืองแบบอารยะขัดขืนจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและความเชื่อมั่นของรัฐบาลหลีกเลี่ยงไม่ได้ เหมือนกับคำโบราณที่กล่าวว่า ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก นายกฯต้องเร่งแก้

“สมชัย” ซัดไม่เข้าท่าต้องเข้าไปค้าน

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคเสรีรวมไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า ไม่เข้าประชุม ประท้วงแล้วได้อะไร ไม่เห็นด้วยทำไมไม่เข้าไปเถียง เพื่อจะได้มติ ครม.ที่เหมาะสม ไม่เข้าประชุมเขาก็ผ่านเป็นมติ ครม.ที่ต้องร่วมรับผิดชอบอยู่ดี คนไม่เข้าประชุมไม่เห็นเข้าท่า คนนั่งหัวโต๊ะถ้าคุมประชุมไม่ได้ก็กลับบ้านไปเถอะ บริหารประเทศกันแบบนี้วังเวง

กก.ขย่มต้านประเคนต่อสัญญา 30 ปี

เมื่อเวลา 12.45 น. ที่รัฐสภา นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงคัดค้านการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียวว่า ก้าวไกลเคยคัดค้านมา ตั้งแต่ปี 2562 เคยตั้ง กมธ.วิสามัญพิจารณา เสียงส่วนใหญ่ลงมติไม่เห็นด้วย มีปัญหามากมาย เช่น ทำไมถึงมีราคาตั๋ว 65 บาท ทำไมต้องขยายสัญญาสัมปทาน 30 ปี การยกเลิกตั๋วเดือน 28 บาท รัฐบาลยังดึงดันจะขยายสัญญาสัมปทานไปอย่างไม่ชอบธรรม พรรคก้าวไกลและพรรคภูมิใจไทยเห็นตรงกันว่าไม่ควรขยายสัญญาสัมปทานตามร่างปัจจุบัน ถ้าก้าวไกลเป็นรัฐบาลและอยู่ในบทบาทพรรคภูมิใจไทย จะทำมากกว่านั้นแน่นอน เป็นเรื่องใหญ่ ผูกพันชีวิตคนไปอีก 7 ปี ขยายเพิ่มไปอีก 30 ปี รวมเป็น 37 ปี เกี่ยวข้องกับเงินหลายแสนล้านบาท

“บิ๊กป้อม” ร่ายยาวไม่ทิ้ง พปชร.

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ภายในพรรคว่า ไม่มีอะไรบอกแล้วทุกครั้ง มีแต่สื่อไปเขียนกันเอง เมื่อถามว่าตอนนี้สบายใจขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า สบายใจทุกที เมื่อถามว่ามั่นใจจะได้ ส.ส. 150 เสียง ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปตามที่ประกาศไว้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า คิดไว้อย่างนั้น ผู้สื่อข่าวถามว่า การขอ ส.ส.ในที่ประชุมพรรคให้เข้าร่วมประชุมสภาฯจะทำให้การประชุมสภาฯดีขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เรียบร้อย ความจริง ส.ส.พรรค พปชร.เข้าประชุมกว่า 80 คนทุกครั้ง แต่ขอร้องพรรคอื่นๆด้วยให้เข้าร่วมประชุม

ลั่นผมยังอยู่พรรคจะแตกได้ไง

เมื่อถามว่ายืนยันจะอยู่กับพรรค พปชร.ไม่ไปไหนใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่ไปไหน ไม่ไปไหน มีแต่พวกสื่อจะไล่ผมให้ไป และยืนยันพปชร.ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ” เมื่อถามว่าคนนอกเริ่มมองว่าพรรค พปชร.กำลังจะแตกแล้ว พล.อ.ประวิตร ยิ้มพร้อมกล่าวว่า จะแตกอะไรเล่า แตกได้อย่างไรก็ตนยังอยู่ ทุกคนก็อยู่กันหลายคน นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คลัง ในฐานะรักษาการเลขาฯพรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ยังอยู่กันทั้งนั้น ยืนยันพรรคยังรักกันเหมือนเดิมไม่มีอะไร

