แข่งกันออกอีเวนต์ลุยน้ำท่วมโชว์โลกโซเชียล ส.ส.ขมีขมันช่วยเหลือประชาชน อาศัยสถานการณ์อุทกภัย พลิกวิกฤติเป็นโอกาส ปั่นแต้มมันมือ

ล่าสุด “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ตรวจการบริหารจัดการน้ำ หาทางหนีทีไล่ วางแผนป้องกันมวลน้ำจมปักษ์ใต้ ซ้ำรอยภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง

“บิ๊กตู่” โชว์ลูกขยันต่อเนื่อง แหลงใต้โชว์ “รักจังฮู้ เพราะคิดถึงจึงมาหา” อ้อนคนเมืองคอน ฐานที่มั่นใหญ่ค่ายพลังประชารัฐในพื้นที่แดนด้ามขวาน

ได้ตีเนียนหาเสียงล่วงหน้าไปในตัว ตลาดการเมืองกลับมาคึกคัก กลิ่นอายเลือกตั้งโชยแตะจมูกนักการเมืองให้เร่งกันทำแต้มรัวๆ หลังเห็นสัญญาณนับถอยหลังสู่การยุบสภา

กลุ่มก๊วนต่างๆขยับตั้งพรรคการเมืองอย่างน้องใหม่ พรรครวมไทยยูไนเต็ดที่แกนนำพรรคลาออกจาก ส.ส.พรรคก้าวไกล แยกมาตั้งอีกค่าย เพราะอุดมการณ์เริ่มเห็นไม่ตรงกัน เช่นเดียวกับหลายพรรคถือโอกาสประกาศตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในนามพรรคกันครึกโครม

...

3 พรรคดังเชิดหัวหน้าพรรคส่งลงสนาม ประชาธิปัตย์ส่ง “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” พรรคภูมิใจไทยเสนอ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล พรรคก้าวไกล ชงชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

คนละบรรยากาศกับพรรคเพื่อไทยที่เงียบฉี่ ยึกยักส่งชื่อว่าที่นายกฯ ได้แต่ผัดวันประกันพรุ่ง ยังงมเข็มหาแม่ทัพใหญ่เลือกตั้งไม่เจอ

แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทยยังอยู่ในชั้นความลับ มีแต่ชื่อลอยลม ทั้งนักธุรกิจใหญ่อสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง หรือลูกเขยนายใหญ่ แม้กระทั่งหัวหน้าพรรคดัง อดีตบิ๊กสีกากีสไตล์โผงผาง ถูกโยนหินถามทาง ขว้างมาเต็มไปหมด

อุตส่าห์ได้เปรียบจากกติกาใหม่ บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ มีแนวโน้มสร้างแลนด์สไลด์ครองความยิ่งใหญ่ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ดันไม่มีชื่อว่าที่นายกฯโชว์เป็นจุดขาย

ต้องลุ้นถึงนาทีสุดท้ายนายใหญ่จะเขียนชื่อใครใส่โพย หากยังผูกขาดกับนอมินีตระกูลชินฯตามตำรับเดิมก็ไม่รู้จะเสียของหรือไม่

แต่พรรคที่พอจะมีความชัดเจนขึ้นเป็นลำดับคือ “พลังประชารัฐ” จ่อส่งคนหน้าเดิม “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชิงเก้าอี้นายกฯสมัย 3 ตามการคอนเฟิร์มของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

ตามรูปเกมการเมืองที่บีบให้ “พี่ใหญ่-น้องเล็ก” ลงเรือลำเดียวกันต่อไป เพราะหากต้องแยกทาง แตกไปคนละพรรค จะตัดแต้มกันเองบนสังเวียนเลือกตั้ง ในยามที่ต้องเจอคู่แข่งแข็งแกร่งอย่างพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ภายใต้กติกาใหม่บัตร 2 ใบ ที่อาจไม่เป็นใจให้พรรคพลังประชารัฐในเงื่อนไขเวลานี้

ขณะที่พรรคใหม่ของ “ปลัด ฉ. ฉิ่ง” ออกอาการแผ่วปลาย ไม่รู้จะแจ้งเกิดฟักเป็นตัวเป็นตนได้เมื่อใด สุดท้ายอาจต้องกอดคอกันสู้ในนาม พรรคเดิมต่อ

2 พี่น้องต้องทนกลืนเลือดเป็นหนทางปลอดภัยสุด หวานต้องอม ขมก็ต้องกลืน ให้คลื่นลมสงบ ประคองอำนาจร่วมกันต่อไปจนถึงเสียงลั่นระฆังเลือกตั้งรอบหน้า
เช่นเดียวกับเกมปรับ ครม. ก็ต้องชะลอ จูนคลื่นความคิดให้ตรงกันก่อน ป้องกันแรงกระเพื่อมในพรรคก่อตัวรุนแรงขึ้นมาอีกรอบ

ฉากรอมชอม “บิ๊กป้อม-บิ๊กตู่” ผุดต่อเนื่อง นอกจากการส่งพล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯ การชะลอปรับ ครม.แล้ว ล่าสุด พล.อ.ประวิตรยังเซ็นคำสั่งตั้ง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นั่งแท่นเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพิ่มอีกตำแหน่ง

ทีมงานใกล้ชิดน้องเล็กได้นั่งประกบเป็นกุนซือพี่ใหญ่ บ่งบอกการประนีประนอมศึกบาดหมางระหว่าง 2 บิ๊กเคลียร์ใจไปได้อีกระดับ

ตามฉากที่ 3 ป. ปิดห้องจับเข่าคุยสลายความบาดหมาง เคลียร์ความระหองระแหงในหมู่พี่น้อง และเคลียร์ประเด็นการยึด 4 กรมในกระทรวงเกษตรฯมาอยู่ให้พี่ใหญ่ดูแล บานปลายเป็นความขัดแย้งกับพรรคร่วมรัฐบาล

การเมืองแบบเก่าที่เต็มไปด้วยการใช้จำนวน ส.ส.ในกลุ่มก๊วน หักเหลี่ยมเฉือนคม ช่วงชิงผลประโยชน์การเมือง กัดกร่อนสัมพันธภาพหมู่พี่น้อง

จังหวะการเมืองบังคับพี่น้อง 3 ป.ต้องเร่งบริหารจัดการอำนาจให้ลงตัวในทีม สลายความขัดแย้งไม่ให้นำไปสู่จุดแตกหัก ก่อนสู้ศึกใหญ่การเลือกตั้งสมัยหน้า เพื่อรักษาเกมอำนาจทางการเมืองให้คงอยู่ต่อไป

ภาวะต้องยอมกลืนเลือด เพราะหาก 3 ป. แตกยับเมื่อไร ก็ม้วนเสื่อ ทั้งค่ายพลังประชารัฐ!!!

ทีมข่าวการเมือง