“นิพิฏฐ์” ขู่ระวังพังทั้งพรรค โวยอย่าผูกขาดไม่สิ้นสุด “กนก” จี้ผู้บริหารเปิดใจรับฟังก่อนสาย หวดความยุติธรรมคือรากฐานการอยู่ร่วมกัน “พนิต” สะท้อนคนรุ่นใหม่เมิน ปชป.เหตุจุดยืนไม่ชัด “นิพนธ์” อ้อมแอ้มรอคุย “เสี่ยต่อ” คนทาบลูกนายก อบจ.พัทลุงก่อนเคลียร์ “ชวน” ส่งไลน์กลุ่ม ส.ส.ไว้ให้คิด “ธรรมนัส” เขียนไลน์เตือน ส.ส.อย่าเป็นเหยื่อโซเชียล การันตีไม่มีการกลั่นแกล้งใคร “ไผ่” ปัดงัดโพลบีบ ส.ส. ซูฮกขาใหญ่ “วิรัช” ยัน กก.สรรหาฯ มีจรรยาบรรณพอ บอกทองแท้ไม่ต้องกลัวไฟลน “รงค์” รับ ส.ส.ใต้เสียขวัญอวยชื่อ “ประยุทธ์” ยังขายได้ พท.ซัด “ไพบูลย์โมเดล” ยึดอำนาจคะแนนเสียง ปชช. ดูถูกชาวบ้าน “ชลน่าน” จวก “บิ๊กตู่” งุบงิบ เจรจาคิงส์เกต ยกสมบัติชาติชดใช้ความผิดพลาดตัวเอง
แค่เริ่มต้นเตรียมความพร้อมก่อนมีการเลือกตั้ง ปรากฏว่าในพรรคการเมืองใหญ่ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ต่างเกิด ปัญหาความขัดแย้งในการจัดวางตัวผู้สมัคร ส.ส.จนแกนนำพรรคของแต่ละพรรคต้องรีบลงมาดับชนวนก่อนจะบานปลาย

...
“นิพิฏฐ์” ฮึ่มผูกขาดพังทั้งพรรค
เมื่อวันที่ 22 ต.ค. นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต ส.ส.พัทลุง 8 สมัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “อย่าเอาหมด อย่าสืบทอดทายาทอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เปิดทางให้ลูกชาวบ้านคนอื่นเป็น ส.ส.บ้าง ไม่งั้นจะพังกันทั้งพรรค”โดยนายนิพิฏฐ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ออกมาทักท้วงการผูกขาด หรือสืบทอดทายาททางการเมือง ไว้ที่ตระกูลเดียวนั้น บริบทในแต่ละจังหวัด แต่ละพื้นที่ เพราะเห็นว่า ถ้ามีการผูกขาดในตระกูลเดียวกันในพัทลุงมากขึ้น เกรงว่าที่สุดประชาชนจะปฏิเสธ จึงควรมีทางเลือกให้ประชาชน และเปิดทางให้คนอื่นๆได้มีโอกาสบ้าง และที่ผ่านมาตนก็บอกกับนายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง และ น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร อดีต ส.ส.พัทลุงไปแล้วถึง 2 ครั้งว่าตนก็มีคนที่จะให้มาสมัครแทนในเขต 2 หากตนวางมือไม่ลงสมัคร ฉะนั้นเมื่อเขาทราบว่าถ้าทางพรรคจะส่งคนลง เขาก็ควรต้องบอกผู้บริหารพรรคหรือไม่ว่าเจ้าของพื้นที่เดิมมีคนอยู่แล้ว
“กนก” จี้ผู้บริหารเปิดใจฟังก่อนสาย
ขณะที่นายกนก วงษ์ตระหง่าน รองหัวหน้าพรรคด้านภารกิจและ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชา ธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า นายนิพิฏฐ์คือนักการเมืองคุณภาพสูงและอาวุโสสูงที่มีมารยาท เคารพกฎกติกาและวัฒนธรรมทางการเมืองที่เป็นแบบอย่างของนักการเมืองและประชาชนจำนวนมาก รวมทั้งตนด้วย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของ ส.ส.และอดีต ส.ส.กับผู้บริหารพรรคจำนวนหนึ่งที่ จ.พัทลุงจนทำให้นายนิพิฏฐ์ต้องออกมาแสดงความเห็นตรงไปตรงมาของคนจำนวนหนึ่งในพรรค สะท้อนความเป็นจริงในพรรคประชาธิปัตย์ชุดปัจจุบันที่ผู้บริหารและสมาชิกพรรคต้องเปิดใจรับฟัง คิดทบทวน ไตร่ตรองอย่างจริงใจ ก่อนสายเกินไป