ยัน “บิ๊กตู่” อยู่ด้วยกัน-ไม่แย่ง มท.1

เมื่อถามว่าถึงเวลาจะชวน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม มาอยู่กับพรรคแล้วหรือยัง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ต้องมาหรอก เพราะเป็นแคนดิเดตนายกฯอยู่แล้ว กระแสข่าวตั้งพรรคใหม่ ไม่ต้องคุยเพราะรู้กันอยู่ อย่างไรก็อยู่กับตน ยืนยันยังอยู่ด้วยกันและอยู่ด้วยกันมาตลอด ไม่มีอะไรต้องเคลียร์เพราะอยู่ด้วยกันตลอด อยู่กันมา 50 ปีแล้ว เมื่อถามว่าได้คุยกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย แล้วหรือยังหลังมีกระแสข่าวพรรคเศรษฐกิจไทยสนับสนุน พล.อ.ประวิตรให้เป็น รมว.มหาดไทย

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “โอ๊ย อนุพงษ์นั่นน้องผม มหาดไทย เป็นน้องผม แล้วผมจะไปอยู่ไปแย่งน้องได้อย่างไร” เมื่อถามย้ำว่าเรื่องที่ออกมาเป็นแผนทำให้เกิดรอยร้าวระหว่าง 3 ป. หรือไม่ พล.อ.ประวิตรย้อนว่า ก็ดูเอาเอง เพราะข่าวมาจากผู้สื่อข่าว เมื่อถามว่าจะสืบหาที่มาของข่าวหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จะไปรู้ได้ อย่างไร เพราะเดี๋ยวบอกว่าไม่รู้จะว่าตนไม่รู้ ไม่รู้เรื่องอีก

ย้ำ “ธรรมนัส” อยู่ขั้ว รบ.ไม่ต้องห่วง

เมื่อถามว่าพรรคเศรษฐกิจไทยและรวมไทยสร้างชาติ เรียกได้ว่าเป็นพรรคพันธมิตรของพรรคพลังประชารัฐได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่าเขาก็อยู่ของเขา เราก็อยู่ของเรา เมื่อถามว่าได้คุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ถึงบทบาท การเมืองและขอความร่วมมือการประชุมสภาฯบ้างหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ไม่ได้คุยเลยแต่คุยว่าออกไปแล้วต้องสนับสนุนรัฐบาล พูดชัดเจนไม่ต้องห่วง ผมพูดอย่างไรก็ต้องอย่างนั้น”

“ประยุทธ์” กั๊กตอนนี้ยังอยู่ พปชร.

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ชี้แจงแทนนายกฯถึงกรณี พล.อ.ประวิตรยืนยัน พล.อ.ประยุทธ์จะไม่ไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ มีการคุยกันแล้วถือเป็นคำตอบของนายกฯเองใช่หรือไม่ นายธนกรกล่าวว่า นายกฯชี้แจงว่าขณะนี้นายกฯยังคงอยู่กับพรรค พปชร.พรรคที่สนับสนุนนายกฯในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ขณะนี้ยังไม่มีความเห็นเรื่องนี้ ขอบคุณทุกพรรคที่ยืนยันสนับสนุนนายกฯในการทำงานทั้งวันนี้และอนาคต ส่วนการเมืองและการเลือกตั้งเป็นเรื่องของอนาคต ทุกพรรคทั้งเก่าใหม่ต้องแก้ปัญหาการเมืองภายในพรรคตัวเอง การเลือกตั้งเมื่อมาถึงเป็นเรื่องของประชาชนและเป็นเรื่องที่นายกฯต้องพิจารณาต่อไป

“เฮ้ง” ให้เชื่อมั่นดัน “ประยุทธ์” ไปต่อ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรไว้วางใจให้มาดูแลเป็น ผอ.พรรคถือว่าสำคัญอย่างยิ่งและจำเป็นมากช่วงเตรียมการเลือกตั้ง ที่แบ่งเขตใหม่ 400 เขตมีการตั้งเป้าที่ 140-150 เขต ตามที่หัวหน้าพรรคดำริไว้ กรณีสมาชิกพรรค พปชร.ลาออกแค่ส่วนเดียวนิดหน่อย เพิ่มเติมคนใหม่เข้ามาไม่ใช่เรื่องยาก ถามว่าพรรค พปชร.ยังชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯอยู่หรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า ตนมาพรรค พปชร.เพราะประเด็นนี้ เชื่อทุกคนในพรรค รวมถึงหัวหน้าพรรคมีเจตจำนงและมีความต้องการเรื่องนี้อยู่แล้ว ขอให้ทุกคนเชื่อมั่น

