มติศบค. ยกระดับมาตรการคุมโควิด-19 แบบครอบจักรวาล กลุ่มบุคคล ต้องทำ Universal Prevention ครบ 10 ข้อ ขณะที่องค์กร สถานบริการ ทำ 3 ข้อ ฉีดวัคซีนต้องครบ 2 เข็ม ตรวจ ATK พนักงานทุกสัปดาห์

เวลา 13.30 น. วันที่ 27 สิงหาคม 2564 แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวว่าที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. เป็นประธาน ได้มีการยกระดับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 สำหรับเปิดกิจการ/จัดกิจกรรมให้ปลอดภัยและยั่งยืนด้วยหลักการ Covid-Free Setting และ Universal Prevention หรือ การป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล สำหรับสถานที่เสี่ยงและกลุ่มเสี่ยง

โดย Universal Prevention ยังคงให้ทุกคนระมัดระวังป้องกันตนเองขั้นสูงสุดตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์หรือประชาชนทั่วไป เพื่อให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อโควิด-19 แม้พบว่ายังไม่มีความเสี่ยง โดยขอให้คิดเสมอว่าตนเองและคนรอบตัว อาจจะติดเชื้อโควิด-19 แฝง อาจแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ โดยเน้นย้ำให้ตั้งการ์ดสูงสุด ในครอบครัวและในที่ทำงาน ดังนี้

1. ออกจากบ้านเมื่อจำเป็นเท่านั้น
2. กลุ่มเสี่ยง ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้มีโรคเรื้อรัง หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน เว้นแต่จำเป็น
3. เว้นระยะห่าง 1-2 เมตร ในทุกสถานที่
4. สวมหน้ากากอนามัยและทับด้วยหน้ากากผ้าตลอดเวลา ทั้งอยู่ในบ้านและนอกบ้าน
5. หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้ากากอนามัย
6. ล้างมือบ่อยๆ
7. ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นผิวที่ถูกสัมผัสบ่อยๆ
8. แยกของใช้ส่วนตัวทุกชนิด
9. เลือกทานอาหารที่ร้อนหรือปรุงสุกใหม่
10. หากสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยง ควรตรวจด้วย ATK เพื่อยืนยันว่ามีการติดเชื้อหรือไม่

...

ขณะที่มาตรการองค์กร ทั้งโรงเรียน โรงงาน สถานที่ทำงาน มีแนวทางปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่โรคด้วย Covid-Free Setting ที่ต้องดำเนินการนับจากนี้ ดังนี้

1. เรื่องสิ่งแวดล้อม ต้องมีระบบระบายอากาศ จัดสุขอนามัยที่เหมาะสม รวมถึงเว้นระยะห่าง (เป็นข้อบังคับขององค์กร)
2. มาตรการผู้ประกอบการ ผู้ให้บริการ หรือพนักงาน จะมีการระดมฉีดวัคซีนผู้ให้บริการ เช่น ร้านอาหาร ร้านตัดผม และร้านนวด โดยจะเร่งรัดให้ฉีดวัคซีนให้ครบ 2 เข็มให้เร็วที่สุด และสนับสนุนการตรวจหาเชื้อโดยใช้ชุดตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ เพื่อยืนยันว่าสถานบริการนี้ปลอดจากการติดเชื้อ
3. จะมีการนำเสนอป้ายร้านนี้ผู้ให้บริการรับวัคซีนครบแล้ว 100% ส่วนลูกค้ามีการตรวจเรื่องการรับวัคซีนและตรวจ ATK ก่อนเข้ารับบริการ เพื่อให้กิจกรรมและกิจการเหล่านี้เปิดให้บริการได้มากขึ้น แต่จะต้องมีการติดตามอย่างเข้มงวด

โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้เริ่มใช้ 1 กันยายนเป็นต้นไป เน้นย้ำในพื้นที่นำร่อง เฉพาะสถานประกอบการ และสถานบริการที่มีความพร้อม โดยจะต้องได้รับการประเมินและเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หากสถานบริการใดไม่พร้อม จะมีสมาคมภัตตาคารไทยเป็นพี่เลี้ยง หากพร้อมก็สามารถใช้มาตรการเหล่านี้ได้