พายุไม่ทันเข้า แต่ดราม่า “น้ำตาท่วม” ป่ารอยต่อฯ อาฟเตอร์ช็อกระดับ 8 แมกนิจูด อาการ “พี่ใหญ่” หน้าบูดบึ้งหลัง “น้องเล็ก” ลงดาบเชือด “แก้วตา-ดวงใจ”

ตามมารยาทแบบที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม แค่ “แจ้งเพื่อทราบ” ให้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้รับรู้

ภายหลังลงดาบปลด “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจาก รมช.เกษตรฯ พ่วง “มาดามบิ๊กอาย” นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ กระดอนจากเก้าอี้ รมช.แรงงาน เสมือนประหารทีมผู้นำก่อกบฏ วางแผนคว่ำกระดานผู้นำ

ตามข่าววงใน เล่นเอา “บิ๊กป้อม” เครียดจนนอนไม่หลับ เพราะไม่สามารถกางปีกป้องลูกน้องสายตรง บารมี “บิ๊กบราเธอร์” สั่นคลอนรุนแรงสุดในรอบ 40 กว่าปีพี่น้อง 3 ป.

แต่ในอารมณ์ “เสือเฒ่ากลืนเลือด” ก็ยังกัดฟัดกลบรอยแค้น พล.อ.ประวิตร เสียงแข็ง ยืนกรานไม่มีการเปลี่ยนแปลงอำนาจภายในพรรคพลังประชารัฐ ตราบใดที่ “บิ๊กป้อม” ยังนั่งหัวหน้าค่าย ทุกคนต้องอยู่ใต้อาณัติ

อุ้ม “ผู้กองนัส” ไม่ต้องออกจากเลขาธิการพรรค “มาดามบิ๊กอาย” ยังรั้งตำแหน่งเหรัญญิกคุมกองกลาง “พี่ใหญ่” แสดงตัวเป็น “ไอ้เข้” ขวางคลองไม่หลบง่ายๆ

ภายใต้การเดินหน้าบุกถอนรากถอนโคนกลุ่มกบฏ “บิ๊กตู่” สั่ง “กองกำลังชนกลุ่มน้อย” ทั้งก๊วนนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง “ก๊วนสามมิตร” นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม แก๊งนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน แก๊ง “เฮียโอ๋” นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส

...

“รวมการเฉพาะกิจ” ยึดค่าย พปชร.มาจากทีม “ผู้กองนัส” ปฏิบัติการ “เคลียร์พื้นที่” ก่อนส่งทีมงาน “สายตรงในคาถา” อย่าง “เสี่ยฉิ่ง” นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดมหาดไทย ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการ และ “เสี่ยตุ๋ย” นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค กุนซือนายกฯ ทายาทผู้ก่อตั้ง “ปั๊มน้ำมันสามทหาร” ช่วยคุมฐานการเมืองให้ผู้นำ

ตามสูตรแจกกล้วยมัดจำวันโหวต 2 หวี ล่าสุดรับอีก 3 หวี และสุดท้ายอีก 2 หวี รวม 7 หวี “กองกลาง” ขนใส่ตู้รถเสบียงเต็มพิกัด

และก่อนอื่นใด ต้องให้ดาบอาญาสิทธิ์กับทีมนอมินีสายตรง ยังไงก็ต้องมีปรับ ครม.ให้ “เสี่ยฉิ่ง” เสียบเก้าอี้ รมช.มหาดไทย คุมพื้นที่รองรับการเลือกตั้ง เพิ่มพลังดึงดูด ส.ส.ร่วมสังกัด

“บิ๊กตู่” ลุยจัดระเบียบ เข้าล็อกฐานการเมือง พปชร.แท็กทีมพี่รอง “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย สยายปีกคุมกำลัง ส.ส.แทนพี่ใหญ่ แต่ถ้า “บิ๊กป้อม” ไม่ยอมถอย “ผู้กองนัส” สู้ ก็ไม่ง่ายแน่

เพราะตามเงื่อนไขกฎหมายข้อบังคับพรรค ถ้าจะมีการหักลำเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจพรรคพลังประชารัฐกันแบบทันอกทันใจ ต้องให้ พล.อ.ประวิตร ลาออก แล้วเขย่ากันใหม่

ในเมื่อ “พี่ใหญ่” เสียงแข็ง ไม่ถอย “ธรรมนัส-บิ๊กอาย” ก็ยังคุมเชิง พปชร. เสียงในคณะกรรมการบริหารพรรคก็เป็นกองกำลังที่ “บิ๊กป้อม-ผู้กองนัส-บิ๊กอาย” ล็อกเสียงส่วนใหญ่

และโดยเงื่อนไขสถานการณ์ที่ถึงขั้นหักดิบและต่างฝ่ายต่างไม่ยอมงอ 3ป.แตก ก็ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ เกมอำนาจจะไหลไปถึงจุดที่พรรคพลังประชารัฐภายใต้ปีก “พี่ใหญ่” กลายเป็นหอกข้างแคร่ เล่นบท “ปรปักษ์” กับรัฐบาล “ประยุทธ์”

เกมอำนาจไม่ใช่เด็กช่างกลตีกัน ต้องเอาคืนทันควัน แค้นรอเวลาสะสางได้ ไม่ต้องพูดถึงศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ แค่รัฐบาลต้องเสนอกฎหมายสำคัญ ต้องวัดเสียงกันในสภาผู้แทนราษฎร ถึงตอนพึ่งเสียง ส.ส.ก็ต้องลุ้นกันฉี่เหนียว

“ประยุทธ์” ต้องเสียวกับเกม “ซ่อนแต้ม” อย่างต่อเนื่อง ตามท้องเรื่องศึกปราบกบฏพลังประชารัฐ อาฟเตอร์ช็อกสั่นคลอนขุมอำนาจทหารเฒ่า

ระบอบ 3 ป.ส่อแววล่มสลาย ถือว่าตรงเป๊ะกับ “นิด้าโพล” ศูนย์สำรวจ ความคิดเห็น สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ความเป็นไปได้ทางการเมืองของ 3 ป.”

อันดับหนึ่ง ร้อยละ 32.06 เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ เป็นสมัยสุดท้าย และประชาชนกลุ่มตัวอย่างสูงถึงร้อยละ 62.82 เชื่อเลยว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่

พล.อ.ประวิตร จะได้เป็นนายก รัฐมนตรี ภายหลังการเลือกตั้ง ครั้งหน้า อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 39.47 ยังเชื่อในความเป็นไปได้ว่า 3 ป.จะยังคงมีบทบาทในการจัดตั้งรัฐบาล ภายหลังการเลือกตั้งสมัยหน้า

โดยสภาพ 3 ป.เสื่อมพลัง ภาพอำนาจเชิงซ้อนถึงจุดกลบเกลื่อนสายตาคนดูไม่ได้ แม้แต่ประชาชนคนนอกยังมองทะลุอนาคต.

ทีมข่าวการเมือง