ยุติธรรมคือรากฐานการอยู่ร่วมกัน
“นายนิพิฏฐ์คือคนที่รักพรรคประชาธิปัตย์มากไม่แพ้ใคร มุ่งมั่นที่จะพลิกฟื้นพรรคด้วยแนวคิดใหม่และวิธีการใหม่ นำเสนอประเด็นทางการเมืองสะท้อนจุดยืนทางการเมืองชัดเจน นั่นคือประชา ธิปไตยเสรีนิยม สถาบันพระมหากษัตริย์ ความเหลื่อมล้ำ ความยุติธรรมและวัฒนธรรมไทย นำเสนอประเด็นนี้อย่างแหลมคม เชื่อว่าการเมืองต้องยึดหลักความยุติธรรมเป็นสำคัญ เพราะความยุติธรรมคือรากฐานของการอยู่ร่วมกันของคนในสังคม ความยุติ ธรรมคือศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ที่ทุกคนมีเท่ากัน ความยุติธรรมจึงเป็นรากฐานของประชาธิปไตย ด้วยเกียรติประวัติ และการปฏิบัติตัวทางการเมืองของนิพิฏฐ์มายาวนาน กล้ากล่าวว่า นายนิพิฏฐ์คือบุคคลทางการเมืองที่มีคุณค่ายิ่งที่ทุกพรรคต้องการและแสวงหา เชื่อว่าตั้งแต่คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ไปจนถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พร้อมเปิดประตูต้อนรับนักการเมืองคุณภาพสูงอย่างนิพิฏฐ์ตลอดเวลา” นายกนกระบุ
“พนิต” ชี้คนรุ่นใหม่เมินจุดยืนไม่ชัด
เมื่อเวลา 13.30 น. นายพนิต วิกิจเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ประชาธิปัตย์เคยใหม่ เคยเป็นความหวัง กับวันนี้ ที่คนย้ายออกจากพรรค” ในอดีตพรรคประชาธิปัตย์เคยเป็นความหวังของคนรุ่นใหม่ในยุคนั้น แต่สถาน การณ์การเมืองเปลี่ยนไป อาจด้วยเพราะการเปลี่ยน แปลงหลายด้านที่เราควบคุมไม่ได้ ทำให้หลายคนที่เคยอยู่ เคยร่วมยึดในอุดมการณ์ และประชาชนหลายคนที่เคยคาดหวัง อาจจะไม่ได้รู้สึกแบบนั้นแล้ว นายพนิตให้สัมภาษณ์ว่า ต้องการสะท้อนภาพว่าคนรุ่นตนเคยเป็นคนรุ่นใหม่เมื่อกว่า 20 ปีก่อนมองว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันการเมือง ยืนหยัดต่อสู้มากับธุรกิจการเมือง ทุนสามานย์ เราตรวจสอบเข้มแข็ง เช่นเดียวกับเด็กวัยรุ่น หรือคนรุ่นใหม่ยุคนี้ถ้าจะต่อสู้เรียกร้องเรื่องประชาธิปไตย การสืบทอดผูกขาดอำนาจ เขาเลือกพรรคเกิดใหม่บางพรรคเพราะภาพลักษณ์และเป็นทางเลือกที่ชัดเจนกว่า ขณะที่ภาพลักษณ์ประชาธิปัตย์อยู่กลางๆไม่มีการสะท้อนภาพจุดยืนฉายภาพที่ชัดเจนนัก
“นิพนธ์” รอถก “เสี่ยต่อ” ก่อนเคลียร์
นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ดูแลภาคใต้ กล่าวถึงกรณีนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคภาคใต้และอดีต ส.ส.พัทลุง เขต 2 โพสต์ค้านการส่งนายนิติศักดิ์ ธรรมเพชร ลูกชายนายก อบจ. พัทลุงลงสมัคร ส.ส.พัทลุง เขต 2 ว่ายังไม่ได้พูดคุยกับนายนิพิฏฐ์ เพราะต้องคุยกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคก่อน เนื่องจากเป็นคนไปประสานงานเรื่องนายนิติศักดิ์ ธรรมเพชร ลูกชายนายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายก อบจ.พัทลุง ผ่านนายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง และ น.ส.สุพัชรี ธรรมเพชร ต้องคุยกับคนทาบทามก่อน นายนิพิฏฐ์เราเป็นเพื่อน ส.ส.ด้วยกัน เหมือนคนในครอบครัว คงจะได้คุยกันพรรคยังไม่เคาะชื่อว่าจะส่งใครลง ต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครในนามพรรคที่มีนายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ เป็นประธาน กับผ่านคณะกรรมการบริหารพรรคอยู่ดี พรรคเราเคยมีบทเรียนมาหลายครั้งแล้ว เมื่อมีปัญหาภายในแล้ว เป็นเรื่องภายในพรรค เหมือนเรื่องในครอบครัวที่เราพูดคุยกันได้

“ชวน” ส่งไลน์ทิ้งข้อความไว้ให้คิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันที่ 22 ต.ค.นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ อดีตประธานที่ปรึกษาพรรคและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ส่งข้อความในไลน์กลุ่ม “ประชาธิปัตย์เดินหน้า” ที่มีทั้ง ส.ส.และอดีต ส.ส.ของพรรคอยู่ในกลุ่มกว่า 160 คน ว่า “ผมเป็นหนี้บุญคุณประชาชนและพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้ผมชนะการเลือกตั้งทุกสมัยอย่างมีเกียรติ” โดยที่ไม่มีสมาชิกในกลุ่มไลน์ดังกล่าวคนใด แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม
“ชินวรณ์” เพ้อ 5 ปัจจัย ปชป.ขาขึ้น
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าววิเคราะห์สถานการณ์การเมืองในการประชุม ส.ส.ภาคใต้ ที่ จ.พัทลุงเมื่อวันที่ 20 ต.ค.ว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ชนะ ต้องชนะในภาคใต้ก่อน เชื่อมั่นว่าพรรคมีกระแสดีขึ้นตามลำดับ หัวหน้าพรรค จะเป็นหนึ่งในแคนดิเดตว่าที่นายกฯคนต่อไปแน่ มี 5 เหตุผลรองรับคือ 1.การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมามีกระแสความสงบจบที่ลุงตู่ วันนี้ชัดเจนความสงบที่ยั่งยืนต้องเกิดจากบ้านเมืองที่เป็นระบอบประชาธิปไตยฯเท่านั้น 2.ระบบเลือกตั้งบัตรเบอร์เดียวแบบสัดส่วนผสม มีพรรคการเมืองส่งคนมาสมัคร 30-40 คนต่างรุมด่าพรรคเราเพื่อหวังส่วนแบ่งคะแนน หลังวันเลือกตั้งต่างสาบสูญไปแล้ว ต่อไปหากใช้บัตร 2 ใบพรรคเฉพาะกิจจะหายไปมาก อิทธิพลการซื้อเสียงจะลดลง 3.