ผลโหวตวาระ 3 ของที่ประชุมรัฐสภา ผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับระบบเลือกตั้ง ปลดฟ้าผ่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน
ขบวนการเขย่าเก้าอี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระหว่างลงมติญัตติไม่ไว้วางใจนายกฯ
สามชนวนการเมืองที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นอีกปัจจัยที่เพิ่มความขัดแย้ง แตกหักภายใน “กลุ่มสาม ป.” “ลุงป้อม-ลุงป๊อก-ลุงตู่” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ติดตามระหว่างบรรทัดที่ “บิ๊กบราเธอร์” เปิดใจให้สัมภาษณ์ “ทีมการเมือง” ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ซึ่งเป็นช่วงเหลื่อมเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก่อนที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แถลงลาออกที่สภา
นั่นหมายความว่าระหว่างนั้นผู้สัมภาษณ์ไม่รู้ข่าว ร.อ.ธรรมนัส พ้นจากตำแหน่ง รมช.เกษตรฯไปแล้ว
...
โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พูดในหลายประเด็น “ทีมการเมือง” นำมาร้อยเรียงให้เห็นภาพทิศทางการเมืองไทย โดยเฉพาะความสัมพันธ์ของ “กลุ่มสาม ป.”
ซึ่งที่ผ่านมาได้ตอกย้ำภาพสายสัมพันธ์อันแนบแน่นตลอด 45 ปี
เราขอชูประเด็นที่รองนายกฯให้ความสำคัญมาก หลังจากนักวิชาการด้านน้ำกังวลปรากฏการณ์ลานีญามีโอกาสเกิดขึ้น หากฝนตกหนักรอบ 1 พันปีเหมือนที่เพิ่งเกิดขึ้นในหลายประเทศในยุโรปและเมืองเจิ้งโจว ประเทศจีนว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมรับมืออย่างไร โดยเฉพาะฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯ
พล.อ.ประวิตร ฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) บอกว่า ในรอบหลายปีที่ดูแลด้านน้ำได้บูรณาการแผนระบบน้ำ ทั้งป้องกันภัยแล้ง น้ำท่วม หากเกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้นก็จะไม่หนักเหมือนที่ผ่านๆมา
ปีนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็พร้อม เตรียมพื้นที่ระบายน้ำในทุกพื้นที่ เพื่อป้องกันน้ำท่วม
อีกประเด็นที่ พล.อ.ประวิตร อดเป็นห่วงไม่ได้ในฐานะดูด้านความมั่นคงของประเทศมายาวนาน คือ...
...ความเป็นอยู่ของประชาชน ต้องทำมาหากินได้
โดยรัฐบาลมีนโยบายดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิดเป็นอย่างดี ผ่านมาตรการต่างๆ
การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด รัฐบาลจัดการเต็มที่ ทั้งฉีดวัคซีนให้เป็นไปตามเป้าของ ศบค. เพื่อลดการเสียชีวิตและอาการหนักหากติดเชื้อ
เดินหน้าเปิดประเทศ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ เหมือนประเทศอังกฤษ
หลังเสร็จศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ผลโหวตไว้วางใจนายกฯออกมาแล้ว ถึงวันนี้หายเหนื่อยหรือยัง พล.อ.ประวิตร บอกว่า เหนื่อยเรื่องอะไร ไม่เห็นมีอะไร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐลงคะแนนครบ
พรรคตกลงกันแล้วต้องปฏิบัติตาม
ผลโหวตออกมาแล้วยังมาถามถึงความแตกแยกอีก หากแตกแยก ผลคะแนนจะออกมาแบบนี้ได้อย่างไร
ภายในพรรคเป็นปึกแผ่น ไม่มีกลุ่ม ทุกคนฟังผม
แค่ พล.อ.ประยุทธ์กังวลไปเอง ก็บอกว่าไม่มีอะไร ไม่เชื่อผมแล้วจะเชื่อใคร คะแนนหนึ่งยังไม่กระเด็นเลย
การเมืองหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเป็นอย่างไรต่อ พล.อ.ประวิตร บอกว่า ไม่มีอะไร ผมไม่รู้จะให้สัมภาษณ์อะไร เพราะสื่อมวลชนเอาไปเขียนกันเอง สื่อมวลชนก็ต้องตอบกันเอง
แต่หลังมีกระแสข่าวแตกคอ “กลุ่มสาม ป.” พล.อ.ประวิตร ย้ำความสัมพันธ์ว่า...
“...กลุ่มสาม ป.เป็นเจ้าของพรรค ผมเป็นหัวหน้าพรรค
ส.ส.ทุกคนอยู่กับผมหมด ภายในพรรคพลังประชารัฐไม่มีอะไร
นายกฯไม่มีอะไรกับผม จะมีอะไรล่ะ คุยกันทุกวัน ไม่มีการทิ้งกัน
เพราะตู่อยู่กับผมตั้งแต่ยศร้อยตรี เลี้ยงดูตลอดตั้งแต่ปี 19
กลุ่มสาม ป.สัมพันธ์แนบแน่น เป็นเสาหลักของพรรคและรัฐบาล
พรรคก็สนับสนุนตามคำสั่งของผม เพราะพรรคเกิดมาจากผม
อย่างนายกฯ มาหาผมเมื่อตะกี้นี้ คุยกันนานชั่วโมงสองชั่วโมง
คุยกันทุกวัน จะถามให้ไปทะเลาะกับตู่อยู่เรื่อย”
พี่ใหญ่แห่งกลุ่มสาม ป.ยืนยันความเป็นปึกแผ่นขนาดนี้ แต่ทำไมไม่สามารถดับกระแสข่าวความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายในกลุ่มได้ พล.อ.ประวิตร บอกว่า ขัดแย้งอย่างไร สื่อมวลชนเป็นคนไปเขียน ที่ผ่านมาได้พูดมาหลายครั้งแล้วจะถามอะไรอีก ไม่น่าถามเลย
“ผมพูดตลอดตู่ไป ผมไป”
ทำไมน้ำเสียงดุจังวันนี้ พล.อ.ประวิตร บอกว่า...
