“บิ๊กตู่” ปรับลุคอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เปิดห้องเลี้ยงกาแฟ ขอ รมต.พรรคร่วมสามัคคี กันไว้ รับฟัง-ทำงานใกล้ชิด ส.ส.มากขึ้น ย้ำลากยาวอำนาจอีกปีกว่าค่อยเลือกตั้ง แกนนำ พปชร.ตบเท้าเข้าพบ “บิ๊กป้อม” “สมศักดิ์” ยันยังไม่ปรับโครงสร้างใหม่เร่งปั๊มผลงานช่วงเวลาที่เหลือ “สาธิต” รู้ตัวถูกเลื่อยขา เกาะเก้าอี้แน่นไม่ยอมโยกสลับ “เสี่ยหนู” ยักท่าไม่รีบตอบรับงูเห่า “ประเสริฐ” รอส่ง กก.บห.เพื่อไทยฟันพวกแหกคอก “สุทิน” แฉรู้ตัวเลขที่จ่ายกันกลางสภา “ศรัณย์วุฒิ” เปิดหน้าฉะนักรบห้องแอร์ “อุดมการณ์จอมปลอม” อัยการส่งฟ้องก๊วนงาบสนามฟุตซอล “วิรัช-เมีย” ขอเลื่อนนัด แต่อัยการชี้ฟังไม่ขึ้น

หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ แตะมือออกมาดับกระแสเกาเหลากลุ่ม 3 ป. ล่าสุดนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แกนนำกลุ่มสามมิตร ยืนยันยังไม่มีความคิดปรับโครงสร้างพรรคใหม่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ยังคงเป็นเลขาธิการพรรคเหมือนเดิม

...

คน พปชร.ตบเท้าพบ “บิ๊กป้อม”

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 14 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดแรก หลังมีการปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน บรรดารัฐมนตรีและแกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อาทิ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกฯ และนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าไปหารือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ห้องทำงานในตึกบัญชาการ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที มีรายงานว่า พล.อ.ประวิตรได้กล่าวกับคนที่เข้าพบว่า “ขอให้ทำงานช่วยนายกฯต่อไป” ขณะที่ผู้เข้าพบกล่าวตอบว่า “ถ้ามีอะไรให้ท่านสั่งได้เลย ทุกคนพร้อมช่วยทำงาน”

ยันยังไม่ปรับโครงสร้างพรรค

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม รองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า ฟังจากผู้บริหารยังไม่มีการพูดคุยเรื่องการปรับโครงสร้างพรรค ยังไม่มีการปรับใดๆ เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้มีระยะห่างระหว่างนายกฯกับ ส.ส. จะทำให้ใกล้ชิดมากขึ้นอย่างไร นายสมศักดิ์ตอบว่า ส.ส.เรียกร้องให้นายกฯเข้ามาดูแลในพรรค แต่ไม่สามารถไปบอกหรือกดดันท่านได้ ถ้าท่านมาก็ดี ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรค ยังคงเหมือนเดิม เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่านายสมศักดิ์จะนั่งเลขาธิการพรรคเอง นายสมศักดิ์ตอบปฏิเสธว่า ไม่ใช่ เท่าที่ฟังยังไม่ปรับโครงสร้างพรรคตอนนี้ อย่าไปคิดอะไรเลยเถิด ให้ตกผลึกก่อน

เร่งปั๊มผลงานช่วงเวลาที่เหลือ

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะกลับไปใช้ที่ทำการพรรค ถนนรัชดาภิเษกเมื่อไร นายสมศักดิ์ตอบว่า ต้องกลับไปแน่ แต่ไม่รู้เมื่อไร สภาใกล้ปิดสมัยประชุมแล้วคงไม่ต้องรีบร้อน ส่วนเรื่องความระหองระแหงในพรรค เป็นเรื่องที่พรรคต้องนำเสนอนโยบายนำไปดำเนินการให้เป็นประโยชน์กับประชาชน จึงเป็นเรื่องที่ต้องถกเถียงต้องคุยกันระหว่าง ส.ส.กับผู้บริหารพรรค เพื่อทำให้รู้สึกว่าเราไม่ห่างไกลกับประชาชน เมื่อถามว่าเป็นการรองรับการเลือกตั้งครั้งหน้าใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ตอบว่า ถ้าเราเตรียมตอนที่หมดเวลาไปแล้ว มันไม่มีประโยชน์อะไร ตอนนี้มีเวลาอีก 1 ปีครึ่ง ถ้าเราทำอะไรที่เป็นรูปธรรมชัดเจนประชาชนจะมองเห็น การขับเคลื่อนของรัฐบาลพรรคต้องเป็นผู้คิดและสนับสนุนให้แนวทางใหม่ๆ เกิดขึ้น เราต้องเชื่อมั่นว่าเรายังเป็นพรรคใหญ่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ถ้าผ่านเรื่องโควิดไปแล้ว ต้องเร่งรัดให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น มีเงินใช้หนี้ มีเงินใช้จ่าย ส่วนการปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกฯ

“บิ๊กตู่” ลุคใหม่อารมณ์ดีเป็นพิเศษ

ต่อมาเวลา 09.30 น. มีการประชุม ครม. มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน น่าสังเกตว่านายกฯ อารมณ์ดีเป็นพิเศษตั้งแต่ช่วงเช้า เดินทักทายรัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการไปรอบห้อง บางช่วงมีแซวหยอกล้อเป็นกันเอง ขณะที่มีรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐพยายามเข้าหานายกฯมากขึ้น โดยเฉพาะ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ในกลุ่ม 4 ช. ที่ปกติไม่เคยเข้าหา ไม่เคยเดินตาม และไม่เคยเดินไปรับ-ส่ง พล.อ.ประยุทธ์เลย แต่ครั้งนี้เข้าหาจนสังเกตเห็นได้ชัด ทั้งนี้ก่อนการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ได้เชิญหัวหน้าและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ดื่มกาแฟพูดคุยกันที่ห้องรับรอง โดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวขึ้นว่า ถ้ามีปัญหาอะไรให้พูดคุยกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันให้มากๆ “ผมก็ยังอยู่ของผมอย่างนี้ ขอให้ทำงานกัน สามัคคีกัน แล้วก็เตรียมตัวเลือกตั้งกันไปอีกปีกว่าๆ และยังย้ำอีกครั้งในช่วงท้ายของการประชุม ขอบคุณรัฐมนตรีที่ร่วมกันทำงาน มีความสามัคคี รัฐบาลต้องทำงานร่วมกับ ส.ส. ขอให้ ครม.รับฟังความเห็น ส.ส.ในพื้นที่มากขึ้น แต่ดูให้เหมาะสมตามกฎหมาย”

เบิร์ธเดย์ล่วงหน้า 70 ปี “วิษณุ”

ขณะที่ท่าทีระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตร มีการหันไปพูดคุยกันเป็นระยะ บางช่วงมียิ้มแย้มและหัวเราะให้กัน รวมถึงช่วงพักเบรกทั้งสองนั่งอยู่ในห้องรับรองด้วยกัน มีรัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการสลับเข้าไปพูดคุยหารือตามปกติ โดยวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ถือโอกาสกล่าวอวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิดย้อนหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ ที่มีอายุครบ 55 ปีไปเมื่อวันที่ 13 ก.ย. และยังอวยพรวันเกิดล่วงหน้านายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่จะมีอายุครบ 70 ปีในวันที่ 15 ก.ย.นี้

“พี่ใหญ่” รีบปลุกขวัญลูกพรรค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันที่ 15 ก.ย.นี้ เวลา 08.30 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. จะเป็นประธานการประชุม ส.ส.พรรค ที่ชั้น 6 ตึกสุริยัน อาคารรัฐสภาใหม่ เพื่อพูดคุยกับ ส.ส.พรรคด้วยตัวเอง แสดงความชัดเจนว่าจะไม่มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งคณะกรรมการบริหารพรรค หรือลาออกจากหัวหน้าพรรค หลังเกิดกระแสข่าวความขัดแย้งภายใน โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เลขาธิการพรรค เข้าร่วมประชุมด้วย ขณะที่นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ที่เก็บตัวนิ่งเงียบ หลังถูกปลดออกจากตำแหน่ง รมช.แรงงาน ปัจจุบันยังคงทำงานใกล้ชิด พล.อ.ประวิตรอยู่ ถึงแม้จะไม่ได้เป็นรัฐมนตรีแล้วก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องธุรการ เอกสาร ตลอดจนงานประชาสัมพันธ์ให้กับ พล.อ.ประวิตร