การร่วมรัฐบาลยืนยันหลักการยึดมั่นประโยชน์ประเทศมากกว่าผลประโยชน์พรรคหรือตนเอง พรรคต้องประคับประคองให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้ 4.โพลหลายสำนักสนับสนุนให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้เหมาะสมเป็นนายกฯ เป็นกระแสสนับสนุนชัดเจน 5.พรรคอยู่ในช่วงปรับพัฒนาทุกด้าน ตามยุทธศาสตร์ 3 ขาคือรัฐมนตรี พรรค และ ส.ส.ชูบทบาทชัดเจนกว่าทุกพรรค
“ไผ่” ปัดใช้โพลบีบ ส.ส.ซูฮกขาใหญ่
นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร ในฐานะรองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสข่าว ส.ส.บางคนหวั่นผลโพลประเมินไม่ผ่านจะไม่ได้ลงสมัคร และไม่มั่นใจว่าได้มาตรฐานว่า การทำโพลยังไม่เสร็จ ยังไม่มีว่าใครผ่านหรือไม่ผ่าน และไม่ใช่นำมาตัดสินว่าจะส่งหรือไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งหน้า แต่เพื่อนำเป็นแนวทางปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น เพื่อให้แอ็กทีฟมากขึ้น เพื่อให้ตื่นตัวทำงานตรงความต้องการของประชาชน เชื่อทุกพรรคก็ทำโพลเหมือนกันและทำมานานแล้ว ไม่มีแน่นอนว่าจะนำไปเป็นข้ออ้างเพื่อกันใคร หรือไม่ส่งใครลง เพื่อกดดันให้มาขึ้นตรงกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เพื่อจะให้ได้ลงสมัคร ส.ส. อย่างที่เป็นข่าว ยืนยันว่าทำโพลได้มาตรฐาน ทำทุกเขต เรื่องโพลได้พูดกันในพรรคมานานแล้ว
ลั่น กก.สรรหามีจรรยาบรรณพอ
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค พปชร.ให้สัมภาษณ์ว่ามีการทำโพลจริงทำทุกภาค แต่ผลยังไม่ออกมา ไม่ทราบว่าจะออกเมื่อไหร่ ถึงผลออกมาก็ไม่มีการเผยแพร่สู่สาธารณะ เป็นความลับภายในพรรค จะรู้ได้อย่างไรว่าใครผ่านเกณฑ์หรือไม่ผ่านเกณฑ์ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรค ยังไม่ได้รายงานผล หลังเสร็จสิ้นจะเสนอให้แก่หัวหน้าพรรค จากนั้นเป็นอำนาจของหัวหน้าพรรคพิจารณา ยืนยันว่าคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคมีจรรยาบรรณเพียงพอในการพิจารณาบุคคลที่มีความเหมาะสม ไม่มีการกลั่นแกล้งใคร ไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง คนเป็นทองแท้ไม่ต้องกลัวไฟลน พรรคอยากได้คนที่สมัครแล้วมีโอกาสได้เป็น ส.ส.เลย ไม่อยากได้คนที่ต้องลุ้น แต่ถึงอย่างไรไม่ว่าใครลงสมัครในนามพรรคถือว่าดีทั้งหมด ในส่วนของผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ครั้งนี้ยังมีโอกาสแก้ตัว หลังจากนี้อาจต้องทำโพลนี้อีกหลายรอบ ไม่ได้วัดความนิยมเฉพาะ ส.ส.แต่สำรวจความนิยมอดีตผู้สมัครของพรรคที่ได้อันดับที่ 2 และ 3 จากครั้งที่แล้วด้วย มีผู้แพ้หลักร้อยจำนวนมาก
โต้ไม่จริงตัดเกรด ส.ส.ใต้ตกอื้อ
