ครึกครื้นชื่นมื่น แห่ต้อนรับกลับบ้าน ค่ายใหญ่ฝ่ายค้านพรรคเพื่อไทย จัดงานคืนสู้เหย้าต้อนรับ “เดอะอ๋อย” จาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกฯ ที่นำทีมตระกูลฉายแสงกลับรัง พร้อมด้วยพลพรรคทีมงานอดีต ส.ส.อีกหลายชีวิต

รียูเนียนพรรคไทยรักไทย สู่เป้าหมายเพื่อไทย “แลนด์สไลด์” กวาด ส.ส. อย่างน้อย 253 คน

ล่าฝันการกลับมาเป็นรัฐบาล ตามกติกาใหม่บัตร 2 ใบ

เฮฮายินดี แต่ก็มีไม่น้อยที่ไม่สบอารมณ์ เพราะพวกรุ่นเก๋า รุ่นเก่าเหล่านี้กลับมา หนีไม่พ้นเกมยื้อแย่งตำแหน่งแข่งกันใหญ่ พวกที่เคยใหญ่ก็ต้องเล็กลง พวกที่กำลังจะรุ่งก็ต้องรอเวลาให้ขาใหญ่ก่อน

“หนุ่มฝั่งธนฯ” วัน อยู่บำรุง ส.ส.กทม. แห่งบ้านริมคลอง ออกมาระบายความ
คับข้องใจ “ไอ้พวกที่เหิมเกริมออกจากบ้านแต่ไปไม่รอดจนต้องซมซานกลับมา ควรไปต่อท้ายแถว” ยังมีอีกหลายคนที่คิดแบบนี้

ยิ่งใหญ่ก็ยิ่งยุ่ง ทะเลาะแก่งแย่ง บริหารจัดการไม่ดีอาจมีรายการพรรคแตกอีกรอบ
และยิ่งแต่งตัวสวยหล่อ ดูดแต้มได้มากขึ้นเท่าไหร่ อาการหมั่นไส้ก็จะมากขึ้นเท่านั้น เกมโหดๆอาจถูกประเคนใส่จากฝ่ายผู้ถืออำนาจ ข่าวลือยุบพรรคหวนกลับมาหลอกหลอน

...

แต่พอถามไถ่ความคืบหน้าส่งผู้สมัครชิงผู้ว่าฯ กทม. พรรคเพื่อไทยยังเขินๆ ยอมรับชั่วโมงนี้มีมติไม่ส่งผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. แต่จะส่งผู้สมัคร ส.ก.ครบทั้ง 50 เขต

รู้กันหมดแล้วจะไปหนุน “เดอะทริป” ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม แต่มันเสียฟอร์มพรรคใหญ่ ต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจ

ส่วน “เดอะทริป” ก็คอยปัดป้องไม่ให้ใครมาเกาะแกะ กลัวเสียคะแนน รักษาทรง รักษาภาพสุดๆ ทั้งๆที่ฐานจัดตั้งก็ไม่ค่อยมี สรุปคือน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า แต่ยังหน้าบางกันอยู่

แต่ที่หน้าแตกเลยคือค่ายใหญ่รัฐบาล พลังประชารัฐ

“ผู้ว่าฯหมูป่า” ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าฯปทุมธานี บอกปัดลงสมัครชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. ในนามพลังประชารัฐ ด้วยอาการกระอักกระอ่วนเหมือนโดนบีบคอมา
อ้างสาเหตุคุณสมบัติไม่ครบ แต่ลึกๆไม่อยากเอาชื่อมาทิ้งมากกว่า

รู้ดีเป็นแค่หุ่นเชิด หมาก เบี้ยตัวหนึ่งท่ามกลางเขาควายความขัดแย้งในพรรคพลัง
ประชารัฐ แถมยังเคยปีนเกลียวกับ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค สมัยเป็นผู้ว่าฯพะเยา อยู่แป๊บเดียวเด้งไปลำปาง

กระแสพลังประชารัฐ กระแส “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ชั่วโมงนี้ก็ต่ำเตี้ยเรี่ยราด ลงไปก็ไม่ชนะ ดังนั้นขอบายไม่ต้องคิดมาก

งานลำบากเข้าหาฝ่ายถืออำนาจจะหาใครมายังไม่รู้ ลากเกมยาวไปกลางปีก็แค่ประวิงเวลาพ่ายแพ้ ดีไม่ดีอาจลากยาวสุดซอย ปล่อยให้ “บิ๊กวิน” พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.คนปัจจุบัน เป็นยาวๆไป

เลือกตั้งใหญ่อาจเกิดขึ้นก่อนผู้ว่าฯ กทม.แบบนั้นเลยก็ได้

รู้ผลอยู่แล้วว่าแพ้ตั้งแต่ในมุ้ง จะแข่งไปทำไม

สาเหตุหลักปัจจัยสำคัญนอกจากกระแสตกต่ำแล้วยังเป็นเพราะความขัดแย้งเรื้อรัง
ทีม “บิ๊กตู่” กับทีม “ผู้กองนัส” ที่มี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นแบ็กอัป ยังเคลียร์กันไม่ลง แก้วที่มันร้าวคงยากจะผสาน

อำนาจหักกลางเป็นสองขั้ว เดินกันเป็นเส้นขนาน

“บิ๊กตู่” ส่งสัญญาณไฟเขียว สนับสนุน “บิ๊กวิน” ที่ประกาศลงท้าชิงผู้ว่าฯ กทม.อีกสมัย

แม้ภาพลักษณ์ยังเป็นรอง แต่เรื่องจัดตั้งไม่ขี้เหร่ โดยเฉพาะฐานราชการที่ทำมา 6-7 ปี ทีมงาน “รักษ์กรุงเทพฯ” ที่มี “ต่ายคลองเตย” สุชัย พงษ์เพียรชอบ เป็นหัวหอก มาแรงจนน่ากลัว

ผู้สมัคร ส.ก.มีแล้วทุกเขต แม้แต่ “ทีมผู้กอง” ยังต้องเอามาฝากไว้ แต่หัวเด็ดตีนขาด

ยังไงก็ไม่เอา “บิ๊กวิน” คนที่ “บิ๊กตู่” สนับสนุน

เพราะเป็นคนละขั้วอำนาจคอนโทรลไม่ได้ ต้องหาคนลงสมัครเองเท่านั้น

มันเลยเป็นอย่างที่เห็น ไปบีบคอ “ผู้ว่าฯหมูป่า” มาเล่นเกมเพาเวอร์เพลย์ แล้วก็จั่วลมหน้าแหก

หนีไม่พ้นต้องหาคนใหม่มาเชิด เซ่นสังเวยบูชายัญ ไม่เน้นประสานงาน แต่เน้น “ประสานงา”

เกมขัดแข้งขัดขา ทำสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เป็นสนามเด็กเล่น

คนอื่นพร้อมแต่ตัวเองไม่พร้อม ปัญหาส่วนตัวแต่ซวยสาธารณะ.

ทีมข่าวการเมือง