“จิรายุ” เชิญลุงตู่–ครม.ถ่ายรูปที่ระลึก

ที่รัฐสภา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวถึงการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 วันที่ 17-18 ก.พ.ว่าขอเชิญนายกฯ และ ครม.ทั้งคณะ มารับฟังและชี้แจงการอภิปรายให้ครบทุกคน เพื่อให้เกียรติสภาฯ หลายคนยังไม่รู้ว่าบางคนเป็นรัฐมนตรีเรียกว่าโลกลืมก็ได้ อย่างน้อย ขึ้นมาร่วมถ่ายรูปบนบัลลังก์สภาฯให้ครบ 35 คนเป็นวาระสุดท้าย ช่วยฟังปัญหากลโกง ทุจริต เอื้อพวกพ้องชี้แจงถึงประเด็นต่างๆด้วย ก่อนหน้านี้เคยด่ามาตลอดตั้งแต่รัฐประหาร พอเข้ามากลับทำเสียเอง ฝ่ายค้านจะทำหน้าที่อย่างเข้มข้น กรณีหลายฝ่ายโจมตีพรรคฝ่ายค้านเล่นเกมไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุมจนสภาฯล่ม เพิ่งเคยเห็นพอสภาฯล่มมายืนเรียงชี้หน้าด่าฝ่ายค้าน ต้องนึกตอนตัวเองเป็นฝ่ายค้าน ไม่ได้ดั่งใจตีโพยตีพายร้องแรกแหกกระเชอ ไม่มีสปิริต เป็นปกติต้องถ่วงดุล เช่น การเช็กองค์ประชุม แต่ไม่เคยยื้อเก้าอี้ประธานสภาฯ ไม่เคยขว้างปาแฟ้มเอกสาร แกนนำรัฐบาลจะพูดอะไรช่วยส่องกระจกดูตัวเองด้วย อย่าให้เด็กที่กำลังเรียนรัฐศาสตร์สับสนกระบวนการถ่วงดุลในสภาฯ

ส.ส.–ส.ว.พรึบหลัง “พี่ป้อม” ไหว้ขอร้อง

วันเดียวกัน มีการประชุมร่วมรัฐสภา มีวาระสำคัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรมและร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัยกรรมที่ ครม.เสนอ มี ส.ส.และ ส.ว.เข้าร่วมพร้อมเพรียง โดยเฉพาะ ส.ส.เข้าร่วมถึง 436 คน ส.ว. 226 คน คาดว่าน่าจะเป็นผลจากที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.ยกมือไหว้ขอร้องขอให้ ส.ส.พรรคเข้าร่วมประชุมไม่ให้สภาฯล่ม ขณะที่สำนักงานเลขาธิการสภาฯได้ติดป้ายและจัดที่นั่งให้ 18 ส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทยอยู่ด้านหลังพรรค พปชร.ที่ยังพูดคุยกันอยู่เช่นเดิม

“ถวิล” พลิกขั้วเป็นสมาชิก กก.ตลอดชีพ

ที่สำนักงานใหญ่พรรคก้าวไกล อาคารอนาคตใหม่ เขตบางกระปิ กทม. นายถวิล ไพรสณฑ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรค ปชป. เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลตลอดชีพ โดยมีนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมนายณัฐชา บุญไชย อินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคก้าวไกลต้อนรับ นายถวิลกล่าวว่า มาเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลต้องการสนับสนุนให้พรรคสานต่อเจตนารมณ์และนโยบายการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แทนพรรคก้าวไกล ยึดมั่นและหนักแน่นในอุดมการณ์และเจตนารมณ์ทำงานเพื่อประเทศประชาชนต่อไป ยืนยันไม่มีความประสงค์จะลงสมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป เพียงต้องการเห็นอนาคตประเทศไทยมีการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริงที่ต่อสู้ขับเคลื่อนมายาวนาน จะช่วยงานพรรคในทุกส่วนให้เกิดประโยชน์สูงสุด