ด้าน น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ปฏิเสธกระแสข่าวการจัดทำโพลวัดความนิยม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในพื้นที่ภาคใต้และจำนวนมากไม่ได้รับความนิยมว่า ไม่มีมูลความจริง เป็นเพียงกระแสข่าวที่หวังผลทางการเมือง ขณะนี้ ส.ส.ภาคใต้ของพรรคทั้ง 14 คน ทำงานเพื่อประชาชนกันอย่างต่อเนื่อง เวลานี้ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ประเทศต้องเผชิญกับหลากหลายปัญหา การทำหน้าที่ของ ส.ส.ช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาให้พี่ประชาชน จะเป็นตัวชี้วัดความเหมาะสมของ ส.ส.ที่สำคัญมากกว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังเน้นย้ำ ส.ส.ทุกคนให้ตั้งใจทำหน้าที่เป็นผู้แทนประชาชนให้เต็มที่เต็มกำลัง ส่วนกระแสข่าวที่ระบุพรรคพลังประชารัฐมอบหมายให้หน่วยงานของรัฐแต่ละพื้นที่จัดทำโพล ทั้งหน่วยงานด้านการศึกษา และหน่วยงานด้านความมั่นคง เป็นการกล่าวหาพรรค ยืนยันพรรคไม่มีนโยบายใช้หน่วยงานของรัฐจัดทำโพล ทดสอบความนิยม ส.ส. การจัดทำโพลเป็นกลไกการเมืองไม่ใช่กลไกราชการ การดำเนินการเป็นเรื่องภายในพรรค ต้องใช้สำนักโพลที่มีมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับของสังคมทำ ไม่มีการกลั่นแกล้ง ส.ส.คนใดตามกระแสข่าวที่ออกมา
“ธรรมนัส” แจงไม่มีกลั่นแกล้งใคร
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐว่า เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค พปชร.ได้ส่งข้อความในกลุ่มไลน์ ส.ส.พรรค ชี้แจงข่าวทำโพล ส.ส.ประเมินผลงานว่า “เรียน ท่าน ส.ส.พปชร.ทุกท่าน ท่านหัวหน้า ฝากแจ้งท่าน ส.ส.ทุกๆท่านว่า อย่าตกเป็นเหยื่อของโลกโซเชียลนะครับ ตั้งใจทำหน้าที่ผู้แทนของพี่น้องประชาชนให้เต็มที่ ส่วนเรื่องการทำโพลเพื่อประเมินการทำหน้าที่ของส.ส.แต่ละเขตเป็นเรื่องที่ท่านหัวหน้ามีดำริให้ทำ แต่เป็นเรื่องภายในพรรค พปชร. ซึ่งจะต้องใช้สำนักโพลที่มีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับของสังคมเป็นผู้ทำโดยไม่มีการกลั่นแกล้งท่าน ส.ส.ผู้ใดทั้งนั้นจึงฝากเรียนท่าน ส.ส.ทุกท่านด้วยความเคารพ และความห่วงใยครับ”

“รงค์” รับ ส.ส.เสียขวัญไม่ผ่านเกณฑ์
นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงการทำโพลประเมินความนิยม ส.ส.ของพรรค โดยภาคใต้มี ส.ส.เพียง 4 คนที่ผ่านเกณฑ์จาก ส.ส. 14 คน ว่าไม่ทราบผลโพลที่พรรคทำประเมินกันอย่างไร วันที่ 26 ต.ค. จะประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.