เพื่อไทยตั้งแท่นสอบ 7 ส.ส. แหกคอก ให้ส่งคำชี้แจงภายใน 10 ก.ย. แย้มมีขั้นต่ำ 3 ราย “นพ. จาตุรงค์-ก้อย พรพิมล-ศรัณย์วุฒิ” ส่อถูกอัปเปหิพ้นพรรค “เฮียกุ่ย” รีบโบ้ยระบบโหวตสภาผิดพลาดเอง พปชร.ยอมงอไม่กล้าหักดิบพรรคเล็ก แต่ต้องคุยกัน “เดียร์” ยินดีน้อมรับบทลงโทษ “สันติ” ดอดขึ้นตึกไทยฯพบ “บิ๊กตู่” ลือหึ่งงัดข้อ “ธรรมนัส” แรง “อันวาร์” อ้างคน 3 จว.ให้โหวตคว่ำ “วันชัย” โว ส.ว.มีสิทธิคว่ำร่างแก้รัฐธรรมนูญ “พีระศักดิ์” รีบเคลียร์เทแต้มตามเสียงส่วนใหญ่ ส.ว.ไฟเขียว “ชาญชัย” ปธ.ศาล ปค.สูงสุด
พรรคเพื่อไทยตั้งแท่นสอย ส.ส.แหกคอก คณะกรรมการวินัยจริยธรรม คณะกรรมการกลั่นกรองการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขีดเส้นให้เวลา 7 ส.ส. ชี้แจง ภายในวันที่ 10 ก.ย.นี้ แย้มขั้นต่ำมี 3 ราย เข้าข่ายถูกขับออกจากพรรค เนื่องจากมีหลักฐานค่อนข้างชัดเจน
“เฮียกุ่ย” โบ้ยระบบสภาผิดพลาด
เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 6 ก.ย. ที่รัฐสภา นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีไม่ปรากฏผลลงคะแนนโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ว่า ได้ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีตามมติพรรคเพื่อไทย แต่กลับไม่ปรากฏชื่อตน ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าเป็นงูเห่า ยืนยันว่ายืนข้างประชาชนในการเป็นผู้แทนราษฎรฝั่งประชาธิปไตยมาตลอด ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นคงเป็นระบบผิดพลาด วิธีลงคะแนนด้วยการยกมือนับเป็นวิธีง่าย สะอาด โกงยากที่สุด วิธีลงคะแนนแบบเสียบบัตรแม้จะดีแต่ผิดพลาดง่ายที่สุด หลังจากยื่นหนังสือที่สภาแล้ว จะชี้แจงต่อพรรคว่าได้ทำหน้าที่แล้ว แต่มีความผิดพลาด
...

“พิชัย” เตือน “บิ๊กตู่” รีบไขก๊อกซะ
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กระแสการโหวตที่จะไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ในฝั่งของรัฐบาลค่อนข้างรุนแรง มีกระแสข่าวการแจกกล้วยเกทับกันเพื่อรักษาสถานะของตนเอง ทั้งการเมืองที่ง่อนแง่นในพลังประชารัฐที่รอวันแตกหัก การควบคุมโควิดที่ยังคุมไม่ได้จริง แม้จะพยายามตรวจน้อยลงเพื่อให้ตัวเลขลดลง วัคซีนคุณภาพยังขาดแคลน เศรษฐกิจมีแต่จะทรุดลง อีกทั้งประชาชนที่ไม่พอใจ พล.อ.ประยุทธ์ออกมาชุมนุมประท้วงกันจำนวนมาก พล.อ.ประยุทธ์ควรหาทางลงให้เร็วที่สุด ไม่มีทางที่จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ มีแต่จะแย่ลง ยิ่งลากต่อไปยิ่งเสื่อมถอย ประชาชนจะยิ่งทนกันไม่ไหว สุดท้ายอาจไม่มีพื้นที่ยืนในประเทศไทยได้ อยากเตือนไว้
พท.ตั้งแท่นขับ ส.ส.แหกคอก
ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่พรรคเพื่อไทยมีการประชุมคณะกรรมการวินัยจริยธรรม คณะกรรมการกลั่นกรองการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อพิจารณากรณี 7 ส.ส. โหวตฝ่าฝืนมติพรรค มีแกนนำร่วมประชุมพร้อมหน้า อาทิ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน ส.ส.พรรค นายประเสริฐแถลงหลังการประชุมว่า คณะกรรมการฯให้เวลา ส.ส.ทั้ง 7 คน ชี้แจงภายในวันที่ 10 ก.ย. จะสรุปผลในสัปดาห์หน้าเสนอให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาต่อไป
นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า พรรคให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ทั้งผู้ถูกกล่าวหาและสมาชิกพรรค เบื้องต้นมี ส.ส.บางคนส่งเอกสารมาชี้แจง แต่เห็นว่ายังควรสอบถามโดยวาจาเพิ่มเติม จึงให้เวลาถึงวันที่ 10 ก.ย. ก่อนที่จะมีบทลงโทษ ที่มีตั้งแต่ว่ากล่าวตักเตือน ตัดสิทธิไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งหน้า ขับออกจากสมาชิกพรรค แต่ละบทลงโทษแล้วแต่เหตุผลที่จะพิจารณา และจะดูไปถึงพฤติกรรมย้อนหลัง สัปดาห์หน้าจบ
เมื่อถามว่ามี ส.ส.โหวตสวนบ่อยครั้ง พรรคจะตัดสินใจอย่างไร นายสุทินตอบว่า เราดูพฤติกรรมย้อนหลังด้วย คงตัดสินใจง่ายขึ้น ส่วนจะถึงโทษขั้นสูงสุดหรือไม่นั้นขอให้ผ่านการพิจารณาก่อน
ขั้นต่ำ 3 รายถูกเฉดหัวพ้นพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับ 7 ส.ส.ดังกล่าว ประกอบด้วย นายชัยยันต์ ผลสุวรรณ์ ส.ส.ปทุมธานี นพ.จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ นายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายก นางพรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกต ส.ส.อุตรดิตถ์ และนายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี เบื้องต้นจากการพิจารณาแล้วเห็นว่ามีอย่างน้อย 3 ราย มีแนวโน้มอาจถูกขับออกจากพรรค เนื่องจากมีหลักฐานค่อนข้างชัดเจน ได้แก่ นายจาตุรงค์ที่มีทีท่าจะย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทย นางพรพิมลมีพฤติกรรมโหวตสวนมติพรรคหลายครั้ง นายศรัณย์วุฒิที่พูดให้ร้ายพรรคในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบล่าสุด

พปชร.ไม่กล้าหักดิบพรรคเล็ก
ที่รัฐสภา นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า คงต้องหาเวลาและโอกาสพูดคุยกับพรรคเล็กที่โหวตไม่ไว้วางใจนายกฯ คงมีเหตุผลของเขา แต่ยังไม่ได้ดำเนินการสอบสวน ต้องรอสอบถามก่อน คงไม่ถึงขั้นขับออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ต้องให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้พิจารณา ซึ่ง พล.อ.ประวิตรขอบคุณ ส.ส.ที่ทำให้การลงมติไม่ไว้วางใจผ่านไปได้ด้วยดี เป็นกำลังใจให้รัฐบาลทำงานต่อไป เมื่อถามย้ำว่าต้องเชิญมาทำความเข้าใจกันหรือไม่ นายวิรัชตอบว่า มีทุกพรรค รวมถึงพลังประชารัฐ เมื่อตรวจสอบละเอียดแล้วยังมี 1 คนที่ไม่ได้โหวตไปในทิศทางเดียวกัน รวมถึงกรณี น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่งดลงคะแนนให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ต้องถาม พล.อ.ประวิตรว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร ยังไม่ได้เจอกับเจ้าตัวเลย
เย้ย พท.มี ส.ส.แหกมติเช่นกัน
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เตือนว่าการเมืองในพลังประชารัฐง่อนแง่นรอวันแตก ให้ พล.อ.ประยุทธ์รีบหาทางลงนั้น นายพิชัยไม่ได้ทำการบ้าน หรืออ่านข่าวมาแบบผิดๆ ถูกๆ ถึงไม่รู้ว่าสมาชิกพรรคพลังประชารัฐไม่มีใครแตกแถว สะท้อนความเป็นเอกภาพเชื่อมั่น พล.อ.ประยุทธ์ สถานการณ์โควิดที่เริ่มดีขึ้น มาตรการแก้ไขปัญหาที่นายกฯเตรียมไว้ จึงมีแต่สัญญาณความเชื่อมั่นที่มีต่อ พล.อ.ประยุทธ์เพิ่มสูงขึ้น ยังอยู่บริหารประเทศอีกยาว ต่างจากพรรคเพื่อไทยที่มี 6 ส.ส.แหกมติพรรค สะท้อนว่าพรรคกำลังง่อนแง่น ส.ส.ไม่ศรัทธาแนวทางการทำงาน จนต้องแหกมติพรรค