ตั้งน้องรักคุมทีมยุทธศาสตร์

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. มีคำสั่งแต่งตั้ง พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรค พปชร. เพื่อให้การดำเนินงานของพรรคเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และบรรลุตามอุดมการณ์ วัตถุประสงค์ และนโยบายของพรรค สำหรับ พล.อ.วิชญ์ หรือ “บิ๊กน้อย” เป็นเตรียมทหารรุ่น 11 หรือ จปร.รุ่น 22 ถือเป็นน้องรักของ พล.อ.ประวิตร เคยเป็นอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และอดีตประธานคณะ ที่ปรึกษากองทัพบก

“สาธิต” มั่นใจถูกเลื่อยขาเก้าอี้

นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข กล่าวถึงกระแสข่าวจะถูกปรับเปลี่ยนโยกไปเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ว่า ไม่มีโยกสลับกระทรวงแต่อย่างใด ส่วนตัวยังทำงานต่อ เมื่อถามว่ามีข่าวว่ามีคนพยายามจะเลื่อยขาเก้าอี้ นายสาธิตตอบว่าจริง

นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ในพรรคไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องปรับ ครม. ถ้าจะปรับก็เป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐ ไม่ใช่เรื่องพรรคประชาธิปัตย์

“หนู” ยักท่าไม่รีบตอบรับงูเห่า

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสข่าว น.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี จะย้ายมาซบพรรคภูมิใจไทย หากถูกขับออกจากพรรคเพื่อไทยว่า ยังไม่ได้คุยอะไรกับใคร น.ส.พรพิมลยังไม่เคยมา ติดต่ออะไร ต้องดูก่อน ไปบอกยินดีแล้วเขาไม่มาจะทำอย่างไร ต้องดูทุกอย่างรวมทั้งกฎหมาย แต่จากการติดตามข่าวยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เป็นเพียงแค่แนวคิด ถือเป็นเรื่องของแต่ละพรรค พรรคภูมิใจไทยไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย เมื่อถามอีกว่าหากการดำเนินการของพรรคฝ่ายค้านเสร็จแล้ว พรรคภูมิใจไทยพร้อมคุยหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ต้องดูเป็นวันๆไป และ มั่นใจว่ารัฐบาลจะอยู่ไปถึงปี 2566 เพราะขณะนี้มีเสถียรภาพที่ดี เพิ่งผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจมา

รอส่ง กก.บห.ฟันพวกแหกคอก

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงขั้นตอนการขับนายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ และนางพรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี ออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย จากการโหวตสวนมติพรรคหลายครั้งว่า คณะกรรมการจริยธรรมพรรคฯกำลังร่างสำนวนและสรุปข้อมูลส่งให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาต่อไป แต่คงต้องรอกรณีนายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก ที่ยังไม่มาให้ข้อมูลเพราะกำลังรักษาตัวเนื่องจากติดโควิด คาดว่าน่าจะใช้เวลาอีก 7 วัน จะส่งข้อสรุปทั้งหมดให้คณะกรรมการบริหารพรรค เรื่องการขับออกจากสมาชิกพรรค คณะกรรมการบริหารพรรคต้องเรียกประชุม ส.ส.ทั้งหมด เพื่อขอเสียงลงมติจำนวน 3 ใน 5 ของ ส.ส.ที่มีอยู่ ในการขับ ส.ส.ออกตามข้อบังคับพรรคต่อไป

“สุทิน” แฉรู้ตัวเลขจ่ายกลางสภา

ที่พรรคเพื่อไทย มีการเสวนา “จนมุมกลางสภา แล้วยังกล้าไปต่ออีกหรือ?” นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา แม้จะไม่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ลาออกจากตำแหน่งได้ แต่เชื่อว่าอาจทนเสียงกดดันจากประชาชนไม่ไหว ส่วนที่มีการเปิดเผยข้อมูลการกระทำการส่อทุจริตที่อาคารรัฐสภาชั้น 3 แม้มีการปฏิเสธในภายหลัง แต่พรรคเพื่อไทยรู้ดีว่าในข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร “อภิปรายขนาดนี้ยังปลดไม่ได้ คนยกมือให้คือจ้างมา รู้ตัวเลขด้วย ถามว่าเอาหลักฐานมาสิ ชอบท้า เรื่องอะไรผมจะเอาหลักฐานมาให้คุณ ชั้น 3 ไม่มีกล้อง เพราะเรารู้ว่าคุณทำชั้นอื่น แต่หลักฐานการคุยกันมันมี บอกแค่นี้ อย่าท้ามาก พวกคุณทำลายระบบการเมืองทำลายระบบสภาให้ย่อยยับไปด้วย”