คงได้พูดคุยกันเรื่องนี้ด้วย ยังถือว่าเป็นข้อมูลดิบ เป็นเครื่องมือการบริหารที่จะได้นำมาพิจารณาแก้ไข เปรียบเหมือนพรรคเป็นหมอที่มีคนไข้ต้องพิจารณาว่าจะให้ยาชนิดใดรักษาอาการ เชื่อว่าฝ่ายผู้ทำโพลคงจะมีคำอธิบายได้ หากจะถามว่าโพลเชื่อได้หรือไม่ควรจะเชื่อไว้ แต่คงไม่ถึงขนาดต้องจริงจังอะไร เมื่อถามว่าจะทำให้คนที่ไม่ผ่านเกณฑ์เสียกำลังใจหรือไม่ นายรงค์ตอบว่าแน่นอน แต่คงไม่ถึงขั้นท้อใจจนคิดตีจากพรรค แต่ถ้าคิดจะปรับปรุงตัวเองก็อยากให้ปรับปรุง การทำโพลทุกครั้งต้องมีวัตถุประสงค์ แต่ไม่รู้ว่าผู้บริหารพรรคจะใช้กรณีนี้พิจารณาว่าจะส่งหรือไม่ส่งลงสมัครหรือไม่ และไม่เชื่อว่ากรรมการบริหารพรรคจะใช้การทำโพลครั้งเดียวมาตัดสินใจว่าจะส่งหรือไม่ส่ง
อวยชื่อ “ประยุทธ์” ยังขายได้
นายรงค์กล่าวอีกว่า กรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ รายงาน ครม. เมื่อกฎหมายลูก 2 ฉบับเสร็จสิ้นในเดือน ก.ค.อาจมีแรงกดดันให้นายกฯยุบสภาได้ว่า นายกฯบอกเองว่ายังไม่ยุบสภา เราก็ต้องเชื่ออำนาจอยู่ที่นายกฯ แต่การเมืองเป็นเรื่องไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขอาจเปลี่ยนแปลงได้หลายปัจจัย หรือช่วงกลางปีหน้าเปิดประชุมสภาสมัยสามัญ มีสิทธิยุบสภาได้เพราะมีเปิดให้ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติคงดุเด็ดพอสมควร และยังมีการเมืองบนท้องถนนต้องดูจุดติดหรือไม่ ไทม์ไลน์เป็นสถานการณ์ปกติที่วางแผนได้ แต่การตัดสินใจทางการเมืองไม่อาจวางแผนได้ในบางสถานการณ์ ดังนั้นคนที่ทำงานการเมืองต้องตื่นตัว แม้จะมีไทม์ไลน์ออกมาอย่างไรเราก็ฟังหูไว้หู เมื่อถามว่าหากมีการเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯยังเป็นจุดขายในภาคใต้ได้หรือไม่ นายรงค์กล่าวว่า เชื่อว่าชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ยังขายได้ในภาคใต้ และ พล.อ.ประยุทธ์ให้ความสำคัญดูแลประชาชนทุกภาคอยู่แล้ว
โซเชียลแชร์ภาพ “บิ๊กตู่” สวัสดี 7 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โซเชียลมีเดียได้เผยแพร่ภาพชุดคอลเลกชัน 7 วัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมในอิริยาบถต่างๆ ทั้งสวมลำลอง ชุดกีฬา ชุดทำงาน พร้อมข้อความต่างๆที่นายกฯพูดในช่วงที่ผ่านมาเป็นวลีที่คุ้นหู อาทิ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ร่วมกันพลิกโฉมประเทศไทย รวมถึงนโยบายและโครงการต่างๆของรัฐบาล อย่าง 1 พ.ย.เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว มีการเผยแพร่จากเพจเฟซบุ๊กแฟนคลับ พล.อ.ประยุทธ์ คาดทำขึ้นส่งทักทายกันแต่ละวันผ่านแอปพลิเคชันไลน์ เมื่อปี 62 เคยทำมาครั้งหนึ่งเป็น 7 ภาพ 7 วัน พล.อ.ประยุทธ์และข้อความสวัสดีแต่ละวัน ที่ปล่อยออกมาโค้งสุดท้ายการหาเสียงเลือกตั้งปี 62 คาดเป็นกลยุทธ์หาเสียงของพรรค พปชร.
พท.ซัดยุบรวมยึดอำนาจเสียง ปชช.