“เดียร์” ยินดีน้อมรับบทลงโทษ
น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ถึงประเด็นถูกลอยแพจากกลุ่มดาวฤกษ์ ว่า ไม่ได้เท เราต่างทำการบ้านว่าจะโหวตหรือไม่โหวตให้ใคร ตัดสินใจบนความรอบคอบ พูดคุยปรึกษาหารือ ถือเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.แต่ละคนให้เกียรติกัน ไม่ก้าวก่าย วันนี้คิดว่า ส.ส.ทุกคนที่ได้รับเลือกจากประชาชน ล้วนต้องมีวุฒิภาวะต้องคิดได้ พรรคพลังประชารัฐอยากให้บรรยากาศการโหวตไปในทิศทางเดียวกัน โดยให้น้ำหนักสำคัญโหวตให้กับนายกฯเป็นหลัก แต่เป็นเพราะไม่สามารถฝืนใจตัวเองได้จริงๆ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาโควิด เป็นที่ประจักษ์ว่าการบริหารงานสาธารณสุขล้มเหลว ส่วนพรรคจะมีบทลงโทษอย่างไร พร้อมน้อมรับ หากพรรคไม่สบายใจ ยืนยันว่าทำงานตรงไปตรงมาไม่ได้มีลับลมคมใน จุดยืนคือยืนเคียงข้างประชาชน ไม่ได้มีเรื่องส่วนตัวกับนายอนุทิน ส่วนกลุ่มดาวฤกษ์เชื่อว่ามิตรภาพยังเหมือนเดิม

“สันติ” ย่องขึ้นตึกไทยฯพบ “ตู่”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และ ผอ.พรรคพลังประชารัฐ เดินทางเข้าทำเนียบพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนกลับออกไป ท่ามกลางกระแสข่าวว่านายสันติเป็นหนึ่งแกนนำหลายกลุ่ม นำ ส.ส.เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ที่รัฐสภา เพื่อยืนยันสนับสนุนนายกฯในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และมีกระแสข่าวว่านายสันติได้แยกตัวออกมาจากกลุ่ม 4 ช.แล้ว เพราะมีปัญหาขัดแย้ง กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ และเลขาธิการพลังประชารัฐ
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายสันติ พร้อมพัฒน์ เข้าพบนายกฯ เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนงานกระตุ้นการบริโภค และการใช้จ่ายของประชาชน หลังจากศบค.ปรับมาตรการผ่อนคลายการควบคุมโควิด ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในปลายปีนี้ ยืนยันไม่มีการหารือประเด็นการเมือง เป็นการคาดเดากันไปเอง
“อันวาร์” แจงคน 3 จว.ให้โหวตคว่ำ
ขณะที่นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นหนึ่งเสียงที่โหวตไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ และงดออกเสียงให้ 3 รมต.ที่แก้ไขโควิดผิดพลาด ทั้งหมดตัดสินใจจากเสียงประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือว่าได้ทำหน้าที่ยึดประชาธิปไตยยืนเคียงข้างประชาชน ทำถูกให้เป็นถูก ผิดเป็นผิด แต่กระบวนการในสภาฯอยู่ที่ใครมีมือมาก ไม่สนใจฟังเสียงประชาชนเจ้าของอำนาจ คิดแค่ว่าทำอย่างไรจะคุมเสียงข้างมากให้ได้พอ ต้องจับตาว่าท่ามกลางสถานการณ์ไม่หวังพึ่งนักการเมืองของประชาชนสะท้อนผ่านผู้ชุมนุมออกมาต่อต้านบนถนนจะปรับเปลี่ยนรูปแบบจนเกิดการนองเลือดนำไปสู่การปฏิวัติอีกหรือไม่ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ขณะนี้เหมือน “บ้านแมงมุม” สร้างบ้านเพื่อล่าเหยื่อเป็นหลักไม่ใช่อยู่อาศัยให้ความอบอุ่น แมงมุมปล่อยสารพิษดูดกินเหยื่อจนตายแก่งแย่ง ทำลายกันเอง ไม่มีจริงใจต่อกัน พร้อมจะเหยียบซ้ำคนล้ม และพังทลายจากคนในรังเดียวกัน

“วันชัย” คุยโวมีสิทธิคว่ำแก้ รธน.