ฝ่ายค้านขย่มต่อเวทีนอกสภา

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เวลานี้รัฐบาลจนมุมในสภาแล้ว เพราะไม่สามารถตอบคำถามของพรรคร่วมฝ่ายค้านและชี้แจงในสภาได้ ข้อมูลทุกด้านที่พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านอภิปรายในสภา จะถูกรวบรวมและนำไปสู่การตรวจสอบฝ่ายบริหาร ผ่านกระบวนการยุติธรรมต่อไป มั่นใจว่าคนป่วยที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไม่ตายก่อนถึงโรงพยาบาล แต่จะถึงโรงพยาบาลพอดีกับช่วงที่มีการโปรดเกล้าฯรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งอาจเกิดขึ้นในช่วงเดือน ต.ค.นี้

“ศรัณย์วุฒิ” ฉะนักรบห้องแอร์

นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า ตั้งใจทําหน้าที่ให้พรรค และพี่น้องประชาชนอย่างเต็มความสามารถ ครั้งล่าสุดก็เช่นกัน ที่ผ่านมาการโหวตไม่เคยแหกมติพรรค แต่ครั้งนี้เป็นความเห็นต่าง ที่ต้องขัดแย้งกับผู้มีอำนาจในพรรค ที่เรียกว่านักรบห้องแอร์ พูดเก่ง ได้แต่ประชุม คิดได้แค่จะเอาชนะศึก ไม่ได้คิดจะเอาชนะสงคราม ถูกพวกนี้กลั่นแกล้งมาตลอดตัดชื่อออกไม่ให้อภิปราย ใช้วิธีปกครองแบบอำนาจนิยม ไม่สร้างการมีส่วนร่วม ใครไม่อยู่ในก๊ก ไม่ทําตามก็ถูกกลั่นแกล้ง กล่าวหาว่าใส่ร้ายป้ายสีพรรค ยืนยันว่าที่พูดไปทั้งหมดเป็นความจริงทุกประการ กล้าเอาความจริงในพรรคมาพูด เพราะหวังดีต่อพรรค คนกลุ่มนี้ที่ขึ้นมามีอำนาจบริหารพรรค ใช้พรรคเป็นเครื่องมือหาประโยชน์ให้ตัวเองและพวกพ้อง ทอดทิ้งประชาชน ที่กล่าวอ้างอุดมการณ์เป็นเรื่องจอมปลอมทั้งสิ้น มีแต่แสวงหาความมักใหญ่ใฝ่สูง

ขอร่วมกันกำจัดเห็บหมัด พท.

นายศรัณย์วุฒิยังระบุอีกว่า “พวกนักรบห้องแอร์ ตอนจัดตั้งรัฐบาลก็ไปขอเสียงพรรคร่วมเหล่านี้ ฉะนั้นการล้มรัฐบาล ประยุทธ์คือตัวปัญหา ผมสู้กับเผด็จการนอกพรรคก็เหนื่อยพอแล้ว ยังต้องมาสู้กับพวกเผด็จการในพรรค คนพวกนี้ด้อยค่าลูกพรรคมานาน วันนี้พวกเขาต้องการทําเป็นพิธีกรรมเอาผมไปด่า แล้วไล่ผมออกจากพรรคเหมือนปี 2557 ผมรู้เท่าทันนิสัยคนพวกนี้ดี ไม่อยากเสียเวลาไปทะเลาะด้วย ขอเพื่อน ส.ส.ในพรรคเข้าใจ และอย่ายอมเป็นเครื่องมือพวกเขา ผมยืนยันไม่หนีไปไหน ยังขอยืนหยัดต่อสู้กับเผด็จการต่อไป ยึดมั่นอุดมการณ์ ให้สมกับที่เป็น ส.ส.ของปวงชนชาวไทย ความจริงและเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ที่สุดทุกคนจะเห็นธาตุแท้ของพวกเขา #ช่วยกันกำจัดปลวก เห็บ หมัด เรือดไร ก่อนบ้านเมืองของพวกเราจะพัง”

ไฟเขียว “เสธ.ไก่” นั่งเลขาฯ สมช.