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคเล็กหลายพรรคยุบรวมกับพรรคใหญ่ว่า รูปแบบการเมืองหลังจากนี้ถ้ามองมุมลบบิดเบือนเจตนารมณ์ ยึดอำนาจคะแนนเสียงประชาชนเพื่อประโยชน์ของพรรคตัวเอง ไม่ให้เกียรติประชาชนที่เลือกตั้งมา ทำให้กลไกการทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติบิดเบี้ยว ใช้ความเป็นพรรคใหญ่ให้สิ่งแลกเปลี่ยนแรงจูงใจต่อพรรคเล็กให้มารวมได้ ขัดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ แม้รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีเจตจำนงไม่ให้ยุบรวมหรือควบรวมในระหว่างอายุสภาฯ แต่ในกฎหมายพรรคการเมือง มีบทบัญญัติย้อนแย้งกันเองระหว่างประเด็นการสิ้นสภาพของพรรคการเมือง ให้สิ้นสภาพตามข้อบังคับของพรรค ให้มีลักษณะเหมือนการยุบพรรคเพื่อคุ้มครอง ส.ส.พรรคนั้นๆหาพรรคสังกัดใหม่ได้ใน 60 วัน กับการห้ามควบรวมพรรคระหว่างอายุสภาฯ ที่ห้ามพรรคหนึ่งไปควบรวมกับอีกพรรคหนึ่ง หากจะควบรวมต้องรวมกันเป็นพรรคใหม่เท่านั้น ไม่ใช่การยุบรวมตามที่เกิดขึ้น ไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เนื่องจากย้อนแย้งกันเองในกฎหมายเดียวกัน เป็นหน้าที่รัฐสภาต้องแก้ไขกฎหมายที่ย้อนแย้งกัน รักษาเจตจำนงของประชาชนไว้ให้ได้
ซัด “บิ๊กตู่” งุบงิบเจรจาคิงส์เกต
นพ.ชลน่านกล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ใช้อำนาจมาตรา 44 สมัย คสช. ระงับการทำเหมืองแร่ทองคำวันที่ 1 ม.ค.60 ส่งผลให้บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด ลิมิเต็ด เจ้าของเหมืองอัคราเสียหายนำคดีพิพาทเข้าสู่อนุญาโตตุลาการว่า ล่าสุดถ้อยแถลงของบริษัทคิงส์เกตระบุว่ารัฐบาลไทยขอให้บริษัทปกปิดข้อมูลเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยกับผู้แทนบริษัทเป็นความลับ จนกว่าจะถึงวันที่ 31 ต.ค.64 เหตุใดรัฐบาลจึงแอบเจรจากับบริษัทคิงส์เกตโดยไม่เปิดเผยข้อมูลกับประชาชน หากไทยแพ้จะไม่ต่างจากการสูญเสียอำนาจอธิปไตยบนแผ่นดิน รัฐบาลต้องยกที่ดินให้บริษัท คิงส์เกตเข้ามาหาประโยชน์ โดยไม่เป็นไปตามกฎหมายเหมือนสภาพบังคับ ประเทศไทยจะเสียหายมูลค่ามหาศาล เท่ากับเอาสมบัติชาติไปชดใช้ความผิดพลาดของ พล.อ.ประยุทธ์ประชาชนต้องร่วมชดใช้ นายกฯเลี่ยงตอบคำถามนี้ คิดว่ามีรัฐธรรมนูญคุ้มครอง วิธีคิดเช่นนี้อันตรายต่อประเทศ ทำความเสียหายแล้วไม่รับผิดชอบ หากเปลี่ยนรัฐบาลเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย จะนำคดีเหมืองทองมาดำเนินการต่อแน่นอน พล.อ.ประยุทธ์จะลอยตัวเหนือความรับผิดชอบไม่ได้ ประชาชนทั้งประเทศไม่ยอมแน่
อัดโมเดล “ไพบูลย์” ดูถูกชาวบ้าน