วันเดียวกัน นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. กล่าวถึงการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 83 และมาตรา 91 วาระ 3 ในวันที่ 10 ก.ย.ว่า ส.ว.หารือกันตลอดว่าจะรับหรือไม่รับ เห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นเรื่องพรรคการเมือง นักการเมืองล้วนๆ ในมุมความได้เปรียบทางการเมืองและอำนาจ ไม่ได้แก้เพื่อประโยชน์ประชาชน โดยมีสัญญาณบางอย่างบ่งชี้ว่าอาจไม่รับ ต้องดูต่อไป แต่ละวันเปลี่ยนแปลงได้จนถึงเวลาโหวต ย้ำว่ามีสัญญาณไม่ปกติของกลุ่ม ส.ว. หาก ส.ว.ที่ให้ความเห็นชอบวาระ 2 แต่มาเปลี่ยนใจในวาระ 3 ต้องตอบคำถามสังคมได้ ทั้งนี้ แม้รัฐสภาจะผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไปได้ แต่อาจไม่ทันได้ใช้ เพราะมีกระบวนการนำขึ้นทูลเกล้าฯถวาย การยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ การทำกฎหมายลูกใน 60 วัน และการเมืองเปลี่ยนช่วงนี้แรงพอสมควร ส่วนปัญหาคลื่นใต้น้ำในพรรคพลังประชารัฐไม่เกี่ยวกับการโหวตแก้รัฐธรรมนูญ แต่สะท้อนบางสิ่งที่เกิดแรงกระเพื่อมทางการเมือง เชื่อว่าการแก้รัฐธรรมนูญของพรรคการเมือง มีผลเปลี่ยนแปลงต่อการโหวต
เชื่อเทแต้มตามเสียงส่วนใหญ่
นายพีระศักดิ์ พอจิต ส.ว. กล่าวว่า ยืนยันจะโหวตรับวาระ 3 แต่ตอบแทน ส.ว.คนอื่นไม่ได้ เชื่อว่าเสียง ส.ส.ส่วนใหญ่ว่าไปอย่างไร ส.ว.น่าจะไปทางนั้น ส.ว.ไม่ได้เกี่ยวกับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.เขต 350 คน หรือ 400 คน เมื่อถามว่า ส.ว.จะมีการหารือกันเรื่องการลงมติวาระ 3 หรือไม่ นายพีระศักดิ์ตอบว่า อย่างเป็นทางการไม่น่าจะมี แต่มีความคิดเห็นส่วนตัวกัน หารือกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนพอมีบ้าง ตนยึดหลักว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้เกี่ยวกับภาพรวมประเทศมากมาย ต้องเคารพความเห็น ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ส่วนกรณีจะมีผู้ไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญนั้น เป็นเรื่องหลังจากลงมติไปแล้ว หากสงสัยก็ไม่ต้องรับ ส่วนที่ ส.ว.บางคนมีแนวโน้มอาจไม่รับนั้น เป็นเรื่องของแต่ละคน
พปชร.-พท.เชื่อน่าจะผ่านได้
นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ยืดเยื้อมาหลายครั้ง น่าจะผ่าน แต่ถ้าไม่ผ่านก็อยู่ที่ ส.ว.ที่จะกรุณา เท่าที่อ่านข่าวเห็นมีแค่นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. ออกมาแสดงความคิดเห็นคนเดียว ส.ว.คนอื่นยังไม่เห็นมีท่าทีอะไร
นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ขณะนี้มีทั้งกระแสข่าวโหวตคว่ำและโหวตให้ผ่าน พรรคเพื่อไทยยังดูอยู่ พรรคจะรอประเมินถึงนาทีสุดท้าย ส่วนความกังวลถึงเสียงโหวตของ ส.ว.นั้น หากคิดตามหลักเหตุผลน่าจะผ่านได้ แต่ถ้าไม่อยู่บนหลักเหตุผลก็น่าจะเสี่ยง

“กรณ์” รวมพลผู้กล้าชิง ส.ส.-ส.ก.
อีกเรื่องนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้าโพสต์เฟซบุ๊กลงรูปของสมาชิกพรรคว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.และ ส.ก.เรื่อง “รวมพล ผู้กล้า รับสมัครผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.-ส.ก.พรรคกล้า” ใจความว่า พรรคกล้าประกาศเดินหน้าเต็มตัวสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง เน้นอุดมการณ์ปฏิบัตินิยม ทำการเมืองสร้างสรรค์ แก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ต่อสู้ระบบราชการ พร้อมแปะ QR Code และลิงค์ candidate. klaparty.org ให้ผู้สนใจสมัครกรอกประวัติในระบบออนไลน์ได้ทันที
นายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรคกล้า กล่าวว่า สัญญาณเลือกตั้งเริ่มชัดเจนขึ้น ทั้งรัฐสภาเตรียมลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 เปลี่ยนระบบเลือกตั้ง กระทรวงมหาดไทยเตรียมให้ ครม.กำหนดวันเลือกตั้งท้องถิ่น อายุรัฐบาลเหลืออยู่เพียง 1 ปี 10 เดือน มีกระแสข่าวยุบสภาเกิดขึ้นเรื่อยๆ พรรคกล้าไม่ได้หวังเป็นแค่พรรคการเมืองขนาดเล็ก ต้องเตรียมให้พร้อมหากมีอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นในอนาคต
“ชาญชัย” นั่ง ปธ.ศาล ปค.สูงสุด
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งประธานศาลปกครองสูงสุด ที่เสนอชื่อนายชาญชัย แสวงศักดิ์ รองประธานศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานศาลปกครองสูงสุด โดยการประชุมลับ ก่อนลงมติเห็นชอบชื่อนายชาญชัย ด้วยคะแนน 212 ต่อ 2 ไม่ออกเสียง 8 เสียง