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.มีมติอนุมัติตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอรับโอน พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม หรือ “เสธ.ไก่” เสนาธิการทหาร บก.กองทัพไทย เป็นเลขาฯ สมช.ทดแทนผู้เกษียณอายุราชการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.

ปลื้ม “ลิซ่า” ไม่ลืมวัฒนธรรมไทย

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม มีข้อสั่งการ 4 ประเด็น 1.การพลิกโฉมประเทศ ถือเป็นวิสัยทัศน์ที่นายกฯขอให้ทุกส่วนราชการดำเนินการทุกมิติ เพื่อเดินหน้าลดความยากจน ความเหลื่อมล้ำ สร้างสรรค์สินค้าใหม่ๆให้ความสำคัญกับนวัตกรรมท้องถิ่นเพื่อส่งออกตามแนวบีซีจี 2.ให้เตรียมแผนรองรับออกช่วยเหลือน้ำท่วม โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงลงพื้นที่ และขอให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ออกไปตรวจเยี่ยมประชาชน 3.นายกฯกล่าวถึง “น้องลิซ่า” ลลิษา มโนบาล ศิลปิน เค-ป๊อป ที่สร้างชื่อเสียงระดับโลก ไม่ลืมวัฒนธรรมไทย รัฐบาลพร้อมสนับสนุน และ 4.ขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยเหลือกันทำให้สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายขึ้น

เชื่อร้างมานาน อบต.เดือดแน่

อีกเรื่องนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กล่าวถึงการเตรียมพร้อมเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ว่า งบฯใช้ส่วนท้องถิ่นอยู่แล้ว เบื้องต้น อบต. 5,300 แห่ง จะใช้งบฯ 5 พันล้านบาท แต่ละหน่วยเลือกตั้งต้องจำกัดเรื่องจำนวนเจ้าหน้าที่ และผู้ใช้สิทธิที่ต้องสอดคล้องกับมาตรการป้องกันโควิด ส่วนงบฯ กกต.จะเป็นเฉพาะงบอำนวยการเท่านั้น เช่น ตรวจความเรียบร้อยต่างๆ เมื่อถามว่าเลือกตั้ง อบต.จะเข้มข้นกว่าทุกครั้งหรือไม่ นายนิพนธ์ตอบว่า ความเข้มข้นน่าจะมาจากการตื่นตัวประชาธิปไตย ไม่ได้เลือกตั้งมานานแล้ว ประชาชนจะออกมาใช้สิทธิมากขึ้น และมีเครือข่ายฝ่ายการเมืองระดับชาติ ใครสนิทกับใครช่วยเหลือเป็นเครือข่าย เป็นเรื่องปกติ

อัยการฟ้องก๊วนงาบงบฯฟุตซอล

ที่สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารรัชดาภิเษก นายสายัน จันทะรัง พนักงานอัยการสำนักงานปราบปรามทุจริต 2 นัดผู้ต้องหาคดีทุจริตสนามฟุตซอลจำนวน 87 คน ที่สั่งฟ้องไปแล้ว โดยมี นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประธานวิปรัฐบาล และนางทัศนียา รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ ภรรยา ร่วมเป็นผู้ต้องหา ยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งสำนวนชี้มูลความผิดทุจริตงบฯปี 2555 จัดสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษา 18 จังหวัด มูลค่า 4,459 ล้านบาท รวมทั้งโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษาเขต 2 จ.นครราชสีมา ผู้ถูกกล่าวหามาตามนัด 81 คน อีก 6 คนไม่มา และขอเลื่อนนัดส่งฟ้อง ทั้งนี้ เมื่อศาลฎีกาฯรับคำฟ้องแล้วจะส่งเข้าที่ประชุมใหญ่คัดเลือกองค์คณะประจำคดีทั้ง 9 คน และเลือกผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน โดยองค์คณะจะเป็นผู้มีคำสั่งว่าประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณาหรือไม่ รวมถึงคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีนี้