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า โมเดลยุบพรรคเพื่อไปร่วมกับพรรคใหญ่ เมื่อทำได้แล้วจะมีการทำตาม พรรคเล็กควรดำรงอยู่จนกว่าจะจบสภานี้ ไม่ควรไปยุบรวม ถึงอย่างไรคนส่วนมากรู้อยู่แล้วว่าคุณยกมือให้พรรค พปชร. ไม่มีจำเป็นต้องไปควบรวมตอนนี้ ขอให้อดใจรอการเลือกตั้งในอนาคต อีกปีกว่าก็ได้เลือกแล้ว อย่ามาควบรวมกันตอนนี้ให้ประชาชนที่เลือกพรรคคุณมาเสียความรู้สึกจะดีกว่า ไม่ให้เกียรติและโกหกประชาชนที่เลือกตัวเองมาในนามพรรคนั้นๆ ไม่เห็นด้วย อย่าทำตามโมเดลนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พปชร. วิธีการนี้ดูถูกประชาชน ส่วนที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ลงพื้นที่ต่อเนื่องหาเสียงเป็นปกติ ไม่ได้ลงไปช่วยเหลือประชาชนแท้จริงตามที่อ้าง กะเกณฑ์ ส.ส.ไปโชว์พลังเสมอหรือว่าไม่เชื่อคำพูดนายกฯที่ย้ำหลายครั้งว่าไม่มีการยุบสภาช่วงนี้ แล้วจะให้พรรคอื่นเชื่อถือได้อย่างไร
ชทพ.อ้าซ่าพร้อมรับ ส.ส.พรรคเล็ก
ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า การที่ ส.ส.ลงพื้นที่ทำงานไม่ใช่เรื่องแปลก หลายจังหวัดกำลังประสบปัญหาอุทกภัย ส.ส.ทุกพรรคลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างขะมักเขม้นเป็นเรื่องที่ดี ส.ส.ทำการบ้านลงพื้นที่ สม่ำเสมอเป็นสิ่งพึงกระทำ นักการเมืองลงพื้นที่อยู่เรื่อยๆ จะยุบสภาจะเลือกตั้งเดือนหน้าหรือครบสมัยหมดวาระ วันที่ 23 มี.ค.66 ไม่ใช่ประเด็น ส่วนกรณีไพบูลย์โมเดลที่พรรคขนาดเล็กอาจเอาอย่างพรรค ชทพ.มีแต่มิตร ไม่สร้างศัตรู ไม่เน้นเล่นการเมือง หากมีแนวทางทำงานคล้ายกัน พรรค ชทพ.จะเป็นบ้านอีกหลังหนึ่งที่พร้อมต้อนรับคนที่ตั้งใจทำงาน
“ประภัตร” กวักมือยินดีต้อนรับ
ด้านนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชทพ. กล่าวว่า เห็นด้วยถ้าพรรคที่อยู่คนเดียวต้องการอยากจะไปอยู่กับพรรคอื่น หรือยุบพรรคเพื่อให้พรรคตัวเองใหญ่ขึ้น สามารถทำได้ ส่วนหนึ่งจะได้ไม่เป็นปัญหาการนับคะแนนในอนาคต จะได้คะแนนเป็นสัดเป็นส่วนไป แล้วแต่ว่าจะไปรวมกันอย่างไร จะได้ ไม่เป็นอย่างในอดีตที่มีเสียงวิจารณ์เรื่องปัดเศษ ชัดเจนขึ้นว่าการนับคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ต้องนับแบบไหนเมื่อใช้บัตร 2 ใบ หากมีเพื่อนพ้อง ส.ส.ต้องการย้ายเข้าพรรค ชทพ.ยินดีต้อนรับ จะได้ช่วยกันทำงานกันต่อไป เราเป็นพรรคเก่าแก่เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว
“วัชระ” สะใจสภาฯสอบ “สมศักดิ์”
นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ รองเลขาธิการสภาฯ ส่งหนังสือแจ้งให้ทราบว่า บัดนี้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯในฐานะประธานคณะกรรมการจริยธรรม สภาฯ ได้บรรจุเรื่องที่ตนยื่นให้พิจารณาดำเนินการทางจริยธรรมกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จัดงานเลี้ยงสังสรรค์รดน้ำดำหัวสงกรานต์ ที่ร้านคาเฟ่ เดอ ทรี อ.เมืองสุโขทัย เมื่อวันที่ 12 เม.ย.64 ก่อคลัสเตอร์โควิด-19 ดังนั้น สภาฯยังเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ นายสมศักดิ์ เป็น รมว.ยุติธรรม เป็นกรรมการ ศบค.ควรเป็นแบบอย่างที่ดีของประชาชน แต่บังอาจฝ่าฝืนคำสั่งนายกฯ และกฎหมาย เป็นความผิดอาญา และมาตรฐานทางจริยธรรม ทำให้ผู้ร่วมงานติดโควิด 21 คน แพร่ทั่ว จ.สุโขทัยรวม 55 คน มีผู้เสียชีวิตถึง 3 คน