“...ก็ถามจะให้ทะเลาะกับตู่ ทะเลาะกับป๊อก รู้อยู่แล้วว่ามันอยู่ด้วยกัน
จะไปโกรธกันเรื่องอะไร ผมเป็นพี่ใหญ่ ใครจะมาโกรธผม”
นายกฯ ระบุไม่ยุบสภา ไม่ลาออก และมีคนแอบอ้างเบื้องสูงไม่เอานายกฯ ในฐานะที่ดูแลความมั่นคงมายาวนานทราบข้อเท็จจริงว่าใครแอบอ้าง เพราะ “ลุงป้อม” บอกว่าคุยกับนายกฯทุกวัน พล.อ.ประวิตร บอกว่า “ก็นายกฯไม่พูดกับผม เรื่องนี้ไม่มี”
แต่ก่อนประชุม ครม.ทุกครั้ง วงสาม ป.พูดคุยกันก่อนเข้าประชุม ครม. พล.อ.ประวิตร บอกว่า ไม่จำเป็น พบเจอที่ไหนคุยกันที่นั่น ไม่เจอก็ไม่คุย ไม่ได้นัดแนะต้องคุยเรื่องการเมืองตลอด
หลังโหวตญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล กลุ่มสาม ป.ได้หารือถึงการเมืองอย่างไรบ้าง อาทิ การปรับ ครม. พล.อ.ประวิตร บอกว่าไม่คุย
เพราะ ครม.เป็นเรื่องของนายกฯ การเมืองในพรรคและสภาเป็นเรื่องของผม
“ผมจะไปคุยอะไร นายกฯปรับ ครม.ไปไว้ที่ไหน เป็นเรื่องของนายกฯ จะไม่เอาใครก็เป็นเรื่องของนายกฯ
เพราะเขาทำงานให้บ้านเมือง บริหารประเทศ บริหารกระทรวงต่างๆ เอาใครขึ้นใครลงเป็นเรื่องของนายกฯ
พรรคได้โควตารัฐมนตรีมา ก็หาคนไปให้ เพราะผมทำงานเกี่ยวกับการเมืองและทำงานในสภา”
ส่วน ร.อ.ธรรมนัสยังเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐต่อไปหรือไม่นั้น ก็ต้องดูว่าเขาทำผิดอะไร ไปเปลี่ยนเลขาฯได้อย่างไร และที่ผ่านมาก็เปลี่ยนตำแหน่งเลขาธิการพรรคมาสองสามรอบแล้ว
หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจได้พูดคุยกับกลุ่มสี่ ช.ที่ช่วยงานหัวหน้าพรรคอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตร บอกว่า ในพรรคไม่มีกลุ่มสี่ ช. มีเฉพาะ “กลุ่มสามลุง” และทุกคนในพรรคช่วยกันทำงาน อาทิ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง
การแก้รัฐธรรมนูญเอื้อต่อพรรคเพื่อไทย ข้อเท็จจริงมีการประสานมายังพรรคพลังประชารัฐอย่างไร เพื่อร่วมกันแก้รัฐธรรมนูญ พล.อ.ประวิตร บอกว่า ไม่มีใครประสานกับผมหรือเลขาธิการพรรค เราถามเสียง ส.ส.ส่วนใหญ่ที่ต้องการบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ฉะนั้นการโหวตวาระ 3 ใครอยากลงอะไรก็ลง ไม่ต้องห่วง จะเป็นอะไรก็เป็นไป
ถูกมองว่าการโหวตครั้งนี้วัดพลัง ส.ว.ระหว่างสาย “ลุงป้อม” กับ “ลุงตู่” พล.อ.ประวิตร บอกว่า คำถามตอบยากมาก จะให้ไปชกกับคนนั้น ชกกับคนนี้ ผ่านหรือไม่ ให้ดูวันโหวต เป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกรัฐสภา
หลังโหวตวาระ 3 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคพลังประชารัฐจะปรับทัพเตรียมการเลือกตั้ง โดยยังวางบัญชีรายชื่อนายกฯเป็น พล.อ.ประยุทธ์คนเดิม พล.อ.ประวิตร บอกว่า ตอนนี้ยังไม่รู้ เป็นเรื่องของพรรค ประกาศรายชื่อเดี๋ยวก็รู้เอง โดยมีแผนที่จะทำให้พรรคมีพลังมากขึ้น
เพื่อทำงานให้ประเทศชาติและประชาชน
ทีมข่าวการเมือง ถามว่าภายในพรรคร่วมรัฐบาลยังเหนียวแน่นเห็นได้จากการลงคะแนนญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ชี้ให้เห็นรัฐบาลจะอยู่ครบเทอม
และม็อบขยับหลายกลุ่ม มีบางกลุ่มที่เคลื่อนไหวรุ่นแรง แต่ทหารยังนิ่ง ห่วงประวัติศาสตร์ซ้ำรอยโดยเกิดปฏิวัติอีกครั้งอย่างไร
พล.อ.ประวิตร บอกว่า...
...ไม่รู้ เพราะอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นได้ตลอด
...เลิกพูดๆๆ ปฏิวัติไม่มีหรอก.
ทีมการเมือง