ยันเหตุขอเลื่อนนัดส่งฟ้องฟังไม่ขึ้น

นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ผู้ต้องหาที่ขอเลื่อนนัด 6 คนนั้น เป็นบุคคล 5 คน และนิติบุคคล 1 แห่ง ส่วนใหญ่อ้างโควิด แต่ไม่ได้ป่วย โดยนายวิรัชและนางทัศนียา เป็น ส.ส.อ้างว่าอยู่ในสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร อัยการพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่ได้เป็นข้อห้ามยื่นฟ้องต่อศาล จึงแจ้งกลับไปว่าไม่อนุญาตให้เลื่อน ถ้าไม่สามารถฟ้องส่งตัวได้จะเป็นกรณีเข้าข้อยกเว้นที่ไม่มีการส่งตัวตามมาตรา 21 ซึ่งเป็นกรณีหลบหนี หรือประวิงคดี หรืออ้างเหตุขอเลื่อนโดยไม่มีเหตุอันสมควร อัยการจะยื่นฟ้องทั้งหมด ศาลฎีกาฯจะมีขั้นตอนตาม ป.วิธีพิจารณาคดีอาญานักการเมืองมาตรา 11 ที่จะกำหนดวันนัดประชุมใหญ่เพื่อเลือกองค์คณะ 9 คน และออกหมายเรียกให้จำเลยมาตามกำหนดนัดพิจารณา

โปรดเกล้าฯโผทหาร 771 ราย

เมื่อเวลา 20.20 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี มีพระบรม ราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารรับราชการสนอง พระเดชพระคุณ จำนวนทั้งสิ้น 771 นาย มีตำแหน่ง สำคัญๆ ดังนี้ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ. วรเกียรติ รัตนานนท์ หรือ “บิ๊กหน่อย” (ตท.20) ขึ้นเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม กองทัพไทย พล.อ.ณตฐพล บุญงาม (ตท.21) โยกจากสำนักงานปลัด กห. มาเป็น เสธ.ทหาร ขยับ พล.ท.จีรัชญ์ บุญชญา ขึ้นเป็น ผบ.นทพ. ส่วนกองทัพบก มีการจัดทัพ 5 เสือ ทบ.ใหม่ พล.อ.อภินันท์ คำเพราะ (ตท.22) ขึ้นเป็น รอง ผบ.ทบ. พล.ท.เจริญชัย หินเธาว์ (ตท.23) จาก มทภ.1 เป็นผู้ช่วย ผบ.ทบ. พล.ท.ภูมิพัฒน์ จันทร์สว่าง (ตท.24) จาก ผบ.นสศ. เป็นผู้ช่วย ผบ.ทบ. พล.ท.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ (ตท.22) เป็น เสธ.ทบ.

พลิกโผ “บิ๊กอ๊อฟ” วืดเข้าไลน์ 5 เสือ

ขณะที่ พล.ท.ทรงวิทย์ หนุนภักดี “บิ๊กอ๊อฟ” (ตท.24) รอง เสธ.ทบ. ลูกชาย “บิ๊กตุ๋ย” พล.อ.อิสระพงศ์ หนุนภักดี อดีต ผบ.ทบ. เดิมถูกคาดหมายจะเข้าไลน์ 5 เสือ พลิกโผไปเป็นหัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสธ. กินอัตราพลเอก พร้อมดัน พล.ท.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง “บิ๊กโต” (ตท.23) สายบูรพาพยัคฆ์น้องรัก 3 ป. จากแม่ทัพน้อยที่ 1 (มทน.1) เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 (มทภ.1) พล.ต.สวราชย์ แสงผล ขยับขึ้นมทภ.2 กองทัพเรือ พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย (ตท.20) จากรองปลัด กห. ข้ามห้วยมาเป็น ผบ.ทร. ตามโผ พล.ร.อ.ธีรกุล กาญจนะ (ตท.21) เสธ.ทร. เป็นรอง ผบ.ทร. พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ (ตท.22) เป็นผู้ช่วย ผบ.ทร. กองทัพอากาศ พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ (ตท.21) ประธานคณะที่ปรึกษา ทอ. ขึ้นเป็น ผบ.ทอ. ตามคาด มี พล.อ.อ.ธนศักดิ์ เมตะนันท์ เป็นรอง ผบ.ทอ. พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา (ตท.23) พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ เป็นผู้ช่วย ผบ.ทอ. และ พล.อ.ท.พันธ์ภักดี พัฒนกุล เป็น เสธ.ทอ.